เป็นการรู้จักกันครั้งแรก ที่น่าระทึกใจจริง ๆ ว่าไหมคะ
.
.
.
“ตัวเอง เป็นอะไรรึเปล่า”
ผมถามแฟนตัวเอง ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เหมือนคิดแกล้งอะไรผมไว้ในใจ เธอเป็นคนน่ารัก แต่บางครั้งผมก็เดาไม่ออก ว่าเธอคิดอะไรในใจ
“เปล่า ก็แค่คิดถึงครั้งแรกที่เจอกันน่ะ”
เธอพูดขึ้น
“สนุกมากเลยล่ะ”
หมายถึงครั้งของศึกแย่งไข่ดาวสินะ
“อยากแข่งอีกรึเปล่าล่ะ”
ผมถาม
เป็นการรู้จักกันครั้งแรก ที่น่าระทึกใจจริง ๆ ว่าไหมคะ
.
.
.
“ตัวเอง เป็นอะไรรึเปล่า”
ผมถามแฟนตัวเอง ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เหมือนคิดแกล้งอะไรผมไว้ในใจ เธอเป็นคนน่ารัก แต่บางครั้งผมก็เดาไม่ออก ว่าเธอคิดอะไรในใจ
“เปล่า ก็แค่คิดถึงครั้งแรกที่เจอกันน่ะ”
เธอพูดขึ้น
“สนุกมากเลยล่ะ”
หมายถึงครั้งของศึกแย่งไข่ดาวสินะ
“อยากแข่งอีกรึเปล่าล่ะ”
ผมถาม
เขาดูถูกฉันเกินไป เมื่อได้ยินกิตติมาศักดิ์ความอร่อย จากเพื่อนใน sec เดียวกัน ตอนถามว่าทำไมหนุ่มคนนั้น ถึงพุ่งดิ่งเร็วขนาดนี้
ฉันก็ตัดสินใจ รวบรวมลมปราณใช้วิชาวิ่งกรีฑาหญิงเหรียญทองอันดับหนึ่ง แซงเขาด้วยความเร็วสูงสุด
จนเขาอุทานในใจว่า
‘เอาจริงดิ’ เลยล่ะ
เราแย่งไข่ดาวไม่สุก ของล้ำค่าสุดท้าย ก่อนแม่ครัวจะไปซื้อฟองใหม่ ให้เสียเวลารอ
สุดท้าย เราก็ตัดสินใจ
เขาดูถูกฉันเกินไป เมื่อได้ยินกิตติมาศักดิ์ความอร่อย จากเพื่อนใน sec เดียวกัน ตอนถามว่าทำไมหนุ่มคนนั้น ถึงพุ่งดิ่งเร็วขนาดนี้
ฉันก็ตัดสินใจ รวบรวมลมปราณใช้วิชาวิ่งกรีฑาหญิงเหรียญทองอันดับหนึ่ง แซงเขาด้วยความเร็วสูงสุด
จนเขาอุทานในใจว่า
‘เอาจริงดิ’ เลยล่ะ
เราแย่งไข่ดาวไม่สุก ของล้ำค่าสุดท้าย ก่อนแม่ครัวจะไปซื้อฟองใหม่ ให้เสียเวลารอ
สุดท้าย เราก็ตัดสินใจ
เขากับฉัน แย่งไข่ดาวฟองสุดท้ายกันที่ร้านประจำท้ายซอย
หนุ่มหัวกระเซิง สวมแว่นหนาเตอะ หิ้วคอมพิวเตอร์ไปไหนมาไหนตลอดเวลา
เขามักจะใจดีกับคนอื่นเสมอ ยกเว้นเรื่องเดียวคือ ต้องเป็นคนแรกที่จะออกจากห้อง ตรงดิ่งหาแม่ครัวเจ้าประจำในตำนาน ที่ทำกะเพราอร่อยที่สุดในโลก
วันนั้น เขาเดินตรงแน่ว ไม่สิ พูดให้ถูกคือ วิ่งระดับไฮสปีด ลงจากอาคาร ไปหาเป้าหมาย
เขากับฉัน แย่งไข่ดาวฟองสุดท้ายกันที่ร้านประจำท้ายซอย
หนุ่มหัวกระเซิง สวมแว่นหนาเตอะ หิ้วคอมพิวเตอร์ไปไหนมาไหนตลอดเวลา
เขามักจะใจดีกับคนอื่นเสมอ ยกเว้นเรื่องเดียวคือ ต้องเป็นคนแรกที่จะออกจากห้อง ตรงดิ่งหาแม่ครัวเจ้าประจำในตำนาน ที่ทำกะเพราอร่อยที่สุดในโลก
