クロ猫
banner
redaries.bsky.social
クロ猫
@redaries.bsky.social
always angry
Reposted by クロ猫
ไม่แน่ใจว่าแท็ก #ภพนภามีอาหาร เอาไว้สำหรับอะไรโดยเฉพาะ หรือแค่มีอาหารก็เข้าร่วมได้เลย

ใดใดคืออยากอวดว่ามีบรุกกี้ครีมชีส แซนด์วิชคุกกี้ ชีสเค้ก แล้วก็คัสตาร์ดพุดดิ้ง ที่ทำอร่อยแล้ว 🥹 ตอนแรกทำเพราะอยากกินเองเฉย ๆ พอทำได้ก็อยากให้คนรอบ ๆ ได้กินด้วย 555555
October 31, 2025 at 7:39 AM
Reposted by クロ猫
เผยกัมพูชาเริ่มถอนอาวุธหนักออกจากชายแดน ตามข้อตกลง RBC เฟสแรก
เผยกัมพูชาเริ่มถอนอาวุธหนักออกจากชายแดน ตามข้อตกลง RBC เฟสแรก auser15 Sun, 2025-11-02 - 10:04 เผยกัมพูชาเริ่มถอนอาวุธหนักออกจากชายแดนจังหวัดพระวิหาร-อุดรมีชัย นำกลับไปยังฐานที่ตั้งเดิม ตามข้อตกลง RBC เฟสแรก 2 พฤศจิกายน 2568 Thai PBS อ้างรายงานของเพจ Army Military Force ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.00 น. กองทัพบกกัมพูชาถอนปืนใหญ่อัตตาจร SH-1 ขนาด 155 mm พร้อมด้วยรถยิงจรวดหลายลำกล้อง Type 90 ขนาด 122 mm ออกจากแนวหน้าในฝั่งอุดรมีชัย ซึ่งเป็นข้อตกลงการถอนอาวุธหนักระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยในระยะที่ 1 โดยจะขนย้ายอาวุธออกจากพื้นที่ชายแดนที่มีข้อพิพาทของทั้งสองประเทศ เพื่อนำกลับไปยังฐานที่ตั้งเดิม สำหรับการเตรียมถอนอาวุธหนักออกจากชายแดนครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบยืนยันโดย คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team - AOT) เช่นเดียวกับ Kpt English สื่อกัมพูชา รายงานข่าว การถอนอาวุธหนักของกองทัพกัมพูชาออกจากพื้นที่ชายแดนกลับไปยังฐานที่ตั้งเดิม ซึ่งถือเป็นระยะที่ 1 ของแผนการปฏิบัติที่ได้ประสานงานกับกองทัพของไทย กระบวนการนี้กำลังดำเนินการตามแนวชายแดนที่ปราสาทพระวิหารและอุดรมีชัย การถอนอาวุธหนักระยะที่ 1 ซึ่งคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) ตกลงร่วมกันสำหรับกองทัพกัมพูชาและไทย มีกำหนดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ระยะแรกนี้มุ่งเน้นไปที่การถอนอาวุธประเภท A โดยเฉพาะเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง โดยเป็นการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักเหล่านี้จากพื้นที่ชายแดนที่เป็นข้อพิพาทกลับไปยังฐานที่ตั้งเดิมของแต่ละพื้นที่ กำลังดำเนินการภายใต้การสังเกตการณ์และการตรวจสอบของทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน AOT * ข่าว * การเมือง * ต่างประเทศ * ความมั่นคง * กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา * ถอนอาวุธ * RBC
dlvr.it
November 2, 2025 at 3:08 AM
เห้อ ทำไมแมวมันน่ารักจังวะ ตัวนิดเดียวแต่น่ารักเท่าโลก
October 21, 2025 at 6:15 AM
Reposted by クロ猫
Join us for the launch of Mara Gold's debut book 'Ancient Myths and Legends Without Men' and discover the women and gender non-conforming characters who shaped and subverted womanhood from the very beginning and whose stories still resonate today! Thurs 23 Oct, 17.30-19.30. £5.

bit.ly/3KtDJdU
October 2, 2025 at 8:38 AM
Reposted by クロ猫
นานาชาติรุมประณาม 'อิสราเอล' สกัดขบวนเรือระหว่างทำภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ 'กาซา'
นานาชาติรุมประณาม 'อิสราเอล' สกัดขบวนเรือระหว่างทำภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ 'กาซา' ภาพปก: ที่มา โกลบอล ซูมุด ฟอร์ทิลลา XmasUser Thu, 2025-10-02 - 16:30 ตุรกี โคลอมเบีย และมาเลเซีย รุมประณามการกระทำของอิสราเอล สกัดกองเรือช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรม ‘Global Sumud Flotilla’ ในน่านน้ำสากล ระหว่างกำลังเดินทางไปช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมใน ‘กาซา’   2 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (2 ต.ค.) มาเลเซีย โคลอมเบีย และตุรกี ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอล หลังวานนี้ (1 ต.ค.) อิสราเอลสกัดกั้นของกองเรือมนุษยธรรม "โกลบอล ซูมุด ฟอร์ทิลลา" (Global Sumud Flotilla) ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังฉนวนกาซา พร้อมกับพลเรือนและเสบียงช่วยชีวิต วานนี้ (1 ต.