"ผมไม่แน่ใจเลยว่านักเขียนทำได้ดีหรืองานมันดีเกินคาด"
คาเซฮายะพูดลอย ๆ เหมือนไม่ได้คาดหวังคำตอบแบบใด เพียงแสดงความคิดเห็นออกมาเท่านั้น เขามองไปรอบ ๆ หันไปมาอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนไปจบที่มองคนตัวเล็กที่ดูตั้งใจอ่านป้ายอย่างเต็มที่
เอาจริงเอาจังน่าดูแฮะ
เดินขยับไปยืนด้านหลังอีกฝ่ายก่อนก้มลงเล็กน้อยและเพ่งสายตาสู้แสงไปมากมายสว่างจ้าเพื่ออ่านบ้าง
"ผมไม่แน่ใจเลยว่านักเขียนทำได้ดีหรืองานมันดีเกินคาด"
คาเซฮายะพูดลอย ๆ เหมือนไม่ได้คาดหวังคำตอบแบบใด เพียงแสดงความคิดเห็นออกมาเท่านั้น เขามองไปรอบ ๆ หันไปมาอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนไปจบที่มองคนตัวเล็กที่ดูตั้งใจอ่านป้ายอย่างเต็มที่
เอาจริงเอาจังน่าดูแฮะ
เดินขยับไปยืนด้านหลังอีกฝ่ายก่อนก้มลงเล็กน้อยและเพ่งสายตาสู้แสงไปมากมายสว่างจ้าเพื่ออ่านบ้าง
"คุณต้องแนะนำผมแล้วล่ะครับ"
เรื่องของกินเขาไม่ค่อยเชี่ยวชาญนัก ส่วนใหญ่กินอะไรเดิม ๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
"ระวังมันข่วนนะครับ"
เห็นอีกฝ่ายฟัดแมวจนอดเป็นห่วงไม่ได้ แมวเป็นสัตว์เข้าใจยาก และเอาใจยาก กลัวว่าจะมีรอยตะปบเข้าให้แถมกลับบ้านไป
"คุณต้องแนะนำผมแล้วล่ะครับ"
เรื่องของกินเขาไม่ค่อยเชี่ยวชาญนัก ส่วนใหญ่กินอะไรเดิม ๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
"ระวังมันข่วนนะครับ"
เห็นอีกฝ่ายฟัดแมวจนอดเป็นห่วงไม่ได้ แมวเป็นสัตว์เข้าใจยาก และเอาใจยาก กลัวว่าจะมีรอยตะปบเข้าให้แถมกลับบ้านไป
"เซนะ คาเซฮายะครับ"
"ผมเรียกคุระได้มั้ยครับ?"
เขาไมได้อยากทำตัวสนิทสนม แต่เขาแค่ตำชื่อคนไม่ค่อยได้ ... ถ้าย่อได้ก็อยากย่อให้ได้มากที่สุดถ้าอีกฝ่ายอนุญาต ถ้าไม่เขาก็จะพยายามจำให้ได้อยู่ดี ...
"เซนะ คาเซฮายะครับ"
"ผมเรียกคุระได้มั้ยครับ?"
เขาไมได้อยากทำตัวสนิทสนม แต่เขาแค่ตำชื่อคนไม่ค่อยได้ ... ถ้าย่อได้ก็อยากย่อให้ได้มากที่สุดถ้าอีกฝ่ายอนุญาต ถ้าไม่เขาก็จะพยายามจำให้ได้อยู่ดี ...
"คุณตัวเล็กน่ะ..."
ใช่ อีกฝ่ายตัวเล็กกว่าเขามากจริง ๆ ก็เด็ก ๆ นี่นะ อีกอย่าง คนก็เยอะ จะให้เขาอุ้มแบบแนบชิดมันก็กะไรอยู่ แบบนี้อาจจะดีที่สุดก็ได้ ... มั้งนะ
"เข้าใจแล้วครับ"
เมื่ออีกฝ่ายเห็นจุดหมาย เขาจึงวางอีกฝ่ายลงดังเดิม ท่าทางเหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ทุกอย่างปกติดี
"ทางนี้นะครับ"
ชี้ตามทางที่บอกและเริ่มเดินไปทางนั้น ไม่วายหันมามองเป็นระยะ
"คุณตัวเล็กน่ะ..."
