“ฝีปากนายไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ”
ไม่รู้ชมหรือประชด ก่อนจะทำท่าครุ่นคิด
“คลื่นไส้งั้นเหรอ?”
“อืม…แปลว่าฉันฝากร่องรอยไว้ในใจนายได้ลึกพอสมควร ถึงขนาดท้องไส้ก็ยังรับรู้สินะ”
ว่าพลางหมุนตัวโชว์ราวกับกำลังเล่นละครเวทีพร้อมขยิบตาวิ้งคึ
“ระวังให้ดีล่ะ เพราะเสน่ห์ของฉันมันอันตราย”
ถีบมันเลยดีมั้ยนาย—
“ฝีปากนายไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ”
ไม่รู้ชมหรือประชด ก่อนจะทำท่าครุ่นคิด
“คลื่นไส้งั้นเหรอ?”
“อืม…แปลว่าฉันฝากร่องรอยไว้ในใจนายได้ลึกพอสมควร ถึงขนาดท้องไส้ก็ยังรับรู้สินะ”
ว่าพลางหมุนตัวโชว์ราวกับกำลังเล่นละครเวทีพร้อมขยิบตาวิ้งคึ
“ระวังให้ดีล่ะ เพราะเสน่ห์ของฉันมันอันตราย”
ถีบมันเลยดีมั้ยนาย—
เพอร์ฟูมพยายามเก็บอาการโดยรีบเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะฉีกยิ้มสว่างไสวรีบแถกับทุกคน
“เมื่อครู่เป็นเพียงการแสดง เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า เสน่ห์ของหนุ่มกริฟฟินดอร์ไม่ได้มีเพียงความสง่างาม แต่ยังมีความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ข้างใน!”
เพื่อนข้างๆถึงกับยกนิ้วโป้งให้ ยอมแพ้กับสกิลแถหมอนี่จริงๆ…
[END]
เพอร์ฟูมพยายามเก็บอาการโดยรีบเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะฉีกยิ้มสว่างไสวรีบแถกับทุกคน
“เมื่อครู่เป็นเพียงการแสดง เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า เสน่ห์ของหนุ่มกริฟฟินดอร์ไม่ได้มีเพียงความสง่างาม แต่ยังมีความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ข้างใน!”
เพื่อนข้างๆถึงกับยกนิ้วโป้งให้ ยอมแพ้กับสกิลแถหมอนี่จริงๆ…
[END]
เพื่อนคนนั้นเอื้อมมือมายีผมหยักศกของเขาจนมันยุ่งฟูเป็นรังนก…กรี๊ด! เขาอุตส่าห์จัดแต่งทรงผมตั้งสองชั่วโมงนะ!
“เฮ้ย! อยากโดนต่อยคว่ำรึไงฟะ!?“
แล้วคุณชายเพอร์ฟูม ฟราวิเอล ก็หลุดเกรี้ยวกราดใส่เพื่อนอย่างไม่สง่างามอีกต่อไป
ทำเอาโต๊ะกริฟฟินดอร์รอบข้างเงียบไปเสี้ยววินาที ก่อนจะพากันระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
+
เพื่อนคนนั้นเอื้อมมือมายีผมหยักศกของเขาจนมันยุ่งฟูเป็นรังนก…กรี๊ด! เขาอุตส่าห์จัดแต่งทรงผมตั้งสองชั่วโมงนะ!
“เฮ้ย! อยากโดนต่อยคว่ำรึไงฟะ!?“
แล้วคุณชายเพอร์ฟูม ฟราวิเอล ก็หลุดเกรี้ยวกราดใส่เพื่อนอย่างไม่สง่างามอีกต่อไป
ทำเอาโต๊ะกริฟฟินดอร์รอบข้างเงียบไปเสี้ยววินาที ก่อนจะพากันระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
+
ในตอนนั้นเองที่เพื่อนอีกคนตบหลังเขาดังป้าบจนเขาเกือบสำลักน้ำฟักทอง
“ไงคุณชาย ถ้าปีนี้นายไม่ลงแข่งควิดดิช ฉันจับนายโยนลงโคลนแน่!”
