ᴏᴘᴇɴ:09:30-20.30
ᴅᴏᴄ: https://bit.ly/48lqmnP
ᴀᴄᴛɪᴠᴇดึก|ค่อนข้างบวกไปเรื่อย(?)|+ได้ทุกโพสต์ทุกลอยตลอดเลยค่ะ
แม้จะมีป้ายเขียนเมนูหน้าร้านหรือกระถางต้นไม้ที่เพิ่มเข้ามา สุดท้ายก็ยังมีป้ายร้านลูมิแยร์ที่แขวนโชว์ตรงหน้ากับบรรยากาศที่ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยยังคงอยู่ที่เดิม..
ยิ่งเข้าใกล้ร้านคนที่ตื่นเต้นดันเป็นเธอซะได้ คงจะเดาได้ว่าเตรียมอะไรไว้ที่ร้านพอสมควร
แม้จะมีป้ายเขียนเมนูหน้าร้านหรือกระถางต้นไม้ที่เพิ่มเข้ามา สุดท้ายก็ยังมีป้ายร้านลูมิแยร์ที่แขวนโชว์ตรงหน้ากับบรรยากาศที่ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยยังคงอยู่ที่เดิม..
ยิ่งเข้าใกล้ร้านคนที่ตื่นเต้นดันเป็นเธอซะได้ คงจะเดาได้ว่าเตรียมอะไรไว้ที่ร้านพอสมควร
"ไม่เป็นไรค่ะ เสียงพวกนั้นไม่เข้าหูฉันแม้แต่นิด แค่นี้เล็กน้อยมากๆค่ะ" ก็ดูจะไม่กระทบเธอจริงๆนั่นแหละ
"เอาล่ะๆ ไม่ต้องพูดว่าขอโทษแล้วล่ะค่ะ เป็นวันดีที่ได้เจอกันทั้งทีนี่นะ ถ้าจะพูดคำนั้นฉันขอฟังคำอื่นแทนแล้วกันนะคะ~"
+
"ไม่เป็นไรค่ะ เสียงพวกนั้นไม่เข้าหูฉันแม้แต่นิด แค่นี้เล็กน้อยมากๆค่ะ" ก็ดูจะไม่กระทบเธอจริงๆนั่นแหละ
"เอาล่ะๆ ไม่ต้องพูดว่าขอโทษแล้วล่ะค่ะ เป็นวันดีที่ได้เจอกันทั้งทีนี่นะ ถ้าจะพูดคำนั้นฉันขอฟังคำอื่นแทนแล้วกันนะคะ~"
+
"คิก- แต่ถ้ามีขนมก็คงดีกว่าอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ ยูริคุง"
'คนนั้น' เป็นการกล่าวถึงที่ไม่คิดว่าจะได้ยินตอนนี้ ถึงอย่างนั้นโควก็ส่ายหน้า เปลือกตานั้นปิดลงก่อนจะเริ่มคลี่ยิ้มให้เหมือนทุกที
"ที่ร้านปกติดีค่ะ ดีใจจัง อุตส่าห์เป็นห่วงกันขนาดนี้~" มือข้างที่ยังอิสระยกมาลูบหัวด้วยความอุ่นใจ
"คิก- แต่ถ้ามีขนมก็คงดีกว่าอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ ยูริคุง"
'คนนั้น' เป็นการกล่าวถึงที่ไม่คิดว่าจะได้ยินตอนนี้ ถึงอย่างนั้นโควก็ส่ายหน้า เปลือกตานั้นปิดลงก่อนจะเริ่มคลี่ยิ้มให้เหมือนทุกที
"ที่ร้านปกติดีค่ะ ดีใจจัง อุตส่าห์เป็นห่วงกันขนาดนี้~" มือข้างที่ยังอิสระยกมาลูบหัวด้วยความอุ่นใจ
"ฉันจะดุแน่นอนค่ะ เอาให้ยูริคุงร้องไห้เลยล่ะ.."