ค.) ขบวนเรือมนุษยธรรมจาก “โกลบอล ซูมุด ฟอร์ทิลลา” มีจำนวนเรือ 44 ลำ และมีอาสาสมัครจากนานาชาติราว 500 รายร่วมขบวน เพื่อไปช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งกำลังถูกอิสราเอลปิดล้อม แต่ระหว่างเดินทางพวกเขาถูกอิสราเอลเข้าสกัดกั้น โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นห่างจากชายฝั่งกาซา 70 ไมล์ทะเล (130 กม.) นักกิจกรรมได้เตือนว่ากองทัพอิสราเอลได้ตัดการเชื่อมต่อของพวกเขาโดยการปิดการใช้งานอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกล้อง การถ่ายทอดสด และระบบสื่อสาร มีรายงานยืนยันว่ากองกำลังอิสราเอลได้สกัดกั้นเรือไปแล้ว 13 ลำ ขณะที่อีก 30 ลำยังมุ่งหน้าต่อ นอกจากนี้ อิสราเอลได้จับกุมผู้คนมากกว่า 200 คนจาก 37 ประเทศ ขณะที่ The Standard รายงานยืนยันว่า เกรตา ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ ชาวสวีเดน ถูกจับกุมด้วย ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลกล่าวว่า เรือหลายลำของกองเรือ ‘ถูกหยุดอย่างปลอดภัย’ และกำลังถูกถ่ายโอนผู้โดยสารไปยังท่าเรือของอิสราเอล ปฏิกิริยาจากอาสาสมัครกลุ่ม ‘โกลบอล ซูมุด’ ช่องทางการสื่อสารต่างๆ ของ Global Sumud Flotilla ประณามการกระทำของอิสราเอล โดยระบุว่าเรือของภารกิจถูก ‘สกัดกั้นอย่างผิดกฎหมาย’ และมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้คนบนเรือนั้นถือเป็น ‘การถูกลักพาตัว’ นักกิจกรรมยืนยันว่า กองเรือไม่ได้ละเมิดกฎหมายใดๆ และระบุว่า สิ่งที่ผิดกฎหมายคือ ‘การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การปิดล้อมกาซา และการใช้การอดอาหารเป็นอาวุธของอิสราเอล’ มีการรายงานว่าเรือหลายลำถูกโจมตีด้วย ‘การรุกรานอย่างรุนแรง’ (Active Aggression) รวมถึงเรือ Florida ที่ถูกชนโดยเจตนาในทะเล และเรือ Yulara กับ Meteque ก็ถูกโจมตีด้วยปืนฉีดน้ำ อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารทั้งหมดบนเรือไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด นักกิจกรรมต่างเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนกดดันรัฐบาลของตนให้ ‘ตัดสัมพันธ์กับอิสราเอล’ และให้สหรัฐฯ ‘ยุติการสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา’ ปฏิกิริยาจากนานาชาติ สำหรับนานาชาติ ตุรกีได้ประณามการสกัดกั้นเรือของอิสราเอลว่าเป็น ‘การก่อการร้าย’ และเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง และกำลังดำเนินการเพื่อให้พลเมืองตุรกีและผู้โดยสารอื่นๆ ได้รับการปล่อยตัวทันที ขณะที่กุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ได้สั่งขับไล่เจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลทั้งหมดออกจากประเทศ เพื่อตอบโต้การสกัดกั้นดังกล่าว และประณามว่าเป็น ‘อาชญากรรมระหว่างประเทศโดยเนทันยาฮู’ นอกจากนี้ เปโตรยังได้ยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างโคลอมเบียกับอิสราเอล ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี 2563 และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวชาวโคลอมเบีย 2 คนที่อยู่บนกองเรือ ขณะที่อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลอย่างรุนแรง และพร้อมใช้ทุกวิถีทางที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้รัฐบาลอิสราเอลต้องรับผิดชอบ  นอกจากนี้ อันวาร์ ได้ยืนยันถึงจุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลงของมาเลเซียในการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ และเรียกร้องให้ประชาคมโลกเข้าร่วมการเรียกร้อง เพื่อยุติความอยุติธรรมและการถูกยึดครองที่ได้รุมเร้าปาเลสไตน์มาเป็นเวลายาวนานหลายชั่วอายุคน ตามกฎหมายนักกิจกรรมอาจถูกเนรเทศภายใน 72 ชั่วโมง หรือถูกนำตัวขึ้นศาลภายใน 96 ชั่วโมง แต่ปกติอิสราเอลมักเลือกที่จะปล่อยตัวทันที โดยนักกฎหมายตั้งข้อสังเกตว่า หากอิสราเอลจับกุมและควบคุมตัวนักกิจกรรมต่อไป จะนำไปสู่สถานการณ์ที่เสียเปรียบ เนื่องจากสื่อจะยังคงรายงานข่าวตราบเท่าที่พวกเขายังถูกคุมขัง * ข่าว * สิทธิมนุษยชน * ต่างประเทศ * อันวาร์ อิบราฮิม * มาเลเซีย * Global Sumud Flotilla * อิสราเอล * ปาเลสไตน์ * ตุรกี * โคลอมเบีย * ฉนวนกาซา * ตะวันออกกลาง
dlvr.it
October 2, 2025 at 9:58 AM
คิดถึงแงววววว
September 19, 2025 at 7:05 PM
อยากทำอาชีพรับจัดงานศพ ที่หมายถึง ดูให้ตั้งแต่ตุยที่รพ.ยันหาวัด คือจัดจนโปรแล้วปีนี้ งานที่3ละ คล่องเว่อ
August 30, 2025 at 10:28 AM
Reposted by クロ猫
30 สิงหาคมนี้ มาเจอกันน้า
มาคุยกันเนิร์ดๆ เรื่องเหยาะๆ ที่มองย้อนไปถึงอดีตและชวนคิดถึงอนาคต
.
ใครลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ชิมไอศกรีมเจลาโต้ จากเครื่องปรุงรสท้องถิ่นอย่างรสซีอิ๊วดำหวาน ตรากุหลาบ น้ำส้มจาก ปากพนัง เต้าหู้ยี้ห่อใบไผ่ ตราลูกโลก และน้ำปลา ตรายอด ด้วยน้า
forms.gle/GzqgP3jGVWoQ...