เขาถอนหายใจ จัดปกเสื้อคลุมให้เข้าที่ ฉีกยิ้มตามฉบับสุภาพบุรุษผู้ดี
“เพื่อนรัก ฉันให้โอกาสนายพูดใหม่ นายจะจับใครโยนลงโคลนนะ?”
+
ในตอนนั้นเองที่เพื่อนอีกคนตบหลังเขาดังป้าบจนเขาเกือบสำลักน้ำฟักทอง
“ไงคุณชาย ถ้าปีนี้นายไม่ลงแข่งควิดดิช ฉันจับนายโยนลงโคลนแน่!”
เขาถอนหายใจ จัดปกเสื้อคลุมให้เข้าที่ ฉีกยิ้มตามฉบับสุภาพบุรุษผู้ดี
“เพื่อนรัก ฉันให้โอกาสนายพูดใหม่ นายจะจับใครโยนลงโคลนนะ?”
+
เพราะมันคือแหล่งรวมคนเถื่อนไร้มารยาท มีแต่พวกเอะอะโวยวาย ชอบชวนเขาไปเล่นซน ซึ่งมันทำให้เขาแทบกรี๊ดทุกครั้งที่เสื้อคลุมเปื้อนโคลน
ถึงปากจะบ่น แต่ในใจกลับอบอุ่นเมื่อนึกถึงเสียงหัวเราะของเพื่อนๆและความทรงจำที่มีต่อบ้านหลังนี้
+
เพราะมันคือแหล่งรวมคนเถื่อนไร้มารยาท มีแต่พวกเอะอะโวยวาย ชอบชวนเขาไปเล่นซน ซึ่งมันทำให้เขาแทบกรี๊ดทุกครั้งที่เสื้อคลุมเปื้อนโคลน
ถึงปากจะบ่น แต่ในใจกลับอบอุ่นเมื่อนึกถึงเสียงหัวเราะของเพื่อนๆและความทรงจำที่มีต่อบ้านหลังนี้
+
‘ฉันจะแสดงให้เห็น…ต่อให้ไม่มั่นใจ ฉันก็จะมุ่งไปข้างหน้าในแบบของฉัน’
คำตอบของเขายังคงแนวแน่
“งั้นไม่ต้องลังเลแล้ว กริฟฟินดอร์!”
เสียงประกาศจากหมวกคัดสรรทำให้โต๊ะกริฟฟินดอร์ส่งเสียงเฮดังสนั่น
+
‘ฉันจะแสดงให้เห็น…ต่อให้ไม่มั่นใจ ฉันก็จะมุ่งไปข้างหน้าในแบบของฉัน’
คำตอบของเขายังคงแนวแน่
“งั้นไม่ต้องลังเลแล้ว กริฟฟินดอร์!”
เสียงประกาศจากหมวกคัดสรรทำให้โต๊ะกริฟฟินดอร์ส่งเสียงเฮดังสนั่น
+
เพียงแค่ได้ยินประโยคนั้น หัวใจของเขาก็หดเกร็งราวกับถูกบีบแน่น
‘ไม่…ฉันไม่อยากถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายอีกแล้ว ฉันไม่อยากเป็นเหมือนใคร ฉันอยากกล้าหาญในแบบของฉัน’
เขาคัดค้านในใจ แสดงเจตนาของตนอย่างแน่วแน่
+
เพียงแค่ได้ยินประโยคนั้น หัวใจของเขาก็หดเกร็งราวกับถูกบีบแน่น
‘ไม่…ฉันไม่อยากถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายอีกแล้ว ฉันไม่อยากเป็นเหมือนใคร ฉันอยากกล้าหาญในแบบของฉัน’
เขาคัดค้านในใจ แสดงเจตนาของตนอย่างแน่วแน่
+
“ดีใจที่นายชอบนะ ไว้วันหลังฉันจะชงตัวอื่นมาให้ชิมอีก”
แต่พอถูกถามเรื่องน้ำหอม ดวงตาของเขาก็มีประกายวาบ ก่อนจะคว้ามือเพื่อนมากอบกุมไว้ด้วยท่าทางกระตือรือร้นสุดๆ
“ใช่แล้ว! น้ำหอมคือศาสตร์อันลึกล้ำที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณ นายชอบกลิ่นแบบไหน? อยากลองเทสดูมั้ย?”
