วิฬาเหมันต์คุกเข่าแบมือแทบหมอบ ไม่กล้าเงยหน้ามองเขา ทำได้แต่เพียงน้ำตาคลอเบ้า
ด้วยรู้ว่าไม่อาจร้องขอสิ่งใดนอกจากเพียงรอรับโทษทัณฑ์
ปล่อยให้เขาเข้าใจอย่างนั้นไปเสียยังดีกว่า ให้หลี่เฉินโจวเข้าใจว่าข้าเป็นผู้สังหารหลี่เซี่ยงอี๋ ดีกว่าให้เขารู้ว่าหลี่เซี่ยงอี๋อยากเร้นกาย หลบหนีจากความบ้าคลั่งของเขา
"ฮั่วจ้านไป๋..."
ฝ่ามือขาวถูกรองเท้าหนังเหยียบกดแนบพื้น ความเจ็บนี้เสียดลึกถึงหัวใจ
วิฬาเหมันต์คุกเข่าแบมือแทบหมอบ ไม่กล้าเงยหน้ามองเขา ทำได้แต่เพียงน้ำตาคลอเบ้า
ด้วยรู้ว่าไม่อาจร้องขอสิ่งใดนอกจากเพียงรอรับโทษทัณฑ์
ปล่อยให้เขาเข้าใจอย่างนั้นไปเสียยังดีกว่า ให้หลี่เฉินโจวเข้าใจว่าข้าเป็นผู้สังหารหลี่เซี่ยงอี๋ ดีกว่าให้เขารู้ว่าหลี่เซี่ยงอี๋อยากเร้นกาย หลบหนีจากความบ้าคลั่งของเขา
"ฮั่วจ้านไป๋..."
ฝ่ามือขาวถูกรองเท้าหนังเหยียบกดแนบพื้น ความเจ็บนี้เสียดลึกถึงหัวใจ
"ท่านหลอกข้า"
"ข้าลวงท่านจริง แต่คำที่ว่ารักท่าน เป็นของจริง"
"รักแบบไหนถึงวางยาข้า ท่านเปลี่ยนไป มิใช่เซี่ยงอี๋คนเดิมที่ข้ารู้จักอีกแล้ว"
"ทุกอย่างข้าทำเพื่อท่าน เสี่ยวเป่า..."
"ท่านหลอกข้า"
"ข้าลวงท่านจริง แต่คำที่ว่ารักท่าน เป็นของจริง"
"รักแบบไหนถึงวางยาข้า ท่านเปลี่ยนไป มิใช่เซี่ยงอี๋คนเดิมที่ข้ารู้จักอีกแล้ว"
"ทุกอย่างข้าทำเพื่อท่าน เสี่ยวเป่า..."
ฤดูกาลเปลี่ยน เวียนผัน เหมันต์จะจากไปแล้ว เสวี่ยฉงจื่อไม่อาจรั้งอยู่ต่อ เขาจำต้องจากด้วยเป็นภูตแห่งหิมะยามเหมันนต์
ดียิ่ง งั้นข้าประมุคมารผู้หนึ่ง จะลองใช้เลือดมากมายมหาศาล สาปที่นี่ให้มีแต่เหมันต์สี่ฤดู
ท่านจะได้อยู่กับข้าได้ชั่วกาล
ฤดูกาลเปลี่ยน เวียนผัน เหมันต์จะจากไปแล้ว เสวี่ยฉงจื่อไม่อาจรั้งอยู่ต่อ เขาจำต้องจากด้วยเป็นภูตแห่งหิมะยามเหมันนต์
ดียิ่ง งั้นข้าประมุคมารผู้หนึ่ง จะลองใช้เลือดมากมายมหาศาล สาปที่นี่ให้มีแต่เหมันต์สี่ฤดู
ท่านจะได้อยู่กับข้าได้ชั่วกาล
เพียงพานพบหนึ่งหน ตราตรึงนัยน์เนตร ยากจะลืมเลือน
หนึ่งบุรุษผู้ปกครองแคว้น บุปผางามแห่งบัลลังก์
หนึ่งมารชั่วช้า ปกครองแดนอเวจีสุดห้วงลึก
เพียงพานพบหนึ่งหน ตราตรึงนัยน์เนตร ยากจะลืมเลือน
หนึ่งบุรุษผู้ปกครองแคว้น บุปผางามแห่งบัลลังก์
หนึ่งมารชั่วช้า ปกครองแดนอเวจีสุดห้วงลึก