Doc: https://shorturl.at/cqEdS
Active: ตอนหนีงาน กะก่อนนอน
การ์เรตหน้าเจื่อนไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองเห็นคุกกี้ก่อนผ้าพันคอเสียอีก -
แต่ถึงอย่างนั้นก็ดีใจที่อีกฝ่ายชอบน่ะนะ
" ใช่...ถักเองน่ะ "
" ช่วงนี้หน้าหนาวแล้ว..นายควรทำตัวอุ่น ๆ เข้าไว้นะ "
เข้าเอ่ยพลางเอื้อมมือไปช่วยจัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย มองเจ้าหมาที่ติดประดับสลับกับหน้าของกิลเบิร์ต
...
เหมือนจัง..
+
การ์เรตหน้าเจื่อนไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองเห็นคุกกี้ก่อนผ้าพันคอเสียอีก -
แต่ถึงอย่างนั้นก็ดีใจที่อีกฝ่ายชอบน่ะนะ
" ใช่...ถักเองน่ะ "
" ช่วงนี้หน้าหนาวแล้ว..นายควรทำตัวอุ่น ๆ เข้าไว้นะ "
เข้าเอ่ยพลางเอื้อมมือไปช่วยจัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย มองเจ้าหมาที่ติดประดับสลับกับหน้าของกิลเบิร์ต
...
เหมือนจัง..
+
เสียงขานชื่อดังลอยมาแต่ไกลให้คนที่ยืนรออยู่นั้นได้หันมา ในขณะนั้นเองกิลเบิร์ตก็วิ่งมาหาด้วย เกรงว่าอีกฝายจะรอเขานานไปหน่อย...
เสื้อผ้าของตัวกิลเบิร์ตกับการ์เรตนั้นดูแตกต่างกันราวกับอยู่คนละฤดู
ถึงอย่างนั้นกิลเบิร์ตก็ไม่ได้รู้สึกหนาวมากมายอะไรนัก
" โอ๊ะ? เตรียมของขวัญมาแล้วด้วยเหรอ ?"
นึกว่าจะนำมาแลกกันในวันสองวันข้างหน้าซะอีก
บังเอิญจัง เขาเองก็เอามาด้วย
+
เสียงขานชื่อดังลอยมาแต่ไกลให้คนที่ยืนรออยู่นั้นได้หันมา ในขณะนั้นเองกิลเบิร์ตก็วิ่งมาหาด้วย เกรงว่าอีกฝายจะรอเขานานไปหน่อย...
เสื้อผ้าของตัวกิลเบิร์ตกับการ์เรตนั้นดูแตกต่างกันราวกับอยู่คนละฤดู
ถึงอย่างนั้นกิลเบิร์ตก็ไม่ได้รู้สึกหนาวมากมายอะไรนัก
" โอ๊ะ? เตรียมของขวัญมาแล้วด้วยเหรอ ?"
นึกว่าจะนำมาแลกกันในวันสองวันข้างหน้าซะอีก
บังเอิญจัง เขาเองก็เอามาด้วย
+
ให้ตนเผลอพึมพำเสียงเบา
”…อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นเลยนะ“
เพราะดันได้รู้ซะแล้ว ว่าช่างเป็นคนที่น่ารักเหลือเกิน
เลยชักจะไม่อยากให้ใครอื่นได้มาเห็นหรือรู้จักมุมนี้ของเขาเลย
ก็คงนับเป็นความเห็นแก่ตัวเล็กๆที่มีก็ว่าได้
ก็ดันทำให้ใจเธอละลายไปขนาดนี้นี่นา?
ให้ตนเผลอพึมพำเสียงเบา
”…อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นเลยนะ“
เพราะดันได้รู้ซะแล้ว ว่าช่างเป็นคนที่น่ารักเหลือเกิน
เลยชักจะไม่อยากให้ใครอื่นได้มาเห็นหรือรู้จักมุมนี้ของเขาเลย
ก็คงนับเป็นความเห็นแก่ตัวเล็กๆที่มีก็ว่าได้
ก็ดันทำให้ใจเธอละลายไปขนาดนี้นี่นา?
