นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
banner
misteramoeba.bsky.social
นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
@misteramoeba.bsky.social
20+ with lot of back pain อะมีบาเวอร์ชั่นไม่ปากหมา

Anyway ตระบัดสัตย์มันแย่มากนะ
ตั้งแต่หมาแมวตายไปติดๆ เหมือนจะเป็นบ้าโมโหง่ายขึ้น ยิ่งมัวแต่ตามข่าวการเมืองรายวันก็ยิ่งหนัก
November 19, 2025 at 4:22 AM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
FTA ไทย-อียู คุ้มหรือไม่? ภาษีเหล้าหายหมื่นล้าน ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพพุ่ง ผู้ผลิตรายย่อยพังยับ
FTA ไทย-อียู คุ้มหรือไม่? ภาษีเหล้าหายหมื่นล้าน ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพพุ่ง ผู้ผลิตรายย่อยพังยับ Pazzle Wed, 2025-11-19 - 08:09 อุตสาหกรรมเหล้าอียูหวังใช้เอฟทีเอตีตลาดไทย ทำรายได้ภาษีลดลงปีละหมื่นล้าน แต่ค่าใช้จ่ายสุขภาพสูงขึ้น คนดื่มมากขึ้น นักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ผู้ผลิตรายย่อยพัง รัฐบาลต้องหาแนวทางป้องกันผ่านบทเรียนต่างประเทศก่อนจะสายเกินไป หนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญของสหภาพยุโรปหรืออียูในการเจรจาเอฟทีเอกับไทยรอบนี้คือการเปิดเสรีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่อียูต้องครอบครองให้ได้เนื่องจากอียูและสหราชอาณาจักรเป็นผู้ส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณครึ่งหนึ่งของโลกใบนี้หรือร้อยละ 51 วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) จึงกล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดที่อียูจะได้ประโยชน์ ต้องยอมรับในอุตสาหกรรมนี้อียูมีความแข็งแกร่งมาก มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และแบรนด์ ซึ่งมีความเรื่องราวและความเป็นมายาวนาน ทั้งในมิติประวัติศาสตร์ ศาสนา สภาพภูมิอากาศ สายพันธุ์องุ่นที่นำมาผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเทคโนโลยีการผลิตที่สั่งสมมานับพันปี “เฉพาะเหล้าอย่างเดียว 30,000 แบรนด์ และเบียร์ 100,000 แบรนด์ มีแบรนด์ไวน์ 70,000 แบรนด์” วิฑูรย์กล่าว “และที่เป็นแบรนด์ระดับโลกขายได้ทั่วโลก นอกจากแบรนด์ท้องถิ่น อีก 500-800 แบรนด์ ฉะนั้นใครเจออียูเข้าไปก็สู้ไม่ไหว ก็เลยต้องมีมาตรการจำกัดทั้งในเชิงการค้าและผลกระทบที่เกิดขึ้น” เหล่านี้คือข้อมูลที่เปิดออกมาในเวทีสาธารณะ ‘ผลกระทบและข้อเสนอภาคประชาชนต่อการเจรจาการค้า FTA Thai-EU’ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุมโรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพมหานคร ซึ่งผลกระทบต่อสังคมไทยไม่ได้มีเพียงเท่านี้ วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ (แฟ้มภาพ) ไทยได้ประโยชน์อะไรจากการลดภาษีเหล้าเป็นศูนย์ เมื่อดูข้อมูลการนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทยในปี 2565 จะพบว่า เรานำเข้าจากอียูและสหราชอาณาจักรสูงถึงร้อยละ 53 ของปริมาณนำเข้าทั้งหมด หากการเจรจาเอฟทีเอ อียูเป็นฝ่ายได้สิ่งที่ต้องการนั่นคือการลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ จะทำให้รายได้หายไป 2 ส่วนประกอบด้วยส่วนที่เป็นเงินบำรุงร้อยละ 17.5 ที่เป็นส่วนหนึ่งของภาษีสรรพสามิต เงินส่วนนี้เป็นเงินที่นำส่งให้แก่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยหรือไทยพีบีเอส เงินอุดหนุนด้านกีฬา เงินสำหรับผู้สูงวัย และเงินบำรุงท้องถิ่น เป็นต้น อีกส่วนคือเงินรายได้จากภาษีศุลกากรที่มาจากการนำเข้า ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 54-60 ของราคานำเข้า เมื่อตัดรายได้ที่รัฐควรจะได้สองส่วนนี้ออกไปจะส่งผลให้ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าจากอียูลดลงทันทีร้อยละ 24 “กรณีเหล้านำเข้ายี่ห้อ Black Label ขายในราคาปัจจุบัน 1,729 บาท เมื่อจะทำเอฟทีเอ ภาษีเป็นศูนย์ ราคาจะถูกลงทันทีเลย 24 เปอร์เซ็นต์จาก 1,700 บาท เหลือแค่ 1,300 บาท ราคาน่าจูงใจขึ้นมาก หรือกรณีเบียร์ยี่ห้อสีเขียวราคาขายปลีกปัจจุบันอยู่ที่ 64 บาท ถ้าภายใต้เอฟทีเอจะเหลือแค่ 51.6 บาท” ขณะที่ภาษีนำเข้าไวน์ถูกลดลงเหลือศูนย์ไปแล้วตั้งแต่สมัยเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ด้วยเหตุผลว่าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้กระทรวงการคลังต้องส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีว่านโยบายนี้จะทำให้อำนาจต่อรองในการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูลดลง เท่ากับช่วยลดภาระของอียูในการเจรจาลงไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตไวน์ภายในประเทศและสินค้าทดแทนที่มีราคาใกล้เคียงกัน เพิ่มปริมาณการดื่ม และรัฐต้องสูญเสียรายได้เฉพาะภาษีจากไวน์ประมาณ 429 ล้านบาทต่อปี รายได้ลด แต่ค่าใช้จ่ายสุขภาพเพิ่ม หากมองในมุมผู้บริโภคก็ต้องยอมรับว่า ผู้บริโภคจะรับประโยชน์จากในแง่การเข้าถึงผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าที่มีคุณภาพดี มีความหลากหลายกว่า 200,000 ชนิด ในราคาที่ถูกลง แต่ราคาที่สังคมไทยต้องจ่ายก็มีมากไม่แพ้กัน ประการแรกคือการสูญเสียรายได้จากภาษีศุลกากรดั่งที่กล่าวไปข้างต้น ตามมาด้วยผลกระทบต่อผู้ผลิตสุรา คราฟท์เบียร์ และไวน์ท้องถิ่น การเพิ่มขึ้นของนักดื่มหน้าใหม่โดยเฉพาะเยาวชนคนหนุ่มสาว ปริมาณการดื่มต่อคนที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องด้านสุขภาพ ปัญหาครอบครัว และอุบัติเหตุบนท้องถนน วิฑูรย์เปิดเผยผลการศึกษาว่าหากไทยยอมรับข้อเสนอของอียูโดยไม่มีเกราะป้องกันใดๆ สิ่งที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะถูกลงร้อยละ 20-25 