ใช่ อีกฝ่ายตัวเล็กกว่าเขามากจริง ๆ ก็เด็ก ๆ นี่นะ อีกอย่าง คนก็เยอะ จะให้เขาอุ้มแบบแนบชิดมันก็กะไรอยู่ แบบนี้อาจจะดีที่สุดก็ได้ ... มั้งนะ
"เข้าใจแล้วครับ"
เมื่ออีกฝ่ายเห็นจุดหมาย เขาจึงวางอีกฝ่ายลงดังเดิม ท่าทางเหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ทุกอย่างปกติดี
"ทางนี้นะครับ"
ชี้ตามทางที่บอกและเริ่มเดินไปทางนั้น ไม่วายหันมามองเป็นระยะ
ใช่ อีกฝ่ายยิ้มแทบจะตลอดเวลาที่เจอกันนี้ ถ้าหากไม่ยิ้มเขาเกรงว่าท้องฟ้าจะสลายหายไปในชั่วพริบตาจึงบอกแบบนั้นออกไป
"ผมก็พอจะะดูออกว่าคุณยิ้มบ่อยจริง ๆ"
ประโยคถัดมาทำเอาเขานิ่งไป แม้แต่เดิมจะนิ่งอยู่แล้ว
เขาเงยขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบออกไปเสียงเรียบหากแต่มีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก
"ผมไม่รับประกันนะครับ"
ใช่ อีกฝ่ายยิ้มแทบจะตลอดเวลาที่เจอกันนี้ ถ้าหากไม่ยิ้มเขาเกรงว่าท้องฟ้าจะสลายหายไปในชั่วพริบตาจึงบอกแบบนั้นออกไป
"ผมก็พอจะะดูออกว่าคุณยิ้มบ่อยจริง ๆ"
ประโยคถัดมาทำเอาเขานิ่งไป แม้แต่เดิมจะนิ่งอยู่แล้ว
เขาเงยขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบออกไปเสียงเรียบหากแต่มีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก
"ผมไม่รับประกันนะครับ"
"พลังงานเยอะจังเลยนะครับ"
เป็นประโยคง่าย ๆ แต่ทำไมทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มอายุมากขึ้นทุกที
เขาเดินนำเข้างานไปก่อนแต่ยังมีจิตใจหันกลับมามองด้านหลังเป็นระยะว่าอีกฝ่ายตามมาหรือไม่ ถ้าไม่คงต้องเดินกลับไปตามแน่ ๆ
"ไปมั้ยครับ กินน่ะ"
"มาเร็ว"
"พลังงานเยอะจังเลยนะครับ"
เป็นประโยคง่าย ๆ แต่ทำไมทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มอายุมากขึ้นทุกที
เขาเดินนำเข้างานไปก่อนแต่ยังมีจิตใจหันกลับมามองด้านหลังเป็นระยะว่าอีกฝ่ายตามมาหรือไม่ ถ้าไม่คงต้องเดินกลับไปตามแน่ ๆ
"ไปมั้ยครับ กินน่ะ"
"มาเร็ว"
ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจนัก ได้แต่ดูอีกฝ่ายหัวเราะร่าอยู่ฝ่ายเดียว เขาหันกลับไปมองโคมมากมายอีกครั้งสักพักหนึ่งก่อนยืนขึ้น
"คุณน่ะ ..."
"เหมาะกับการยิ้มนะครับ"
เขากล่าวเสียงนิ่งอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แค่บอกออกไปตามสิ่งที่คิด ไม่รู้ว่าเด็กสาวจะรู้ตัวเองหรือไม่
"ผมแค่คิดอย่างงั้น"
เขากล่าวสั้น ๆ จบประโยค ขณะเหม่อมองผิวน้ำที่เรืองรองด้วยแสงของโคมมากมาย
ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจนัก ได้แต่ดูอีกฝ่ายหัวเราะร่าอยู่ฝ่ายเดียว เขาหันกลับไปมองโคมมากมายอีกครั้งสักพักหนึ่งก่อนยืนขึ้น
"คุณน่ะ ..."