ว่าแล้วก็หยิบกล่องใบหรูที่บรรจุน้ำหอมตัวทดลองหลายกลิ่นออกมา
“ดีใจที่นายชอบนะ ไว้วันหลังฉันจะชงตัวอื่นมาให้ชิมอีก”
แต่พอถูกถามเรื่องน้ำหอม ดวงตาของเขาก็มีประกายวาบ ก่อนจะคว้ามือเพื่อนมากอบกุมไว้ด้วยท่าทางกระตือรือร้นสุดๆ
“ใช่แล้ว! น้ำหอมคือศาสตร์อันลึกล้ำที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณ นายชอบกลิ่นแบบไหน? อยากลองเทสดูมั้ย?”
ว่าแล้วก็หยิบกล่องใบหรูที่บรรจุน้ำหอมตัวทดลองหลายกลิ่นออกมา
ภายในตู้โดยสารอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำหอมของเพอร์ฟูมคละเคล้ากับกลิ่นชา เป็นกลิ่นที่ให้ความผ่อนคลายเหมือนอยู่ในสวนดอกไม้
เขารับคุกกี้มาด้วยรอยยิ้มขี้เล่น แต่เห็นเพื่อนสะดุ้งก็หลุดขำเบาๆ
“ระวังลวกนะ ค่อยๆเป่า”
“นี่คือ Golden Bloom ผลงานล่าสุดของฉัน“
เขาอธิบายเกี่ยวกับชาอย่างภูมิใจ
“ฉันใส่กลิ่นพีชกับกลีบดอกพิโอนีลงไป ที่น้ำเป็นประกายสีทองมาจากดอกคาเลนดูล่าน่ะ”
ภายในตู้โดยสารอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำหอมของเพอร์ฟูมคละเคล้ากับกลิ่นชา เป็นกลิ่นที่ให้ความผ่อนคลายเหมือนอยู่ในสวนดอกไม้
เขารับคุกกี้มาด้วยรอยยิ้มขี้เล่น แต่เห็นเพื่อนสะดุ้งก็หลุดขำเบาๆ
“ระวังลวกนะ ค่อยๆเป่า”
“นี่คือ Golden Bloom ผลงานล่าสุดของฉัน“
เขาอธิบายเกี่ยวกับชาอย่างภูมิใจ
“ฉันใส่กลิ่นพีชกับกลีบดอกพิโอนีลงไป ที่น้ำเป็นประกายสีทองมาจากดอกคาเลนดูล่าน่ะ”
เพอร์ฟูมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เปิดประตูตู้พร้อมคุกกี้ในมือ
“ให้ฟรี?”
“คงไม่คิดเงินทีหลังใช่มั้ย?”
เขาแซวขำๆไปงั้น ก่อนจะกวักมือเรียกนายมาหาใกล้ๆ
“มากินด้วยกันสิ ฉันเอาชามาด้วยนะ”
ว่าแล้วก็ยื่นกระบอกใส่ชาอุ่นๆให้นายหนึ่งกระบอก
“ฉันลองเบลนด์ชาสูตรใหม่ดู กลิ่นพีชน่าจะเข้ากับคุกกี้ได้”
เพอร์ฟูมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เปิดประตูตู้พร้อมคุกกี้ในมือ
“ให้ฟรี?”
“คงไม่คิดเงินทีหลังใช่มั้ย?”