เวลา 13.00-15.00 น. ที่ TCDC กรุงเทพฯ ห้อง Virtual Media Lab ชั้น 4
August 25, 2025 at 6:14 PM
คุณมองเห็นแมวเป่ดหรือไม่
August 16, 2025 at 12:09 PM
Reposted by クロ猫
ออกมาตรการภาษีช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ลดหย่อนค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 1 แสนบาท
ออกมาตรการภาษีช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ลดหย่อนค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 1 แสนบาท auser15 Sun, 2025-08-10 - 13:39 กระทรวงการคลังมอบสรรพากร ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ขยายเวลายื่นภาษีทุกประเภท ลดหย่อนค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 1 แสนบาท - รถไม่เกิน 3 หมื่นบาท ยกเว้นภาษีเงินช่วยเหลือ-บริจาค 10 สิงหาคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้ง 7 จังหวัด (ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี) ให้กับประชาชนหรือผู้ประกอบการที่ต้องชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ โดยมี 3 มาตรการสำคัญ มีดังนี้ 1. ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีทุกประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ รวมถึงการขยายเวลาการขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน ที่มีกำหนดการดำเนินการระหว่างวันที่ 24 ก.ค. -29 ก.ย.2568 ออกไปเป็นวันที่ 30 ก.ย.2568 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้เสียภาษีในพื้นที่ 2. มาตรการลดหย่อนภาษีค่าซ่อมแซม แบ่งออกเป็นค่าซ่อมแซมบ้าน สามารถนำค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. -31 ธ.ค. 2568 มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ค่าซ่อมแซมรถ สามารถนำค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. -31 ธ.ค.2568 มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท 3. ยกเว้นภาษีสำหรับเงินช่วยเหลือเยียวยา โดยกรมสรรพากรจะออกประกาศยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินช่วยเหลือเยียวยาที่ผู้ได้รับผลกระทบได้รับ ดังนี้ เงินเยียวยาที่ได้รับจากรัฐบาล เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการบริจาคหรือช่วยเหลือ ค่าสินไหมทดแทนส่วนที่ยังไม่ได้รับการยกเว้นภาษีตามกฎหมายในปัจจุบัน “รัฐบาลพร้อมเคียงข้างประชาชน เดินหน้าบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาอย่างเต็มกำลังความสามารถ และพร้อมขับเคลื่อนมาตรการช่วยเหลือในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนสามารถฟื้นตัว กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว” นางสาวศศิกานต์ กล่าว กำชับความพร้อมและความปลอดภัยวางกรอบข้อปฏิบัติ รองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในขณะนี้คือการดูแลความปลอดภัย และพาประชาชนกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าปลอดภัย 100% และมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จำเป็นต้องย้ายไปเข้าพักพิงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดข้อจำกัดและความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบาง นายอนุกูล กล่าวว่า สำหรับการเดินทางกลับที่พักอาศัยนั้น ในบางพื้นที่อาจเผชิญระดับสถานการณ์ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น หากประชาชนมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ กระทรวงสาธารณสุขมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 1. ให้ตรวจสอบความพร้อมของบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยอย่างละเอียด อาทิ ด้านโครงสร้างบ้าน ผนัง หลังคา และระบบไฟฟ้า 2. ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค 3. สังเกตสภาวะทางจิตใจของตนเองและคนในครอบครัว หากรู้สึกว่ามีอาการเครียด วิตกกังวล หรือมีอาการคล้ายซึมเศร้า ควรเข้ารีบเข้าปรึกษาแพทย์/เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยทันที และ 4. หมั่นดูแลสุขอนามัยที่ดี ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และดื่มน้ำที่สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งหมั่นดูแลความสะอาดด้านสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเข้าร่วมกิจกรรมยามว่างเพื่อสร้างความผ่อนคลายและลดความเครียด โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทีมดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงเต็มที่ ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต อนามัยสิ่งแวดล้อม “ทั้งนี้ การปฏิบัติตามข้อแนะนำของศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่น เก็บของใช้ส่วนตัวให้เป็นระเบียบ หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้อื่น ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ และหากรู้สึกตัวว่ามีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม ขอให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หรือพบว่าคนในครอบครัวมีอาการผิดปกติ ให้พูดคุยหรือขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของตนเองและครอบครัว” นายอนุกูล ระบุ ที่มาเรียบเรียงจากเว็บไซต์รัฐบาลไทย [1] [2]   * ข่าว * การเมือง * ความมั่นคง * กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา * ภาษี * สรรพากร
dlvr.it
August 10, 2025 at 6:43 AM
Reposted by クロ猫
จริงๆ คำว่า "สู้ๆ นะ ไม่มีอะไรที่เราทำได้ ทุกทางออกมีปัญหาหมด" มันก็เป็นคำปลอบใจที่ practical ดีสำหรับหลายสถานการณ์
August 10, 2025 at 6:50 AM
Reposted by クロ猫
This account is a safe space for all migrant workers in Thailand.

