เขายิ้มตอบเธอด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเช่นกัน
“ ขอบคุณนะ ฉันจะดูแลเธอให้ดีที่สุด ”
“ ฉันสัญญา ”
มือที่กระชับไว้ของเธอถูกยกขึ้นมาจูบ รักพูดสักร้อยรอบคงไม่พอ แต่แค่นี้คงพอสำหรับฉันแล้ว
“ จริงดิ! เป็นแฟนกันแล้วหรอเนี่ย!! ”
“ เย็นนี้ว่างไหม!! ไปกินแซ่บกัน ”
เขายิ้มตอบเธอด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเช่นกัน
“ ขอบคุณนะ ฉันจะดูแลเธอให้ดีที่สุด ”
“ ฉันสัญญา ”
มือที่กระชับไว้ของเธอถูกยกขึ้นมาจูบ รักพูดสักร้อยรอบคงไม่พอ แต่แค่นี้คงพอสำหรับฉันแล้ว
“ จริงดิ! เป็นแฟนกันแล้วหรอเนี่ย!! ”
“ เย็นนี้ว่างไหม!! ไปกินแซ่บกัน ”
“นึกว่าจะไม่บอกกันต่อหน้าแล้วซะอีก“
ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนออกมา
เธอดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่เมื่อได้ยินสิ่งนั้นจากปากเขาตรงๆ
.
เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น รอยยิ้มนั่นก็หุบหายลงไป
“แต่…แต่เรา…เรายังจำได้ที่นายบอก…ว่านายจะกลับไปอยู่กับคุณพ่อ”
คิ้วบนใบหน้าสวยขมวดลงเล็กน้อย
“ถ้าเป็นแบบนี้…เราจะทำยังไงดีล่ะ”
“อย่าไปได้มั้ย”
“อย่าไปนะ”
“นึกว่าจะไม่บอกกันต่อหน้าแล้วซะอีก“
ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนออกมา
เธอดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่เมื่อได้ยินสิ่งนั้นจากปากเขาตรงๆ
.
เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น รอยยิ้มนั่นก็หุบหายลงไป
“แต่…แต่เรา…เรายังจำได้ที่นายบอก…ว่านายจะกลับไปอยู่กับคุณพ่อ”
คิ้วบนใบหน้าสวยขมวดลงเล็กน้อย
“ถ้าเป็นแบบนี้…เราจะทำยังไงดีล่ะ”
“อย่าไปได้มั้ย”
“อย่าไปนะ”
“ แต่ฉันอยากเป็นของนางิจูคนเดียว ”
“ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เธอเป็นคนดูแลฉันมาตลอด ต่อจากนี้ฉันขออยู่ดูแลเธอคนเดียวบ้างได้ไหม ”
เขาตอบเสียงมั่นใจพรางด้วยสีหน้าอ้อนวอน
“ ฉันมั่นใจว่าต่อจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น ”
“ นางิสะ เป็นแฟนกันนะ.. ”
“ แต่ฉันอยากเป็นของนางิจูคนเดียว ”
“ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เธอเป็นคนดูแลฉันมาตลอด ต่อจากนี้ฉันขออยู่ดูแลเธอคนเดียวบ้างได้ไหม ”
เขาตอบเสียงมั่นใจพรางด้วยสีหน้าอ้อนวอน
“ ฉันมั่นใจว่าต่อจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น ”
“ นางิสะ เป็นแฟนกันนะ.. ”
“ ฉันจะอยู่ที่นี่กับนางิจู ฉันสัญญา ”
