“วันนี้ฉันจะตามใจเธอสักหน่อยแล้วกัน บอกเลยว่าไม่ได้มีโอกาสนี้ง่ายๆนะ”
ยืนเท้าเอวข้างนึงมองอิจิกะด้วยท่าทางของคนใจกว้าง และหล่อ และรวย
‘หลังจากกินอะไรเสร็จฉันควรจะพายัยนี่ไปซื้อเสื้อผ้าดีมั้ยนะชุดขัดใจจริงๆ...หรือจะดูยุ่งไม่เข้าเรื่องนะ เห้อออ รอดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน
(F)
“วันนี้ฉันจะตามใจเธอสักหน่อยแล้วกัน บอกเลยว่าไม่ได้มีโอกาสนี้ง่ายๆนะ”
ยืนเท้าเอวข้างนึงมองอิจิกะด้วยท่าทางของคนใจกว้าง และหล่อ และรวย
‘หลังจากกินอะไรเสร็จฉันควรจะพายัยนี่ไปซื้อเสื้อผ้าดีมั้ยนะชุดขัดใจจริงๆ...หรือจะดูยุ่งไม่เข้าเรื่องนะ เห้อออ รอดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน
(F)
“ฆ่าเชื้อโรคสักหน่อยแล้วกัน ฮึๆ”
เขาแกล้งกดจนแอลกอฮอล์ล้นมืออิจิกะจากนั้นก็ยืนกุมท้องขำปล่อยให้เธอยืนเปียกแอลกอฮอล์อยู่อย่างนั้น
(2)
“ฆ่าเชื้อโรคสักหน่อยแล้วกัน ฮึๆ”
เขาแกล้งกดจนแอลกอฮอล์ล้นมืออิจิกะจากนั้นก็ยืนกุมท้องขำปล่อยให้เธอยืนเปียกแอลกอฮอล์อยู่อย่างนั้น
(2)
“พอดีว่าฉันคุยกับเจ้าที่เจ้าทางอยู่ว่าเธอจะใส่ชุดอะไรมา พอดีว่าเดาถูกซะด้วยสิ“
เซยะพูดไปขำไปเขารู้สึกว่าบางทีอิจิกะก็ดูไร้เสน่ห์แต่น่าแปลกที่เขากลับรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ดูแย่อะไร
”แล้วนิ้วนี่ไปจิ้มอะไรมาล่ะสิถึงเอามาใกล้ฉัน“
(1)
“พอดีว่าฉันคุยกับเจ้าที่เจ้าทางอยู่ว่าเธอจะใส่ชุดอะไรมา พอดีว่าเดาถูกซะด้วยสิ“
เซยะพูดไปขำไปเขารู้สึกว่าบางทีอิจิกะก็ดูไร้เสน่ห์แต่น่าแปลกที่เขากลับรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ดูแย่อะไร
”แล้วนิ้วนี่ไปจิ้มอะไรมาล่ะสิถึงเอามาใกล้ฉัน“
(1)
โฮมุระ : แกคิดว่าชีวิตแกเป็นของใคร? ลองคิดดูสิไม่ว่ายังไงผมก็สำคัญที่สุด คนอย่างนายไม่ควรรักใคร แล้วก็ไม่มีใครรักนายหรอก
เซยะสะบัดศีรษะเบาๆสลัดความคิดพวกนั้นทิ้งเพื่อไม่ให้ตัวเองอารมณ์ดิ่งไปมากกว่านี้ เขาก้มลงมองนาฬิกาอีกครั้งเหมือนว่าเขาจะมาไว้ไปนิดนึง
(F)
โฮมุระ : แกคิดว่าชีวิตแกเป็นของใคร? ลองคิดดูสิไม่ว่ายังไงผมก็สำคัญที่สุด คนอย่างนายไม่ควรรักใคร แล้วก็ไม่มีใครรักนายหรอก
เซยะสะบัดศีรษะเบาๆสลัดความคิดพวกนั้นทิ้งเพื่อไม่ให้ตัวเองอารมณ์ดิ่งไปมากกว่านี้ เขาก้มลงมองนาฬิกาอีกครั้งเหมือนว่าเขาจะมาไว้ไปนิดนึง
(F)