No room for racism and discrimination

#ThaiAgainstRacism

ฝากช่วยกันแชร์ ช่วยกันแสดงจุดยืนเคียงข้างพี่น้องแรงงานข้ามชาติ

ฝากๆๆเอาไปแชร์ในเฟซ ไอจีและทวิตกัลลลล
August 3, 2025 at 2:27 AM
Reposted by クロ猫
ชาวระนองเดินขบวนเรียกร้องยุติเวทีฟังความเห็นโครงการแลนด์บริดจ์
ชาวระนองเดินขบวนเรียกร้องยุติเวทีฟังความเห็นโครงการแลนด์บริดจ์ ภาพถ่ายโดย ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์  XmasUser Mon, 2025-08-04 - 01:20 ขบวนประชาชนระนอง ราว 50 คน ทำกิจกรรม 'เดินหยุดแลนด์บริดจ์' เดินขบวนจากอ่าวอ่าง จุดสร้างท่าเรือน้ำลึก ไปยังที่ว่าการอำเภอระนอง เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐยุติเวทีรับฟังความเห็นครั้งที่ 3 โครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ที่จะจัดในวันที่ 5 ส.ค. 68 อ.วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ชี้รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม-สุขภาพ (EHIA) ยังพบจุดบกพร่อง หวั่นทำลายสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ    4 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเมื่อ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 8.00 น. ประชาชนในจังหวัดระนอง ร่วมประกาศเจตนารมณ์เดินปกป้องแผ่นดินเกิด ก่อนเริ่มต้นทำกิจกรรม 'เดินหยุดแลนด์บริดจ์' เพื่อเรียกร้องให้มีการยุติเวทีรับฟังความคิดเห็น (ค 3 ) ที่จะจัดขึ้นวันที่ 5 ส.ค.นี้ ทม (ม๊ะทม) สินสุวรรณ ผู้นำขบวนเดินรณรงค์ครั้งนี้ กล่าวว่า เธอกำลังเดือดร้อน ไม่มีที่อยู่ที่ทำกิน จึงจะเดินเท้าไปหยุดโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง และ SEC (ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ) ก่อนนำขบวนออกเดินในทันที โดยเริ่มต้นมีชาวบ้านในพื้นที่และเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ร่วมเดินจากจุดเริ่มต้นประมาณ 15 คน หลังจากนั้นมีคนจากหลากหลายพื้นที่เข้ามาร่วมเดิมจำนวนมาก โดยในช่วงก่อนพักเที่ยงมีคนร่วมขบวนราว 50 คน ด้านดารารัตน์  ชิดเอื้อ ตัวแทนเครือข่ายรักษ์ระนอง ได้อ่านแถลงการณ์ โดยตอนหนึ่งระบุว่า เครือข่ายรักษ์ระนอง เป็นเพียงประชาชนในพื้นที่กลุ่มเล็กๆ ที่มีทั้งชาวประมงพื้นบ้าน ชาวเลมอแกน ชาวสวน คนไทยพลัดถิ่น เธอยืนยันมาตลอดว่า นโยบายการพัฒนาของรัฐบาลกำลังสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างประชาชนในพื้นที่กับนักลงทุนต่างชาติในประเทศนี้ให้มีช่วงว่างห่างออกไปยิ่งขึ้น “พวกเราจึงจะยืนหยัดที่จะส่งเสียงเล็กๆ นี้ออกไป การเดินเพื่อปกป้องทะเล ผืนป่า ชุมชน คนสองฝั่ง ระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม 2568 ก็จะเป็นการส่งเสียงของพวกเราและมิตรสหายทั้งหลาย ไปยังผู้มีอำนาจให้ได้รับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมจากการพัฒนาที่กำลังสร้างความเหลื่อมล้ำ โดยไม่มีพวกเราอยู่ในสมการเหล่านั้นเลย เราจึงจะขอใช้ 2 ตีนที่พวกเรามี ย่ำย่างไปบนถนนจากอ่าวอ่าง ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกฝั่งนี้ไปยังอำเภอเมืองจังหวัดระนองอย่างสงบ เพื่อเชื้อเชิญประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายได้ออกมาส่งเสียงร่วมกับพวกเราไปพร้อมๆกัน” ดารารัตน์ กล่าว เมื่อประชาชนเริ่มออกเดิน ได้มีตำรวจทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ รวมถึงรถตำรวจมาติดตามดูแลความปลอดภัย ก่อนที่จะแยกตัวออกไปเมื่อเห็นว่าขบวนเดินไปตามปกติ ทั้งนี้ ขบวนประชาชนได้หยุดพักเป็นระยะๆ เนื่องจากทม สินสุวรรณ ซึ่งมีอายุ 66 ปี มีอาการเหนื่อยหอบ อย่างไรก็ตาม ทม ยืนยันว่าจะเดินไปจนถึงปลายทาง เพื่อคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ไม่เป็นธรรมนี้ ด้าน ดร.อาภา หวังเกียรติ อาจารย์สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งได้ร่วมในเวทีชำแหละ EHIA เมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า เธอเจอข้อบกพร่องในรายงานเยอะมาก มีทั้งลักษณะที่เชื่อว่าไม่ถูกหลักวิชาการ การคัดลอกข้อมูลมาวาง เช่น ในเอกสารรายงานหน้าเดียวกัน ระบุทั้งจังหวัดระนอง ระยอง ชลบุรี ทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง  “การที่รายงานเลือกขอบเขตการศึกษาในรัศมี 5  กิโลเมตร กับโครงการใหญ่ขนาดนี้ไม่มีความถูกต้องเลย รัศมี 5  กิโลเมตร ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางทะเล ในขณะเดียวกัน รายงานไม่ได้ระบุอย่างครบถ้วนถึงระบบนิเวศที่หลากหลาย อย่างเช่น ไม่มีการพูดถึงดอนตาแผ้ว ซึ่งเป็นระบบนิเวศสันดอนทราย ที่เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านจำนวนมาก เพราะมีสัตว์ทะเลชุกชุม ในขณะที่เมื่อพูดถึงความอุดมสมบูรณ์รายงานการศึกษา ก็ระบุว่าสำรวจพบสัตว์หน้าดิน เพียง 1 ชนิด จำนวน 7 ตัว ในพื้นที่ 1 ตารางเมตร ซึ่งขัดกับข้อมูลที่มีนักนิเวศวิทยาจำนวนมากเคยมาสำรวจวิจัยในพื้นที่เดียวกันนี้” ดร.อาภา กล่าว ดร.