คาริมุก้มตัวลงประทับหน้าผาก เธอไม่ได้อยู่คนเดียว เธอยังคงมีเขาอยู่จากนี้และตลอดไป
ไม่นานมานี้เขาได้กลับไปคุยกับฝั่งแม่เรื่องกลับทำงานให้ครอบครัว แลกกับการต่อรอง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คงเพราะพ่อคงเข้าใจความรู้สึกนี้มากกว่าใคร
“ เรื่องคุณพ่อเสร็จไปแล้วล่ะ ”
“ นางิจูไม่ต้องทำอะไรเลย เป็นเธอเหมือนในทุกๆวันที่ผ่านมา ”
+
“ ฉันจะอยู่ที่นี่กับนางิจู ฉันสัญญา ”
คาริมุก้มตัวลงประทับหน้าผาก เธอไม่ได้อยู่คนเดียว เธอยังคงมีเขาอยู่จากนี้และตลอดไป
ไม่นานมานี้เขาได้กลับไปคุยกับฝั่งแม่เรื่องกลับทำงานให้ครอบครัว แลกกับการต่อรอง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี คงเพราะพ่อคงเข้าใจความรู้สึกนี้มากกว่าใคร
“ เรื่องคุณพ่อเสร็จไปแล้วล่ะ ”
“ นางิจูไม่ต้องทำอะไรเลย เป็นเธอเหมือนในทุกๆวันที่ผ่านมา ”
+
“ แต่เพราะฉันอยากอยู่กับเธอ ”
“ ฉันไม่เคยรู้สึกที่ไหนเหมือนบ้านเท่ากับตอนอยู่กับเธอเลย ”
“ ฉันรักเธอ… นางิสะ ”
“ ฉันไม่มีวันทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว ”
ราวกับความรู้สึกมันเอ่อล้นออกมา เขารู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่ แต่เพราะรู้ตัวถึงได้พูดออกไป แต่เธอจะรู้สึกเหมือนที่เขารู้สึกรึเปล่านะ
“ แต่เพราะฉันอยากอยู่กับเธอ ”
“ ฉันไม่เคยรู้สึกที่ไหนเหมือนบ้านเท่ากับตอนอยู่กับเธอเลย ”
“ ฉันรักเธอ… นางิสะ ”
“ ฉันไม่มีวันทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว ”
ราวกับความรู้สึกมันเอ่อล้นออกมา เขารู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่ แต่เพราะรู้ตัวถึงได้พูดออกไป แต่เธอจะรู้สึกเหมือนที่เขารู้สึกรึเปล่านะ
มือใหญ่สัมผัสกรอบหน้าคมคายของเธอขึ้นมาสบตา สีหน้าของเขาดูจริงจังแต่ก็อ่อนโยน เขาคงไม่โกหกกับความรู้สึกที่มีให้เธอแม้แต่น้อย
“ ตอนนี้สำหรับฉันเป็นเรื่องของเราซะแล้ว ”
เขาตอบเสียงทุ้มละมุน
มือที่รองกรอบหน้าเปลี่ยนมายกมือเรียวขึ้นมาสัมผัสที่หน้าอุ่นๆของเขา
“ ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี่แล้ว ”
+
มือใหญ่สัมผัสกรอบหน้าคมคายของเธอขึ้นมาสบตา สีหน้าของเขาดูจริงจังแต่ก็อ่อนโยน เขาคงไม่โกหกกับความรู้สึกที่มีให้เธอแม้แต่น้อย
“ ตอนนี้สำหรับฉันเป็นเรื่องของเราซะแล้ว ”
เขาตอบเสียงทุ้มละมุน
มือที่รองกรอบหน้าเปลี่ยนมายกมือเรียวขึ้นมาสัมผัสที่หน้าอุ่นๆของเขา
“ ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี่แล้ว ”
