*ตัวละครมีแนวโน้มใช้คำพูดรุนแรง ไม่สบายใจทักบอกได้ค่ะ*
#KMI_commu
Doc : https://shorturl.asia/XCDlb
DM for co-op / roleplay
รวมทั้ง...
“...สรุปแล้ว ทำไมถึงมายืนตากฝนอยู่แบบนี้ครับ”
คราวนี้เลือกจะเอ่ยถามอย่างเถรตรง แหงนมองฟากฟ้าสีหม่นที่เม็ดฝนยังสาดเทลงมาอย่างไม่มีท่าจะหยุด
”คิดถึงใคร หรืออะไรงั้นเหรอครับ“
รวมทั้ง...
“...สรุปแล้ว ทำไมถึงมายืนตากฝนอยู่แบบนี้ครับ”
คราวนี้เลือกจะเอ่ยถามอย่างเถรตรง แหงนมองฟากฟ้าสีหม่นที่เม็ดฝนยังสาดเทลงมาอย่างไม่มีท่าจะหยุด
”คิดถึงใคร หรืออะไรงั้นเหรอครับ“
แม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป แต่ก็ให้ความรู้สึกว่าคนตรงหน้าน่านับถือขึ้นมาบ้าง...นิดหน่อยล่ะนะ?
“หอพักครับ”
คำตอบแรกไขข้อข้องใจว่าเหตุใดเด็กมัธยมปลายอย่างเขาถึงซ้อมบาสจนดึกดื่นได้ตามใจชอบ
ส่วนอีกคำตอบนั้น...
“ไม่ครับ”
ถูกกลั่นแกล้ง
เข้ากับเพื่อนไม่ได้
ไม่ใช่เหตุผลเหล่านั้นเลยที่ทำให้เขาเลือกจะโดดเรียน
+
แม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป แต่ก็ให้ความรู้สึกว่าคนตรงหน้าน่านับถือขึ้นมาบ้าง...นิดหน่อยล่ะนะ?
“หอพักครับ”
คำตอบแรกไขข้อข้องใจว่าเหตุใดเด็กมัธยมปลายอย่างเขาถึงซ้อมบาสจนดึกดื่นได้ตามใจชอบ
ส่วนอีกคำตอบนั้น...
“ไม่ครับ”
ถูกกลั่นแกล้ง
เข้ากับเพื่อนไม่ได้
ไม่ใช่เหตุผลเหล่านั้นเลยที่ทำให้เขาเลือกจะโดดเรียน
+
แววตาแฝงประกายฉงนปนหวาดระแวง
ความปรารถนาดีเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นชิน โดยเฉพาะเมื่อมาจากคนแปลกหน้า
มันมักจะมีอะไรแอบซ่อนอยู่เสมอ
“ฉันจะไปอยู่แล้ว”
เลือกจะตัดบทแล้วผละจาก มุ่งตรงไปยังทางออกของตรอก ไม่คิดรับบทเหยื่อผู้น่าสงสาร
หรือต่อให้เป็นเจตนาดีโดยไร้จุดประสงค์แอบแฝง...
+
แววตาแฝงประกายฉงนปนหวาดระแวง
ความปรารถนาดีเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นชิน โดยเฉพาะเมื่อมาจากคนแปลกหน้า
มันมักจะมีอะไรแอบซ่อนอยู่เสมอ
“ฉันจะไปอยู่แล้ว”
เลือกจะตัดบทแล้วผละจาก มุ่งตรงไปยังทางออกของตรอก ไม่คิดรับบทเหยื่อผู้น่าสงสาร
หรือต่อให้เป็นเจตนาดีโดยไร้จุดประสงค์แอบแฝง...
