表覚・結珠留 | Uwasa Yuzuru🍊
ปี 2 ห้อง L | ชมรมคิวโด🏹
Docc :: http://bit.ly/427GuGW ✨
CO/ROLE/DM : 24/7
ลุกพร่วดขึ้นมาแถมพูดเองเอ่อเองเสร็จสรรพ
“งั้นไหนไปกันดีล่ะ~”
“เอ่อ..เธอ—?”
ใช่…ลืมไปเลยว่าไม่รู้จักอีกฝ่าย 💦
ลุกพร่วดขึ้นมาแถมพูดเองเอ่อเองเสร็จสรรพ
“งั้นไหนไปกันดีล่ะ~”
“เอ่อ..เธอ—?”
ใช่…ลืมไปเลยว่าไม่รู้จักอีกฝ่าย 💦
น้ำเสียงของคนที่เข้ามาทักดูไม่คุ้นเคยสำหรับเขา ทั้งๆ ที่น่าจะเคยเจอกันที่บูธในงานวัฒนธรรมแล้วแท้ๆ กระนั้นยูซุรุก็ยิ้มร่าให้กับอีกฝ่ายอยู่ดี แล้วคำทักทายอะไรล่ะนั่นน่ะ..
“อ้ะ!! ใช่ อ่านหนังสือ ลืมไปเลย“
”ผมว่าจะเดินไปกินข้าวนี่นา“
…พูดไม่รู้เรื่องเลยสักนิดแถมประโยคก็ไม่เชื่อมกัน ขอโทษนะ 🥹
น้ำเสียงของคนที่เข้ามาทักดูไม่คุ้นเคยสำหรับเขา ทั้งๆ ที่น่าจะเคยเจอกันที่บูธในงานวัฒนธรรมแล้วแท้ๆ กระนั้นยูซุรุก็ยิ้มร่าให้กับอีกฝ่ายอยู่ดี แล้วคำทักทายอะไรล่ะนั่นน่ะ..
“อ้ะ!! ใช่ อ่านหนังสือ ลืมไปเลย“
”ผมว่าจะเดินไปกินข้าวนี่นา“
…พูดไม่รู้เรื่องเลยสักนิดแถมประโยคก็ไม่เชื่อมกัน ขอโทษนะ 🥹
โยกหัวไปมา ดูแล้วสดใสจริงๆ นั่นแหละ
“ฟังนะๆ~ พอออกมาก็ไม่รู้ล่ะครับว่าออกมาทำไม“
”ไม่มีที่ไปซะแล้วครับ 😞“
โยกหัวไปมา ดูแล้วสดใสจริงๆ นั่นแหละ
“ฟังนะๆ~ พอออกมาก็ไม่รู้ล่ะครับว่าออกมาทำไม“
”ไม่มีที่ไปซะแล้วครับ 😞“
เขาเงยหน้าขึ้น(ไม่)มอง ใช่- เจ้าตัวเป็นพวกหลับตาตลอดเวลาจึงทำแค่เงยหน้าเฉยๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง หงอนบนหัวดุ๊กดิ๊กไปมา ✨
“อื๋อ~?”
เอียงคอ เหมือนจะถามว่าอะไรหรอแหละ ดูไม่ว่าที่โดนจิ้มแก้มเลย ดีดกว่าเดิมด้วยซ้ำ ฮี่ๆ
เขาเงยหน้าขึ้น(ไม่)มอง ใช่- เจ้าตัวเป็นพวกหลับตาตลอดเวลาจึงทำแค่เงยหน้าเฉยๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง หงอนบนหัวดุ๊กดิ๊กไปมา ✨
“อื๋อ~?”