+
กลิ่นอากาศบริสุทธิ์ของสวนในโรงเรียนสูบเข้าเต็มปอด ลมเย็นๆโชยผ่านพัดปอยผม ที่นี่แหละ แตะหญ้า
ทั้งคู่ยังคงเดินผ่านรมไม้เพื่อหาที่นั่งดีๆ แต่เพื่อกลบความเงียบ คาริมุเลยเริ่มบทสนทนา
“ ไหนนางิจัง วันนี้สนุกไหม ”
“ เธอคงไม่ได้ห่วงเรื่องดอกไม้นั้นใช่ไหม ”
เธอคงไม่พูดมันออกมาตรงๆ ต่อจากนี้คงต้องจริงจังสักหน่อย
กลิ่นอากาศบริสุทธิ์ของสวนในโรงเรียนสูบเข้าเต็มปอด ลมเย็นๆโชยผ่านพัดปอยผม ที่นี่แหละ แตะหญ้า
ทั้งคู่ยังคงเดินผ่านรมไม้เพื่อหาที่นั่งดีๆ แต่เพื่อกลบความเงียบ คาริมุเลยเริ่มบทสนทนา
“ ไหนนางิจัง วันนี้สนุกไหม ”
“ เธอคงไม่ได้ห่วงเรื่องดอกไม้นั้นใช่ไหม ”
เธอคงไม่พูดมันออกมาตรงๆ ต่อจากนี้คงต้องจริงจังสักหน่อย
“ ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่นี่แล้ว อยู่กับเธอ ”
ถึงเขาจะยิ้มดูมีชีวิตชีวา แต่ในใจลึกๆเขาคงรู้ดีว่าเธอรู้สึกยังไง
มืออุ่นๆกุมมือกระชับมือเล็กๆไว้กระชับ เขาคงห่วงเธอมากๆพอกับที่ห่วงเรื่องคำทำนาย
“ เหนื่อยแล้วสินะ ”
“ งั้นป่ะ ไปกัน ”
เขาลุกขึ้น มือยังคงกุมอุ่นๆกับเพื่อนสนิทไว้กลางอากาศรอให้เธอลุกเพื่อเดินทางด้วยกันต่อ
+
“ ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่นี่แล้ว อยู่กับเธอ ”
ถึงเขาจะยิ้มดูมีชีวิตชีวา แต่ในใจลึกๆเขาคงรู้ดีว่าเธอรู้สึกยังไง
มืออุ่นๆกุมมือกระชับมือเล็กๆไว้กระชับ เขาคงห่วงเธอมากๆพอกับที่ห่วงเรื่องคำทำนาย
“ เหนื่อยแล้วสินะ ”
“ งั้นป่ะ ไปกัน ”
เขาลุกขึ้น มือยังคงกุมอุ่นๆกับเพื่อนสนิทไว้กลางอากาศรอให้เธอลุกเพื่อเดินทางด้วยกันต่อ
+
ฉัน ไม่ชอบเลย ทำไมบูทถึงมีของแบบนี้ให้คนพับนะ
เขาเอ้ะใจ ก่อนหันไปถามสตาฟที่ช่วยแนะนำ สตาฟคนนั้นหายไปแล้ว น่าเป็นห่วง แต่น่าเป็นห่วงมากกว่าคงเป็นนางิสะ
มือใหญ่ๆรีบพับกระดาษวางลงบนโต๊ะเงียบๆ ก่อนยิ้มร่า
“ ได้ดอกบัวคู่น่ะ! เท่ใช่ไหมล่ะ ”
“ แต่คำทำนายของเธอเนี่ย วันนี้คงมีสาวน้อยมาสารภาพรักแน่เลย ”
ฉัน ไม่ชอบเลย ทำไมบูทถึงมีของแบบนี้ให้คนพับนะ
เขาเอ้ะใจ ก่อนหันไปถามสตาฟที่ช่วยแนะนำ สตาฟคนนั้นหายไปแล้ว น่าเป็นห่วง แต่น่าเป็นห่วงมากกว่าคงเป็นนางิสะ
มือใหญ่ๆรีบพับกระดาษวางลงบนโต๊ะเงียบๆ ก่อนยิ้มร่า
“ ได้ดอกบัวคู่น่ะ! เท่ใช่ไหมล่ะ ”
“ แต่คำทำนายของเธอเนี่ย วันนี้คงมีสาวน้อยมาสารภาพรักแน่เลย ”
คาริมุตอบกลับนางิสะทั้งที่ตัวชุบอยู่บนโต๊ะ ไม่นาน แผ่นกระดาษสีแดงเข้มวางไว้ตรงหน้า พรางมือเย็นๆสะกิดที่แผ่นหลัง
คงถึงเวลาเริ่มพับแล้ว