เป็นภาพที่เธอจินตนาการไม่ออก และคงไม่มีวันได้เห็น เป็นความคิดแสนตลกที่โผล่เข้ามาในหัวชั่วครู่ที่ทำเธอหลุดขำในลำคอ
+
"ฉันจะดุแน่นอนค่ะ เอาให้ยูริคุงร้องไห้เลยล่ะ.."
เป็นภาพที่เธอจินตนาการไม่ออก และคงไม่มีวันได้เห็น เป็นความคิดแสนตลกที่โผล่เข้ามาในหัวชั่วครู่ที่ทำเธอหลุดขำในลำคอ
+
มือเรียวยกกุมคางครุ่นคิด ก่อนเป็นเสียงถอนหายใจที่หลุดออกมา
"ถ้าไม่ติดว่าฉันกลับมาช้าขนาดนี้คงแจกของให้ครบแล้วล่ะค่ะ ทั้งคุณครู คุณเพื่อนบ้าน ไหนจะยูริคุงอีก.."
เสียงพึมพำท้ายประโยคเริ่มกลายเป็นการบ่นกับคนขับรถของตัวเองไปแทนที่
มือเรียวยกกุมคางครุ่นคิด ก่อนเป็นเสียงถอนหายใจที่หลุดออกมา
"ถ้าไม่ติดว่าฉันกลับมาช้าขนาดนี้คงแจกของให้ครบแล้วล่ะค่ะ ทั้งคุณครู คุณเพื่อนบ้าน ไหนจะยูริคุงอีก.."
เสียงพึมพำท้ายประโยคเริ่มกลายเป็นการบ่นกับคนขับรถของตัวเองไปแทนที่
แค่ได้ยินน้ำเสียงนั้นโควก็รู้สึกดีจนเผลอยิ้มออกมา คนที่ส่ายหางแทนความภูมิใจให้เลยกลายเป็นจิฮิโระที่แสดงออกแทนอย่างเต็มที่
"จริงๆฉันทำไว้หลายชิ้นเผื่อหลายคนที่ฉันรู้จักเลย พอดีของเทรุจังเป็นอันแรกที่ฉันทำเลยแปลกๆไปหน่อย..ไว้คราวหน้าฉันจะทำอันสวยๆกว่านี้มาให้อีกนะคะ~"
คำชมที่ได้รับเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนเธอแทน ทำเอาความตั้งใจพุ่งสูงไม่น้อย
+
แค่ได้ยินน้ำเสียงนั้นโควก็รู้สึกดีจนเผลอยิ้มออกมา คนที่ส่ายหางแทนความภูมิใจให้เลยกลายเป็นจิฮิโระที่แสดงออกแทนอย่างเต็มที่
"จริงๆฉันทำไว้หลายชิ้นเผื่อหลายคนที่ฉันรู้จักเลย พอดีของเทรุจังเป็นอันแรกที่ฉันทำเลยแปลกๆไปหน่อย..ไว้คราวหน้าฉันจะทำอันสวยๆกว่านี้มาให้อีกนะคะ~"
คำชมที่ได้รับเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนเธอแทน ทำเอาความตั้งใจพุ่งสูงไม่น้อย
+
"ดูดุครับ..แต่เหมือนคุณหมี" รอยยิ้มโควถูกค้างไว้ เอ๊ะ–คุณหมี?
"อ้อ หมายถึงนิทานเมื่อคืนที่อ่านให้ฟังสินะ" นึกออกได้เรื่องเมื่อคืน มือทั้งสองก็ประกบกัน
"อื้อ ตัวใหญ่ๆหน้าดุๆแต่ใจดีครับ..มั้ง?"
ถึงจะมีสิ่งอื่นที่คล้ายกว่าในความคิดของผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กชายที่เพิ่งได้ฟังนิทานเรื่องนั้นก่อนนอน นี่คงเป็นสิ่งแรกที่นึกถึงได้ทันที
"ดูดุครับ..แต่เหมือนคุณหมี" รอยยิ้มโควถูกค้างไว้ เอ๊ะ–คุณหมี?