+
แต่ก็ดี
“งั้นก็ตามนั้น”
ไม่ชี้แจงชัดเจนว่าจะมาเวลาไหน ทั้งไม่คล้ายจะยี่หระต่อสายตาเสมือนเหนื่อยหน่ายดูแคลนนั่น
ได้รับจนชินชา จะมีเพิ่มมาอีกหนึ่งก็คงไม่ต่าง
“ไม่ต้องทอน”
กล่าวสำทับก่อนจะผินกายจากไปยังที่ใดสักแห่ง สุดจะล่วงรู้
แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ห้องเรียนเป็นแน่
(เราจบไว้เท่านี้ ขอบคุณที่ให้แจมโรลนะคะ🙇🏻♀️)
แต่ก็ดี
“งั้นก็ตามนั้น”
ไม่ชี้แจงชัดเจนว่าจะมาเวลาไหน ทั้งไม่คล้ายจะยี่หระต่อสายตาเสมือนเหนื่อยหน่ายดูแคลนนั่น
ได้รับจนชินชา จะมีเพิ่มมาอีกหนึ่งก็คงไม่ต่าง
“ไม่ต้องทอน”
กล่าวสำทับก่อนจะผินกายจากไปยังที่ใดสักแห่ง สุดจะล่วงรู้
แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ห้องเรียนเป็นแน่
(เราจบไว้เท่านี้ ขอบคุณที่ให้แจมโรลนะคะ🙇🏻♀️)
อนุมานได้กระมัง ว่านักเรียนด้านหลังคุณคงไม่ใช่เด็กดีที่คิดเป็นห่วงเป็นใยสุขภาพของผู้เป็นอาจารย์สักเท่าไหร่
อนุมานได้กระมัง ว่านักเรียนด้านหลังคุณคงไม่ใช่เด็กดีที่คิดเป็นห่วงเป็นใยสุขภาพของผู้เป็นอาจารย์สักเท่าไหร่
การที่คุณโต้ตอบกลับจึงหมายความได้สองแบบ
หนึ่งคือคุณประสาทรับรู้ดีเหนือมนุษย์มนา
หรือไม่...ก็อาจจะไม่ได้ใส่ใจว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็น ‘ใคร’
“ซ้อมบาสครับ”
เอ่ยตอบห้วนสั้น ดังพอจะได้ยินผ่านเสียงสายฝนตกกระทบ
“การตากฝนเป็นเคล็ดลับในการทำงานเหรอครับ“
+
การที่คุณโต้ตอบกลับจึงหมายความได้สองแบบ
หนึ่งคือคุณประสาทรับรู้ดีเหนือมนุษย์มนา
หรือไม่...ก็อาจจะไม่ได้ใส่ใจว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็น ‘ใคร’
“ซ้อมบาสครับ”
เอ่ยตอบห้วนสั้น ดังพอจะได้ยินผ่านเสียงสายฝนตกกระทบ
“การตากฝนเป็นเคล็ดลับในการทำงานเหรอครับ“
+
นั่นคือสิ่งที่โทยะเรียนรู้จากประสบการณ์จนคล้ายกลายเป็นอคติ ประโยคจากเด็กสาวเบื้องหน้าจึงนับว่าเรียกความประหลาดใจได้ไม่น้อย
ทว่าก็เพียงเลิกคิ้วขึ้น ไหวไหล่
“แล้วแต่”
ตอบกลับอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเมินเฉยไปโดยสิ้นเชิง
ยกหลังมือขึ้นเช็ดคราบเลือดออกจากบาดแผล สายตากวาดมองรอบด้านราวกับกำลังประเมินสถานการณ์
นั่นคือสิ่งที่โทยะเรียนรู้จากประสบการณ์จนคล้ายกลายเป็นอคติ ประโยคจากเด็กสาวเบื้องหน้าจึงนับว่าเรียกความประหลาดใจได้ไม่น้อย
ทว่าก็เพียงเลิกคิ้วขึ้น ไหวไหล่
“แล้วแต่”
ตอบกลับอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเมินเฉยไปโดยสิ้นเชิง
ยกหลังมือขึ้นเช็ดคราบเลือดออกจากบาดแผล สายตากวาดมองรอบด้านราวกับกำลังประเมินสถานการณ์
ทว่าเช่นเดิม เก็บกดความไม่พอใจลงพร้อมเอ่ยถาม
“วันไหนล่ะ”
อะไรคือเหตุผล
ทำไมต้องเป็นเครื่องรางแห่งความสุข
และทำไมต้องเป็น...สีชมพู
คงยากจะคาดเดา และไม่มีใครล่วงรู้นอกจากตัวเด็กหนุ่มเอง
ทว่าเช่นเดิม เก็บกดความไม่พอใจลงพร้อมเอ่ยถาม
“วันไหนล่ะ”
อะไรคือเหตุผล
ทำไมต้องเป็นเครื่องรางแห่งความสุข
และทำไมต้องเป็น...สีชมพู
คงยากจะคาดเดา และไม่มีใครล่วงรู้นอกจากตัวเด็กหนุ่มเอง
อีกฝ่ายตะโกนถามชื่อ เขาที่เดินหันหลังจากมา ท่ามกลางผู้คนมากมายและเสียงดังเซ็งแซ่
ฉากเปิดของหนัง coming of age รึไง?
รู้สึกน่าขันอย่างมากหากจะตะโกนบอกกลับ จึงตัดสินใจแสร้งไม่ได้ยิน
แล้วเดินหายลับไปกับฝูงชน
(ฝั่งเราจบไว้เท่านี้ค่ะ ขอโทษแทนความแปลกของลูกชายด้วยนะคะ /ตีโทยะ)
อีกฝ่ายตะโกนถามชื่อ เขาที่เดินหันหลังจากมา ท่ามกลางผู้คนมากมายและเสียงดังเซ็งแซ่
ฉากเปิดของหนัง coming of age รึไง?