ท่ามกลางหิมะที่รายล้อม กลับไม่ทำให้รู้สึกเหน็บหนาวเลยจริงๆ
"...ไม่เคยก็ไม่เป็นไรหรอก" หลับตายามขยับซุกไซ้เข้าใกล้ เมื่อหามุมที่ตนนั่งซุกสบายแล้ว ดวงตาฟ้าจึงช้อนมองดาวอีกครั้งทั้งรอยยิ้ม
"ปกติก็มาดูคนเดียว...ดังนั้น มันก็เป็นครั้งแรกของฉันเหมือนกัน ที่มีคนมาดูด้วย"
+
ท่ามกลางหิมะที่รายล้อม กลับไม่ทำให้รู้สึกเหน็บหนาวเลยจริงๆ
"...ไม่เคยก็ไม่เป็นไรหรอก" หลับตายามขยับซุกไซ้เข้าใกล้ เมื่อหามุมที่ตนนั่งซุกสบายแล้ว ดวงตาฟ้าจึงช้อนมองดาวอีกครั้งทั้งรอยยิ้ม
"ปกติก็มาดูคนเดียว...ดังนั้น มันก็เป็นครั้งแรกของฉันเหมือนกัน ที่มีคนมาดูด้วย"
+
รู้จักเขาดีกว่าที่คิด ถึงรู้ว่าการดูดาว...อาจไม่เคยเป็นหัวข้อที่คนใกล้ตัวจะเฉียดกรายมาสนใจเลยด้วยซ้ำ
ทั้งดอกไม้ ดวงดาว…หรืออื่นๆ
แต่คงเพราะเธอ...ทำให้วันนี้ได้มาอยู่ตรงนี้ด้วยกันวันนี้
เพียงเท่านี้ ก็ทำให้ใจตนก็ฟูฟ่องมากจนไม่อาจเอ่ยอะไรออกไปได้ชั่วขณะแล้ว
+
รู้จักเขาดีกว่าที่คิด ถึงรู้ว่าการดูดาว...อาจไม่เคยเป็นหัวข้อที่คนใกล้ตัวจะเฉียดกรายมาสนใจเลยด้วยซ้ำ
ทั้งดอกไม้ ดวงดาว…หรืออื่นๆ
แต่คงเพราะเธอ...ทำให้วันนี้ได้มาอยู่ตรงนี้ด้วยกันวันนี้
เพียงเท่านี้ ก็ทำให้ใจตนก็ฟูฟ่องมากจนไม่อาจเอ่ยอะไรออกไปได้ชั่วขณะแล้ว
+
เสียงส้นรองเท้าของเขากระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ทุกก้าวกลับรู้สึกเบากว่าปกติเล็กน้อย ราวกับสติของเขายังติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากที่ยังคงชาอยู่ไม่หาย
เสียงส้นรองเท้าของเขากระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ทุกก้าวกลับรู้สึกเบากว่าปกติเล็กน้อย ราวกับสติของเขายังติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากที่ยังคงชาอยู่ไม่หาย
….
“นาย…เตรียมมาก่อนงั้นหรอ” เสียงน้อยเอ่ยถามทั้งๆที่ยังยืนจ้องมองดาวอยู่อย่างนั้น
….
“นาย…เตรียมมาก่อนงั้นหรอ” เสียงน้อยเอ่ยถามทั้งๆที่ยังยืนจ้องมองดาวอยู่อย่างนั้น
เหมือนจะไม่ได้คาดหวังว่าตนจะได้ยินคำตอบนี้
การดูดาว…ที่เธอชอบ
พอเท้าแตะถึงพื้นก็ค่อยๆเดินตามเขาไป พลางทอดมองชมทัศนียภาพที่ไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก
“….สวยจัง” เอ่ยพึมพำเสียงเบาระหว่างเดินจับมือคนตรงหน้าที่กลับมาเดินนำอีกครั้ง
ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าม้านั่งที่ตั้งเดี่ยวอยู่กลางเนิน
+
เหมือนจะไม่ได้คาดหวังว่าตนจะได้ยินคำตอบนี้
การดูดาว…ที่เธอชอบ
พอเท้าแตะถึงพื้นก็ค่อยๆเดินตามเขาไป พลางทอดมองชมทัศนียภาพที่ไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก
“….สวยจัง” เอ่ยพึมพำเสียงเบาระหว่างเดินจับมือคนตรงหน้าที่กลับมาเดินนำอีกครั้ง
ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าม้านั่งที่ตั้งเดี่ยวอยู่กลางเนิน
+
ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวขึ้นไปนั่งบนกำแพง กระเถิบเข้าไปใกล้เขาให้มากที่สุด
สุดท้ายก็ขยับตัวลงอย่างระมัดระวัง
ปล่อยให้ร่างของเธอไหลเข้าสู่อ้อมอกที่คอยต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว
ให้แลนทราซโอบรับร่างน้อยไว้ได้โดยไม่ต้องเซล้มลงไป
"...เฮ้อ" เอสเทลล์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนพึมพำ "...นายจะพาไปไหนน่ะ?"
ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวขึ้นไปนั่งบนกำแพง กระเถิบเข้าไปใกล้เขาให้มากที่สุด
สุดท้ายก็ขยับตัวลงอย่างระมัดระวัง
ปล่อยให้ร่างของเธอไหลเข้าสู่อ้อมอกที่คอยต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว
ให้แลนทราซโอบรับร่างน้อยไว้ได้โดยไม่ต้องเซล้มลงไป
"...เฮ้อ" เอสเทลล์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนพึมพำ "...นายจะพาไปไหนน่ะ?"