‘หรือฉันจะ...ไม่สิ ฉันไม่ควรไปยุ่งเรื่องคนอื่นมากกว่านี้ อย่าเพิ่มภาระให้ตัวเองหรือคนอื่นไปมากกว่านี้เลยหน่า‘
’เพราะชีวิตฉันมันก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง’
‘อย่างที่โฮมุระพูดฉันไม่ควรทุ่มเทกับใคร’
(2)
‘หรือฉันจะ...ไม่สิ ฉันไม่ควรไปยุ่งเรื่องคนอื่นมากกว่านี้ อย่าเพิ่มภาระให้ตัวเองหรือคนอื่นไปมากกว่านี้เลยหน่า‘
’เพราะชีวิตฉันมันก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง’
‘อย่างที่โฮมุระพูดฉันไม่ควรทุ่มเทกับใคร’
(2)
‘ยัยนั่นก็ไม่ได้เตี้ยถึงฉันจะชอบเรียกว่าชิวาว่าก็เถอะ แต่ว่า... ถ้าใส่ชุดเดรสยาวทรงเข้ารูปช่วงเอวผ้าพลิ้ว ๆอย่างชีฟองโทนสีพาสเทล ครีม ชมพูอมเทา เสริมด้วยรองเท้าส้นสูงแบบสายคาดหรือคัทชูหัวแหลม คงดูดีมากแล้วแท้ๆ‘
(1)
‘ยัยนั่นก็ไม่ได้เตี้ยถึงฉันจะชอบเรียกว่าชิวาว่าก็เถอะ แต่ว่า... ถ้าใส่ชุดเดรสยาวทรงเข้ารูปช่วงเอวผ้าพลิ้ว ๆอย่างชีฟองโทนสีพาสเทล ครีม ชมพูอมเทา เสริมด้วยรองเท้าส้นสูงแบบสายคาดหรือคัทชูหัวแหลม คงดูดีมากแล้วแท้ๆ‘
(1)
ฮ่า
หนุ่มแว่นพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าเขาใช้เวลาจดจ่อกับการทำงานมากเกินไป จนเลือดกำเดาเผลอไหลออกมาจากจมูก
...และไม่รู้ตัวเลยว่ามีมือของหญิงสาวและชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของเขาเอาไว้
"ลืมกินยาอีกแล้วแฮ่ะ"
ฮ่า
หนุ่มแว่นพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าเขาใช้เวลาจดจ่อกับการทำงานมากเกินไป จนเลือดกำเดาเผลอไหลออกมาจากจมูก
...และไม่รู้ตัวเลยว่ามีมือของหญิงสาวและชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของเขาเอาไว้
"ลืมกินยาอีกแล้วแฮ่ะ"
“ฮ่ะๆๆ~ ก่อนหน้านี้ทำหน้าซังกะตาย ตอนนี้ดีใจกับชัยชนะเล็กๆน้อยๆนี่นะ”
พึมพำกับตัวเองเบาๆเขาเองก็เดินเข้าประตูโรงเรียนก่อนจะสาย
“แยกกันตรงนี้แล้วกันตอนเย็นค่อยเจอกันนะยัยชิวาว่า”
(F)
“ฮ่ะๆๆ~ ก่อนหน้านี้ทำหน้าซังกะตาย ตอนนี้ดีใจกับชัยชนะเล็กๆน้อยๆนี่นะ”
พึมพำกับตัวเองเบาๆเขาเองก็เดินเข้าประตูโรงเรียนก่อนจะสาย
“แยกกันตรงนี้แล้วกันตอนเย็นค่อยเจอกันนะยัยชิวาว่า”
(F)
‘ยังไงซะยัยนั่นก็ไม่น่ามีปัญญาจ่ายค่าอาหารอยู่แล้ว ต้องทำงานพิเศษเพิ่มเพื่อเลี้ยงคนอื่นแบบนี้คงลำบาก‘
’เอาเถอะฉันก็มีจิตใจไม่ได้ใจไม้ขนาดนั้น เอาชัยชนะไปเลยยัยชิวาว่า‘
(F)
‘ยังไงซะยัยนั่นก็ไม่น่ามีปัญญาจ่ายค่าอาหารอยู่แล้ว ต้องทำงานพิเศษเพิ่มเพื่อเลี้ยงคนอื่นแบบนี้คงลำบาก‘