ในระหว่างพับ หูตาไวของเขาก็แอบดูคนข้างๆ ซื่อสัตย์และความรู้สึกที่จริงใจงั้นหรอ เธอมีอะไรที่เก็บไว้อยู่รึเปล่านะ
เมื่อพับเสร็จ ดอกฮิกังบานะสีแดงเข้มสวยถูกหมุนดูรอบๆด้วยความภูมิใจ
“ ไหนนน! ดูคำทำนายหน่อย ”
+
คาริมุตอบกลับนางิสะทั้งที่ตัวชุบอยู่บนโต๊ะ ไม่นาน แผ่นกระดาษสีแดงเข้มวางไว้ตรงหน้า พรางมือเย็นๆสะกิดที่แผ่นหลัง
คงถึงเวลาเริ่มพับแล้ว
ในระหว่างพับ หูตาไวของเขาก็แอบดูคนข้างๆ ซื่อสัตย์และความรู้สึกที่จริงใจงั้นหรอ เธอมีอะไรที่เก็บไว้อยู่รึเปล่านะ
เมื่อพับเสร็จ ดอกฮิกังบานะสีแดงเข้มสวยถูกหมุนดูรอบๆด้วยความภูมิใจ
“ ไหนนน! ดูคำทำนายหน่อย ”
+
“ ก็ฉันตื่นเต้นนี่นา ”
เขาเงียบไปพรางฟังเธอหยอกล้อ จนกระทั้งเธอดันใช้สรรพนามนั้นออกมา
บัดซบ จนได้ ทั้งที่พยายามเลี่ยงแล้วแท้ๆ ทำไมเธอถึงเล่นกับใจฉันตลอดเลยนะ
“ เรียกตามใจเถอะน่า.. ”
“ รบกวนด้วยครับ ”
เขาอุทานเบาๆด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เมื่อถึงโต๊ะร่างใหญ่ก็ฟุบลงบนโต๊ะราวกับหมดแรง
“ ไม่ไหวหรอก แบบนี้เนี่ย ”
“ ก็ฉันตื่นเต้นนี่นา ”
เขาเงียบไปพรางฟังเธอหยอกล้อ จนกระทั้งเธอดันใช้สรรพนามนั้นออกมา
บัดซบ จนได้ ทั้งที่พยายามเลี่ยงแล้วแท้ๆ ทำไมเธอถึงเล่นกับใจฉันตลอดเลยนะ
“ เรียกตามใจเถอะน่า.. ”
“ รบกวนด้วยครับ ”
เขาอุทานเบาๆด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เมื่อถึงโต๊ะร่างใหญ่ก็ฟุบลงบนโต๊ะราวกับหมดแรง
“ ไม่ไหวหรอก แบบนี้เนี่ย ”
เขาตอบด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม แต่ด้านในพยายามกลบความคิดสกปรกออกไปอยู่
เธอจะทำอะไรอีกรึเปล่า ฉันตื่นเต้นทำไม แต่อยู่แบบนี้ทั้งวันฉันจะไม่ตายเอารึไง แต่ซื้อชุดนี้ต่อได้ไหมนะ..
“ ถ้าใส่ชุดปิดหมดแบบนี้ทั้งวันคงร้อนแน่ ร เรารีบเอาชุดมาคืนก่อนเวลาดีไหมครับ? ”
เป็นคำถามปนเบี่ยงเบน คงรู้สึกกลัวจะอดใจไม่ไหวแน่ๆ
เขาตอบด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม แต่ด้านในพยายามกลบความคิดสกปรกออกไปอยู่
เธอจะทำอะไรอีกรึเปล่า ฉันตื่นเต้นทำไม แต่อยู่แบบนี้ทั้งวันฉันจะไม่ตายเอารึไง แต่ซื้อชุดนี้ต่อได้ไหมนะ..
“ ถ้าใส่ชุดปิดหมดแบบนี้ทั้งวันคงร้อนแน่ ร เรารีบเอาชุดมาคืนก่อนเวลาดีไหมครับ? ”
เป็นคำถามปนเบี่ยงเบน คงรู้สึกกลัวจะอดใจไม่ไหวแน่ๆ
ในขณะที่เขาอยู่ในคิว ลำโพงก็ดังขึ้น เสียงปรบมือเฮรอบห้องทำฉันตะลึง แต่ก็คงไม่ตะลึงเท่านางิสะ
ความรู้สึกยินดีไหลเวียนสูบฉีดได้ไม่นาน ประโยคที่ว่า ‘ เมดจำเป็น ‘ ก็ทำเขาราวกับรู้ชะตา ยัยนี่ไม่ปล่อยโอกาสไปแน่
