"ห้องครัวจะไหม้ไปด้วยแล้ว"
"ข้าไม่น่าให้ท่านอยู่ในห้องครัวคนเดียวเลยจริงๆ"
กายบางยืนกุมขมับด้วยสีหน้ากลุ้มใจ
"ฮูหยิน...."
"ท่านออกไปรดน้ำต้นไม้เถอะท่านเข้ามาทำอาหารทีไรไม่เคยกินได้เลยสักครั้ง"
"ที่เหลือข้าทำต่อเอง"
"ห้องครัวจะไหม้ไปด้วยแล้ว"
"ข้าไม่น่าให้ท่านอยู่ในห้องครัวคนเดียวเลยจริงๆ"
กายบางยืนกุมขมับด้วยสีหน้ากลุ้มใจ
"ฮูหยิน...."
"ท่านออกไปรดน้ำต้นไม้เถอะท่านเข้ามาทำอาหารทีไรไม่เคยกินได้เลยสักครั้ง"
"ที่เหลือข้าทำต่อเอง"
ท่ามกลางป่าเขาแสนเขียวขจี
"เฉิน โจว"
เจ้าของเรือนผมสีขาวโพลน
สีหน้ายับยู่ ตวาดลั่นเรือนหลังน้อยอย่างโมโห
"ท่านทำบ้าอะไรของท่าน"
"ข้าให้ท่านช่วยดูครู่เดียว"
"ทำไมมันถึงไหม้แบบนี้กัน"
ร่างสูงใหญ่มองอาหารที่ตนพึ่งทำไหม้ไปแล้วก็หันกลับไปตอบฮูหยินตัวน้อยของตน
"ข้าแค่เห็นว่ามันไม่สุกสักทีเลยเร่งไฟ ไม่คิดว่ามันจะไหม้ง่ายดายถึงเพียงนั้น"
ท่ามกลางป่าเขาแสนเขียวขจี
"เฉิน โจว"
เจ้าของเรือนผมสีขาวโพลน
สีหน้ายับยู่ ตวาดลั่นเรือนหลังน้อยอย่างโมโห
"ท่านทำบ้าอะไรของท่าน"
"ข้าให้ท่านช่วยดูครู่เดียว"
"ทำไมมันถึงไหม้แบบนี้กัน"
ร่างสูงใหญ่มองอาหารที่ตนพึ่งทำไหม้ไปแล้วก็หันกลับไปตอบฮูหยินตัวน้อยของตน
"ข้าแค่เห็นว่ามันไม่สุกสักทีเลยเร่งไฟ ไม่คิดว่ามันจะไหม้ง่ายดายถึงเพียงนั้น"
พรรคมารระส่ำระส่ายด้วย
ฮูหยินประมุขพรรคมารไป๋จิ่วซือสิ้นใจเพราะโดนลอบวางยาพิษ
ส่วนประมุขพรรคมารเนื่องเพราะการจากไปของฮูหยินตนและความขัดแย้งกันในพรรคจึงตกตายตามกันไป
บัดนี้ใต้หล้าสงบสุขอีกครั้ง ไร้ซึ่งพรรคมารอีกต่อไป ผู้คนในพรรคล้มล้มหายตายจาก สถานที่อันเป็นที่ตั้งของพรรคก็ถูกเผาไหม้จนวอดวาย
พรรคมารระส่ำระส่ายด้วย
ฮูหยินประมุขพรรคมารไป๋จิ่วซือสิ้นใจเพราะโดนลอบวางยาพิษ
ส่วนประมุขพรรคมารเนื่องเพราะการจากไปของฮูหยินตนและความขัดแย้งกันในพรรคจึงตกตายตามกันไป
บัดนี้ใต้หล้าสงบสุขอีกครั้ง ไร้ซึ่งพรรคมารอีกต่อไป ผู้คนในพรรคล้มล้มหายตายจาก สถานที่อันเป็นที่ตั้งของพรรคก็ถูกเผาไหม้จนวอดวาย
ช้อนอุ้มเจ้าของตัวตากลมโตขึ้นแนบอก
"เสี่ยวไป๋ ข้าขอโทษ"
"ข้าจำเป็นต้องทำ"
"เพื่อความปลอดภัยของเจ้า"
ไม่นานบุรุษชุดดำพลันปรากฎตัวขึ้นเบื้องหน้า
"เตรียมการเรียบร้อยแล้วขอรับ"
บุรุษชุดดำคุกเข่าคำนับหน้านายเหนือหัวของตนเอง
"ดี เผาที่นี่ทิ้งซะ"
"แล้วประกาศการตายของข้าและเสี่ยวไป๋ได้เลย"
ช้อนอุ้มเจ้าของตัวตากลมโตขึ้นแนบอก
"เสี่ยวไป๋ ข้าขอโทษ"
"ข้าจำเป็นต้องทำ"