เอียงคอ เหมือนจะถามว่าอะไรหรอแหละ ดูไม่ว่าที่โดนจิ้มแก้มเลย ดีดกว่าเดิมด้วยซ้ำ ฮี่ๆ
…
“หวังว่าจะได้เจอนะ เอย์ชินคุง”
เขาเอ่ยเรียกชื่อของอีกฝ่ายแล้วโบกมือให้ตาม ร่างสูงยิ้มกว้างสดใสก่อนจะกลับตัวเดินเข้าไปในเขตโรงเรียน ก็นะ เขาอยู่หอนี่นา
(ฝั่งนี้น่าจะจบแค่นี้ค่าาาา ขอบคุณที่มาโรลกันนะคะ ✨)
…
“หวังว่าจะได้เจอนะ เอย์ชินคุง”
เขาเอ่ยเรียกชื่อของอีกฝ่ายแล้วโบกมือให้ตาม ร่างสูงยิ้มกว้างสดใสก่อนจะกลับตัวเดินเข้าไปในเขตโรงเรียน ก็นะ เขาอยู่หอนี่นา
(ฝั่งนี้น่าจะจบแค่นี้ค่าาาา ขอบคุณที่มาโรลกันนะคะ ✨)
เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ เอียงคอราวกับมองหน้าอีกคนอยู่เช่นนั้นแต่ก็เหมือนเดิม คุณไม่เห็นดวงตาเขาเปิดเช่นเคย
“เช้าแล้วอันตรายนะครับ~”
มือหนากำช้าๆ พลางส่ายหัวแล้วเดินนำลงไปโดยไม่ได้จับมือจูงแบบขาขึ้น อีกฝ่ายคงไม่อยากจับล่ะมั้ง คิดแบบนั้น สุดท้ายก็นำลงมาส่งที่เดิม..ที่ถนนหน้าโรงเรียน ไม่ว่าคุณจะตามลงมาหรือไม่แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ต้องเดินลงมาตรงนี้อยู่ดี
เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ เอียงคอราวกับมองหน้าอีกคนอยู่เช่นนั้นแต่ก็เหมือนเดิม คุณไม่เห็นดวงตาเขาเปิดเช่นเคย
“เช้าแล้วอันตรายนะครับ~”
มือหนากำช้าๆ พลางส่ายหัวแล้วเดินนำลงไปโดยไม่ได้จับมือจูงแบบขาขึ้น อีกฝ่ายคงไม่อยากจับล่ะมั้ง คิดแบบนั้น สุดท้ายก็นำลงมาส่งที่เดิม..ที่ถนนหน้าโรงเรียน ไม่ว่าคุณจะตามลงมาหรือไม่แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ต้องเดินลงมาตรงนี้อยู่ดี
เขากลับเย้าแหย่มันกลับไป มือเอื้อมไปที่ต้นคอของอีกฝ่าย สัมผัสมันแค่บริเวณนิ้วโป้งและโคนนิ้วชี้เท่านั้น
“ว่าไปนั่น.. มาเถอะ”
“ให้ผมนำทางเธอกลับนะครับ”
รอยยิ้มกดลึก เขาผละมือออกมา ยื่นไปหาอีกฝ่ายเช่นเคย
แต่…
กลับไม่น่าไว้ใจเหมือนที่เคยเช่นกัน
[ 3…2..]
[2…]
เสียงลมพัดคลับคล้ายจะกระซิบบางอย่าง ราวกับมาจากข้างหลังของคนๆ นี้..
เขากลับเย้าแหย่มันกลับไป มือเอื้อมไปที่ต้นคอของอีกฝ่าย สัมผัสมันแค่บริเวณนิ้วโป้งและโคนนิ้วชี้เท่านั้น
“ว่าไปนั่น.. มาเถอะ”
“ให้ผมนำทางเธอกลับนะครับ”
รอยยิ้มกดลึก เขาผละมือออกมา ยื่นไปหาอีกฝ่ายเช่นเคย
แต่…
กลับไม่น่าไว้ใจเหมือนที่เคยเช่นกัน
[ 3…2..]
[2…]
เสียงลมพัดคลับคล้ายจะกระซิบบางอย่าง ราวกับมาจากข้างหลังของคนๆ นี้..