เขาแซวขำๆไปงั้น ก่อนจะกวักมือเรียกนายมาหาใกล้ๆ
“มากินด้วยกันสิ ฉันเอาชามาด้วยนะ”
ว่าแล้วก็ยื่นกระบอกใส่ชาอุ่นๆให้นายหนึ่งกระบอก
“ฉันลองเบลนด์ชาสูตรใหม่ดู กลิ่นพีชน่าจะเข้ากับคุกกี้ได้”
“โอเคๆ ถ้านายอยากให้ฉันผิด ฉันยอมรับผิดก็ได้ บางทีเท้าฉันก็ซื่อสัตย์เกินไป”
เขาทอดถอนใจ ทำสีหน้าเหมือนชายผู้แบกโลกทั้งใบ
“โชคดีที่นายเหยียบมันไว้ ไม่งั้นมันคงเผลอไปเตะก้นนายแหงๆ”
“อยากให้ฉันรับผิดชอบอะไรล่ะ? ไหนว่ามาซิ คนสวย”
รวบมือนายที่จิ้มไหล่เขามาดูเล่น เหมือนดูอุ้งเท้าน้องหมา
“โอเคๆ ถ้านายอยากให้ฉันผิด ฉันยอมรับผิดก็ได้ บางทีเท้าฉันก็ซื่อสัตย์เกินไป”
เขาทอดถอนใจ ทำสีหน้าเหมือนชายผู้แบกโลกทั้งใบ
“โชคดีที่นายเหยียบมันไว้ ไม่งั้นมันคงเผลอไปเตะก้นนายแหงๆ”
“อยากให้ฉันรับผิดชอบอะไรล่ะ? ไหนว่ามาซิ คนสวย”
รวบมือนายที่จิ้มไหล่เขามาดูเล่น เหมือนดูอุ้งเท้าน้องหมา
คนถูกด่ากะพริบตาปริบๆ ยอมรับว่าเขาใจลอยเลยเดินไม่ทันสังเกตรอบข้าง เขาก้มมองเท้าที่น่าสงสารของตน ก่อนจะเงยหน้ามองคู่กรณี
หมอนี่…เพื่อนร่วมบ้านที่วีนใส่หมวกคัดสรรตอนปี1
“ฝีปากไม่งามเหมือนหน้าตาเลยนะ”
เพอร์ฟูมยื่นหน้ามาใกล้แล้วยิ้มนิดๆประเมินนาย
“โทษทีละกัน ไม่นึกว่านายจะซุ่มซ่ามขนาดนี้ เจ็บตรงไหนมั้ย?”
ขอโทษอย่างจริงใจ(?) และไม่วายถามกลับอย่างมีน้ำใจ
คนถูกด่ากะพริบตาปริบๆ ยอมรับว่าเขาใจลอยเลยเดินไม่ทันสังเกตรอบข้าง เขาก้มมองเท้าที่น่าสงสารของตน ก่อนจะเงยหน้ามองคู่กรณี
หมอนี่…เพื่อนร่วมบ้านที่วีนใส่หมวกคัดสรรตอนปี1
“ฝีปากไม่งามเหมือนหน้าตาเลยนะ”
เพอร์ฟูมยื่นหน้ามาใกล้แล้วยิ้มนิดๆประเมินนาย
“โทษทีละกัน ไม่นึกว่านายจะซุ่มซ่ามขนาดนี้ เจ็บตรงไหนมั้ย?”
ขอโทษอย่างจริงใจ(?) และไม่วายถามกลับอย่างมีน้ำใจ
เสียงแมวขู่ฟ่อดึงความสนใจให้เพอร์ฟูมหันไปมอง…ก็เห็นสิ่งที่น่าสนใจเข้าพอดี และนั่นก็ทำให้เขาอดขำอย่างเอ็นดูไม่ได้
แต่ดูเหมือนเพื่อนร่วมบ้านจะกำลังลำบาก ตัวสั่นแบบนั้นคงจะกลัวมากสินะ
“นายโอเคมั้ยเพื่อน?”
เขาค่อยๆก้าวเข้ามาหาแล้วถามอย่างห่วงใยปนขำนิดๆ
“นี่นายคงไม่ได้เผลอเหยียบหางพวกเขาใช่มั้ย?”
เสียงแมวขู่ฟ่อดึงความสนใจให้เพอร์ฟูมหันไปมอง…ก็เห็นสิ่งที่น่าสนใจเข้าพอดี และนั่นก็ทำให้เขาอดขำอย่างเอ็นดูไม่ได้
แต่ดูเหมือนเพื่อนร่วมบ้านจะกำลังลำบาก ตัวสั่นแบบนั้นคงจะกลัวมากสินะ
“นายโอเคมั้ยเพื่อน?”
เขาค่อยๆก้าวเข้ามาหาแล้วถามอย่างห่วงใยปนขำนิดๆ
“นี่นายคงไม่ได้เผลอเหยียบหางพวกเขาใช่มั้ย?”