{เลออง} ปี1 | 179/67 | 1-B | ชมรมละครเวที
#AZK_Commu
Doc : https://bit.ly/441CjyO
(ตัวละคร เบียวเจ้าชาย)
เขาเงยหน้าขึ้น ยิ้มอ่อนโยนให้เหมือนจะบอกว่าไม่เคยโกรธเลยแม้แต่น้อย
“เรื่องไปโรงเรียนสาย…เอาไว้ชดใช้ด้วยการเลี้ยงขนมฉันทีหลังก็แล้วกัน”
ว่าแล้วเลอองก็หยัดกายขึ้น ค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอเบาๆ
“ไปกันเถอะ ไม่งั้นคงสายจริงๆ แล้วล่ะ”
เขาหัวเราะนุ่มนวล และเดินนำหน้าไปทันที
เขาเงยหน้าขึ้น ยิ้มอ่อนโยนให้เหมือนจะบอกว่าไม่เคยโกรธเลยแม้แต่น้อย
“เรื่องไปโรงเรียนสาย…เอาไว้ชดใช้ด้วยการเลี้ยงขนมฉันทีหลังก็แล้วกัน”
ว่าแล้วเลอองก็หยัดกายขึ้น ค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอเบาๆ
“ไปกันเถอะ ไม่งั้นคงสายจริงๆ แล้วล่ะ”
เขาหัวเราะนุ่มนวล และเดินนำหน้าไปทันที
สมบัติสุดน่ารักสำหรับผู้กล้าที่พิชิตเรือผีสิงได้! แต่เราไม่ได้ให้คุณเลือกได้หรอกนะ~
ลิ้งค์สุ่มตุ๊กตา : th.shindanmaker.com/1250633
สมบัติสุดน่ารักสำหรับผู้กล้าที่พิชิตเรือผีสิงได้! แต่เราไม่ได้ให้คุณเลือกได้หรอกนะ~
ลิ้งค์สุ่มตุ๊กตา : th.shindanmaker.com/1250633
สำหรับผู้มาเยือนกระเป๋าแฟบ หากต้องการจะเข้าเรือของเราโดยไม่เสียเงินสักเหรียญก็จงแสดงตัวว่าคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกโจรสลัดซะสิ!
———————
สุ่มหัวข้อโรลเพลย์ในธีมโลกโจรสลัด หากทำได้รับไปเลยบัตรเล่นฟรี 1 รอบมูลค่า 444 เยน
th.shindanmaker.com/1250685
สำหรับผู้มาเยือนกระเป๋าแฟบ หากต้องการจะเข้าเรือของเราโดยไม่เสียเงินสักเหรียญก็จงแสดงตัวว่าคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกโจรสลัดซะสิ!
———————
สุ่มหัวข้อโรลเพลย์ในธีมโลกโจรสลัด หากทำได้รับไปเลยบัตรเล่นฟรี 1 รอบมูลค่า 444 เยน
th.shindanmaker.com/1250685
“ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นหรอก”
เขาพูดเบาลงเมื่อเห็นเธอทำหน้าซึมๆ
“หากมีจริง… ข้าก็จะถือว่ามันคือเกียรติยศ ที่ได้ช่วยเจ้ารอดจากอันตรายครั้งนี้”
เลอองหยุดเล็กน้อย ก่อนยิ้มขี้เล่นเพิ่มเข้ามานิด
“แถมยังได้เครื่องหมายแสดงความห่วงใยจากสุภาพสตรีด้วย… ช่างเป็นเกียรติแก่ข้ายิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น”
“ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นหรอก”
เขาพูดเบาลงเมื่อเห็นเธอทำหน้าซึมๆ
“หากมีจริง… ข้าก็จะถือว่ามันคือเกียรติยศ ที่ได้ช่วยเจ้ารอดจากอันตรายครั้งนี้”
เลอองหยุดเล็กน้อย ก่อนยิ้มขี้เล่นเพิ่มเข้ามานิด
“แถมยังได้เครื่องหมายแสดงความห่วงใยจากสุภาพสตรีด้วย… ช่างเป็นเกียรติแก่ข้ายิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น”
ริมฝีปากเขาเม้มแน่นเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะ ก่อนจะแสร้งยืดตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียงจริงจังปนเสแสร้งเบียวตามสไตล์
“แน่นอน… เจ้าชายเช่นข้า ย่อมคู่ควรกับมงกุฏอยู่แล้วมิใช่หรือ?”
เขาเหลือบมองเธอ ก่อนจะยื่นแขนออกไปให้เธอติดปลาสเตอร์
+
ริมฝีปากเขาเม้มแน่นเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะ ก่อนจะแสร้งยืดตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียงจริงจังปนเสแสร้งเบียวตามสไตล์
“แน่นอน… เจ้าชายเช่นข้า ย่อมคู่ควรกับมงกุฏอยู่แล้วมิใช่หรือ?”