"อ้อ หมายถึงนิทานเมื่อคืนที่อ่านให้ฟังสินะ" นึกออกได้เรื่องเมื่อคืน มือทั้งสองก็ประกบกัน
"อื้อ ตัวใหญ่ๆหน้าดุๆแต่ใจดีครับ..มั้ง?"
ถึงจะมีสิ่งอื่นที่คล้ายกว่าในความคิดของผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กชายที่เพิ่งได้ฟังนิทานเรื่องนั้นก่อนนอน นี่คงเป็นสิ่งแรกที่นึกถึงได้ทันที
"ฉันชอบทำขนมก็จริงแต่เหมือนฉันจะสร้างร้านมาเพื่อหาคนคุยเล่นมากกว่า"
เธอหัวเราะ ใช่ เธอรักขนมและรักที่จะได้พูดคุยกับผู้คน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ร้านนี้เกิดขึ้นมาได้
ส่วนฮิซากิที่เคี้ยวขนมตุ้ยจนแก้มพองโต เขาไม่ตอบอะไรส่งเสียงครุ่นคิด
+
"ฉันชอบทำขนมก็จริงแต่เหมือนฉันจะสร้างร้านมาเพื่อหาคนคุยเล่นมากกว่า"
เธอหัวเราะ ใช่ เธอรักขนมและรักที่จะได้พูดคุยกับผู้คน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ร้านนี้เกิดขึ้นมาได้
ส่วนฮิซากิที่เคี้ยวขนมตุ้ยจนแก้มพองโต เขาไม่ตอบอะไรส่งเสียงครุ่นคิด
+
"เอ๊ะ– ติดค้างเหรอคะ?"
ประโยคหลังทำเธอรู้สึกงุนงงสุดๆ เธอจำไม่เห็นได้ว่าอีกฝ่ายติดค้างอะไรเธอ ไม่ใช่ต้องเป็นเธอหรอกเหรอที่ต้องติดค้าง?
"เอ๊ะ– ติดค้างเหรอคะ?"
ประโยคหลังทำเธอรู้สึกงุนงงสุดๆ เธอจำไม่เห็นได้ว่าอีกฝ่ายติดค้างอะไรเธอ ไม่ใช่ต้องเป็นเธอหรอกเหรอที่ต้องติดค้าง?
"ก็ถ้ายูริคุงมือเย็นเพราะน้ำแข็งไสฉันคงวางใจกว่าในสถานการณ์แบบนี้นะคะ" เธอส่ายหน้าเบาๆ
"จะว่าฉันจุ้นจ้านก็ได้ แต่ฉันเป็นห่วงยูริคุงมากเลย.."
+
"ก็ถ้ายูริคุงมือเย็นเพราะน้ำแข็งไสฉันคงวางใจกว่าในสถานการณ์แบบนี้นะคะ" เธอส่ายหน้าเบาๆ
"จะว่าฉันจุ้นจ้านก็ได้ แต่ฉันเป็นห่วงยูริคุงมากเลย.."
+
โควก้มลงไปแตะแถวพื้นแล้วก็เป็นจิฮิโระที่ใช้จมูกดุนถุงกระดาษให้ใกล้มือเธอ
หยิบขึ้นมาก็พบว่าเป็นผ้าพันคอไหมพรมสีน้ำเงิน คงรู้ได้ทันทีว่าถักเองเพราะลายถักยังไม่สม่ำเสมอเท่าไรนักในช่วงต้นแต่เมื่อถึงอีกฝั่งก็เริ่มเรียบร้อยขึ้น
"พอดีระหว่างขากลับทำมาฝากน่ะค่ะ แต่ก็ลืมนึกไปว่าอย่างเทรุจังน่าจะมีอยู่แล้ว.." เธอหัวเราะแห้ง "ไม่ต้องใส่ก็ได้ แค่อยากให้รับไว้น่ะค่ะ!"
