myfriendshipp.site/@tantanxr
“พี่หมายถึงนมใหญ่ ๆ ของพี่ป่ะ”
“ธัดเดอัส ฉันหมายถึงเรื่องใหญ่ ไอ้เวรนี่”
“ไม่ ๆ คือในหัวผมมันมีแต่นมพี่อยู่อะ”
“จะฟังไหม”
“ว่ามาครับผม”
อีกฝ่ายยืนเท้าสะเอวด้วยท่าทางยีกวน ดวงตาสีนิลจ้องมองตั้งแต่แผงอกที่ถูกขวางกั้นไว้ด้วยอาภรณ์
“พี่หมายถึงนมใหญ่ ๆ ของพี่ป่ะ”
“ธัดเดอัส ฉันหมายถึงเรื่องใหญ่ ไอ้เวรนี่”
“ไม่ ๆ คือในหัวผมมันมีแต่นมพี่อยู่อะ”
“จะฟังไหม”
“ว่ามาครับผม”
อีกฝ่ายยืนเท้าสะเอวด้วยท่าทางยีกวน ดวงตาสีนิลจ้องมองตั้งแต่แผงอกที่ถูกขวางกั้นไว้ด้วยอาภรณ์
ควันสีเทาพวยพุ่งขึ้นสูงเหนือหัว เขาพรูลมหายใจอุ่นร้อนรินรดบนฝ่ามือที่ยกขึ้นมาแบกรับคางมนของตน กลิ่นโอเมก้าตลบอบอวลไปทั่วอาณาบริเวณของตัวผับแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองมาดริดประเทศสเปน
ควันสีเทาพวยพุ่งขึ้นสูงเหนือหัว เขาพรูลมหายใจอุ่นร้อนรินรดบนฝ่ามือที่ยกขึ้นมาแบกรับคางมนของตน กลิ่นโอเมก้าตลบอบอวลไปทั่วอาณาบริเวณของตัวผับแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองมาดริดประเทศสเปน
“ระหว่างมอสคาโต้กับโปรเซกโก คุณชอบดื่มไวน์อะไรมากกว่ากัน”
ราฟาเอลเอ่ยถามพลางวนก้นแก้วไวน์ที่พราวไปด้วยเกลือที่เกาะอยู่ตรงขอบปากแก้วสีใส เรียวนิ้วชี้ด้านซ้ายเคาะบนโต๊ะไม้สีมะฮอกกานีอย่างรอคำตอบ
“ระหว่างมอสคาโต้กับโปรเซกโก คุณชอบดื่มไวน์อะไรมากกว่ากัน”
ราฟาเอลเอ่ยถามพลางวนก้นแก้วไวน์ที่พราวไปด้วยเกลือที่เกาะอยู่ตรงขอบปากแก้วสีใส เรียวนิ้วชี้ด้านซ้ายเคาะบนโต๊ะไม้สีมะฮอกกานีอย่างรอคำตอบ
ธัดเดอัสหัวเสียไม่น้อยเมื่อคนที่ตนชอบกำลังไปคลุกคลีกับรุ่นน้องคนอื่น ๆ โดยไม่เหลียวตามองตนเลยสักครั้ง หากมองมาก็ส่งสายตาเฉยชาราวกับไม่รู้จักกัน
ธัดเดอัสหัวเสียไม่น้อยเมื่อคนที่ตนชอบกำลังไปคลุกคลีกับรุ่นน้องคนอื่น ๆ โดยไม่เหลียวตามองตนเลยสักครั้ง หากมองมาก็ส่งสายตาเฉยชาราวกับไม่รู้จักกัน
กลิ่นอายของความทรงจำยังคงวนเวียนอยู่ในห้องไม่จางหาย ยามที่เท้าทั้งหกคู่เยื้องย่างเข้าสู่ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนคับแคบมากนัก แต่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันสี่คนได้อย่างสบาย
กลิ่นอายของความทรงจำยังคงวนเวียนอยู่ในห้องไม่จางหาย ยามที่เท้าทั้งหกคู่เยื้องย่างเข้าสู่ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนคับแคบมากนัก แต่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันสี่คนได้อย่างสบาย
“มาถอดกันเลยดีไหม?”