"เพื่อความปลอดภัยของเจ้า"
ไม่นานบุรุษชุดดำพลันปรากฎตัวขึ้นเบื้องหน้า
"เตรียมการเรียบร้อยแล้วขอรับ"
บุรุษชุดดำคุกเข่าคำนับหน้านายเหนือหัวของตนเอง
"ดี เผาที่นี่ทิ้งซะ"
"แล้วประกาศการตายของข้าและเสี่ยวไป๋ได้เลย"
ช่วงเวลาเหล่านั้นไม่มีความหมายใดเลยหรือ
"ท่านเคยรักข้าบ้างหรือไม่"
หยาดน้ำสีใสไหลจากดวงเนตรกลมโตลงอาบแก้มนวล
"ข้าขอโทษ"
ร่างสูงใหญ่เบื้องหน้าที่ยืนนิ่งมาตั้งแต่ต้นกล่าวขึ้นอย่างแผ่วเบา
เจ้าของเรือนผมสีขาวโพลนเหยียด ยิ้มอย่างเยือกเย็นก่อนจะสิ้นสติไป
ช่วงเวลาเหล่านั้นไม่มีความหมายใดเลยหรือ
"ท่านเคยรักข้าบ้างหรือไม่"
หยาดน้ำสีใสไหลจากดวงเนตรกลมโตลงอาบแก้มนวล
"ข้าขอโทษ"
ร่างสูงใหญ่เบื้องหน้าที่ยืนนิ่งมาตั้งแต่ต้นกล่าวขึ้นอย่างแผ่วเบา
เจ้าของเรือนผมสีขาวโพลนเหยียด ยิ้มอย่างเยือกเย็นก่อนจะสิ้นสติไป
"เพราะเหตุใด"
ริมฝีปากบางกระอักเลือดสีสดออกมาคำโต
"เพราะเหตุใดกัน"
ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วทั้ง ร่างกายแต่ทว่ามันกลับเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับจิตใจที่แตกสลายนี้
"ทำไมถึงทำกับข้าเช่นนี้"
ดวงหน้างามเหม่อมองไปยังบุรุษผู้นั้น ผู้ที่ตนรักอย่างสุดหัวใจ
ผู้ที่เป็นสามีของข้าไป๋จิ๋วซือ
"เฉินโจว"
"เหตุใดท่านจึงวางยาพิษข้า"
#ฮวาฟาง
"เพราะเหตุใด"
ริมฝีปากบางกระอักเลือดสีสดออกมาคำโต
"เพราะเหตุใดกัน"
ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วทั้ง ร่างกายแต่ทว่ามันกลับเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับจิตใจที่แตกสลายนี้
"ทำไมถึงทำกับข้าเช่นนี้"
ดวงหน้างามเหม่อมองไปยังบุรุษผู้นั้น ผู้ที่ตนรักอย่างสุดหัวใจ
ผู้ที่เป็นสามีของข้าไป๋จิ๋วซือ
"เฉินโจว"
"เหตุใดท่านจึงวางยาพิษข้า"
#ฮวาฟาง
"ฮั่วจ่านไป๋ ข้าถามเจ้าอีกครั้ง"
"เจ้า...รู้จักข้าหรือไม่"
"..ไม่รู้จัก"
อา...นั่นสิ ผู้ผดุงความยุติธรรมเช่นเขาจะมารู้จักประมุขมารเช่นข้าได้อย่างไร
แต่เหตุไฉน ตัวข้า...ถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าเช่นนี้...
"ประมุขหลี่"
"...พาตัวไป ขังเขาไว้ในจวนข้า ข้าจะเล่นกับมือกระบี่อันดับหนึ่งเสียหน่อย"
"เจ้า!! ปล่อยข้า!!"
#ฮวาฟาง
"ฮั่วจ่านไป๋ ข้าถามเจ้าอีกครั้ง"
"เจ้า...รู้จักข้าหรือไม่"
"..ไม่รู้จัก"
อา...นั่นสิ ผู้ผดุงความยุติธรรมเช่นเขาจะมารู้จักประมุขมารเช่นข้าได้อย่างไร
แต่เหตุไฉน ตัวข้า...ถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าเช่นนี้...
