คาร์เป็นอินฟลูเอนเซอร์ เนียนรู้จัก OK
'ไว้เจอกันใหม่ครับ'
มุมปากยิ้มน้อย ๆ ในมือถือกระดาษ ยันตัวเองลุกขึ้นพร้อมที่จะเดินออกไป
'ไว้เจอกันใหม่ครับ'
มุมปากยิ้มน้อย ๆ ในมือถือกระดาษ ยันตัวเองลุกขึ้นพร้อมที่จะเดินออกไป
'ขอบคุณนะ' แล้วจึงพูดต่อ
"ผมจะไปทำการบ้านให้เยอะ ๆ"
ยูทสึกิยิ้มออกมา ถึงแม้ดวงตาสีแดงจะไม่มีประกาย แต่ก็คงเห็นได้ว่าอย่างน้อยเขาก็ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ
"วันนี้ผมสนุกมาก"
"ขอบคุณนะครับ"
'ขอบคุณนะ' แล้วจึงพูดต่อ
"ผมจะไปทำการบ้านให้เยอะ ๆ"
ยูทสึกิยิ้มออกมา ถึงแม้ดวงตาสีแดงจะไม่มีประกาย แต่ก็คงเห็นได้ว่าอย่างน้อยเขาก็ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ
"วันนี้ผมสนุกมาก"
"ขอบคุณนะครับ"
"นี่แหละ ภาพที่สมบูรณ์ครับ"
ยูทสึกิว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่มีคนวาดรูปให้เขาแบบไม่ติดตลก ไม่กลายเป็นยักษ์อะไรแบบนั้น
"ผมขอรูปได้ไหมมิวะจัง"
เพราะแบบนั้น เขาเลยอยากขอเก็บเอาไว้
"นี่แหละ ภาพที่สมบูรณ์ครับ"
ยูทสึกิว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่มีคนวาดรูปให้เขาแบบไม่ติดตลก ไม่กลายเป็นยักษ์อะไรแบบนั้น
"ผมขอรูปได้ไหมมิวะจัง"
เพราะแบบนั้น เขาเลยอยากขอเก็บเอาไว้
"นี่เธอวาดผมเหรอ"
เขาทำหน้าแปลกใจพร้อมกับชี้หน้าตัวเองก่อนจะชี้ไปที่ที่นั่งข้าง ๆ ในรูป
"มิวะจังวาดตัวเองด้วยสิ"
"มินิยูคุงคงเหงาแย่"
"นี่เธอวาดผมเหรอ"
เขาทำหน้าแปลกใจพร้อมกับชี้หน้าตัวเองก่อนจะชี้ไปที่ที่นั่งข้าง ๆ ในรูป
"มิวะจังวาดตัวเองด้วยสิ"
"มินิยูคุงคงเหงาแย่"
ยูทสึกิเหยียดแขน บิดขี้เกียจแล้วหันไปมองทางคนข้างกาย ไม่ได้พูดอะไร แต่ถ้าอีกฝ่ายยังไม่งีบ ก็คงได้ยินเสียงขยับบิดขี้เกียจของเขาทำให้รู่ว่าตื่นแล้วนั่นแหละ
ยูทสึกิเหยียดแขน บิดขี้เกียจแล้วหันไปมองทางคนข้างกาย ไม่ได้พูดอะไร แต่ถ้าอีกฝ่ายยังไม่งีบ ก็คงได้ยินเสียงขยับบิดขี้เกียจของเขาทำให้รู่ว่าตื่นแล้วนั่นแหละ
เพราะตอนนี้ยังนอนไม่รู้เรื่องนี่นะ
เจ้าตัวคงไม่ว่าอะไรหรอก
เพราะตอนนี้ยังนอนไม่รู้เรื่องนี่นะ
เจ้าตัวคงไม่ว่าอะไรหรอก
แต่เหมือนครั้งสุดท้ายเหมือนเขาจะนอนอิงต้นไม้และหลับตาพริ้ม
ไม่หลับ ก็คงจะพักสายตา
แต่เหมือนครั้งสุดท้ายเหมือนเขาจะนอนอิงต้นไม้และหลับตาพริ้ม
ไม่หลับ ก็คงจะพักสายตา
"ถ้างั้นก็ ...โอเคล่ะมั้งครับ"
ล่ะมั้ง? เขาทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกบอกว่าสบายใจ ก็มันไม่มีใครเคยบอกว่าอยู่กับเขาว่าสบายใจมาก่อน มีแต่ให้ระวังตัวไว้เหอะ