เมื่อเธอเดินออกมาพร้อมกับชุดเมดมิดชิด เขาก็ปรบมือพร้อมๆกับคนในห้องด้วยความยินดี แต่สีหน้าตึงราวกับมาทำธุระสำคัญ
+
ในขณะที่เขาอยู่ในคิว ลำโพงก็ดังขึ้น เสียงปรบมือเฮรอบห้องทำฉันตะลึง แต่ก็คงไม่ตะลึงเท่านางิสะ
ความรู้สึกยินดีไหลเวียนสูบฉีดได้ไม่นาน ประโยคที่ว่า ‘ เมดจำเป็น ‘ ก็ทำเขาราวกับรู้ชะตา ยัยนี่ไม่ปล่อยโอกาสไปแน่
เมื่อเธอเดินออกมาพร้อมกับชุดเมดมิดชิด เขาก็ปรบมือพร้อมๆกับคนในห้องด้วยความยินดี แต่สีหน้าตึงราวกับมาทำธุระสำคัญ
+
เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ รอยยิ้มละมุนตอบกลับให้คนพิเศษ ก่อนจะรู้สึกตัว
“ เค้กสวยนี่นา อย่างกับทำที่ร้านเลย ”
“ แบบนี้จะกินลงไหมล่ะเนี่ย ”
เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ รอยยิ้มละมุนตอบกลับให้คนพิเศษ ก่อนจะรู้สึกตัว
“ เค้กสวยนี่นา อย่างกับทำที่ร้านเลย ”
“ แบบนี้จะกินลงไหมล่ะเนี่ย ”
พอได้ยินช่วงท้ายของนางิสะ ราวกับเวลาถูกหยุดไว้
ตึกตัก
เสียงหัวใจดังขึ้น คงเพราะเขารู้สึกอะไรสักอย่าง เธอจริงจังหรือหวังให้เขินกันแน่
ผิวกายอมชมพูของเขาไม่ได้โกหก แต่สีหน้าของเขาครานี้ต่างออกไป
+
พอได้ยินช่วงท้ายของนางิสะ ราวกับเวลาถูกหยุดไว้
ตึกตัก
เสียงหัวใจดังขึ้น คงเพราะเขารู้สึกอะไรสักอย่าง เธอจริงจังหรือหวังให้เขินกันแน่
ผิวกายอมชมพูของเขาไม่ได้โกหก แต่สีหน้าของเขาครานี้ต่างออกไป
+
“ แต่เลิกคิดไปแล้วเพราะตอนนั้นฉันยังเด็กและคิดว่าเงินเสกจากต้นไม้ ”
“ ฮ่า ทุกคนที่ปรึกษากับเธอจะรู้สึก เหมือนที่ฉันรู้สึกรึเปล่านะ ”
คาริมุพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่อ่อนโยน ผิดกับภาพลักษณ์และลุคชายฉกรรจ์
“ แล้วเธอล่ะ ตอนเด็กๆอยากทำอะไรบ้าง ”
“ แต่เลิกคิดไปแล้วเพราะตอนนั้นฉันยังเด็กและคิดว่าเงินเสกจากต้นไม้ ”
“ ฮ่า ทุกคนที่ปรึกษากับเธอจะรู้สึก เหมือนที่ฉันรู้สึกรึเปล่านะ ”
คาริมุพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่อ่อนโยน ผิดกับภาพลักษณ์และลุคชายฉกรรจ์
“ แล้วเธอล่ะ ตอนเด็กๆอยากทำอะไรบ้าง ”
การอยู่กับนางิสะมาตั้งแต่เด็กคงทำให้ซึมซับบางอย่างมาบ้างแหละ
“ อย่างน้อยก็เปียกแค่นิ้วนะ ไม่ได้ลงไปอาบทั้งตัวสักหน่อย ”
เขาพูดพรางเดินตามเข้าไปนั่งข้างๆ
พูดตามตรงเขาไม่มีหัวเรื่องนี้เลย แต่ก็ดูพยายามพอสมควรจากที่รู้สึกได้
“ มาอยู่แบบนี้แล้ว ฉันเคยอยากทำร้านเบเกอรี่กับเธอเหมือนกัน ”
+