วันนั้น เขาเดินตรงแน่ว ไม่สิ พูดให้ถูกคือ วิ่งระดับไฮสปีด ลงจากอาคาร ไปหาเป้าหมาย
“กะเพราไข่ดาวไหม ตัวเอง”
เขาตอบ เอานิ้วชี้ข้างขวามาเกาแก้ม เป็นท่าทางกังวลเฉพาะของคุณแฟน
“อื้อ ได้สิที่รัก”
ฉันตอบ แล้วหัวเราะเล็กน้อย สุดท้ายนี่ก็เป็นเมนูสิ้นคิด สุดพิเศษสำหรับเรา
“กะเพราไข่ดาวไหม ตัวเอง”
เขาตอบ เอานิ้วชี้ข้างขวามาเกาแก้ม เป็นท่าทางกังวลเฉพาะของคุณแฟน
“อื้อ ได้สิที่รัก”
ฉันตอบ แล้วหัวเราะเล็กน้อย สุดท้ายนี่ก็เป็นเมนูสิ้นคิด สุดพิเศษสำหรับเรา
เธอตอบอย่างว่าง่าย ไฉน มันง่ายอย่างนี้นะ
.
.
.
สวัสดีดีค่ะ ทุกคน วันนี้ก็เป็นวันดีที่ได้ใช้เวลาว่างกับคุณแฟน ว่าละรู้สึกหิวขึ้นมาแล้วสิ
“นี่ วันนี้กินอะไรดี”
ฉันถามแกล้งเล่นคุณแฟนจอมคิดมาก
มันน่าสนุกดีตอนเห็นเขาคิดอะไรแปลก ๆ ออกมา
เพราะอะไรน่ะเหรอ ฉันมีพลังพิเศษในการ ‘อ่านใจ‘ ยังไงล่ะ
หืม
ถึงเขาจะตอบอะไรมา ฉันว่าจะไปกินตามนั้น
เพราะว่า
เธอตอบอย่างว่าง่าย ไฉน มันง่ายอย่างนี้นะ
.
.
.
สวัสดีดีค่ะ ทุกคน วันนี้ก็เป็นวันดีที่ได้ใช้เวลาว่างกับคุณแฟน ว่าละรู้สึกหิวขึ้นมาแล้วสิ
“นี่ วันนี้กินอะไรดี”
ฉันถามแกล้งเล่นคุณแฟนจอมคิดมาก
มันน่าสนุกดีตอนเห็นเขาคิดอะไรแปลก ๆ ออกมา
เพราะอะไรน่ะเหรอ ฉันมีพลังพิเศษในการ ‘อ่านใจ‘ ยังไงล่ะ
หืม
ถึงเขาจะตอบอะไรมา ฉันว่าจะไปกินตามนั้น
เพราะว่า
จู่ ๆ บรรยากาศทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ไม่มีภาพของเธออีกแล้ว มีแต่ความว่างเปล่า และ ความมืดมิด
ก่อนที่เสียงหนึ่งจะเอ่ยดังขึ้น
'ทุกอย่างเลยงั้นเหรอ'
ทุกอย่างกลับสู่ความเย็นเยือก มืดมน ผมรู้ตัวว่าได้ตกลงสู่กับดับไปเสียแล้ว
'นายจะยอมแลกทุกอย่างใช่ไหม แม้นั่นจะหมายถึงชีวิตนาย' เสียงนั้นกล่าว
'ถ้าเพื่อเธอคนนั้น'
จู่ ๆ บรรยากาศทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ไม่มีภาพของเธออีกแล้ว มีแต่ความว่างเปล่า และ ความมืดมิด
ก่อนที่เสียงหนึ่งจะเอ่ยดังขึ้น
'ทุกอย่างเลยงั้นเหรอ'
ทุกอย่างกลับสู่ความเย็นเยือก มืดมน ผมรู้ตัวว่าได้ตกลงสู่กับดับไปเสียแล้ว
'นายจะยอมแลกทุกอย่างใช่ไหม แม้นั่นจะหมายถึงชีวิตนาย' เสียงนั้นกล่าว
'ถ้าเพื่อเธอคนนั้น'
"ใช้ไม่ได้เลยนะ"
เธอแกล้งทำเป็นบ่นนิด ๆ แต่ก็ยังลูบหัวผมไม่เลิก
"กลับมาแล้วล่ะ" โอ้ พระเจ้า ประโยคนี้เป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมานาน เธอกลับมา ปัดเป่าผมให้ตื่นจากฝันร้ายที่ยาวนาน