เพราะงั้นเขาก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถคลิปสมาธิสั้นข้าง ๆ อีกฝ่ายที่ใช้ปลายดินสอตวัดบนกระดาษ
แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปกี่นาทีเขาก็คงจะรอ
"ถ้างั้นก็ ...โอเคล่ะมั้งครับ"
ล่ะมั้ง? เขาทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกบอกว่าสบายใจ ก็มันไม่มีใครเคยบอกว่าอยู่กับเขาว่าสบายใจมาก่อน มีแต่ให้ระวังตัวไว้เหอะ
เพราะงั้นเขาก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถคลิปสมาธิสั้นข้าง ๆ อีกฝ่ายที่ใช้ปลายดินสอตวัดบนกระดาษ
แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปกี่นาทีเขาก็คงจะรอ
"นึกว่าจะเสียสมาธิซะอีก"
เขาว่าพลางพยักหน้า ถ้าอีกคนโอเคเขาก็จะอยู่ ถ้าไม่โอเคเขาก็จะไป แค่นั้นล่ะ
ถึงแม้จะมีคำถามก็ตอบ
"สบายใจ?"
"อยู่กับผมแล้วสบายใจเหรอ"
จริง ๆ มันไม่ควรเป็นเรื่องที่ต้องสงสัย แต่เขาปฏิบัติกับเพื่อนไม่เหมือนปฏิบัติกับเธอ ปกติเพื่อนไม่ชอบอยู่กับเขาเท่าไหร่ก็เลยสงสัยที่เธอสบายใจ
"นึกว่าจะเสียสมาธิซะอีก"
เขาว่าพลางพยักหน้า ถ้าอีกคนโอเคเขาก็จะอยู่ ถ้าไม่โอเคเขาก็จะไป แค่นั้นล่ะ
ถึงแม้จะมีคำถามก็ตอบ
"สบายใจ?"
"อยู่กับผมแล้วสบายใจเหรอ"
จริง ๆ มันไม่ควรเป็นเรื่องที่ต้องสงสัย แต่เขาปฏิบัติกับเพื่อนไม่เหมือนปฏิบัติกับเธอ ปกติเพื่อนไม่ชอบอยู่กับเขาเท่าไหร่ก็เลยสงสัยที่เธอสบายใจ
เขานั่งเท้าคางมองเด็กสาววาดรูปทิวทัศน์ พอคิดอะไรได้แบบคนปกติจึงถามออกไปกลางทาง
“งั้นผมไปก่อนนะ”
“คนวาดรูปคงอยากอยู่เงียบ ๆ ”
ตัดสินเอาเอง
เขานั่งเท้าคางมองเด็กสาววาดรูปทิวทัศน์ พอคิดอะไรได้แบบคนปกติจึงถามออกไปกลางทาง
“งั้นผมไปก่อนนะ”
“คนวาดรูปคงอยากอยู่เงียบ ๆ ”
ตัดสินเอาเอง
"ได้เลยครับ"
ดีแล้ว ไม่ต้องไปดูหรอกคอนเทนท์เขาน่ะ
"ดูให้ชัด ๆ เลยนะ เพราะตัวจริงหล่อกว่าในกล้องเยอะ"
ยังไม่เลิกอีก
หลังจากนั้นเขาก็นั่งมองอีกฝ่ายเหมือนจะรอดูเธอวาดรูปยังไงอย่างงั้น
"ได้เลยครับ"
ดีแล้ว ไม่ต้องไปดูหรอกคอนเทนท์เขาน่ะ
"ดูให้ชัด ๆ เลยนะ เพราะตัวจริงหล่อกว่าในกล้องเยอะ"
ยังไม่เลิกอีก
หลังจากนั้นเขาก็นั่งมองอีกฝ่ายเหมือนจะรอดูเธอวาดรูปยังไงอย่างงั้น
"นี่ ไม่เป็นไรหรอก"
ยูทสึกิถอนหายใจออกเบา ๆ ก่อนจะรีบขยับมือเป็นคำว่า'ฉันก็ขอโทษ'
"ไว้มีโอกาสจะให้ดูแล้วกันครับ"
"แต่ตัวจริงหล่อกว่าหน้ากล้องนะ"
ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะ เหมือนจะเริ่มกลายเป็นเหมือนบุคลิกที่อยู่กับคนทั่วไปทีละเล็กทีละน้อย