คาเกโอะรู้ดีว่าตนไม่สามารถขัดขืนทุกสัมผัสที่อีกฝ่ายได้ส่งมอบมาให้ เนื้อหนังมังสาที่ถูกสัมผัสโดยฝ่ามือหนาคู่นั้นมันเสียวซาบซ่านจนขาแทบสั่นยามที่เรียวนิ้วไล่ลงไปตามมัดกล้าม
“มาถอดกันเลยดีไหม?”
คาเกโอะรู้ดีว่าตนไม่สามารถขัดขืนทุกสัมผัสที่อีกฝ่ายได้ส่งมอบมาให้ เนื้อหนังมังสาที่ถูกสัมผัสโดยฝ่ามือหนาคู่นั้นมันเสียวซาบซ่านจนขาแทบสั่นยามที่เรียวนิ้วไล่ลงไปตามมัดกล้าม
ถ้าหากเขารู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้เขาคงจะไม่ทำมันลงไป ในช่วงเวลาย่ำรุ่งเขาตื่นมาพร้อมกับฝันร้าย เหงื่อกาฬผุดพรายเกาะพราวไปทั่วใบหน้าและแผ่นหลัง เอนเอียงเอี้ยวตัวไปทางเตียงที่ว่างเปล่า ฝ่ามือเรียวลูบไล้ควานหาไออุ่นจากมัน
ถ้าหากเขารู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้เขาคงจะไม่ทำมันลงไป ในช่วงเวลาย่ำรุ่งเขาตื่นมาพร้อมกับฝันร้าย เหงื่อกาฬผุดพรายเกาะพราวไปทั่วใบหน้าและแผ่นหลัง เอนเอียงเอี้ยวตัวไปทางเตียงที่ว่างเปล่า ฝ่ามือเรียวลูบไล้ควานหาไออุ่นจากมัน
รุ่นพี่ฮิบิโนะ คาฟก้า มักจะบอกกับตัวผมเสมอมาว่า ‘นายน่ะยังเด็กเกินไป’ หรือ ‘ขอโทษทีนะ ฉันไม่ชอบคบกับคนที่อายุน้อยกว่าฉัน’ ผมหงุดหงิดและหัวเสียกลับบ้านมาทุกครั้งยามที่อีกฝ่ายปฏิเสธรับรักผมมาราว ๆ สิบกว่าครั้ง
รุ่นพี่ฮิบิโนะ คาฟก้า มักจะบอกกับตัวผมเสมอมาว่า ‘นายน่ะยังเด็กเกินไป’ หรือ ‘ขอโทษทีนะ ฉันไม่ชอบคบกับคนที่อายุน้อยกว่าฉัน’ ผมหงุดหงิดและหัวเสียกลับบ้านมาทุกครั้งยามที่อีกฝ่ายปฏิเสธรับรักผมมาราว ๆ สิบกว่าครั้ง
เขารู้ว่าคนรักของตนเป็นคนอัธยาศัยดีและเป็นคนช่างยิ้ม ในบางครั้งเจ้าตัวเองก็เผลอโปรยเสน่ห์โดยไม่รู้ตัวจนทำให้เขาต้องตามหึงหวงอย่างเงียบ ๆ เสมอมา
เขารู้ว่าคนรักของตนเป็นคนอัธยาศัยดีและเป็นคนช่างยิ้ม ในบางครั้งเจ้าตัวเองก็เผลอโปรยเสน่ห์โดยไม่รู้ตัวจนทำให้เขาต้องตามหึงหวงอย่างเงียบ ๆ เสมอมา
ฮิบิโนะ คาฟก้า หากดูภายนอกคงจะเป็นผู้ชายที่ฟังเพลงแนวฮาร์ดร็อก ใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำขลับ รองเท้าหนังหุ้มส้น ในเพลย์ลิสต์คงจะประดับประดาไปด้วยเพลงของวง Korn, Nirvana หรือ The offspring
ฮิบิโนะ คาฟก้า หากดูภายนอกคงจะเป็นผู้ชายที่ฟังเพลงแนวฮาร์ดร็อก ใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำขลับ รองเท้าหนังหุ้มส้น ในเพลย์ลิสต์คงจะประดับประดาไปด้วยเพลงของวง Korn, Nirvana หรือ The offspring
Title: Birthday suit
ห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งหลากสีลอยสูงติดเพดานสีขาว ท่วงทำนองคลอเคล้าอย่างเนิบนาบเหมือนกับรสจูบของพวกเขาทั้งสามคน