ผมอยากจะขอบคุณใครก็ตามที่ทำให้ความปรารถนาเป็นจริง หากเพื่อเธอแล้ว ผมยอมแลกทุกอย่าง ขอแค่เธออยู่เคียงข้างผมก็พอ
"ใช้ไม่ได้เลยนะ"
เธอแกล้งทำเป็นบ่นนิด ๆ แต่ก็ยังลูบหัวผมไม่เลิก
"กลับมาแล้วล่ะ" โอ้ พระเจ้า ประโยคนี้เป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมานาน เธอกลับมา ปัดเป่าผมให้ตื่นจากฝันร้ายที่ยาวนาน
ผมอยากจะขอบคุณใครก็ตามที่ทำให้ความปรารถนาเป็นจริง หากเพื่อเธอแล้ว ผมยอมแลกทุกอย่าง ขอแค่เธออยู่เคียงข้างผมก็พอ
ไม่เอาหรอก ไม่รู้เหรอว่าถ้าพูดไปจะถูก 'สาป' เอานะ
ก็แหม่... ถึงจะสะใจเรื่องยัยนั้น เข้าโรงบาลดับจิตแล้วก็เถอะ แต่ถ้าให้พูดถึงคุณแคทธาริน่า ผู้น่าสงสาร นักคงพูดไม่ได้หรอก
ขอให้มันเน่าตายคาโรงบาล ฉันพูดได้แค่นี้แหละ
หืม ไว้โอกาสหน้าจะมาใหม่เหรอ?
ได้สิ ฉันจะคอยนะ แต่ถ้าถามถึงเรื่องยัยเพี้ยนนั่นล่ะก็ ขอบายนะ
ไม่เอาหรอก ไม่รู้เหรอว่าถ้าพูดไปจะถูก 'สาป' เอานะ
ก็แหม่... ถึงจะสะใจเรื่องยัยนั้น เข้าโรงบาลดับจิตแล้วก็เถอะ แต่ถ้าให้พูดถึงคุณแคทธาริน่า ผู้น่าสงสาร นักคงพูดไม่ได้หรอก
ขอให้มันเน่าตายคาโรงบาล ฉันพูดได้แค่นี้แหละ
หืม ไว้โอกาสหน้าจะมาใหม่เหรอ?
ได้สิ ฉันจะคอยนะ แต่ถ้าถามถึงเรื่องยัยเพี้ยนนั่นล่ะก็ ขอบายนะ
ยังจำได้เลยครั้งหนึ่ง เผลอทำให้เสื้อนักเรียนของคุณแคทธาริน่า เปื้อน คุณเขาเลยสั่งให้ยัยนั้น ถอดเสื้อของตัวเองเช็ดคราบที่เปื้อนให้หมด
สะใจสุด ๆ ไปเลยล่ะ
ต้องเห็นสีหน้าหวาดกลัว แล้วก็อับอายของยัยบ้านั่น
"อย่านะ แคทตี้ ขอร้องล่ะ"
ยัยน่าไม่อาย ที่เรียกชื่อเล่นของคุณแคทธาริน่าตามอำเภอใจ
ตอนที่คุณแคทธาริน่า ไม่เล่นด้วย ตวาดลั่นย้ำเตือนสถานะ ฉันยิ่งรู้สึกดี
'มีความสุข' สุด ๆ
ยังจำได้เลยครั้งหนึ่ง เผลอทำให้เสื้อนักเรียนของคุณแคทธาริน่า เปื้อน คุณเขาเลยสั่งให้ยัยนั้น ถอดเสื้อของตัวเองเช็ดคราบที่เปื้อนให้หมด
สะใจสุด ๆ ไปเลยล่ะ
ต้องเห็นสีหน้าหวาดกลัว แล้วก็อับอายของยัยบ้านั่น
"อย่านะ แคทตี้ ขอร้องล่ะ"
ยัยน่าไม่อาย ที่เรียกชื่อเล่นของคุณแคทธาริน่าตามอำเภอใจ
ตอนที่คุณแคทธาริน่า ไม่เล่นด้วย ตวาดลั่นย้ำเตือนสถานะ ฉันยิ่งรู้สึกดี
'มีความสุข' สุด ๆ
อยู่ ๆ ฉันก็สะดุดล้ม ก่อนที่ลืมตาอีกครั้ง ฉันได้เจอกับคุณกระต่ายสีขาว แปดเปื้อน เจ้าดอกไม้เต็มไปหมด
ว่าแต่เจ้ากระต่ายนี่ก็ดูคุ้น ๆ นะ
ฉันคิดแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
ว่าแต่ว่าฉันมาทำอะไรอยู่กันนะ?