"นี่ ไม่เป็นไรหรอก"
ยูทสึกิถอนหายใจออกเบา ๆ ก่อนจะรีบขยับมือเป็นคำว่า'ฉันก็ขอโทษ'
"ไว้มีโอกาสจะให้ดูแล้วกันครับ"
"แต่ตัวจริงหล่อกว่าหน้ากล้องนะ"
ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะ เหมือนจะเริ่มกลายเป็นเหมือนบุคลิกที่อยู่กับคนทั่วไปทีละเล็กทีละน้อย
"อยากเห็นผม"
"ผมก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้วไง จะไปดูที่อื่นอีกเหรอครับ"
น้ำเสียงราวกับปนหงุดหงิด ไม่ใช่ว่าไม่ถูกใจสิ่งที่เธอต้องการ แต่เป็นความน้อยใจเล็ก ๆ ต่างหาก
แล้วก็คง รู้ว่าผลงานของตัวเองไม่ได้ควรค่าอะไรขนาดนั้น
"อยากเห็นผม"
"ผมก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้วไง จะไปดูที่อื่นอีกเหรอครับ"
น้ำเสียงราวกับปนหงุดหงิด ไม่ใช่ว่าไม่ถูกใจสิ่งที่เธอต้องการ แต่เป็นความน้อยใจเล็ก ๆ ต่างหาก
แล้วก็คง รู้ว่าผลงานของตัวเองไม่ได้ควรค่าอะไรขนาดนั้น
"ผมทำช่องเกี่ยวกับ.. อืม เป็นคอนเทนท์สัมภาษณ์คนไปทั่วตามความกระแสตอนนั้น"
"แล้วก็มี...ไม่รู้สิ" ถ้าบอกว่าคอนเทนท์ถ่ายอวดหล่อไปวัน ๆ คงจะดูไร้สาระเกินไปเลยเลี่ยงไม่บอก
"แต่มิวะจังไม่ต้องไปหาดูหรอกนะครับ" พูดดัก
"ผมทำช่องเกี่ยวกับ.. อืม เป็นคอนเทนท์สัมภาษณ์คนไปทั่วตามความกระแสตอนนั้น"
"แล้วก็มี...ไม่รู้สิ" ถ้าบอกว่าคอนเทนท์ถ่ายอวดหล่อไปวัน ๆ คงจะดูไร้สาระเกินไปเลยเลี่ยงไม่บอก
"แต่มิวะจังไม่ต้องไปหาดูหรอกนะครับ" พูดดัก
"แต่เดี๋ยวนี้สังคมก็ตระหนักรู้มากขึ้น"
"สมัยนี้ทุกอย่างเข้าถึงได้ง่าย มันก็เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง"
"ผมแค่พูดเฉย ๆ แค่อยากจะบอกว่าถ้าอยากทำอะไร ถ้ากลัวบางทีอาจจะไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย"
พูดจากปากคนที่ไม่ได้กลัวอะไร เขาไม่ได้เข้าใจทั้งหมดหรอก
"แต่เดี๋ยวนี้สังคมก็ตระหนักรู้มากขึ้น"
"สมัยนี้ทุกอย่างเข้าถึงได้ง่าย มันก็เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง"
"ผมแค่พูดเฉย ๆ แค่อยากจะบอกว่าถ้าอยากทำอะไร ถ้ากลัวบางทีอาจจะไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย"
พูดจากปากคนที่ไม่ได้กลัวอะไร เขาไม่ได้เข้าใจทั้งหมดหรอก
ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษขนาดนั้นสักหน่อยนี่
"ใช่ครับ" ตาเหลือบไปมองก็ตอบให้ทันที
"ถ้าจับทางไว รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นอะไร ก็สามารถทำได้ไม่ยากหรอก"
"ดูตื่นเต้นนะครับ"
"เป็นงานที่มิวะจังสนใจรึเปล่า?"
ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษขนาดนั้นสักหน่อยนี่
"ใช่ครับ" ตาเหลือบไปมองก็ตอบให้ทันที
"ถ้าจับทางไว รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นอะไร ก็สามารถทำได้ไม่ยากหรอก"
"ดูตื่นเต้นนะครับ"
"เป็นงานที่มิวะจังสนใจรึเปล่า?"
"พอดีผมเป็นอินฟลูเอนเซอร์น่ะ"
"แบบว่า...วล็อกเกอร์ อะไรประมาณนั้น"
ยูทสึกิยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อพูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ใช่เพราะรัก แต่การเป็นคนดังมันมีสิ่งแอบแฝง
"การที่ผมกำลังดูเจ้านี่ ก็เหมือนการวิเคราะห์การเสพสื่อคนอยู่น่ะ"
เขาว่าพร้อมยกมือถือขึ้นมาเปิดแอปสมาธิสั้นให้ดู ถึงจะพูดจาจริงจัง แต่ไทม์ไลน์เขามีแต่อะไรก็ไม่รู้
"พอดีผมเป็นอินฟลูเอนเซอร์น่ะ"
"แบบว่า...วล็อกเกอร์ อะไรประมาณนั้น"
ยูทสึกิยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อพูดถึงสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ใช่เพราะรัก แต่การเป็นคนดังมันมีสิ่งแอบแฝง
"การที่ผมกำลังดูเจ้านี่ ก็เหมือนการวิเคราะห์การเสพสื่อคนอยู่น่ะ"
เขาว่าพร้อมยกมือถือขึ้นมาเปิดแอปสมาธิสั้นให้ดู ถึงจะพูดจาจริงจัง แต่ไทม์ไลน์เขามีแต่อะไรก็ไม่รู้
"ไม่หรอก แค่มาในวันที่ไม่ค่อยมีไอเดียน่ะ"
ก็คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเปิดจอแอปสมาธิสั้น
"แล้วมิวะจังล่ะ"
"ดูทรงเป็นคนชอบออกมาข้างนอกนะ แบบว่า... หาแรงบันดาลใจ"
"ไม่หรอก แค่มาในวันที่ไม่ค่อยมีไอเดียน่ะ"
ก็คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเปิดจอแอปสมาธิสั้น
"แล้วมิวะจังล่ะ"
"ดูทรงเป็นคนชอบออกมาข้างนอกนะ แบบว่า... หาแรงบันดาลใจ"
เพราะงั้นเขาจึงไม่รู้สึกเหนื่อย แถมการที่ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นยังสนุกอีกต่างหาก
"ผมสิต้องขอบคุณ"
"เธอเองก็สละเวลาวาดรูปมาสอนผมนี่นะ"
ถือว่าเจ๊ากันอยู่
ยูทสึกิว่าแล้วก็ยิ้มสบาย ๆ เอียงตัวอิงต้นไม้เล็กน้อย
เพราะงั้นเขาจึงไม่รู้สึกเหนื่อย แถมการที่ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นยังสนุกอีกต่างหาก
"ผมสิต้องขอบคุณ"
"เธอเองก็สละเวลาวาดรูปมาสอนผมนี่นะ"
ถือว่าเจ๊ากันอยู่
ยูทสึกิว่าแล้วก็ยิ้มสบาย ๆ เอียงตัวอิงต้นไม้เล็กน้อย
'มิวะจัง'
'ผมเองก็ขอบคุณนะ'
ชายหนุ่มชี้ตัวเองก่อนจะทำท่าขยับเป็นคำว่าขอบคุณ