การอยู่กับนางิสะมาตั้งแต่เด็กคงทำให้ซึมซับบางอย่างมาบ้างแหละ
“ อย่างน้อยก็เปียกแค่นิ้วนะ ไม่ได้ลงไปอาบทั้งตัวสักหน่อย ”
เขาพูดพรางเดินตามเข้าไปนั่งข้างๆ
พูดตามตรงเขาไม่มีหัวเรื่องนี้เลย แต่ก็ดูพยายามพอสมควรจากที่รู้สึกได้
“ มาอยู่แบบนี้แล้ว ฉันเคยอยากทำร้านเบเกอรี่กับเธอเหมือนกัน ”
+
มือใหญ่จับข้อแขนอีกฝ่ายกระชับ ขณะค่อยๆเขยิบงับที่นิ้วของนางิสะอย่างอ่อนโยน
* จุ๊บ *
เสียงดูดดังขึ้น เมื่อหัวและนิ้วเรียวถูกกลืนหายจนหมด คาริมุถึงผละหน้าคมคายออก
“ ดวงเธอเนี่ยหวานสุดๆ ไม่รู้ว่าส่วนที่เหลือจะหวานแบบนี้รึเปล่า ”
เขาคงหมายถึงส่วนตัวของคุกกี้แน่ๆ
“ อุ.. นิ้วเธอเปียกหมดเลย ขอโทษ.. ”
มือใหญ่จับข้อแขนอีกฝ่ายกระชับ ขณะค่อยๆเขยิบงับที่นิ้วของนางิสะอย่างอ่อนโยน
* จุ๊บ *
เสียงดูดดังขึ้น เมื่อหัวและนิ้วเรียวถูกกลืนหายจนหมด คาริมุถึงผละหน้าคมคายออก
“ ดวงเธอเนี่ยหวานสุดๆ ไม่รู้ว่าส่วนที่เหลือจะหวานแบบนี้รึเปล่า ”
เขาคงหมายถึงส่วนตัวของคุกกี้แน่ๆ
“ อุ.. นิ้วเธอเปียกหมดเลย ขอโทษ.. ”
“ ฟังดูดีเหมือนกัน กินนี่เสร็จมีของหวานตบท้ายคงครบสูตร ”
คาริมยิ้มมุมปากไม่รู้ตัว คงเพราะวันนี้ได้ทานอิ่มท้องหรือไม่ก็ได้ใช้เวลากับคนสนิท
“ ป่ะ ไปกัน ”
_
เมื่อถึงจุดหมายและชำระค่าเข้าสำหรับสองคนเรียบร้อย เขาก็ไม่ลืมที่จะสุ่มของที่ระลึกก่อนเข้าไป
“ นี่มันฉันกับเธอชัดๆ ”
เขาพูดลอยๆ ก่อนหันไปดูของอีกคนด้วยความอยากรู้
“ ไหน ได้อะไรมา”
“ ฟังดูดีเหมือนกัน กินนี่เสร็จมีของหวานตบท้ายคงครบสูตร ”
คาริมยิ้มมุมปากไม่รู้ตัว คงเพราะวันนี้ได้ทานอิ่มท้องหรือไม่ก็ได้ใช้เวลากับคนสนิท
“ ป่ะ ไปกัน ”
_
เมื่อถึงจุดหมายและชำระค่าเข้าสำหรับสองคนเรียบร้อย เขาก็ไม่ลืมที่จะสุ่มของที่ระลึกก่อนเข้าไป
“ นี่มันฉันกับเธอชัดๆ ”
เขาพูดลอยๆ ก่อนหันไปดูของอีกคนด้วยความอยากรู้
“ ไหน ได้อะไรมา”
“ อะไรของเธอ น่ารักมันกินได้ที่ไหนเล่า ”
มือรีบหยิบขนมปังชิ้นใหญ่อีกสองชิ้นพออิ่มก่อนจะจ่ายเงินไป
“ นี่สิเบิ้มๆ! อิ่มท้องแน่นอน ”
“ ไง มีที่ไหนอยากไปอีกรึเปล่าล่ะ เห็นว่ามีงานเลี้ยงหน้ากาก กับ บูทข้าวปั่นด้วยนะ ”
ที่เสนอมาเหมือนจะเลี่ยงอันที่มันน่ากลัวออกไปหมดเลย
“ อะไรของเธอ น่ารักมันกินได้ที่ไหนเล่า ”
มือรีบหยิบขนมปังชิ้นใหญ่อีกสองชิ้นพออิ่มก่อนจะจ่ายเงินไป
“ นี่สิเบิ้มๆ! อิ่มท้องแน่นอน ”
“ ไง มีที่ไหนอยากไปอีกรึเปล่าล่ะ เห็นว่ามีงานเลี้ยงหน้ากาก กับ บูทข้าวปั่นด้วยนะ ”
ที่เสนอมาเหมือนจะเลี่ยงอันที่มันน่ากลัวออกไปหมดเลย