ให้เอสเทลล์มองด้วยความประหลาดใจ
...ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีที่แบบนี้?
แล้วก็ก้มลงมองชายหนุ่มที่โดดลงไปก่อนแล้ว และอ้าแขนรอรับให้เธอกระโดดตามลงไป
"...." เอสเทลล์หันซ้ายหันขวาเหมือนหาทางเลือกที่ดีกว่า เผื่อว่าเธอจะค่อยๆก้าวลงเองได้
แต่เหมือนจะไม่มีทางเลือกนั้นให้...
+
ให้เอสเทลล์มองด้วยความประหลาดใจ
...ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีที่แบบนี้?
แล้วก็ก้มลงมองชายหนุ่มที่โดดลงไปก่อนแล้ว และอ้าแขนรอรับให้เธอกระโดดตามลงไป
"...." เอสเทลล์หันซ้ายหันขวาเหมือนหาทางเลือกที่ดีกว่า เผื่อว่าเธอจะค่อยๆก้าวลงเองได้
แต่เหมือนจะไม่มีทางเลือกนั้นให้...
+
และดูท่าจะไม่หลงจริงๆ เพราะคนเดินนำก็พาเดินอย่างมั่นใจ แม้ท้ายแล้วจะเจอกับทางตันที่ดูเหมือนไปต่อไม่ได้ ก็ยังเห็นเขาก้าวปีนขึ้นไป
ราวกับเคยเดินสำรวจมาก่อนหน้าแล้ว
พาลให้สงสัยว่า...ปลายทางนี้จะมีอะไรรออยู่กัน?
และความสงสัยทั้งหมดก็จางหายไป เมื่อเธอปีนขึ้นพ้นกำแพงไป
สิ่งแรกที่ผ่านเข้ามาสายตาคือ...ท้องฟ้ากว้างที่มีหมู่ดาวประดับชัด
+
และดูท่าจะไม่หลงจริงๆ เพราะคนเดินนำก็พาเดินอย่างมั่นใจ แม้ท้ายแล้วจะเจอกับทางตันที่ดูเหมือนไปต่อไม่ได้ ก็ยังเห็นเขาก้าวปีนขึ้นไป
ราวกับเคยเดินสำรวจมาก่อนหน้าแล้ว
พาลให้สงสัยว่า...ปลายทางนี้จะมีอะไรรออยู่กัน?
และความสงสัยทั้งหมดก็จางหายไป เมื่อเธอปีนขึ้นพ้นกำแพงไป
สิ่งแรกที่ผ่านเข้ามาสายตาคือ...ท้องฟ้ากว้างที่มีหมู่ดาวประดับชัด
+
แต่เดิมก็ไม่ใช่คนที่แสดงออกเก่งอยู่แล้ว ถ้าจะให้แสดงออกทางคำพูดบ่อยขึ้น ก็คงต้องใช้เวลา
แม่คนปากหนักคนนี้เลยแค่ "...อื้อ" แล้วพยักหน้าเบาๆ
ก็เขาบอกว่าชอบมันนี่นา เลยต้องพยายามหน่อย
แล้วแม่ตัวน้อยที่ยังคงมีแก้มสีแดงระเรื่อก็เดินตามเขาต้อยๆอย่างไม่รู้อะไร
พลางสงสัยว่าเขาเคยมาแถวนี้ด้วยหรือ...เป็นทางที่ดูไม่น่ามีโอกาสได้เดินบ่อยๆเลย
+
แต่เดิมก็ไม่ใช่คนที่แสดงออกเก่งอยู่แล้ว ถ้าจะให้แสดงออกทางคำพูดบ่อยขึ้น ก็คงต้องใช้เวลา
แม่คนปากหนักคนนี้เลยแค่ "...อื้อ" แล้วพยักหน้าเบาๆ
ก็เขาบอกว่าชอบมันนี่นา เลยต้องพยายามหน่อย
แล้วแม่ตัวน้อยที่ยังคงมีแก้มสีแดงระเรื่อก็เดินตามเขาต้อยๆอย่างไม่รู้อะไร
พลางสงสัยว่าเขาเคยมาแถวนี้ด้วยหรือ...เป็นทางที่ดูไม่น่ามีโอกาสได้เดินบ่อยๆเลย
+
ไม่สามารถปิดบังความดีใจที่เอ่อท้นอยู่เลยแม้แต่น้อย
ใครเล่าจะปฏิเสธคำบอกรักนี้ได้กัน
"...อื้อ" แค่พยักหน้าเบาๆแล้วสบด้วยดวงตายกยิ้มแสนหวาน ขยับให้แก้มตนอิงแอบแนบฝ่ามือของเขาก่อนยกมือของตนมาทาบทับ
พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกหวานล้ำที่มีจนต้องเอ่ยออกมา