โควก้มลงไปแตะแถวพื้นแล้วก็เป็นจิฮิโระที่ใช้จมูกดุนถุงกระดาษให้ใกล้มือเธอ
หยิบขึ้นมาก็พบว่าเป็นผ้าพันคอไหมพรมสีน้ำเงิน คงรู้ได้ทันทีว่าถักเองเพราะลายถักยังไม่สม่ำเสมอเท่าไรนักในช่วงต้นแต่เมื่อถึงอีกฝั่งก็เริ่มเรียบร้อยขึ้น
"พอดีระหว่างขากลับทำมาฝากน่ะค่ะ แต่ก็ลืมนึกไปว่าอย่างเทรุจังน่าจะมีอยู่แล้ว.." เธอหัวเราะแห้ง "ไม่ต้องใส่ก็ได้ แค่อยากให้รับไว้น่ะค่ะ!"
"เทรุจังก็รีบไปแล้วค่ะ ฉันตกใจหมดเลย" แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกขอบคุณสำหรับความใส่ใจอยู่ดี
"แอ๊ด– ผิดหมดค่ะ"
นิ้วชี้ทั้งสองถูกนำมาไขว้เป็นกากบาทพร้อมกับเสียงเหมือนเวลาคุยกับเด็ก เธอคงติดมาจากการอยู่กับลูกนั่นแหละ
+
"เทรุจังก็รีบไปแล้วค่ะ ฉันตกใจหมดเลย" แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกขอบคุณสำหรับความใส่ใจอยู่ดี
"แอ๊ด– ผิดหมดค่ะ"
นิ้วชี้ทั้งสองถูกนำมาไขว้เป็นกากบาทพร้อมกับเสียงเหมือนเวลาคุยกับเด็ก เธอคงติดมาจากการอยู่กับลูกนั่นแหละ
+
ส่วนเด็กชายที่นั่งกินขนมมาสักพักใหญ่ก็หันมามองตาแป๋วอยากมีส่วนร่วมบ้าง
"..สรุปคือ คุณลุงเป็นคนดุเหรอครับ?"
อืม จากที่คุยทั้งหมดมาเขาจับใจความได้แค่นั้น..
ส่วนเด็กชายที่นั่งกินขนมมาสักพักใหญ่ก็หันมามองตาแป๋วอยากมีส่วนร่วมบ้าง
"..สรุปคือ คุณลุงเป็นคนดุเหรอครับ?"
อืม จากที่คุยทั้งหมดมาเขาจับใจความได้แค่นั้น..
โควกำมือป้องปากหัวเราะ "ตอนเจอกันครั้งแรกคุณเป็นลูกค้าไม่กี่คนที่ทำฉันเกร็งไม่น้อยเลยล่ะค่ะ" เธอจึงไม่แปลกใจนักกับความคิดของนักเรียน
"ตอนเด็กฉันไม่ค่อยชอบเรียน ย้อนดูก็อดเสียดายที่ไม่ได้เรียนให้เยอะตอนนั้น.." เธอกระแอมเมื่อเผลอนอกเรื่อง "เห–ยุโรป เหรอคะ" เธอเลิกคิ้วสนใจ
+
โควกำมือป้องปากหัวเราะ "ตอนเจอกันครั้งแรกคุณเป็นลูกค้าไม่กี่คนที่ทำฉันเกร็งไม่น้อยเลยล่ะค่ะ" เธอจึงไม่แปลกใจนักกับความคิดของนักเรียน
"ตอนเด็กฉันไม่ค่อยชอบเรียน ย้อนดูก็อดเสียดายที่ไม่ได้เรียนให้เยอะตอนนั้น.." เธอกระแอมเมื่อเผลอนอกเรื่อง "เห–ยุโรป เหรอคะ" เธอเลิกคิ้วสนใจ
+
"เอ– ฉันชอบถูกบอกว่าเป็นคนตัวอุ่น เพราะงั้นถ้ากุมมือแบบนี้อาจจะช่วยได้ก็ได้..รึเปล่านะ?" โควพูดกลั้วหัวเราะ
"เอ– ฉันชอบถูกบอกว่าเป็นคนตัวอุ่น เพราะงั้นถ้ากุมมือแบบนี้อาจจะช่วยได้ก็ได้..รึเปล่านะ?" โควพูดกลั้วหัวเราะ