เขาเหลือบมองเธอ ก่อนจะยื่นแขนออกไปให้เธอติดปลาสเตอร์
+
“เอาเถอะ หากอาณาจักรบนดินเป็นของข้า และมหาสมุทรเป็นของเจ้า เราจะจารึกพันธะสันติด้วยการ ‘แบ่งขนม’ กันแล้วแต่จะตกลง เหล่าองค์ชายและจ้าวทะเลจะจรดปากกาแห่งมิตรภาพบนกระดาษแผ่นเดียวกัน หรือจะให้ข้าเลี้ยงน้ำโซดารสฟองครามเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งสนธิสัญญาดีมั้ยล่ะ”
“เอาเถอะ หากอาณาจักรบนดินเป็นของข้า และมหาสมุทรเป็นของเจ้า เราจะจารึกพันธะสันติด้วยการ ‘แบ่งขนม’ กันแล้วแต่จะตกลง เหล่าองค์ชายและจ้าวทะเลจะจรดปากกาแห่งมิตรภาพบนกระดาษแผ่นเดียวกัน หรือจะให้ข้าเลี้ยงน้ำโซดารสฟองครามเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งสนธิสัญญาดีมั้ยล่ะ”
“หึ สมกับสมญา จ้าวทะเลลึก จริง ๆ ที่กล้าประกาศอาณาจักรทั้งหกของเจ้าเช่นนั้น”
เขายกมือแตะอกอีกครั้ง และเบียวกลับใส่
“แม้ข้าจะเป็นศิษย์น้อง แต่เรื่อง ‘ความสูง’ นั้นคงมิใช่เรื่องอำนาจหรอกนะ เป็นเพราะท่วงท่าอันสง่างามของข้าต่างหาก จึงทำให้โลกต้องยกย่อง”
+
“หึ สมกับสมญา จ้าวทะเลลึก จริง ๆ ที่กล้าประกาศอาณาจักรทั้งหกของเจ้าเช่นนั้น”
เขายกมือแตะอกอีกครั้ง และเบียวกลับใส่
“แม้ข้าจะเป็นศิษย์น้อง แต่เรื่อง ‘ความสูง’ นั้นคงมิใช่เรื่องอำนาจหรอกนะ เป็นเพราะท่วงท่าอันสง่างามของข้าต่างหาก จึงทำให้โลกต้องยกย่อง”
+
“เจ็บงั้นรึ? ฮึ… ไม่หรอก เรื่องเล็กน้อยยิ่งกว่ารอยข่วนของลูกแมวเสียอีก”
เขาพยายามหยอดคำพูดให้เบาอารมณ์ลง แต่ไม่ได้ขัดขืนเมื่อเธอหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมา
"ดี ข้าช่วยเจ้าแล้วเพราะงั้นก็ช่วยข้าบ้าง"
เขายื่นแขนไปตรงหน้าเธออย่างว่าง่าย ปล่อยให้มือเล็กจัดการเช็ดทำความสะอาดแผล
“เจ็บงั้นรึ? ฮึ… ไม่หรอก เรื่องเล็กน้อยยิ่งกว่ารอยข่วนของลูกแมวเสียอีก”
เขาพยายามหยอดคำพูดให้เบาอารมณ์ลง แต่ไม่ได้ขัดขืนเมื่อเธอหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมา
"ดี ข้าช่วยเจ้าแล้วเพราะงั้นก็ช่วยข้าบ้าง"
เขายื่นแขนไปตรงหน้าเธออย่างว่าง่าย ปล่อยให้มือเล็กจัดการเช็ดทำความสะอาดแผล
“เอาล่ะ จ้าวทะเล… ข้าจะยอมลดตัวร่วมโต๊ะกับเจ้า ถือว่าเป็นการประทับตราแห่งมิตรภาพอันสูงส่ง ทว่า! ร้านที่เราจะไป ต้องคู่ควรกับเกียรติของเรา มิใช่เศษโปรโมชั่นที่ถูกลืมเลือนอยู่ก้นลิ้นชัก”
"และก็ ข้ามีนามว่า เลออง ฟอน ไอเซนแบร์ก แล้วเจ้าล่ะมีนามว่าอะไร"
“เอาล่ะ จ้าวทะเล… ข้าจะยอมลดตัวร่วมโต๊ะกับเจ้า ถือว่าเป็นการประทับตราแห่งมิตรภาพอันสูงส่ง ทว่า! ร้านที่เราจะไป ต้องคู่ควรกับเกียรติของเรา มิใช่เศษโปรโมชั่นที่ถูกลืมเลือนอยู่ก้นลิ้นชัก”
"และก็ ข้ามีนามว่า เลออง ฟอน ไอเซนแบร์ก แล้วเจ้าล่ะมีนามว่าอะไร"
“โอ้… ที่แท้ก็เป็นการทดสอบงั้นรึ"
เขายกมือแตะอกตัวเอง แล้วเชิดหน้าขึ้นราวกับอยู่ท่ามกลางแสงไฟบนเวทีโอเปร่า