"...รักเหมือนกันนะ แลนทราซ"
ไม่สามารถปิดบังความดีใจที่เอ่อท้นอยู่เลยแม้แต่น้อย
ใครเล่าจะปฏิเสธคำบอกรักนี้ได้กัน
"...อื้อ" แค่พยักหน้าเบาๆแล้วสบด้วยดวงตายกยิ้มแสนหวาน ขยับให้แก้มตนอิงแอบแนบฝ่ามือของเขาก่อนยกมือของตนมาทาบทับ
พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกหวานล้ำที่มีจนต้องเอ่ยออกมา
"...รักเหมือนกันนะ แลนทราซ"
ราวกับดวงตาคู่นั้นกำลังเปล่งประกาย เพราะมีดวงดาวประดับอยู่ภายใน
ไร้ซึ่งคำพูดใดๆอีกเช่นเคย
ช่างปากแข็งเหลือเกิน
แต่เพราะการกระทำของคนตรงหน้า ราวกับค่อยๆสัมผัสอย่างทะนุถนอม ทำให้ใจของคนปากแข็งนั้นเริ่มอ่อนยวบ
กับคำบอกรักแสนหวาน...จากคนที่ปากแข็งไม่แพ้กัน
+
ราวกับดวงตาคู่นั้นกำลังเปล่งประกาย เพราะมีดวงดาวประดับอยู่ภายใน
ไร้ซึ่งคำพูดใดๆอีกเช่นเคย
ช่างปากแข็งเหลือเกิน
แต่เพราะการกระทำของคนตรงหน้า ราวกับค่อยๆสัมผัสอย่างทะนุถนอม ทำให้ใจของคนปากแข็งนั้นเริ่มอ่อนยวบ
กับคำบอกรักแสนหวาน...จากคนที่ปากแข็งไม่แพ้กัน
+
ใบหน้าร้อนตอนนี้ ผสมปนเปจากอากาศที่แสนหนาวเย็น...จากจูบร้อนเมื่อครู่ แลใจที่กำลังเต้นระรัวอีกครั้ง
ร่างแนบใกล้ชิดกันจนไออุ่นสองร่างผสานกันในเวลาไม่นาน จากการกระทำอันแสนฉุกละหุกของตนเอง
ฝ่ามือที่แนบอก...ก็เหมือนจะรับรู้การเต้นของหัวใจอีกฝ่ายที่ดูจะเต้นดังและรัวไม่แพ้กัน
ใกล้กัน...จนรู้สึกเขินอีกแล้ว
แต่ช่างปะไร เหมือนจะรู้วิธีรับมือแล้ว
+
ใบหน้าร้อนตอนนี้ ผสมปนเปจากอากาศที่แสนหนาวเย็น...จากจูบร้อนเมื่อครู่ แลใจที่กำลังเต้นระรัวอีกครั้ง
ร่างแนบใกล้ชิดกันจนไออุ่นสองร่างผสานกันในเวลาไม่นาน จากการกระทำอันแสนฉุกละหุกของตนเอง
ฝ่ามือที่แนบอก...ก็เหมือนจะรับรู้การเต้นของหัวใจอีกฝ่ายที่ดูจะเต้นดังและรัวไม่แพ้กัน
ใกล้กัน...จนรู้สึกเขินอีกแล้ว
แต่ช่างปะไร เหมือนจะรู้วิธีรับมือแล้ว
+
สายตาจับจ้องดวงตาคู่สีฟ้านิ่ง มือที่ใช้โอบเอวเมื่อครู่ เปลี่ยนมาลูบไล้เรือนผมด้านข้างอย่างน่าเอ็นดู ก่อนใช้นิ้วเลื่อนลูบใบหูและสันคอ
“ ฉันรักเธอ, ..เอสเทลล์ ”
“…คบกับฉันนะ ”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างระวังคำพูด ราวกับไม่คุ้นชินกับการพูดประโยคเมื่อครู่ แต่ไร้ซึ่งความประหม่าเพราะมั่นใจในคำตอบของหญิงสาวตรงหน้า
สายตาจับจ้องดวงตาคู่สีฟ้านิ่ง มือที่ใช้โอบเอวเมื่อครู่ เปลี่ยนมาลูบไล้เรือนผมด้านข้างอย่างน่าเอ็นดู ก่อนใช้นิ้วเลื่อนลูบใบหูและสันคอ
“ ฉันรักเธอ, ..เอสเทลล์ ”
“…คบกับฉันนะ ”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างระวังคำพูด ราวกับไม่คุ้นชินกับการพูดประโยคเมื่อครู่ แต่ไร้ซึ่งความประหม่าเพราะมั่นใจในคำตอบของหญิงสาวตรงหน้า