เมื่อพูดทุกอย่างด้วยความสุภาพพลางโน้มหัวให้ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นขาทั้งสองก็ถูกนำพาไปยังอีกทิศทางหนึ่งตามแรงคนที่จับมือนำทางไป
ระหว่างทาง จิฮิโระที่เดินอยู่ข้างชายหนุ่มก็ส่งเสียงในลำคออย่างคนที่ไม่พอใจนักกับบทบาทที่ถูกช่วงชิงไปอีกครั้ง
"ยูริคุงแย่งงานจิฮิโระเขาอีกแล้วนะคะ~"
+
เมื่อพูดทุกอย่างด้วยความสุภาพพลางโน้มหัวให้ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นขาทั้งสองก็ถูกนำพาไปยังอีกทิศทางหนึ่งตามแรงคนที่จับมือนำทางไป
ระหว่างทาง จิฮิโระที่เดินอยู่ข้างชายหนุ่มก็ส่งเสียงในลำคออย่างคนที่ไม่พอใจนักกับบทบาทที่ถูกช่วงชิงไปอีกครั้ง
"ยูริคุงแย่งงานจิฮิโระเขาอีกแล้วนะคะ~"
+
ดวงตาหรี่ลงจนคิ้วขมวดมองว่าคู่สนทนาตนคงไม่ใช่ว่าเดินขึ้นไปแล้วหรอกใช่มั้ย
ว่าแต่..ไอที่เธอกำลังคว้าอยู่นี่เป็นตัวคนรึว่าขวดเครื่องปรุงสักอย่างกันแน่เนี่ย..
ดวงตาหรี่ลงจนคิ้วขมวดมองว่าคู่สนทนาตนคงไม่ใช่ว่าเดินขึ้นไปแล้วหรอกใช่มั้ย
ว่าแต่..ไอที่เธอกำลังคว้าอยู่นี่เป็นตัวคนรึว่าขวดเครื่องปรุงสักอย่างกันแน่เนี่ย..
เป็นใบหน้าที่งุนงงแบบสุดๆ สมองที่พึ่งได้พักเต็มที่จากอาหารอร่อยๆทำให้ประมวลผลช้ากว่าปกติไปนิด และดูเหมือนว่าคำพูดของเธอเมื่อครู่จะสร้างความเข้าใจผิดเข้าเสียแล้ว
พอกำลังจะอ้าปากพูดแก้ใหม่เสียงลากเก้าอี้ก็ดังขึ้นเสียก่อนทำเอาเธอล่กกว่าเดิม มือเอื้อมหวังคว้าเสื้อหรือสักอย่างให้อีกคนหยุดฟังก่อน
+
เป็นใบหน้าที่งุนงงแบบสุดๆ สมองที่พึ่งได้พักเต็มที่จากอาหารอร่อยๆทำให้ประมวลผลช้ากว่าปกติไปนิด และดูเหมือนว่าคำพูดของเธอเมื่อครู่จะสร้างความเข้าใจผิดเข้าเสียแล้ว
พอกำลังจะอ้าปากพูดแก้ใหม่เสียงลากเก้าอี้ก็ดังขึ้นเสียก่อนทำเอาเธอล่กกว่าเดิม มือเอื้อมหวังคว้าเสื้อหรือสักอย่างให้อีกคนหยุดฟังก่อน
+
"ค่ะ ร้านเราวันนี้พร้อมรับแขกพิเศษคนนึงพอดีเลยค่ะ"
เธอผงกหน้ารับ นี่เธอมาอยู่ในจังหวะที่เหมือนจะไม่ควรอยู่สุดๆเลยสินะ ก็ได้แต่คิดพลางถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันในใจ
"เพื่อนมาที่ร้านทั้งทีจะไปรบกวนอะไรล่ะคะ"
โควเงี่ยหูฟังว่าจะยังมีอะไรต่อรึเปล่า ไม่งั้นเธอก็พร้อมจับมืออีกคนลากกลับร้านแล้ว..