“หึ! เจ้าคงไม่รู้กระมังว่า ข้าคือรัชทายาทแห่งเวทีอันรุ่งโรจน์ ผู้เป็นแสงดาวนำทางบนผืนนภา! เมื่อราชันย์แห่งท้องทะเลและเจ้าชายแห่งนภามาบรรจบ ก็ย่อมเกิดเป็นบทกวีอันยิ่งใหญ่เหนือกาลเวลา”
+
“โอ้… ที่แท้ก็เป็นการทดสอบงั้นรึ"
เขายกมือแตะอกตัวเอง แล้วเชิดหน้าขึ้นราวกับอยู่ท่ามกลางแสงไฟบนเวทีโอเปร่า
“หึ! เจ้าคงไม่รู้กระมังว่า ข้าคือรัชทายาทแห่งเวทีอันรุ่งโรจน์ ผู้เป็นแสงดาวนำทางบนผืนนภา! เมื่อราชันย์แห่งท้องทะเลและเจ้าชายแห่งนภามาบรรจบ ก็ย่อมเกิดเป็นบทกวีอันยิ่งใหญ่เหนือกาลเวลา”
+
จากนั้นก็สะบัดผ้าคลุมกำลังประกาศ(ทั้งๆที่ไม่มีอยู่จริง)
“เอาล่ะ หากเจ้าต้องการพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์จริง ข้าจะเป็นผู้นำเจ้าไปสู่ร้านขนมที่ยังมีชีวิตชีวาเอง เพราะจะมีเกียรติใดเล่าที่สูงส่งไปกว่าการได้ร่วมเสวยขนมกับ เจ้าชายเลออง! ✨”
จากนั้นก็สะบัดผ้าคลุมกำลังประกาศ(ทั้งๆที่ไม่มีอยู่จริง)
“เอาล่ะ หากเจ้าต้องการพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์จริง ข้าจะเป็นผู้นำเจ้าไปสู่ร้านขนมที่ยังมีชีวิตชีวาเอง เพราะจะมีเกียรติใดเล่าที่สูงส่งไปกว่าการได้ร่วมเสวยขนมกับ เจ้าชายเลออง! ✨”
“ฟุ่ห์… ช่างเป็นการเชื้อเชิญที่น่าขันเสียจริง ข้าเลออง ผู้ครองชะตาแห่งความสง่างาม มิอาจถูกผูกมัดด้วยของแบบนั้นหรอก”
เขาก้าวเข้ามาใกล้เล็กน้อย จ้องด้วยสายตาที่มั่นใจเกินใคร และเริ่มเบียวเจ้าชายใส่
+
“ฟุ่ห์… ช่างเป็นการเชื้อเชิญที่น่าขันเสียจริง ข้าเลออง ผู้ครองชะตาแห่งความสง่างาม มิอาจถูกผูกมัดด้วยของแบบนั้นหรอก”
เขาก้าวเข้ามาใกล้เล็กน้อย จ้องด้วยสายตาที่มั่นใจเกินใคร และเริ่มเบียวเจ้าชายใส่
+
“ข้าเจอคนตกอยู่ในอันตรายบ่อยครั้ง แต่การช่วยเหลือไม่ใช่ภาระสำหรับข้าเลย”
นิ้วอ่อนๆ ลูบไปตามผมของเธอเป็นจังหวะช้าๆ เหมือนพยายามส่งผ่านความสงบ
“หายใจช้าๆนะ ข้าจะอยู่ตรงนี้จนแน่ใจว่าเจ้าปลอดภัย”
“ข้าเจอคนตกอยู่ในอันตรายบ่อยครั้ง แต่การช่วยเหลือไม่ใช่ภาระสำหรับข้าเลย”
นิ้วอ่อนๆ ลูบไปตามผมของเธอเป็นจังหวะช้าๆ เหมือนพยายามส่งผ่านความสงบ
“หายใจช้าๆนะ ข้าจะอยู่ตรงนี้จนแน่ใจว่าเจ้าปลอดภัย”
จากนั้นเลอองสูดลึก แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขายื่นมือไปลูบเบาๆ ที่ศีรษะของเอมิกะด้วยความระมัดระวัง
“อย่าพูดแบบนั้นเลย… ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”
+
จากนั้นเลอองสูดลึก แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขายื่นมือไปลูบเบาๆ ที่ศีรษะของเอมิกะด้วยความระมัดระวัง
“อย่าพูดแบบนั้นเลย… ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”
+
เขาค่อยๆ ก้าวนำพาเธอออกจากกลางถนนไปยังที่นั่งข้างทางอย่างมั่นคง
“โอเคแล้วใช่มั้ย ไหวรึเปล่า”
เขาค่อยๆ ก้าวนำพาเธอออกจากกลางถนนไปยังที่นั่งข้างทางอย่างมั่นคง
“โอเคแล้วใช่มั้ย ไหวรึเปล่า”