’เอาเถอะฉันก็มีจิตใจไม่ได้ใจไม้ขนาดนั้น เอาชัยชนะไปเลยยัยชิวาว่า‘
(F)
“นี่! วิ่งช้าเพราะขาสั้นหรือไงยัยชิวาว่า”
เขาไม่ลืมที่จะกวนประสาทอิจิกะก่อนวิ่งนำไปจนเกือบถึงหน้าประตูโรงเรียนเขาก็หยุดชะงักโดยกะเวลาไว้ว่าอีกไม่นานอิจิกะต้องวิ่งมาถึงนี่แน่ๆ
(3)
“นี่! วิ่งช้าเพราะขาสั้นหรือไงยัยชิวาว่า”
เขาไม่ลืมที่จะกวนประสาทอิจิกะก่อนวิ่งนำไปจนเกือบถึงหน้าประตูโรงเรียนเขาก็หยุดชะงักโดยกะเวลาไว้ว่าอีกไม่นานอิจิกะต้องวิ่งมาถึงนี่แน่ๆ
(3)
‘ฉันอยากให้เธอวิ่งออกไปไม่ต้องหันหลังกลับมามองทางนี้อีกเพราะมันยุ่งยากยังไงล่ะ ยังไงซะ’
‘เธอก็ไม่มีเหตุผลต้องมาจมปรักกับคยที่ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองอย่างฉัน’
2
‘ฉันอยากให้เธอวิ่งออกไปไม่ต้องหันหลังกลับมามองทางนี้อีกเพราะมันยุ่งยากยังไงล่ะ ยังไงซะ’
‘เธอก็ไม่มีเหตุผลต้องมาจมปรักกับคยที่ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองอย่างฉัน’
2
‘เธอเข้าใจสถานะการณ์จริงๆรึเปล่านะอิจิกะ การที่เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายทั้งที่ฉันก็ไม่ได้ชอบใจนัก ทั้งๆที่เธอต้องอดทนอยู่กับความเฮงซวยทั้งหลายแหล่ที่เกิดจากฉัน’
“ทำไมไม่วิ่งหนีแล้วหายไปเลยล่ะ เรื่องง่ายๆแค่นี้เอง ยัยโง่”
(1)
‘เธอเข้าใจสถานะการณ์จริงๆรึเปล่านะอิจิกะ การที่เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายทั้งที่ฉันก็ไม่ได้ชอบใจนัก ทั้งๆที่เธอต้องอดทนอยู่กับความเฮงซวยทั้งหลายแหล่ที่เกิดจากฉัน’
“ทำไมไม่วิ่งหนีแล้วหายไปเลยล่ะ เรื่องง่ายๆแค่นี้เอง ยัยโง่”
(1)
หัวเราะเบาๆเป็นการหนอกล้อเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ คงไม่ดีแน่ถ้ายัยนี่จะซึมจนถึงห้องเรียนเดี๋ยวไม่มีสมาธิเรียนก็มาบ่นเซยะอีก
“เอาแบบนี้ดีกว่าใครถึงโรงเรียนทีหลังต้องเลี้ยงเนื้อย่างคนที่ถึงก่อน เคนะ ฉันให้เธอออกตัวก่อนสามนาทีเลย”
(F)
หัวเราะเบาๆเป็นการหนอกล้อเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ คงไม่ดีแน่ถ้ายัยนี่จะซึมจนถึงห้องเรียนเดี๋ยวไม่มีสมาธิเรียนก็มาบ่นเซยะอีก
“เอาแบบนี้ดีกว่าใครถึงโรงเรียนทีหลังต้องเลี้ยงเนื้อย่างคนที่ถึงก่อน เคนะ ฉันให้เธอออกตัวก่อนสามนาทีเลย”
(F)
“วันนี้หนักเอาเรื่องเลยนะว่ามั้ย แต่เดี๋ยวโฮมุระก็ดีขึ้นเองแหละไม่ต้องห่วงหรอกหน่า”