"เหมาะกับการยิ้มนะครับ"
เขากล่าวเสียงนิ่งอย่างคนไม่ได้คิดอะไร แค่บอกออกไปตามสิ่งที่คิด ไม่รู้ว่าเด็กสาวจะรู้ตัวเองหรือไม่
"ผมแค่คิดอย่างงั้น"
เขากล่าวสั้น ๆ จบประโยค ขณะเหม่อมองผิวน้ำที่เรืองรองด้วยแสงของโคมมากมาย
"ถ้าบอกซ้ายแล้วเลี้ยวขวา..."
"ผมว่าอยู่บ้านดีกว่านะครับ"
ส่ายหน้าเบา ๆ ถ้ามีคนแบบนั้นจริง ๆ คงน่าปวดหัวมาก ๆ จนไม่รู้ว่าจะตอบออกไปอย่างไร
"ไปเถอะครับ"
"ถ้าหลงค่อยย้อนกลับทางเดิม"
กวักมือเรียกอีกคนให้ตามมาได้แล้ว เขายังไม่อยากพาเด็กสาวหลงทางในงานเทศกาล และเขาก็ไม่อยากหลงด้วย ..
"ถ้าบอกซ้ายแล้วเลี้ยวขวา..."
"ผมว่าอยู่บ้านดีกว่านะครับ"
ส่ายหน้าเบา ๆ ถ้ามีคนแบบนั้นจริง ๆ คงน่าปวดหัวมาก ๆ จนไม่รู้ว่าจะตอบออกไปอย่างไร
"ไปเถอะครับ"
"ถ้าหลงค่อยย้อนกลับทางเดิม"
กวักมือเรียกอีกคนให้ตามมาได้แล้ว เขายังไม่อยากพาเด็กสาวหลงทางในงานเทศกาล และเขาก็ไม่อยากหลงด้วย ..
"เป็นนกน่ะครับ"
และกลับมาเงียบรอให้อีกฝ่ายพูดจนจบประโยค
"..."
เขาไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไร แม้มันเป็นสิ่งที่เขาทำได้แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาทำไม่สำเร็จบ่อยที่สุดเสมอ มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองเบา ๆ ไปมา
"ผมว่าพวกเขาคงไม่อยากให้คุณเศร้านะครับ"
ไม่สามารถเข้าใจได้ถ่องแท้ เพราะเขาไม่เคยสูญเสียบุคคลสำคัญเช่นนั้นไป
"เป็นนกน่ะครับ"
และกลับมาเงียบรอให้อีกฝ่ายพูดจนจบประโยค
"..."
เขาไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไร แม้มันเป็นสิ่งที่เขาทำได้แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาทำไม่สำเร็จบ่อยที่สุดเสมอ มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองเบา ๆ ไปมา
"ผมว่าพวกเขาคงไม่อยากให้คุณเศร้านะครับ"
ไม่สามารถเข้าใจได้ถ่องแท้ เพราะเขาไม่เคยสูญเสียบุคคลสำคัญเช่นนั้นไป
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยแม้จะอยู่ภายใต้ผมปรกใบหน้า ทั้ง ๆ ที่พูดออกมาเองแท้ ๆ เรื่องของกินมากมาย
"ซุ้มก็ได้ครับ"
ยื่นโทรศัพท์คืนเจ้าของไป ตอนนี้เขากลับมายืนห่อไหล่ตามเดิมแล้ว
"จะไม่กินจริง ๆ หรอครับ ?"
ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เผื่ออยากเปลี่ยนใจกระทันหัน ถ้าเปลี่ยนเขาไม่มรปัญหาอะไร คงต้องเลี้ยงสักหน่อยค่านำเที่ยว
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยแม้จะอยู่ภายใต้ผมปรกใบหน้า ทั้ง ๆ ที่พูดออกมาเองแท้ ๆ เรื่องของกินมากมาย
"ซุ้มก็ได้ครับ"
ยื่นโทรศัพท์คืนเจ้าของไป ตอนนี้เขากลับมายืนห่อไหล่ตามเดิมแล้ว
"จะไม่กินจริง ๆ หรอครับ ?"
ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เผื่ออยากเปลี่ยนใจกระทันหัน ถ้าเปลี่ยนเขาไม่มรปัญหาอะไร คงต้องเลี้ยงสักหน่อยค่านำเที่ยว
เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนตอบเสียงแผ่ว
"มีสิครับ"
"เขาชื่อทาโร่"
ชายหนุ่มปล่อยโคมลงน้ำไป เขาไม่ได้สูญเสียใคร ครอบครัวของเขายังอยู่ดี แต่เพื่อนเขา ไม่ได้อยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้
เขาไม่ได้อาลัยอาวรอะไร ถือว่ายอมรับความจริงได้ในตอนนี้ แต่มันก็น่าเศร้าที่ความทรงจำยังอยู่ครบถ้วนทุกระเบียบนิ้ว
เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนตอบเสียงแผ่ว
"มีสิครับ"
"เขาชื่อทาโร่"
ชายหนุ่มปล่อยโคมลงน้ำไป เขาไม่ได้สูญเสียใคร ครอบครัวของเขายังอยู่ดี แต่เพื่อนเขา ไม่ได้อยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้
เขาไม่ได้อาลัยอาวรอะไร ถือว่ายอมรับความจริงได้ในตอนนี้ แต่มันก็น่าเศร้าที่ความทรงจำยังอยู่ครบถ้วนทุกระเบียบนิ้ว
"ไม่เป็นไรครับ"
มีหลายคนที่จำเขาได้แต่ก็จำชื่อไม่ได้ เขาเองก็เคยเป็นไม่ได้ต่างกัน
เขามองตามการกระทำที่อีกฝ่ายเหมือนพยายามทำอะไรสักอย่าง จนสุดท้ายอีกฝ่ายพูดออกมาผสมกับการกระทำที่สมเหตุสมผล อ้อ ... ถ่ายรูปนี่เอง
"ได้ครับ"
"กินมาก ๆ ระวังแก้มออกนะครับ"
"ยิ้มนะครับ"
เขาก้มตัวลงและย่อลงเล็กน้อยหลังรับโทรศัพท์อีกฝ่ายมา รอให้อีกฝ่ายโพสต์ท่าจึงกดถ่าย
"ไม่เป็นไรครับ"
มีหลายคนที่จำเขาได้แต่ก็จำชื่อไม่ได้ เขาเองก็เคยเป็นไม่ได้ต่างกัน
เขามองตามการกระทำที่อีกฝ่ายเหมือนพยายามทำอะไรสักอย่าง จนสุดท้ายอีกฝ่ายพูดออกมาผสมกับการกระทำที่สมเหตุสมผล อ้อ ... ถ่ายรูปนี่เอง
"ได้ครับ"
"กินมาก ๆ ระวังแก้มออกนะครับ"
"ยิ้มนะครับ"
เขาก้มตัวลงและย่อลงเล็กน้อยหลังรับโทรศัพท์อีกฝ่ายมา รอให้อีกฝ่ายโพสต์ท่าจึงกดถ่าย
คำถามถัดมาทำเอาเขามึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง
"ส่ง ? ไปไหนครับ ?"
"ลงน้ำ ?"
ตอบกลับไปตามประสา จนตอบกลับไปแล้วก็ยังงงอยู่ดีว่าหมายถึงอะไรกันแน่นะ
ในมือมีโคมถืออยู่ ขัดกับสภาพของเจ้าของที่ดูไม่เข้ากันเสียเลย
คำถามถัดมาทำเอาเขามึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง
"ส่ง ? ไปไหนครับ ?"
"ลงน้ำ ?"
ตอบกลับไปตามประสา จนตอบกลับไปแล้วก็ยังงงอยู่ดีว่าหมายถึงอะไรกันแน่นะ
ในมือมีโคมถืออยู่ ขัดกับสภาพของเจ้าของที่ดูไม่เข้ากันเสียเลย