Title: Birthday suit
ห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งหลากสีลอยสูงติดเพดานสีขาว ท่วงทำนองคลอเคล้าอย่างเนิบนาบเหมือนกับรสจูบของพวกเขาทั้งสามคน
หากโดนศรรักปักอกคงหลงหัวปักหัวปำ ตำนานเล่าขานของนวนิยายปรัมปราระหว่างคิวปิดกับนางเงือกตนหนึ่งถูกเล่าขานกันมามากว่าร้อยปีกับความรักที่ไร้การสมหวัง
หากโดนศรรักปักอกคงหลงหัวปักหัวปำ ตำนานเล่าขานของนวนิยายปรัมปราระหว่างคิวปิดกับนางเงือกตนหนึ่งถูกเล่าขานกันมามากว่าร้อยปีกับความรักที่ไร้การสมหวัง
โฮชินะ โซชิโร่ กำลังฉกฉวยโอกาสจากความเสียใจของคนข้างกาย เสียงของคลื่นทะเลที่กระทบฝั่ง พาร่างของสองเราห่มทับกันแนบแน่น โอบกอดกันท่ามกลางนภาที่ฉาบด้วยสีทองอร่าม
โฮชินะ โซชิโร่ กำลังฉกฉวยโอกาสจากความเสียใจของคนข้างกาย เสียงของคลื่นทะเลที่กระทบฝั่ง พาร่างของสองเราห่มทับกันแนบแน่น โอบกอดกันท่ามกลางนภาที่ฉาบด้วยสีทองอร่าม
เสียงเอะอะเอ็ดตะโรดังขึ้นตรงกลางลานหมู่บ้าน เมื่อฤดูเหมันต์มาเยือน เหล่าชาวบ้านต่างเคาะระฆังสีเงินเสียงดังกึกก้องเป็นการเตือนภัยถึงการมาเยือนของสัตว์สี่ขา
เสียงเอะอะเอ็ดตะโรดังขึ้นตรงกลางลานหมู่บ้าน เมื่อฤดูเหมันต์มาเยือน เหล่าชาวบ้านต่างเคาะระฆังสีเงินเสียงดังกึกก้องเป็นการเตือนภัยถึงการมาเยือนของสัตว์สี่ขา
แดดเริงแรงแทบแผดเผาผิวกายให้มอดไหม้ เขาหย่อนกายลงแม่น้ำหมายจะคลายร้อนในยามบ่ายแก่ เสื้อสีครามคล้ำเปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อของอีกฝ่ายทำให้เห็นเนินอกทะลุผ่านเสื้ออยู่หมิ่นเหม่
แดดเริงแรงแทบแผดเผาผิวกายให้มอดไหม้ เขาหย่อนกายลงแม่น้ำหมายจะคลายร้อนในยามบ่ายแก่ เสื้อสีครามคล้ำเปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อของอีกฝ่ายทำให้เห็นเนินอกทะลุผ่านเสื้ออยู่หมิ่นเหม่
(Chapter 1)
“เฮ้ คุณจำอะไรได้บ้างในคืนนั้น คุณโซชิโร่”
“ผมจำได้แค่กลิ่นบุหรี่ที่เผาไหม้บนลิ้นของผม หลังจากนั้น...หลังจากนั้น ไม่รู้สิ เราร่วมรักกันร้อนแรงเลยล่ะ”
“คุณได้ทำการประเมินผลสภาวะทางจิตผ่าน คุณลงมือทำแบบนั้นไปเพราะอะไร”
“ขอคำถามต่อไป”
(Chapter 1)
“เฮ้ คุณจำอะไรได้บ้างในคืนนั้น คุณโซชิโร่”
“ผมจำได้แค่กลิ่นบุหรี่ที่เผาไหม้บนลิ้นของผม หลังจากนั้น...หลังจากนั้น ไม่รู้สิ เราร่วมรักกันร้อนแรงเลยล่ะ”
“คุณได้ทำการประเมินผลสภาวะทางจิตผ่าน คุณลงมือทำแบบนั้นไปเพราะอะไร”
“ขอคำถามต่อไป”
“สก๊อตวิสกี้เหมือนเดิม”
“อย่าดื่มจนเดือดร้อนคนอื่นล่ะพ่อหนุ่มคาวบอย”