อาภา มีข้อสังเกตด้วยว่า รายงานฉบับนี้ไม่มีการศึกษาผลกระทบหรือแนวทางรับมือในกรณีต่างๆ เช่น เรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง ไม่มีการศึกษาเรื่องแผ่นดินไหว สึนามิ หรือแม้กระทั่งพายุ ทำให้ไม่มีแนวทางการป้องกัน หรือรับมือผลกระทบระบุไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่ารายงานฉบับนี้ ไม่มีคุณภาพ “ส่วนตัวเคยได้ที่นี่ แล้วพบว่า จ.ระนองมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้งพื้นที่บนบก และในทะเลควรอย่างยิ่งที่จะรักษา และรู้สึกว่าเราต้องมีส่วนที่จะออกมารักษาสิ่งเหล่านี้ให้เป็นสมบัติ เป็นทรัพยากรของทุกคน” ดร.อาภา กล่าวทิ้งท้าย ทั้งนี้ เย็นวันเดียวกัน ขบวนประชาชนสามารถเดินไปได้ประมาณ 14 กม. และพักค้างที่สำนักสงฆ์บกต้อ และจะมีเวทีพูดคุยเรื่อง "ชาวประมงพื้นบ้าน มอแกน ไทยพลัดถิ่น ผู้ไม่อยู่ในสมการการพัฒนาของรัฐ" ซึ่งต้องการสะท้อนเสียงของประชาชนในพื้นที่ ที่ไม่เคยได้อยู่ในสมการการคิดทบทวนนโยบายของรัฐบาล * ข่าว * สิทธิมนุษยชน * คุณภาพชีวิต * สิ่งแวดล้อม * แลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง * เดินหยุดแลนด์บริดจ์ * เครือข่ายรักษ์ระนอง * เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ * อาภา หวังเกียรติ * ทม สินสุวรรณ * ดารารัตน์ ชิดเอื้อ
dlvr.it
August 3, 2025 at 6:42 PM
ชั้นเหน่ย ขั้นไม่อยากเปนคนเก่งแล้ว ชั้นอยากเปนคนโชคดีที่ถูกหวยห้าสิบล้าน
August 3, 2025 at 10:24 PM
นี่ก็เติบโตมากับแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นเรื่องแรกที่ตามเก็บเล่มภาษาอังกฤษ พยายามอ่านกับภาษาอังกฤษมากขึ้นส่วนนึงก็เพราะมัน
มีความทรงจำเยอะมาก
ถามว่าเสียดายมั้ยที่คนเขียนเป็นแบบนั้น เสียดายดิ เสียใจด้วย

แต่เราเลือกได้ว่าอยากจะendorseมันต่อไปมั้ย เพราะสุดท้ายแล้วความเสียดายของเรา เทียบไม่ได้เลยกับความเสียหายที่ชีสร้างให้คอมมูของเรา เราจะซัพคนแบบนี้ไปทำไม ไปสนับสนุนคนอื่นดีกว่า
ดราม่าในวงการบอร์ดเกมเร็วๆ นี้ ค่าย CGE ประกาศเกมใหม่คือ Codenames (เป็นเกมแบ่งทีมใบ้คำที่โด่งดังมาก) เวอร์ชันใหม่ที่ใช้ธีม Harry Potter แน่นอนเพราะเรื่อง JKRowling ทัวร์ก็เลยลงหนักมากจนทางค่ายต้องประกาศขอพิจารณาหาทางออกต่อไป
August 1, 2025 at 12:52 AM
Reposted by クロ猫
เราเคยคิดว่าสักวันเราจะรู้สึกแย่ที่เคยชิปคู่นี้ แต่วันนี้เราพูดได้เลยว่าเราภูมิใจนะ ถ้าไม่มีคอมมูนิตี้เพื่อนๆ ไม่มีข้อมูลที่เรารีเสิชมาเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพวกเขา เราจะไม่มีวันทำงานวันนี้ได้มาถึงจุดนี้เลย ขอบคุณมากๆนะ กำลังพยายามยอมรับให้ได้ว่าคงไม่มีวันกลับเป็นดังเดิมอีก ทั้งคสพ.ของเรากับเพื่อนๆฝั่งโน้นด้วย เราไม่รู้เราจะทำใจวาดพวกเขาได้อีกไหม แต่ทุกรูปที่วาดสองคนนี้ต่อไปจากนี้ จะขออุทิศให้สันติภาพ
July 31, 2025 at 3:28 PM
Reposted by クロ猫
"ชั่วโมงนี้ ให้พระพุทธเจ้า มาตรัสเทศนาเอง เรื่องสติ มนุษยธรรม และสงคราม โดนทัวร์ลงแน่นอน"

//อาจารย์ทัศนัย กล่าว 😅
July 31, 2025 at 2:40 PM
Reposted by クロ猫
สัญญาหยุดยิงอันเปราะบางและข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย
สัญญาหยุดยิงอันเปราะบางและข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย เขียนโดย สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี XmasUser Thu, 2025-07-31 - 18:54 ในขณะที่กองทัพและรัฐบาลไทยกล่าวหากัมพูชาว่าเป็นฝ่ายละเมิดสัญญาหยุดยิงซึ่งกลุ่มอาเซียนเป็นผู้ให้การสนับสนุนนั้น กองทัพไทยกลับประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าประสบความสำเร็จในการยึดพื้นที่ซึ่งเป็นเขตพิพาทตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศเอาไว้ถึง 11 จุดด้วยกัน การปะทะกันทางทหารด้วยหมู่ทหารปืนเล็กอย่างต่อเนื่องนับจากเส้นตายของสัญญาสงบศึกตอนเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่าคู่พิพาททั้งสองไม่มีเจตจำนงค์อันแรงกล้าในอันที่จะยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธเพื่อปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างที่ผู้นำของพวกเขาพากันกล่าวอ้างแต่อย่างใดเลย แรงเชียร์จากกลุ่มชาตินิยม สื่อมวลชน และนักวิชาการฝ่ายขวา ที่ต้องการให้กองทัพไทยใช้กลยุทธ “ยึดพื้นที่เอาไว้ก่อน” เพื่อชิงความได้เปรียบ ที่ดังขึ้นอย่างกึกก้องหลังจากรู้ข่าวว่า การประชุมที่มาเลเซียในวันนี้ได้บรรลุข้อตกลง “หยุดยิงโดยปราศจากเงื่อนไข” ทำให้รัฐบาลต้องตามใจกองทัพในการกำหนดยุทธศาสตร์แบบผิดๆเพื่อครอบครองดินแดนที่เป็นพื้นที่พิพาทเอาไว้ก่อน แต่มีไม่กี่คนในประเทศไทยจะเฉลียวใจได้คิดว่า รัฐบาลและกองทัพไทยเคยทำอย่างนี้มาก่อนในกรณีปราสาทพระวิหาร เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ครอบครองดินแดนหลายส่วนของกัมพูชารวมทั้งปราสาทพระวิหารในปี ค.ศ. 1941 (พ.ศ. 2484) แต่ก็ต้องทำความตกลงฉบับใหม่กับฝรั่งเศส (ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมของกัมพูชาในเวลานั้น) เพื่อคืนดินแดนหลังสงครามในปี 1946 แต่รัฐบาลในสมัยนั้น “แอบเก็บ” หรือ “ลืมคืน” ปราสาทพระวิหารจนในที่สุดก็ต้องมาพบกับความอับอายขายหน้าไปทั่วโลกเมื่อกัมพูชานำเรื่องขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจนสามารถชนะคดีในปี 1962 (พ.