"ค่ะ ร้านเราวันนี้พร้อมรับแขกพิเศษคนนึงพอดีเลยค่ะ"
เธอผงกหน้ารับ นี่เธอมาอยู่ในจังหวะที่เหมือนจะไม่ควรอยู่สุดๆเลยสินะ ก็ได้แต่คิดพลางถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันในใจ
"เพื่อนมาที่ร้านทั้งทีจะไปรบกวนอะไรล่ะคะ"
โควเงี่ยหูฟังว่าจะยังมีอะไรต่อรึเปล่า ไม่งั้นเธอก็พร้อมจับมืออีกคนลากกลับร้านแล้ว..
เด็กชายพยักหน้าตอบรับเมื่อได้รับคำตอบที่ถูกใจ ระหว่างที่เหล่าผู้ใหญ่คุยกันเขาก็ก้มลงไปหยิบขนมกินอย่างมีความสุข
ด้านหญิงสาวก็หัวเราะในลำคอทั้งเรื่องของลูกชายและเรื่องของเหล่าลูกศิษย์ของคนเป็นครู "เหล่านักเรียนของคุณคงดีใจน่าดูที่มีโทโฮเซนเซย์คอยเป็นห่วงแบบนี้"
"อ้อ..ฝรั่งเศสน่ะค่ะ ฉันเองก็พูดได้บ้างไม่ได้บ้าง ฮิคุงก็พอเข้าใจแค่บางคำแต่ตอนนี้คงจะลืมไปแล้วน่ะค่ะ"
เด็กชายพยักหน้าตอบรับเมื่อได้รับคำตอบที่ถูกใจ ระหว่างที่เหล่าผู้ใหญ่คุยกันเขาก็ก้มลงไปหยิบขนมกินอย่างมีความสุข
ด้านหญิงสาวก็หัวเราะในลำคอทั้งเรื่องของลูกชายและเรื่องของเหล่าลูกศิษย์ของคนเป็นครู "เหล่านักเรียนของคุณคงดีใจน่าดูที่มีโทโฮเซนเซย์คอยเป็นห่วงแบบนี้"
"อ้อ..ฝรั่งเศสน่ะค่ะ ฉันเองก็พูดได้บ้างไม่ได้บ้าง ฮิคุงก็พอเข้าใจแค่บางคำแต่ตอนนี้คงจะลืมไปแล้วน่ะค่ะ"
มือที่ว่างยกไปยีหัวลูกชายตนจนเริ่มฟูถึงถอยออกมา "อ้อ เป็นหลักสูตรคุณอัศวินน่ะค่ะ.."
"ว่าไปนั่น– ฮิคุงเป็นลูกครึ่งน่ะค่ะฉันเลยอยากให้เขาคุ้นกับทั้งสองภาษา แต่จะให้ท่องตำราแห้งๆคงเบื่อกันพอดี" โควยักไหล่
"เห็นเด็กคนนี้ชอบอัศวินเลยเอามาเป็นแรงจูงใจด้วยส่วนนึงน่ะนะ"
มือที่ว่างยกไปยีหัวลูกชายตนจนเริ่มฟูถึงถอยออกมา "อ้อ เป็นหลักสูตรคุณอัศวินน่ะค่ะ.."
