“เอ่อ—จะจับไปตลอดเลยหรอ” ทำไมพึ่งมาถามเอาป่านนี้(…) แกว่งเบาๆ กระพริบตาสองสามที
ไม่รู้สิ รู้สึกเหมือน— ย้อนวัยเลย???
“เอ่อ—จะจับไปตลอดเลยหรอ” ทำไมพึ่งมาถามเอาป่านนี้(…) แกว่งเบาๆ กระพริบตาสองสามที
ไม่รู้สิ รู้สึกเหมือน— ย้อนวัยเลย???
“อาซาโตะ” ทวนชื่ออีกคนเบาๆ ถึงจะไม่ได้มีปฏิกิริยามากไปกว่านั้นแต่ก็ถือซะว่าเข้าใจตามนั้น
นั่นสินะ มาทำความรู้จักกันช่วงใกล้จบนี่นะ—
“อือ“ ถึงจะอุ่นใจขึ้นมาเปราะนึงแต่รู้สึกอุณหภูมิในร่างกายก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
เขาก้าวสั้นบ้างยาวบ้าง—
หมอนี่..เปิดโหมดเดินแบบออโต้ไพลอตไปแล้วรึไง
+
“อาซาโตะ” ทวนชื่ออีกคนเบาๆ ถึงจะไม่ได้มีปฏิกิริยามากไปกว่านั้นแต่ก็ถือซะว่าเข้าใจตามนั้น
นั่นสินะ มาทำความรู้จักกันช่วงใกล้จบนี่นะ—
“อือ“ ถึงจะอุ่นใจขึ้นมาเปราะนึงแต่รู้สึกอุณหภูมิในร่างกายก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
เขาก้าวสั้นบ้างยาวบ้าง—
หมอนี่..เปิดโหมดเดินแบบออโต้ไพลอตไปแล้วรึไง
+
”นี่—ส่งถึงแค่ปลายทางก็ได้ ส่วนค่ารถฉันจ่ายเอง“
”นี่—ส่งถึงแค่ปลายทางก็ได้ ส่วนค่ารถฉันจ่ายเอง“
อาจจะเป็นรอยยิ้มที่จริงใจที่สุดตั้งแต่คุยกันก็ได้— เพี้ยนไปแล้วแหง
“ฮินะอิจิสินะ—เป็นชื่อที่เพราะดีนะ “ เขาทวนชื่อแล้วพยักหน้าหงึก จะจำเอาไว้
“ยาชิชิเกะ คาซุมะ” ถึงรู้สึกจำได้ลางๆว่าเหมือนอีกฝ่ายจะเคยจำชื่อได้ตอนบุงคะไซไหมนะ
+
อาจจะเป็นรอยยิ้มที่จริงใจที่สุดตั้งแต่คุยกันก็ได้— เพี้ยนไปแล้วแหง
“ฮินะอิจิสินะ—เป็นชื่อที่เพราะดีนะ “ เขาทวนชื่อแล้วพยักหน้าหงึก จะจำเอาไว้
“ยาชิชิเกะ คาซุมะ” ถึงรู้สึกจำได้ลางๆว่าเหมือนอีกฝ่ายจะเคยจำชื่อได้ตอนบุงคะไซไหมนะ
+
เอาเถอะ—
“ครับ..ครับ..”
สุดท้ายก็ยอมรับความช่วยเหลือมาแต่โดยดี
”ว่าไปแล้ว..ยังไม่เคยถามชื่อดีๆเลยใช่ไหมนะ?“
เอาเถอะ—
“ครับ..ครับ..”
สุดท้ายก็ยอมรับความช่วยเหลือมาแต่โดยดี
”ว่าไปแล้ว..ยังไม่เคยถามชื่อดีๆเลยใช่ไหมนะ?“
“ไหนว่ามีนัดไง”
“อีกอย่างเรื่องขนมตอนบุงคะไซถือซะว่าเป็นของรางวัลจากห้องฉันก็ได้”
อย่างน้อยถ้าไม่ไหวจริงๆคงจะหารถกลับล่ะมั้ง
”ขอบใจนะแต่ว่า..เดี๋ยวก็กลับมาไม่ทันหรอก“
“ไหนว่ามีนัดไง”
“อีกอย่างเรื่องขนมตอนบุงคะไซถือซะว่าเป็นของรางวัลจากห้องฉันก็ได้”
อย่างน้อยถ้าไม่ไหวจริงๆคงจะหารถกลับล่ะมั้ง
”ขอบใจนะแต่ว่า..เดี๋ยวก็กลับมาไม่ทันหรอก“