ศ. 2505) แถมท้ายด้วยการตีความคำพิพากษาในปี 2013 หลังการพิพาทครั้งใหม่ในช่วงปี  2008-2011) โต้แย้งชนชั้นนำของไทยด้วยว่า พื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาชื่อเดียวกันที่รองรับตัวปราสาทอยู่นั้นก็อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของกัมพูชาด้วย ไม่ใช่ให้ไปแต่ตัวปราสาทแล้วแผ่นดินยังเป็นของไทยอย่างที่เสกสรรปั้นแต่งกันแต่อย่างใด แน่นอนว่าการตีความคำพิพากษานั้นศาลไม่ได้กล่าวถึง แผนที่ สันปันน้ำ เส้นเขตแดน และภูมะเขือ เนื่องจากไม่ได้เป็นส่วนที่อยู่ในบทปฏิบัติการของคำพิพากษาเดิม ก็ปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของทั้งสองประเทศจะต้องมาเจรจาตกลงกันด้วยเจตนาสุจริต (in good faith) เพื่อปักปันเขตแดนกันต่อไป นับแต่วันนั้นจนถึงบัดนี้เขตแดนบริเวณนั้นก็ยังไม่ได้รับการปักปันให้แล้วเสร็จและพื้นที่ภูมะเขือก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแย่งชิงกันอยู่ในเวลานี้ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปสถานการณ์ พื้นที่การปะทะ ระหว่างไทย-กัมพูชา นับแต่สิ้นสุดเส้นตายของสัญญาหยุดยิงว่ากองทัพไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้มีทั้งหมด 11 พื้นที่ ประกอบด้วย ภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก โดนตวล สัตตะโสม ช่องจอม ช่องสายตะกู พระวิหาร และพลาญยาว สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษก ศบ.ทก. แถลงเหตุผลสนับสนุนการปฏิบัติของทหารไทยว่า “การกระทำของฝ่ายกัมพูชาดังกล่าว (การละเมิดสัญญาหยุดยิง) ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเอง ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่ใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน” อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงแบบนี้มีปัญหาในตัวของเองในหลายลักษณะ ดังนี้  ประการแรก มันทำให้ดูเหมือนฝ่ายไทยก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะหยุดยิงตามที่ได้มีการประกาศไว้ ตรงกันข้ามกลับมีการตระเตรียมกำลังเพื่อทำศึกชิงพื้นที่เอาไว้อย่างพร้อมมูลจนสามารถยึดพื้นที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นความได้เปรียบเชิงยุทธวิธีเอาไว้ตามความประสงค์ ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชาซึ่งถูกกล่าวหาว่า เป็นฝ่ายละเมิดสัญญาหยุดยิงกลับไม่ได้แถลงผลการปฏิบัติหรืออ้างว่าสามารถเข้ายึดครองพื้นที่ใดๆเลยทำราวกับว่าไม่ได้ยิงปืนเลยสักนัดเดียว แล้วให้โฆษกกระทรวงกลาโหมออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาไทยอย่างแข็งขัน พร้อมกับออกข่าวอย่างเอิกเกริกว่า โมฮัมหมัด นีซาม จาฟฟาร์ (Mohd Nizam Jaffar) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เดินทางถึงพนมเปญแล้วเพื่อเตรียมประสานงานให้ผู้สังเกตุการณ์นานาชาติเข้าไปตรวจสอบการปฏิบัติตามสัญญาสงบศึกของอาเซียนที่ตกลงกันเอาไว้ก่อนหน้าแล้วอีกด้วย ประการที่สอง พื้นที่ซึ่งไทยอ้างว่ายึดครองอยู่นั้น เฉพาะอย่างยิ่ง ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม และ ปราสาทตาควาย นั้นเป็นที่พิพาท ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าอยู่ในเขตแดนของฝ่ายใด ที่สำคัญกัมพูชาได้แสดงเจตจำนงค์อันแน่วแน่แล้วว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ การที่กองทัพไทยได้แสดงการครอบครองเช่นนั้น ยิ่งเป็นการช่วยสนับสนุนมูลเหตุแห่งคดีให้กับฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน ถ้าหากปรากฏต่อมาในภายหลังว่าแผนหยุดยิงของอาเซียนไม่บรรลุผลหรือล้มเหลว กัมพูชาย่อมมีข้ออ้างที่หนักแน่นว่าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอมติในทางหนึ่งทางใดหรืออาจจะขอคำแนะนำทางกฎหมายจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสถานะของทางกฎหมายของ แผนที่ บันทึกของคณะกรรมการปักปันเขตแดนสมัยฝรั่งเศส ซึ่งได้กำหนดตำแหน่งปราสาทตาเมือนธมและตาควายเอาไว้ชัดเจนแล้ว และบันทึกดังกล่าวเท่าที่ผู้เขียนเคยเห็นไม่เป็นคุณกับไทยเลยแม้แต่น้อย ประการที่สาม การใช้คำพูดลอยๆ ว่า ยึดปราสาทพระวิหารเอาไว้ได้แล้ว สร้างความคลุมเครือต่อนานาชาติอย่างมาก เพราะทั้งโลกรับทราบมาเป็นเวลากว่า 63 ปีแล้วว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่า “ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งอยู่ในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา” และการตีความคำพิพากษาเดิมในปี 2013 ก็ตอกย้ำว่าอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาอยู่เหนือภูเขาพระวิหารทั้งหมด จึงไม่เหลือพื้นที่ส่วนใดนอกเหนือจากนั้นที่พอจะเรียกได้ว่า “พระวิหาร” อยู่นอกอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาอีกต่อไป พื้นที่บริเวณใกล้เคียงนั้นมีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่น