บาร์เทนเดอร์วัยชายกลางคนยื่นแก้วสก๊อตวิสกี้อย่างขอไปที คาฟก้าหยิบยกปืนลูกโม่ตั้งไว้ข้างแก้วสีใส เสียงเอะอะเอ็ดตะโรประสานกับเสียงกีต้าร์โปร่งของนักร้องบนเวที
“สก๊อตวิสกี้เหมือนเดิม”
“อย่าดื่มจนเดือดร้อนคนอื่นล่ะพ่อหนุ่มคาวบอย”
บาร์เทนเดอร์วัยชายกลางคนยื่นแก้วสก๊อตวิสกี้อย่างขอไปที คาฟก้าหยิบยกปืนลูกโม่ตั้งไว้ข้างแก้วสีใส เสียงเอะอะเอ็ดตะโรประสานกับเสียงกีต้าร์โปร่งของนักร้องบนเวที
ควันสีเทาหม่นพวยพุ่งขึ้นสูงเหนือหัว ก่อนที่ควันเหล่านั้นจะจางหายสลายหายไปในอากาศ ยามพระอาทิตย์บ่ายคล้อย สีท้องฟ้าแปลเปลี่ยนเป็นสีส้มอมเหลือง เสียงเพลงของทำนอง Hotel California แต่เนื้อเพลงดันเป็น American Wedding พาเขาขมวดคิ้วให้กับนักร้องเล็กน้อย
ควันสีเทาหม่นพวยพุ่งขึ้นสูงเหนือหัว ก่อนที่ควันเหล่านั้นจะจางหายสลายหายไปในอากาศ ยามพระอาทิตย์บ่ายคล้อย สีท้องฟ้าแปลเปลี่ยนเป็นสีส้มอมเหลือง เสียงเพลงของทำนอง Hotel California แต่เนื้อเพลงดันเป็น American Wedding พาเขาขมวดคิ้วให้กับนักร้องเล็กน้อย
เสืออยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ สำนวนสุภาษิตกล่าวไว้อย่างนั้น คนมีอำนาจ บารมี อิทธิพลพอ ๆ กัน ย่อมอยู่ร่วมกันไม่ได้ ในคราแรกคาฟก้าเชื่อตามที่สำนวนได้กล่าวเอาไว้จนตัวของเขาเองเชื่อสุดใจ ไม่ว่าอย่างไรเสีย เสือย่อมขู่ฆ่ากันเอง
เสืออยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ สำนวนสุภาษิตกล่าวไว้อย่างนั้น คนมีอำนาจ บารมี อิทธิพลพอ ๆ กัน ย่อมอยู่ร่วมกันไม่ได้ ในคราแรกคาฟก้าเชื่อตามที่สำนวนได้กล่าวเอาไว้จนตัวของเขาเองเชื่อสุดใจ ไม่ว่าอย่างไรเสีย เสือย่อมขู่ฆ่ากันเอง
“ไง จ่าธัดเดอัส”
เสียงกล่าวทักทายจากคนยศสูงอย่างพลโทราฟาเอล ผู้บัญชาการกองนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาหน่วยเรนเจอร์ของกองทัพสหรัฐหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 141 และกองทัพชั้นยอดของเขาเองที่รู้จักกันในชื่อ Shadow Company
“คุณต้องการอะไร”
“เครดิต”
“ไง จ่าธัดเดอัส”
เสียงกล่าวทักทายจากคนยศสูงอย่างพลโทราฟาเอล ผู้บัญชาการกองนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาหน่วยเรนเจอร์ของกองทัพสหรัฐหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 141 และกองทัพชั้นยอดของเขาเองที่รู้จักกันในชื่อ Shadow Company
“คุณต้องการอะไร”
“เครดิต”
“มึงก็เล่นดี ๆ หน่อยดิวะ เขาฟอร์มวงมาให้เด็กอมมือเล่นรึไง”
เสียงแหบห้าวประกาศกร้าวอย่างคาดโทษ สายตากลมโตดุคมตวัดปลายตามาทางตนพลันหันใบหน้ามนกลับไปยังทิศทางเดิม
“มาทำไม?”