การนำเข้าจากอียูจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 100-300 ขณะที่การนำเข้ารวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-100 เมื่อราคาถูกลงย่อมทำให้ปริมาณการดื่มเพิ่มขึ้นพร้อมกับนักดื่มหน้าใหม่ รายได้จากภาษีหายไป 10,500 ล้านบาทต่อปี สวนทางกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่จะเพิ่มขึ้น “แต่ว่าหมื่นล้านบาทของภาษีเหล้าที่หายไป มันไม่ได้สูญเสียแค่ภาษี มันมาพร้อมปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น แต่เงินที่จะใช้จัดการปัญหาสุขภาพน้อยลง เขาเรียกว่า double losses หรือภาษาเศรษฐศาสตร์เรียกว่า fiscal health paradox คือขัดแย้งกันเอง คุณเจอ 2 เด้ง” บทเรียนจากต่างประเทศ นำเข้าเพิ่มขึ้น ดื่มมากขึ้น แต่ผู้ผลิตในประเทศพัง ข้อวิตกต่อปัญหาเหล่านี้มีหลักฐานเชิงประจักษ์จากต่างประเทศที่มีข้อตกลงเอฟทีเอกับอียูและลดภาษีนำเข้าเครื่องดื่มแอลกฮอล์เป็นศูนย์ ยกตัวอย่างเช่น “เปรูทำข้อตกลงกับอียูว่าจะลดภาษีเป็นศูนย์ภายใน 7-10 ปี หลังจากนั้นปี 2013-2023 การนำเข้าพุ่งพรวดเลย เพิ่มมากที่สุดก็คือเหล้า 4.6 เท่าตัว ปริมาณการดื่มเหล้าเพิ่มขึ้นชัดเจนจาก 5.2 ลิตรต่อคนในปี 2010 เป็น 5.7 ลิตรต่อคนในปี 2019 แล้วสุราประจำชาติของเขาที่เรียกว่า PISCO ก็แทบขายไม่ได้เลย นั่นขนาดมีสุราประจำชาติแล้วนะ ของเรายังเป็นท้องถิ่นอยู่เลย ยังไม่เกิดเลย นี่พัง” เช่นเดียวกับประเทศเอกวาดอร์ หลังจากลดภาษีเบียร์และไวน์เป็นศูนย์ตั้งแต่ปีแรก การนำเข้าจากอียูก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 9.8 เท่า Aguardiente เหล้าท้องถิ่นสูญเสียตลาดให้กับจินและว็อดก้านำเข้า ขณะที่จำนวนผู้ดื่มไม่เพิ่มขึ้น ยกเว้นกลุ่มผู้หญิงในเมือง แต่ก็มีการเปลี่ยพฤติกรรมการดื่มมาดื่มเครื่องดื่มนำเข้าแทน กรณีประเทศโคลอมเบียก็เดินตามรอยผลกระทบเช่นเดียวกับเปรูและเอกวาดอร์ ส่งผลให้รัฐบาลเอกวาดอร์จำเป็นต้องออกมาตราบรรเทาปัญหาด้วยเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75 เก็บค่าใบอนุญาตการขาย และให้อำนาจแต่ละจังหวัดสามารถออกใบอนุญาตระดับจังหวัด “พอออกมาตรการเหล่านี้ปั๊บ จากที่สูงก็ลงมาเลย ประเทศไทยควรเรียนรู้อย่างยิ่ง แต่ที่คุณจะเจอแน่ๆ คืออียูจะฟ้อง WTO (องค์การการค้าโลก) ว่าขัดกับข้อตกลง ขัดระเบียบการค้า แต่ใช้เวลาในการฟ้องคดีประมาณ 10 ปี ยังเพิ่งต่อรองกันว่าจะลดเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นฟ้องไม่ต้องกลัว มันใช้เวลาในกระบวนการไต่สวน” วิฑูรย์ยังยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้ซึ่งมีสถานะทางเศรษฐกิจสูงกว่าไทย แต่ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกับตัวอย่างประเทศอื่นๆ คือปริมาณการนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงปี 2018-2022 เพิ่มร้อยละ 13.3 ต่อปี