"ว่าไปนั่น– ฮิคุงเป็นลูกครึ่งน่ะค่ะฉันเลยอยากให้เขาคุ้นกับทั้งสองภาษา แต่จะให้ท่องตำราแห้งๆคงเบื่อกันพอดี" โควยักไหล่
"เห็นเด็กคนนี้ชอบอัศวินเลยเอามาเป็นแรงจูงใจด้วยส่วนนึงน่ะนะ"
"เป็นคนดีจังเลยน้า เทรุจังเนี่ย.." เธอพึมพำออกมาก่อนจะขานรับยิ้มกว้างจนตาหยีแทบปิดสนิท "อื้อ กลับมาแล้วค่ะ~"
"อ่ะ–จริงสิ เกือบลืมไปเลย! " เธอพูดต่อทันที
"คำถามอาจจะแปลกหน่อย แต่ว่าที่บ้านเทรุจังมีผ้าพันคอรึเปล่าคะ?" แม้จะพูดด้วยเสียงปกติแต่ก็มีแววประหม่าขึ้นมาปน มือทั้งสองกำแบสลับไปมาด้วยมีแผนบางอย่างในใจ
"เป็นคนดีจังเลยน้า เทรุจังเนี่ย.." เธอพึมพำออกมาก่อนจะขานรับยิ้มกว้างจนตาหยีแทบปิดสนิท "อื้อ กลับมาแล้วค่ะ~"
"อ่ะ–จริงสิ เกือบลืมไปเลย! " เธอพูดต่อทันที
"คำถามอาจจะแปลกหน่อย แต่ว่าที่บ้านเทรุจังมีผ้าพันคอรึเปล่าคะ?" แม้จะพูดด้วยเสียงปกติแต่ก็มีแววประหม่าขึ้นมาปน มือทั้งสองกำแบสลับไปมาด้วยมีแผนบางอย่างในใจ
เธอไม่ได้พูดเกินจริงเลย ถ้าไม่ใช่เพราะความพยายามของคุณหมีที่ว่าอีกฝ่ายคงได้เห็นแค่เพื่อนสาวของเธอเพียงคนเดียวแน่นอน
โควกัดเคี้ยวคำสุดท้ายลงคอ ความหิวที่ก่อกวนมาตลอดสามวันทำให้เธอกินเร็วกว่าปกติ
"ฮะๆ ว่าแต่อันนี้นับเป็นกลยุทธ์ที่ให้ฉันอู้งานจากร้านมาอุดหนุนเทรุจังรึเปล่าคะ~?"
+
เธอไม่ได้พูดเกินจริงเลย ถ้าไม่ใช่เพราะความพยายามของคุณหมีที่ว่าอีกฝ่ายคงได้เห็นแค่เพื่อนสาวของเธอเพียงคนเดียวแน่นอน
โควกัดเคี้ยวคำสุดท้ายลงคอ ความหิวที่ก่อกวนมาตลอดสามวันทำให้เธอกินเร็วกว่าปกติ
"ฮะๆ ว่าแต่อันนี้นับเป็นกลยุทธ์ที่ให้ฉันอู้งานจากร้านมาอุดหนุนเทรุจังรึเปล่าคะ~?"
+
"ว่ากันตามตรงคือนอกจากยูริคุงแล้วฉันก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นเลยน่ะค่ะ ฮะๆ"
เธอกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มบางๆ ให้ตายสิ เรื่องครอบครัวเนี่ยจะกี่ครั้งกี่หนก็ทำเธอปวดหัวได้ทุกทีจริงๆ
"และถึงฉันจะไม่ค่อยรู้เรื่องนัก แต่การสาดอารมณ์ใส่กันในงานแบบนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่หรอกนะคะซาคาคิซัง"
"ว่ากันตามตรงคือนอกจากยูริคุงแล้วฉันก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นเลยน่ะค่ะ ฮะๆ"
เธอกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มบางๆ ให้ตายสิ เรื่องครอบครัวเนี่ยจะกี่ครั้งกี่หนก็ทำเธอปวดหัวได้ทุกทีจริงๆ
"และถึงฉันจะไม่ค่อยรู้เรื่องนัก แต่การสาดอารมณ์ใส่กันในงานแบบนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่หรอกนะคะซาคาคิซัง"