รู้สึกน่าขันอย่างมากหากจะตะโกนบอกกลับ จึงตัดสินใจแสร้งไม่ได้ยิน
แล้วเดินหายลับไปกับฝูงชน
(ฝั่งเราจบไว้เท่านี้ค่ะ ขอโทษแทนความแปลกของลูกชายด้วยนะคะ /ตีโทยะ)
“มีสีชมพูไหม”
ฟังดูประหลาดพิกล แต่สีหน้าคนขอไร้แววล้อเล่น
“มีสีชมพูไหม”
ฟังดูประหลาดพิกล แต่สีหน้าคนขอไร้แววล้อเล่น
และเหตุผลที่เขาเอ่ยปากขอเครื่องรางแห่งความสุขนั้น ก็หาใช่เป็นไปด้วยเหตุผลตามที่อีกฝ่ายนึกคาดเดา
ไม่ใกล้เคียงเลย
“ทำกำไรได้ดีเลยสินะ”
หยิบถุงปักมาพินิจดู แม้ถักทอขึ้นอย่างประณีต วัสดุก็ใช่จะเลิศเลออะไร
ทว่ายังคงควักธนบัตรออกจากกระเป๋า ยื่นส่งให้ง่ายดาย
+
และเหตุผลที่เขาเอ่ยปากขอเครื่องรางแห่งความสุขนั้น ก็หาใช่เป็นไปด้วยเหตุผลตามที่อีกฝ่ายนึกคาดเดา
ไม่ใกล้เคียงเลย
“ทำกำไรได้ดีเลยสินะ”
หยิบถุงปักมาพินิจดู แม้ถักทอขึ้นอย่างประณีต วัสดุก็ใช่จะเลิศเลออะไร
ทว่ายังคงควักธนบัตรออกจากกระเป๋า ยื่นส่งให้ง่ายดาย
+
สำหรับเขา ให้รับมือกับความหวาดกลัวหรือความเกลียดชังยังจะง่ายดายซะมากกว่า
“ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่”
จึงทำเพียงตัดบทแล้วหมุนตัวจาก ถึงขนาดนี้ก็ยังไม่คิดทักทายแนะนำตน
อัธยาสัยติดลบแค่ไหนคงไม่ต้องถาม
และทิศทางที่มุ่งไป...ไม่ใช่อาคารเรียนเป็นแน่
สำหรับเขา ให้รับมือกับความหวาดกลัวหรือความเกลียดชังยังจะง่ายดายซะมากกว่า
“ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่”
จึงทำเพียงตัดบทแล้วหมุนตัวจาก ถึงขนาดนี้ก็ยังไม่คิดทักทายแนะนำตน
อัธยาสัยติดลบแค่ไหนคงไม่ต้องถาม
และทิศทางที่มุ่งไป...ไม่ใช่อาคารเรียนเป็นแน่
ครั้งนี้นับว่าบังเอิญ
และความบังเอิญจะไม่เกิดขึ้นซ้ำเป็นหนที่สอง
ครั้งนี้นับว่าบังเอิญ
และความบังเอิญจะไม่เกิดขึ้นซ้ำเป็นหนที่สอง
ทั้งที่ชัดเจนว่าคุณไม่ชอบเขา และเขาก็ไม่ชอบคุณแท้ๆ
นี่คือความเป็นมืออาชีพ?
หรือคือสิ่งที่ล้วนต้องกระทำเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่กันนะ
“...เครื่องรางที่ช่วยให้มีความสุขก็แล้วกัน“
เลือกจะเมินเฉยต่อถ้อยคำค่อนแคะแฝงความนัย สตรีเบื้องหน้าดำเนินชีวิตด้วยความคิดเช่นไรใช่กงการของเขา
+
ทั้งที่ชัดเจนว่าคุณไม่ชอบเขา และเขาก็ไม่ชอบคุณแท้ๆ
นี่คือความเป็นมืออาชีพ?