"ประมุขหลี่"
"...พาตัวไป ขังเขาไว้ในจวนข้า ข้าจะเล่นกับมือกระบี่อันดับหนึ่งเสียหน่อย"
"เจ้า!! ปล่อยข้า!!"
#ฮวาฟาง
"ฮั่วจ่านไป๋ ข้าถามเจ้าอีกครั้ง"
"เจ้า...รู้จักข้าหรือไม่"
"..ไม่รู้จัก"
อา...นั่นสิ ผู้ผดุงความยุติธรรมเช่นเขาจะมารู้จักประมุขมารเช่นข้าได้อย่างไร
แต่เหตุไฉน ตัวข้า...ถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าเช่นนี้...
"ประมุขหลี่"
"...พาตัวไป ขังเขาไว้ในจวนข้า ข้าจะเล่นกับมือกระบี่อันดับหนึ่งเสียหน่อย"
"เจ้า!! ปล่อยข้า!!"
#ฮวาฟาง
องค์ชายบุปผากล่าวติดตลกไปอย่างไม่เกรงกลัวนัก
'เห็นทีจะมีเพียงเจ้าที่กล้าพูดจาสามหาวกับข้าเช่นนี้ มิกลัวข้าจะก่อกบฏทำลายราชวงศ์จนสิ้นหรืออย่างไร'
"เจ้านี่มันประหลาดคนในเมื่อเกลียดราชวงศ์ถึงเพียงนี้จะมาเกลือกกลั้วกับข้าอีกทำไมกัน"
เกลียด เฉิวโจวเกลียดราชวงศ์นัก แต่ก็เพราะพวกมันทำร้ายบุปผางามของตนจนแดงช้ำเช่นนี้
#ฮวาฟาง
องค์ชายบุปผากล่าวติดตลกไปอย่างไม่เกรงกลัวนัก
'เห็นทีจะมีเพียงเจ้าที่กล้าพูดจาสามหาวกับข้าเช่นนี้ มิกลัวข้าจะก่อกบฏทำลายราชวงศ์จนสิ้นหรืออย่างไร'
"เจ้านี่มันประหลาดคนในเมื่อเกลียดราชวงศ์ถึงเพียงนี้จะมาเกลือกกลั้วกับข้าอีกทำไมกัน"
เกลียด เฉิวโจวเกลียดราชวงศ์นัก แต่ก็เพราะพวกมันทำร้ายบุปผางามของตนจนแดงช้ำเช่นนี้
#ฮวาฟาง
วิฬาเหมันต์คุกเข่าแบมือแทบหมอบ ไม่กล้าเงยหน้ามองเขา ทำได้แต่เพียงน้ำตาคลอเบ้า
ด้วยรู้ว่าไม่อาจร้องขอสิ่งใดนอกจากเพียงรอรับโทษทัณฑ์
ปล่อยให้เขาเข้าใจอย่างนั้นไปเสียยังดีกว่า ให้หลี่เฉินโจวเข้าใจว่าข้าเป็นผู้สังหารหลี่เซี่ยงอี๋ ดีกว่าให้เขารู้ว่าหลี่เซี่ยงอี๋อยากเร้นกาย หลบหนีจากความบ้าคลั่งของเขา
"ฮั่วจ้านไป๋..."
ฝ่ามือขาวถูกรองเท้าหนังเหยียบกดแนบพื้น ความเจ็บนี้เสียดลึกถึงหัวใจ
วิฬาเหมันต์คุกเข่าแบมือแทบหมอบ ไม่กล้าเงยหน้ามองเขา ทำได้แต่เพียงน้ำตาคลอเบ้า
ด้วยรู้ว่าไม่อาจร้องขอสิ่งใดนอกจากเพียงรอรับโทษทัณฑ์
ปล่อยให้เขาเข้าใจอย่างนั้นไปเสียยังดีกว่า ให้หลี่เฉินโจวเข้าใจว่าข้าเป็นผู้สังหารหลี่เซี่ยงอี๋ ดีกว่าให้เขารู้ว่าหลี่เซี่ยงอี๋อยากเร้นกาย หลบหนีจากความบ้าคลั่งของเขา
"ฮั่วจ้านไป๋..."
ฝ่ามือขาวถูกรองเท้าหนังเหยียบกดแนบพื้น ความเจ็บนี้เสียดลึกถึงหัวใจ