แต่ด้วยอิทธิพลของวัฒนธรรมองค์กร เทรนด์สมัยใหม่ กฎหมายที่เข้มงวดจึงทำให้การดื่มโดยรวมลดลงเล็กน้อย สร้างเกราะป้องกันก่อนสายเกินไป เมื่อเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นแบบนี้แล้ว คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่าประเทศไทยควรทำอย่างไรเพื่อรับมือสถานการณ์ข้างหน้า วิฑูรย์เสนอว่า “สิ่งที่เราทำได้ก็คือ อันที่ 1 ต่อรองให้นานที่สุด ถ้าทำได้ก็คือไม่เอาได้ไหม แต่ถ้าไม่ได้ต้องต่อรองอย่าให้เป็นศูนย์ตั้งแต่ปีแรก คือคุณมีเป้าอยู่ที่ 10 ปีเป็นต้นและหวังว่าภายใน 10 ปีจะจัดการปัญหาผลกระทบได้” ข้อเสนอต่อมาคือใช้วิธีการเดียวกับรัฐบาลเวียดนามที่ขึ้นภาษีสรรพสามิตแทนภาษีศุลกากรและควรเพิ่มก่อนที่ข้อตกลงจะมีผลผูกพัน โดยเวียดนามเพิ่มภาษีสรรพสามิตในบางรายการจากร้อยละ 35 เป็นร้อยละ 90 จากปี 2021-2033 ซึ่งช่วยทดแทนรายได้ที่สูญเสียไปจากภาษีศุลกากรโดยไม่ผิดข้อตกลงใดๆ นอกจากการเพิ่มภาษีสรรพสามิต เกาหลีใต้ยังใช้มาตรการลดความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด (Blood alcohol concentration: BAC) เป็นการควบคุมการดื่มให้ลดลงเหลือร้อยละ 0.03 เพื่อลดอุบัติเหตุ ขณะที่ญี่ปุ่นใช้วิธีรณรงค์ด้วยการตั้งเป้าลดการดื่มลงร้อยละ 20 ภายในปี 2025 “นี่คือสิ่งที่เราสามารถทำได้ ที่เราเห็นว่าภาษีเราที่เก็บตอนนี้ 60 เปอร์เซ็นต์ จริงๆ น้อยกว่าอีกหลายประเทศในอียูด้วยซ้ำ ตอนนี้ภาษีต่อราคาขายของไทยแทบจะต่ำสุดใน 4 ประเทศที่ทำการศึกษา เพราะฉะนั้นการเพิ่มภาษีก็ดี ไม่ได้เกิดผลกระทบเลย มาตรการนี้เกิดขึ้นแล้วในยุโรป เพียงแต่เรียกภาษีแตกต่างกันแค่นั้นเอง”   * ข่าว * การเมือง * เศรษฐกิจ * สังคม * วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ * มูลนิธิชีววิถี * อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ * การลดภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ * fiscal health paradox * FTA ไทย-อียู
dlvr.it
November 19, 2025 at 1:21 AM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
เพิ่งเห็นคนทวีตวันก่อนว่าหลังจาก exodus ครั้งใหญ่สุดท้ายคนก็กลับไปใช้ทวิตเตอร์กันหมดเพราะบลูสกายมันไม่ค่อยกระตือรือร้นจะขายฟังก์ชั่นอะไรเลย รอแต่จะให้คนเหม็นทวิตเตอร์ย้ายมาเองเหมือนไม่เข้าใจว่าคนใช้ทวิตต่อมีทั้งความเคยชิน ความไม่เชื่อว่าจะสะสมยอดฟอลได้เท่าที่มี etc ยันคนใช้ทวิตต่อเพื่อแย่งชิงแพล็ตฟอร์มและเสียงกับพวกฟาร์ไรท์ สุดท้ายฟ้าฟ้ามันก็เลยดูเป็นที่พักสงบ+ที่สำรองเวลาทวิตมันล่มอะ
November 18, 2025 at 2:57 PM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
Carnival of Souls (Herk Harvey, 1962)
October 29, 2025 at 7:53 PM
ดูคลิปพส.เกาทำรามยอนกินเอง ก็รู้สึกว่าที่ทำๆ อยู่เนี่ยเป็นรามยอนไร้จิตวิญญาณมาก วันหลังจะขยันใส่เนื้อใส่ผักเยอะๆ นะ...