เช่น ผามออีแดง และภูมะเขือ (ซึ่งไทยก็ยึดเอาไว้แล้วเช่นกัน) ดังนั้นการที่ฝ่ายไทยอ้างว่า ยึดครอง “พระวิหาร” จึงชวนให้นานาชาติสงสัยว่า ไทยเป็นฝ่ายรุกรานและล่วงล้ำอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาหรือไม่  เหตุพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาครั้งนี้มิได้เป็นเพียงการเผชิญหน้าทางทหาร หากแต่สะท้อนถึงความล้มเหลวในการจัดการปัญหาเชิงโครงสร้าง (เช่นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและกองทัพ) ทั้งในด้านการเจรจาทวิภาคี การเคารพพันธกรณีระหว่างประเทศ และการควบคุมแนวคิดชาตินิยมสุดโต่งภายในประเทศ การอ้างสิทธิในพื้นที่พิพาทโดยใช้กำลังทหารภายใต้ฉากหน้าของการ “ป้องกันตนเอง” นั้นไม่เพียงแต่ลดทอนความน่าเชื่อถือของไทยในสายตาประชาคมโลก แต่ยังย้อนรอยบทเรียนจากอดีตที่ยังไม่ถูกเยียวยา หากประเทศไทยยังไม่สามารถปรับท่าทีสู่แนวทางแห่งการเจรจาด้วยความสุจริตใจตามหลักสากล การเผชิญหน้าในวันนี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ในเวทีโลกอีกครั้ง-เช่นเดียวกับกรณีปราสาทพระวิหารเมื่อกว่าครึ่งศตวรรษก่อน * บทความ * การเมือง * ต่างประเทศ * ความมั่นคง * สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี * กัมพูชา * ไทย * มาเลเซีย * ข้อพิพาทดินแดน
dlvr.it
July 31, 2025 at 12:10 PM
วันนี้อยากหาอะไรสั้นๆอ่าน
alsoผม: stumbled on นิยายเกที่ออกมาแล้ว 7เล่ม และยังไม่จบ
July 31, 2025 at 12:19 PM
Reposted by クロ猫
ทวิตที่บอกทหารฟอกขาวตัวเอง คนรุมด่าเขา อ้าว เมนชั่นที่บอกทหารชั้นผู้น้อยตาย ส่วนนายพลฟอกขาว คนยังไปด่าเขาอีก ฟอกขาวสำเร็จจริงๆแหละ
July 29, 2025 at 1:03 AM
Reposted by クロ猫
ประเทศรู้สึกง่อนแง่นสุดๆ คือรู้ว่าหน่วยงานต่างๆ มันก็พอฟังก์ชั่นได้ แต่การที่นายกฯ โดนสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ มีแต่รักษาการ สภาพมันก็ดูสับสนไร้ศูนย์กลาง แล้วสถานการณ์ตอนนี้ก็วิกฤตทั้งนั้น ชายแดน น้ำท่วม ภาษีการค้า ประเดประดัง
July 28, 2025 at 4:42 AM
Reposted by クロ猫
ด้วยความเคารพเลยนะ ตอนนี้ไทยเผชิญปัญหามากกว่าหนึ่งอย่าง ปัญหาชายแดน น้ำท่วม สินค้าเกษตรมีปัญหา รวมทั้งภาษีทรัมป์

ทำไมดูเหมือนรัฐบาลเกียร์โคตรว่าง สะดวกเค้าไปหน่อยหรือเปล่า?
July 28, 2025 at 5:11 AM
Reposted by クロ猫
Random cat sketches 🐈✨
July 28, 2025 at 5:29 AM
รัฐบาลส้นตีน
July 27, 2025 at 9:24 AM
Reposted by クロ猫
สำรวจศูนย์อพยพ ‘กันทรลักษ์’ รองรับชาวบ้านหลายร้อย คาดต้องอยู่หลายวัน
สำรวจศูนย์อพยพ ‘กันทรลักษ์’ รองรับชาวบ้านหลายร้อย คาดต้องอยู่หลายวัน ภาพปกจาก เพจ ที่นี่ ศรีสะเกษ Pazzle Thu, 2025-07-24 - 19:26 สำรวจศูนย์อพยพ ‘กันทรลักษ์’ เจ้าหน้าที่ศูนย์อพยพจุดที่ 8 ที่วัดไพรงาม ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนมาลงทะเบียนขอพักที่ศูนย์อพยพแล้ว 581 คน คาดการณ์ว่าน่าจะต้องดูแลประชาชนทั้งหมดที่มาพักที่ศูนย์ตอนนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ตอนนี้ทางศูนย์อพยพยังขาดอุปกรณ์ที่จะใช้นอน เนื่องจากบางคนรีบออกมาแต่ตัวจริงๆ   24 ก.ค. 2568 หลังเกิดเหตุรุนแรงตามแนวชายแดนกัมพูชาใน 6 จุด ของ 4 จังหวัด ในฝั่งไทยเกิดความสูญเสียของพลเรือน เสียชีวิต 12 ​ราย บาดเจ็บอีกหลายราย (เวลา 14.15 น.) อนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ แถลงว่าเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีกระสุนปืนใหญ่ตกลงมายังเขตพื้นที่อาศัยของประชาชน ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เนื่องจากเป็นบริเวณพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในแผนอพยพ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนใน ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้จัดเตรียมพื้นที่อพยพให้แก่ประชาชนอาศัยอยู่ชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น การโจมตีบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลายจุดเป็นการโจมตีในพื้นที่ชุมชนที่ประชาชนอาศัยอาศัยอยู่ ทำให้มีการประกาศอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ในหลายจังหวัด ปลัดมหาดไทยเปิดเผยว่า ผู้ว่าฯ สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ ได้อพยพประชาชนแล้ว โดยปลัดมหาดไทยได้สั่งการให้นายอำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา ภาคตะวันออกอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เนื่องจากสถานการณ์มีแนวโน้มลุกลามรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ปะทะปราสาทตาเมือนทม จ.