วางมือบนศีรษะอิจิกะแบบทิ้งน้ำหนักโน้มไปข้างหน้าเพื่อให้เธอก้าวเดินไปข้างหน้า
(2)
“วันนี้หนักเอาเรื่องเลยนะว่ามั้ย แต่เดี๋ยวโฮมุระก็ดีขึ้นเองแหละไม่ต้องห่วงหรอกหน่า”
วางมือบนศีรษะอิจิกะแบบทิ้งน้ำหนักโน้มไปข้างหน้าเพื่อให้เธอก้าวเดินไปข้างหน้า
(2)
เซยะได้แต่มองตามหลังโฮมุระที่หนีขึ้นไปบนห้องสุดท้ายแล้วหมอนั่นก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรหรอกถึงจะร้ายแต่ก็คงขึ้นไปร้องไห้คนเดียวแน่ๆ เซยะยกมือขึ้นดูเวลานี่ก็ใกล้จะสายสุดๆแล้วเขารีบเข้าห้องน้ำที่หน้าห้องมีโปรตีนหกอยู่ แต่เขาก็เลี่ยงที่จะทำความสะอาดแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวไม่เกินห้านาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย
”นี่...ยัยชิวาว่าไปกันได้แล้วจะทำตัวจ๋อยไปถึงไหน“
(1)
“
เซยะได้แต่มองตามหลังโฮมุระที่หนีขึ้นไปบนห้องสุดท้ายแล้วหมอนั่นก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรหรอกถึงจะร้ายแต่ก็คงขึ้นไปร้องไห้คนเดียวแน่ๆ เซยะยกมือขึ้นดูเวลานี่ก็ใกล้จะสายสุดๆแล้วเขารีบเข้าห้องน้ำที่หน้าห้องมีโปรตีนหกอยู่ แต่เขาก็เลี่ยงที่จะทำความสะอาดแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวไม่เกินห้านาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย
”นี่...ยัยชิวาว่าไปกันได้แล้วจะทำตัวจ๋อยไปถึงไหน“
(1)
“
“วันนี้...จะหยุดมั้ยไปเรียนสภาพนี้คนอื่นคงคิดว่านายบ้านเป็นโรงพยาบาลบำบัดจิตพอดี”
โฮมุระดูว่างเปล่าเขาแค่นั่งเงียบๆสักพักนึงแถมท่าทีดูสงบขึ้นจนน่าแปลกใจ
(2)
“วันนี้...จะหยุดมั้ยไปเรียนสภาพนี้คนอื่นคงคิดว่านายบ้านเป็นโรงพยาบาลบำบัดจิตพอดี”
โฮมุระดูว่างเปล่าเขาแค่นั่งเงียบๆสักพักนึงแถมท่าทีดูสงบขึ้นจนน่าแปลกใจ
(2)
ขมวดคิ้วมองโฮมุระด้วยความโกรธแต่ก็พยายามข่มด้วยเหตุผลที่พอจะอ้างได้ อิจิกะไม่ควรโดนคนอย่างหมอนี่ดูถูกอย่างน้อยๆยัยนั่นก็ไม่ใช่คนที่จะเวแสร้งหรือทำตัวง่าย
“ถ้าสมองจะคิดแต่เรื่องพวกนี้ก็อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวด้วย คนทั้งโลกไม่ได้คิดเหมือนแกนะ”
(1)
ขมวดคิ้วมองโฮมุระด้วยความโกรธแต่ก็พยายามข่มด้วยเหตุผลที่พอจะอ้างได้ อิจิกะไม่ควรโดนคนอย่างหมอนี่ดูถูกอย่างน้อยๆยัยนั่นก็ไม่ใช่คนที่จะเวแสร้งหรือทำตัวง่าย