หรือคือสิ่งที่ล้วนต้องกระทำเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่กันนะ
“...เครื่องรางที่ช่วยให้มีความสุขก็แล้วกัน“
เลือกจะเมินเฉยต่อถ้อยคำค่อนแคะแฝงความนัย สตรีเบื้องหน้าดำเนินชีวิตด้วยความคิดเช่นไรใช่กงการของเขา
+
“พรุ่งนี้จะลารึเปล่าครับ”
...ประโยคซึ่งปราศจากความเป็นห่วงเป็นใยใดๆ และเห็นได้ชัดว่าเตรียมพร้อมอย่างยิ่งที่จะโดดเรียน
แต่ต่อให้คุณมาสอนตามปกติ เขาก็คงจะโดดเรียนเหมือนเดิมอยู่ดี
ไม่แตกต่างกัน
“พรุ่งนี้จะลารึเปล่าครับ”
...ประโยคซึ่งปราศจากความเป็นห่วงเป็นใยใดๆ และเห็นได้ชัดว่าเตรียมพร้อมอย่างยิ่งที่จะโดดเรียน
แต่ต่อให้คุณมาสอนตามปกติ เขาก็คงจะโดดเรียนเหมือนเดิมอยู่ดี
ไม่แตกต่างกัน
โทยะซึ่งเพิ่งซ้อมบาสเสร็จหอบหิ้วร่มคันโตกับกระเป๋านักเรียนเตรียมกลับหอ กลับต้องหยุดเท้าลงเมื่อผ่านมาเห็นคนผู้หนึ่งยืนนิ่งรับความเปียกปอนประหนึ่งกำลังถ่ายทำฉากโศกสลด
แม้ความสามารถในการจดจำใบหน้าคนจะต่ำเตี้ยจนน่าอดสู ทว่ากับ ‘อาจารย์ประจำชั้น‘ ของตนแล้ว จะบอกว่าจำไม่ได้ก็คงจะอนาถาจนเกินไป
+
โทยะซึ่งเพิ่งซ้อมบาสเสร็จหอบหิ้วร่มคันโตกับกระเป๋านักเรียนเตรียมกลับหอ กลับต้องหยุดเท้าลงเมื่อผ่านมาเห็นคนผู้หนึ่งยืนนิ่งรับความเปียกปอนประหนึ่งกำลังถ่ายทำฉากโศกสลด
แม้ความสามารถในการจดจำใบหน้าคนจะต่ำเตี้ยจนน่าอดสู ทว่ากับ ‘อาจารย์ประจำชั้น‘ ของตนแล้ว จะบอกว่าจำไม่ได้ก็คงจะอนาถาจนเกินไป
+
ถึงขั้นมีกะใจจะเปิดหัวข้อสนทนาใหม่ แม้ประโยคถัดไปจะฟังแล้วไม่ใคร่รื่นหูนัก...
”มีของดีจะนำเสนอไหมล่ะ?“
ไร้ซึ่งความเคารพนอบน้อมโดยสิ้นเชิง
ถึงขั้นมีกะใจจะเปิดหัวข้อสนทนาใหม่ แม้ประโยคถัดไปจะฟังแล้วไม่ใคร่รื่นหูนัก...
”มีของดีจะนำเสนอไหมล่ะ?“
ไร้ซึ่งความเคารพนอบน้อมโดยสิ้นเชิง
ตีความไปอย่างเถรตรงว่าเป็นของคุณเองนั่นล่ะ
“ก็แค่ถาม“
ไหวไหล่ด้วยท่าทางที่ดูอย่างไรก็มีเจตนาจะกวนประสาท
แต่หากคุณเชี่ยวชาญในการจับความรู้สึกคน อาจพบว่าท่าทีต่อต้านของเขาลดลงจากคราวก่อนหน้ามากทีเดียว
สุดแท้แต่จะคาดเดาเหตุผล
+
ตีความไปอย่างเถรตรงว่าเป็นของคุณเองนั่นล่ะ
“ก็แค่ถาม“
ไหวไหล่ด้วยท่าทางที่ดูอย่างไรก็มีเจตนาจะกวนประสาท
แต่หากคุณเชี่ยวชาญในการจับความรู้สึกคน อาจพบว่าท่าทีต่อต้านของเขาลดลงจากคราวก่อนหน้ามากทีเดียว
สุดแท้แต่จะคาดเดาเหตุผล
+
ทำได้เพียงแค่นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ไล่หลัง ปลายนิ้วลูบลงบนพลาสเตอร์อย่างเผลอไผล
เมืองคูเมอิมีคนประหลาดอยู่ทั่วไปเลยรึไง?
คิดเช่นนั้นขณะเดินออกจากตรอกมุ่งไปอีกทาง
ลับตาไปกับแสงตะวันยามเย็น
(ขอบคุณที่มาโรลด้วยกันนะคะ ถ้าได้ยินคำชม(?)คงจะหน้ามู่ทู่เพิ่มอีก10%แน่เลยค่ะ🤣)
ทำได้เพียงแค่นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ไล่หลัง ปลายนิ้วลูบลงบนพลาสเตอร์อย่างเผลอไผล
เมืองคูเมอิมีคนประหลาดอยู่ทั่วไปเลยรึไง?
คิดเช่นนั้นขณะเดินออกจากตรอกมุ่งไปอีกทาง
ลับตาไปกับแสงตะวันยามเย็น
(ขอบคุณที่มาโรลด้วยกันนะคะ ถ้าได้ยินคำชม(?)คงจะหน้ามู่ทู่เพิ่มอีก10%แน่เลยค่ะ🤣)