"ถ้ามีคนคุยภาษานี้เหมือนกันเป็นยังไงครับ"
"รู้สึกเหงาน้อยลงรึเปล่า"
'มิวะจัง'
'ผมเองก็ขอบคุณนะ'
ชายหนุ่มชี้ตัวเองก่อนจะทำท่าขยับเป็นคำว่าขอบคุณ
"ถ้ามีคนคุยภาษานี้เหมือนกันเป็นยังไงครับ"
"รู้สึกเหงาน้อยลงรึเปล่า"
พอได้ทำต่อก็เลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย รู้สึกว่าครีเอทใช่เล่นเหมือนกัน
"สวัสดีตอนเที่ยง"
เขาทำตาม และเปล่งเสียงออกมาในเวลาเดียวกัน พลางเลิกคิ้วว่าทำได้ดีรึเปล่านะ
แต่ถ้าไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เขาว่าเขาก็คงพร้อมสำหรับประโยคต่อจากนี้แล้ว
พอได้ทำต่อก็เลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย รู้สึกว่าครีเอทใช่เล่นเหมือนกัน
"สวัสดีตอนเที่ยง"
เขาทำตาม และเปล่งเสียงออกมาในเวลาเดียวกัน พลางเลิกคิ้วว่าทำได้ดีรึเปล่านะ
แต่ถ้าไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เขาว่าเขาก็คงพร้อมสำหรับประโยคต่อจากนี้แล้ว
"โอ-ฮา-โย"
"โอฮาโย"
เขาค่อย ๆ ทำช้า ๆ แล้วเร็วขึ้นเพื่อให้ชินมือ มีการเลิกคิ้วเหมือนจะถามอีกฝ่ายว่าเป็นยังไง พอได้คุยภาษาเดียวกัน อีกฝ่ายจะรู้สึกเหงาน้อยลงรึเปล่านะ
"โอ-ฮา-โย"
"โอฮาโย"
เขาค่อย ๆ ทำช้า ๆ แล้วเร็วขึ้นเพื่อให้ชินมือ มีการเลิกคิ้วเหมือนจะถามอีกฝ่ายว่าเป็นยังไง พอได้คุยภาษาเดียวกัน อีกฝ่ายจะรู้สึกเหงาน้อยลงรึเปล่านะ
ยูทสึกิปราดตามองอ่านสมุดแล้วพยักหน้า
"ก็มีอยู่นะครับ"
"อย่างเช่นー สวัสดี ขอบคุณ"
"แล้วก็เจอกันนะ"
อะไรแบบนั้น
ยูทสึกิปราดตามองอ่านสมุดแล้วพยักหน้า
"ก็มีอยู่นะครับ"
"อย่างเช่นー สวัสดี ขอบคุณ"
"แล้วก็เจอกันนะ"
อะไรแบบนั้น
"อย่างงี้นี่เอง"
"แบบนี้ คนที่เป็นใบ้ก็คงเป็นพวกแสดงสีหน้าจัด ๆ น่ะสิ" แต่อีกฝ่ายดูไม่เป็นแบบนั้นเลยแฮะ กระนั้นเขาก็พยักหน้าหงึกเข้าใจ
"ได้เลยครับ"
นักเรียนนั่งหลังห้องวันนี้กลับอยากศึกษาเพื่อให้เข้าใจอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ คงจะแบบนั้นตั้งแต่เริ่มคาบจนจบ
"อย่างงี้นี่เอง"
"แบบนี้ คนที่เป็นใบ้ก็คงเป็นพวกแสดงสีหน้าจัด ๆ น่ะสิ" แต่อีกฝ่ายดูไม่เป็นแบบนั้นเลยแฮะ กระนั้นเขาก็พยักหน้าหงึกเข้าใจ
"ได้เลยครับ"
นักเรียนนั่งหลังห้องวันนี้กลับอยากศึกษาเพื่อให้เข้าใจอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ คงจะแบบนั้นตั้งแต่เริ่มคาบจนจบ