“ถ้าสมองจะคิดแต่เรื่องพวกนี้ก็อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวด้วย คนทั้งโลกไม่ได้คิดเหมือนแกนะ”
(1)
"เธอ...ไม่เป็นไรนะ ช่วยทำเป็นไม่เห็นเรื่องแบบนี้แล้วกันเดี๋ยวฉันชดเชยที่พาไปเรียนสายแล้วก็เรื่องผมเธอให้โอเคนะ"
เสียงเขาฟังดูเหนื่อยเล็กน้อยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้วิ่งมาสองชั่งโมงไม่มีท่าทีจะเหนื่อยเลย
"ฉันขอเวลาแปบนึงช่วยรอหน่อยนะ"
เขาบอกกับอิจิกะก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับโฮมุระก่อนอื่นต้องให้เขาใจเย็นลงก่อน
(F)
"เธอ...ไม่เป็นไรนะ ช่วยทำเป็นไม่เห็นเรื่องแบบนี้แล้วกันเดี๋ยวฉันชดเชยที่พาไปเรียนสายแล้วก็เรื่องผมเธอให้โอเคนะ"
เสียงเขาฟังดูเหนื่อยเล็กน้อยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้วิ่งมาสองชั่งโมงไม่มีท่าทีจะเหนื่อยเลย
"ฉันขอเวลาแปบนึงช่วยรอหน่อยนะ"
เขาบอกกับอิจิกะก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับโฮมุระก่อนอื่นต้องให้เขาใจเย็นลงก่อน
(F)
เซยะที่เอาตัวบังอิจิกะไว้ก็จับโฮมุระไว้แล้วบีบแก้มทั้งสองข้างด้วยมือเดียวเพื่อให้โฮมุระหยุดอาละวาด
"ฉันรู้ว่ามันแย่ที่ฝันร้ายแต่ถ้าไม่ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ฉันจะจับนายโยนลงน้ำให้หัวเย็นลงซะหน่อย เอาไง"
สายตาเฉียบคมมองโฮมุระอย่างเด็ดขาดถ้าหากโฮมุระยังคงแผงฤทธิ์ต่อล่ะคงจบที่น้ำเย็นในอ่างทั้งๆแบบนี้แน่
(1)
เซยะที่เอาตัวบังอิจิกะไว้ก็จับโฮมุระไว้แล้วบีบแก้มทั้งสองข้างด้วยมือเดียวเพื่อให้โฮมุระหยุดอาละวาด
"ฉันรู้ว่ามันแย่ที่ฝันร้ายแต่ถ้าไม่ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ฉันจะจับนายโยนลงน้ำให้หัวเย็นลงซะหน่อย เอาไง"
สายตาเฉียบคมมองโฮมุระอย่างเด็ดขาดถ้าหากโฮมุระยังคงแผงฤทธิ์ต่อล่ะคงจบที่น้ำเย็นในอ่างทั้งๆแบบนี้แน่
(1)
ถึงจะพยายามรักษาความเยือกเย็นนี้ไว้ได้ดีขนาดไหนแต่ภายในใจเขาก็รู้ดีว่าการเข้าชมรมเดียงกันมันแค่หายนะเริ่มต้นเท่านั้น
“ไอ้เวรเอ้ย แค่เรื่องชมรมก็ทำให้ฉันมีปัญหาได้นะ แต่จะบอกบางอย่างสักหน่อย อย่าคิดว่าตัวเองจะเหนือกว่าไปได้ตลอดนะ”
ถึงจะพยายามรักษาความเยือกเย็นนี้ไว้ได้ดีขนาดไหนแต่ภายในใจเขาก็รู้ดีว่าการเข้าชมรมเดียงกันมันแค่หายนะเริ่มต้นเท่านั้น
“ไอ้เวรเอ้ย แค่เรื่องชมรมก็ทำให้ฉันมีปัญหาได้นะ แต่จะบอกบางอย่างสักหน่อย อย่าคิดว่าตัวเองจะเหนือกว่าไปได้ตลอดนะ”