“มึงก็เล่นดี ๆ หน่อยดิวะ เขาฟอร์มวงมาให้เด็กอมมือเล่นรึไง”
เสียงแหบห้าวประกาศกร้าวอย่างคาดโทษ สายตากลมโตดุคมตวัดปลายตามาทางตนพลันหันใบหน้ามนกลับไปยังทิศทางเดิม
“มาทำไม?”
“ดูสิ เขาโดเนทมาให้ขนาดนั้นเลยนะ”
“จะให้พี่ทำไง”
“แหกหีใส่กล้องหน่อย แบบนั้นแหละ”
ฝ่ามือหนาส่งไปด้านหลังของตนเพื่อกรีดกรายเรียวนิ้วแหวกอ้าก้นกลมกลึงพลางขมิบตอดร่องรูระรัว
“หีตอดไม่หยุดเลย อยากได้ควยตี๋ไหมคะ”
“ดูสิ เขาโดเนทมาให้ขนาดนั้นเลยนะ”
“จะให้พี่ทำไง”
“แหกหีใส่กล้องหน่อย แบบนั้นแหละ”
ฝ่ามือหนาส่งไปด้านหลังของตนเพื่อกรีดกรายเรียวนิ้วแหวกอ้าก้นกลมกลึงพลางขมิบตอดร่องรูระรัว
“หีตอดไม่หยุดเลย อยากได้ควยตี๋ไหมคะ”
“คาเกโอะคนนั้นโดนเล่นงานงั้นเหรอ?”
“นี่ คาเกโอะ นายแพ้ตาแก่นั่นได้ยังไงล่ะ?”
การประชุมของอัครสาวกถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดที่ตั้งไว้ เสียงเย้ยหยันเหยียดหยามดังสลับไปมาซ้ายขวาทำเอาเขากำฝ่ามือแน่นจนห้อเลือด
“คาเกโอะคนนั้นโดนเล่นงานงั้นเหรอ?”
“นี่ คาเกโอะ นายแพ้ตาแก่นั่นได้ยังไงล่ะ?”
การประชุมของอัครสาวกถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดที่ตั้งไว้ เสียงเย้ยหยันเหยียดหยามดังสลับไปมาซ้ายขวาทำเอาเขากำฝ่ามือแน่นจนห้อเลือด
(1)
เพื่อนของเขามักจะเตือนอยู่เสมอมาว่า ‘อย่าออกเดทกับพวกแร็ปเปอร์เด็ดขาดถ้านายไม่อยากเสียใจ’ หรือ ‘พวกแร็ปเปอร์นั่นน่ะ ข้างกายมักจะประดับประดาไปด้วยเหล่าผู้หญิงมากหน้าหลายตา ของมึนเมา และรวมไปถึงยาเสพติด’
(1)
เพื่อนของเขามักจะเตือนอยู่เสมอมาว่า ‘อย่าออกเดทกับพวกแร็ปเปอร์เด็ดขาดถ้านายไม่อยากเสียใจ’ หรือ ‘พวกแร็ปเปอร์นั่นน่ะ ข้างกายมักจะประดับประดาไปด้วยเหล่าผู้หญิงมากหน้าหลายตา ของมึนเมา และรวมไปถึงยาเสพติด’
TW: Bondage
“นี่พี่หาว่าเค้กงี่เง่าใช่ป่ะพี่พีท”
“ใช่ค่ะ หนูงี่เง่า เอาแต่ใจ ดื้อขนาดนี้พี่ตามใจไม่ไหวหรอก”
“เลิกกันไปเลยดิ ถ้าจะขนาดนี้”
“เห็นไหม ตอนนี้หนูกำลังไม่มีเหตุผลอยู่ ถ้าพี่เลิกกับหนูจริง ๆ หนูจะเลิกไหม”
“พี่แม่ง”
TW: Bondage
“นี่พี่หาว่าเค้กงี่เง่าใช่ป่ะพี่พีท”
“ใช่ค่ะ หนูงี่เง่า เอาแต่ใจ ดื้อขนาดนี้พี่ตามใจไม่ไหวหรอก”
“เลิกกันไปเลยดิ ถ้าจะขนาดนี้”
“เห็นไหม ตอนนี้หนูกำลังไม่มีเหตุผลอยู่ ถ้าพี่เลิกกับหนูจริง ๆ หนูจะเลิกไหม”
“พี่แม่ง”