August 12, 2025 at 11:40 PM
ไม่ได้บริจาคนาน ลืมไปเลยว่าเข็มบักเอ้ก... ต้องคิดภาพฉีกกระดาษในหัวรัวๆ ตอนมองเข็มเจาะเข้าผิว ถึงพอหายกลัวได้
July 26, 2025 at 5:15 PM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
พวกเราแม่งโคตรโหด โคตรอันตราย

24.7.25
#endcutcomics
July 24, 2025 at 8:50 AM
เฮ้อ ละพี่สาวทำงานอยู่ศรีสะเกษ อยู่แถวอำเภอเมืองศรี ไกลจากจุดปะทะมากอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะมีผีบ้าไรมาถึงอีกไหม เพราะนี่มันบานปลายไปเรื่อยๆ แล้ว
July 24, 2025 at 2:02 PM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
July 1, 2025 at 4:13 PM
จิงๆ วันนี้ที่ด่านางแบกเยอะ เพราะเชื่อว่าการด่านางแบก เรทกาชาจะดีขึ้น (โม้)
July 1, 2025 at 4:53 PM
นางแบกหาว่าส้มแทรกแซงศาลรัฐธรรมนูญ โว๊ะ เพี้ยนไปกันใหญ่แล้ว อะไรกันมนุดโลก
July 1, 2025 at 12:36 PM
ฝันร้าย นั่งปั่นไฟนอล ปั้นอนาโตมี่ แต่ Dynamesh เยอะไป พอเรนเดอร์งาน สุดท้ายไฟล์ระเบิด ปั้นมาทั้งตัวเหลือแค่หัว บรรลัยมาก ดีนะสะดุ้งตื่น 55555

//ฝันลางร้ายแบบเด็ก 3D ป่ะ
June 17, 2025 at 11:45 PM
ดีจังที่ทีมงานเขาเข็นเรื่องนี้มาฉายที่เชียงรายได้ ดีใจๆๆๆ
June 14, 2025 at 9:43 AM
หมอกลง เย็นดี
June 13, 2025 at 12:40 AM
Hsr 3.3 ซาซาเกโย ซาซาเกโย~ ตายกันให้หมดทุกคน เจ็บนม 😭

//มาทรงนี้แล้วจะจบไง แอบลุ้น
May 23, 2025 at 10:36 AM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
ก็บนนั้นมันช่างสูงได้ยินไหมคุณ

9.5.25
#endcutcomics
May 9, 2025 at 7:30 AM
บูมตูนเมื่อไหร่จะเอา Furry หมาดำมา ไอนี้ดฮิมโบบอย 🥲
May 9, 2025 at 7:39 AM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
UPDATE: Police say they arrested two people involved. The target was a free Lady Gaga concert in Rio de Janeiro, which drew more than 2 million people to Copacabana Beach on Saturday night.
Brazilian police say they prevented a bomb attack at the free Lady Gaga concert
Police say they arrested two people involved. The target was a free Lady Gaga concert in Rio de Janeiro, which drew more than 2 million people to Copacabana Beach on Saturday night.
www.npr.org
May 4, 2025 at 8:40 PM
เวลาคนญี่ปุ่นด่ากันละเค้นเสียงเหมือนยากูซ่าทุกคนเลยป่าวนะ
May 5, 2025 at 12:17 AM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
April 29, 2025 at 3:36 PM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
April 29, 2025 at 2:39 PM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
Pull the blanket tight now 💤

#jayvik #arcane #art
April 22, 2025 at 6:11 PM
Reposted by นายอะมีบา (rest, ปฏิรูป ≠ ล้มล้าง)
April 23, 2025 at 12:03 PM
ขอบคุณหนัง Companion, Heretic ที่ทำให้ฉันรู้จัก Sophie Thatcher

จนนี่ตามดู Yellowjackets ครบ 3 ซีซั่นไปละ นางแสดงเก่งจังๆๆๆๆ
April 18, 2025 at 2:45 AM
พออยู่ที่บ้าน คนเขาฟังวิทยุมากกว่าดูทีวี 😂 เลยไม่เจอโตโน่ไรนั้น

//แต่เข้าเฟสปุ๊ป เจอทันที
April 17, 2025 at 7:10 AM