สุรินทร์, ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์, ด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์, เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังเกิดเหตุปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทางโรงเรียนได้มีการอพยพนักนักเรียนโดยให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้านทั้งหมด 100% เมื่อช่วงเช้าโรงเรียนกำลังมีกิจกรรมกีฬาสี แต่ไม่มั่นใจในความสงบจึงได้ประกาศอพยพนักเรียนเมื่อได้ยินเสียงปืน โรงเรียนยังคงสั่งปิดไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ โรงเรียนบริเวณชายแดนไทย-กุมพูชา ภาคตะวันออกได้ประกาศปิดการเรียนการสอนลงชั่วคราว ขณะที่บริเวณด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ก็ได้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางมารอบุตรหลานที่ข้ามไปเรียนยังฝั่งประเทศกัมพูชาตั้งแต่ช่วงเช้ากลับบ้านในฝั่งไทย เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ภาพจาก NBT Chanthaburi นอกจากนี้ หลายโรงพยาบาลในเขตชายแดนไทย-กุมพูชา ยังได้ประกาศงดรับผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยนัด และผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉิน รับเฉพาะเคสแกเฉินจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ ด้านสภากาชาดไทยได้มีการประกาศรับบริจาคเลือดทั่วไทย สำรองโลหิตคงคลัง ส่งให้โรงพยาบาลเขตชายแดน จากสถานการณ์ปะทะเดือด พื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี เวลาประมาณ 13.50 น. กองทัพบกเผยแพร่ข้อมูลสรุปพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ 1. พื้นที่บริเวณปั๊ม ปตท. บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 10 ราย 2. พื้นที่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (1 รายเป็นเด็กชายอายุ 8 ปี) และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่งต่อ รพ.กาบเชิง 3. พื้นที่บ้านกุดเชียงมุน, บ้านจันลา, บ้านโพนทอง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย 4. พื้นที่บ้านขี้เหล็ก ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 5. พื้นที่หมู่ 16 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย 6. พื้นที่บ้านหนองแรด ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเล่วม ทองวิเศษ หมู่ 9 ต.โดมประดิษฐ์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายสียหาย 7. พื้นที่บ้านนายบุญ ภาพเนวิน ชิดชอบ บริเวณศูนย์อพยพบุรีรัมย์ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศเปิดพื้นที่สนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 1,000 ไร่ ให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยจะมีการจัดสรรพื้นที่ให้ผู้อพยพพักพิงและจะมีการจัดบริการ น้ำดื่มและอาหารฟรีอย่างเพียงพอ หากจำนวนผู้อพยพมีจำนวนมากจนเกินขีดความสามารถของศูนย์ฯ ที่มีอยู่ ก็จะมีการเปิดวัดและโรงเรียนในพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อเป็นศูนย์พักพิงต่อไป ภาพจาก เฟซบุ๊กเพจ ที่นี่ ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ศูนย์อพยพจุดที่ 8 ที่วัดไพรงาม ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนมาลงทะเบียนขอพักที่ศูนย์อพยพแล้ว 581 คน เดิมทีจุดอพยพในจุดนี้ไม่ใช่จุดหลักเตรียมความพร้อมรับรองประชาชนจาก 2 ตำบล แต่เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนกังวลเรื่องความปลอดภัยในจุดอพยพอื่นจึงทยอยเดินทางย้ายมาอยู่ที่จุดที่ 8 วัดไพรงาม “คืนนี้ผู้อพยพ 500 กว่าคนต้องค้างที่นี่ ทางศูนย์กำลังเตรียมหมอนเตรียมผ้าห่มให้ ตอนนี้ยังขาดอุปกรณ์ที่จะใช้นอน เนื่องจากบางคนรีบออกมาแต่ตัวจริงๆ ทางทหารมีการแจ้งว่าคืนนี้สถานการณ์อาจมีความรุนแรงขึ้น เลยต้องอพยพคนออกมาให้หมด ในส่วนของที่ยังตกค้างอยู่ในบางตำบลทหารก็กำลังเข้าไปรับคนออกมา คาดว่าน่าจะมีคนมาเพิ่มเป็น 600-700 คน ก่อนหน้านี้บางคนอาจไม่กล้าอพยพ แต่ตอนนี้มันต้องออกมา โรงพยาบาลกันทรลักษ์เองก็อพยพคนมาที่นี่ ตอนนี้ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ไม่รับผู้ป่วยแล้ว เนื่องจากเขาเหมือนเป็นเป้าหมายในการโจมตี ตชด. 224 ซึ่งอยู่ใกล้กับอำเภอกันทรลักษ์ก็อาจจะตกเป็นเป้า แต่แค่ยังไม่โดน ตอนนี้มีการโจมตีลงที่กันทรลักษ์แล้ว 2 ครั้ง ตอนนี้ทหารพยายามไม่ให้คนเข้าพื้นที่เสี่ยงแล้ว ให้แต่รถทหารวิ่งอย่างเดียว” ทั้งนี้ อ.กันทรลักษ์ มีศูนย์อพยพอยู่ทั้งหมด 53 จุด แต่ละจุดมีประชาชนอยู่มากน้อยกระจายกันออกไป จุดหลักอย่างวิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์มีประชาชนอพยพมาอยู่กว่า 1,000 คน ทางจุดอพยพที่ 8 วัดไพรงาม คาดการณ์ว่าน่าจะต้องดูแลประชาชนทั้งหมดที่มาพักที่ศูนย์ตอนนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ เจ้าอาวาสวัดไพรงามแจ้งว่าข้าวสารอาหารแห้งที่วัดสามารถรองรับคนได้ประมาณ 1 สัปดาห์ วันนี้ประชาชนก็ระดมกันรับบริจาคกันเพิ่ม เนื่องจากไม่ได้คาดหมายว่าจะมีคนเข้ามาพักจำนวนมากขนาดนี้ ตอนนี้ทางจังหวัดยังไม่ได้จัดสรรความช่วยเหลือเข้ามาให้ มีเพียง อ.บ.ต., วัด และชาวบ้านที่ระดมทรัพยากรกันเองในเบื้องต้นก่อน     * ข่าว * การเมือง * ความมั่นคง * กัมพูชา * กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา * ศูนย์อพยพ * อำเภอกันทรลักษ์ * กองทัพบก
dlvr.it
July 24, 2025 at 12:42 PM