ฉันคิดก่อนจะจ้องมองห้องสีขาวไร้ที่สิ้นสุด ทั่วทุกตารางห้องปูด้วยเบาะนวมสีขาว ต่อให้โขกหัวยังไงก็ไม่เจ็บ
ฉันอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้วนะ
.
.
.
อยู่ ๆ ฉันก็สะดุดล้ม ก่อนที่ลืมตาอีกครั้ง ฉันได้เจอกับคุณกระต่ายสีขาว แปดเปื้อน เจ้าดอกไม้เต็มไปหมด
ว่าแต่เจ้ากระต่ายนี่ก็ดูคุ้น ๆ นะ
ฉันคิดแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
ว่าแต่ว่าฉันมาทำอะไรอยู่กันนะ?
ฉันคิดก่อนจะจ้องมองห้องสีขาวไร้ที่สิ้นสุด ทั่วทุกตารางห้องปูด้วยเบาะนวมสีขาว ต่อให้โขกหัวยังไงก็ไม่เจ็บ
ฉันอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้วนะ
.
.
.
รอยของเท้า ก็เป็นสีแดงฉาน
รอยของมือ ก็เป็นสีแดงฉาน
รอยบนร่างกายฉัน ก็เป็นสีแดงฉาน
ทำให้ห้องดูสดใส ไม่อึมครึม
"ฮะ ฮะ มีความสุขกัน"
ฉันพูดพร้อมกับเต้นรำ สร้างร่องรอยให้ห้อง โปรยเหล่าดอกไม้ ให้กระจายไปทั่วห้อง
รอยของเท้า ก็เป็นสีแดงฉาน
รอยของมือ ก็เป็นสีแดงฉาน
รอยบนร่างกายฉัน ก็เป็นสีแดงฉาน
ทำให้ห้องดูสดใส ไม่อึมครึม
"ฮะ ฮะ มีความสุขกัน"
ฉันพูดพร้อมกับเต้นรำ สร้างร่องรอยให้ห้อง โปรยเหล่าดอกไม้ ให้กระจายไปทั่วห้อง
ว่าแต่กลิ่นของดอกไม้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
หรือ
มัน'ไม่มี'ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ฉันคิดอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะตามหาตัวแคทธาริน่าอีกครั้ง
ว่าแต่กลิ่นของดอกไม้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
หรือ
มัน'ไม่มี'ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ฉันคิดอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะตามหาตัวแคทธาริน่าอีกครั้ง
‘ฉันตายไปแล้ว’ เธออยากพูดแบบนั้นสินะ
ฉันแค้นยิ้ม ก่อนจะมองที่นั่งว่างเปล่าตรงหน้า ไม่มีใครเห็นเธอเลยนอกจากฉัน
และสายลมที่ตอบรับคำขอ วอนให้ความรักพัดผ่าน ปลิวว่อนสัมผัสกายวิญญาณสักวัน
‘ฉันตายไปแล้ว’ เธออยากพูดแบบนั้นสินะ
ฉันแค้นยิ้ม ก่อนจะมองที่นั่งว่างเปล่าตรงหน้า ไม่มีใครเห็นเธอเลยนอกจากฉัน
และสายลมที่ตอบรับคำขอ วอนให้ความรักพัดผ่าน ปลิวว่อนสัมผัสกายวิญญาณสักวัน