“ยังอยากอยู่ต่อมั้ยครับ”
“กลับ ต อ น นี้ ก็ยังทันนะ”
“ที่นี่น่ะ~”
“ยังอยากอยู่ต่อมั้ยครับ”
“กลับ ต อ น นี้ ก็ยังทันนะ”
“ที่นี่น่ะ~”
เสียงของลมแผวเบาคลอเคลียกับเส้นผมที่อีกคนยกมือขึ้นมาทัดมันไว้ข้างหูชวนจั๊กจี้สำหรับเขาเล็กน้อย ชายหนุ่มรู้สึกถึงสายตาที่จ้องตรงมาอยู่เสมอตั้งแต่เริ่มบทสนทนา จนสายตานั่นละไปจ้องทิวทัศน์เขาก็หัวเราะออกมา
“ฟุฟุ-”
ดวงตานั้นยังคงปิดสนิทแม้ใบหน้าจะหันไปมองสิ่งงดงามเบื้องล่าง กลับกล่าวว่ามันสวยเหนือคณานับ โดยไม่รู้ว่าเป็นความจริงใจหรือโป้ปด คุณรู้รึป่าวล่ะ
(+)
เสียงของลมแผวเบาคลอเคลียกับเส้นผมที่อีกคนยกมือขึ้นมาทัดมันไว้ข้างหูชวนจั๊กจี้สำหรับเขาเล็กน้อย ชายหนุ่มรู้สึกถึงสายตาที่จ้องตรงมาอยู่เสมอตั้งแต่เริ่มบทสนทนา จนสายตานั่นละไปจ้องทิวทัศน์เขาก็หัวเราะออกมา
“ฟุฟุ-”
ดวงตานั้นยังคงปิดสนิทแม้ใบหน้าจะหันไปมองสิ่งงดงามเบื้องล่าง กลับกล่าวว่ามันสวยเหนือคณานับ โดยไม่รู้ว่าเป็นความจริงใจหรือโป้ปด คุณรู้รึป่าวล่ะ
(+)
”หืม~ เธอพูดถึงอะไรงั้นหรอ“
เสี้ยวหน้าหันมา ดวงตาปิดมิดสนิท เขากล่าวเลี่ยงคำชมแฝงนัยยะนั้นไป รู้ตัวอีกทีก็เดินตัดผ่านพงไพรลาดชัน ทันเวลาที่ดวงอาทิตย์เกือบลับขอบฟ้าพร้อมทั้งทิวทัศน์ที่เหมือนจะเห็นได้หมดทั้งเกาะอย่างไรอย่างนั้น
“สวยดีเนอะ~”
”หืม~ เธอพูดถึงอะไรงั้นหรอ“
เสี้ยวหน้าหันมา ดวงตาปิดมิดสนิท เขากล่าวเลี่ยงคำชมแฝงนัยยะนั้นไป รู้ตัวอีกทีก็เดินตัดผ่านพงไพรลาดชัน ทันเวลาที่ดวงอาทิตย์เกือบลับขอบฟ้าพร้อมทั้งทิวทัศน์ที่เหมือนจะเห็นได้หมดทั้งเกาะอย่างไรอย่างนั้น
“สวยดีเนอะ~”
เสียงฮัมเพลงแผ่วเบาเรียกความสนใจของเด็กหนุ่มไว้ได้ เขาเดินตรงไปหาต้นตอของเสียงด้วยความสนอกสนใจ รู้ตัวอีกทีก็ไปอยู่ข้างหลังอีกฝ่ายเสียแล้ว
“ทิวาสวัสดิ์ครับ ✨”
เขาเอนตัวอ้อมไปข้างหน้าเล็กน้อยหวังให้อีกคนสังเกตเห็นเขา แต่จะว่าโผล่ปุบปับก็ได้ ส่วนคำทักทายนั้น อืม เกือบถูกแหละมั้ง แค่เกือบ! นี่น่าจะเย็นแล้วนะ!!?
เสียงฮัมเพลงแผ่วเบาเรียกความสนใจของเด็กหนุ่มไว้ได้ เขาเดินตรงไปหาต้นตอของเสียงด้วยความสนอกสนใจ รู้ตัวอีกทีก็ไปอยู่ข้างหลังอีกฝ่ายเสียแล้ว
“ทิวาสวัสดิ์ครับ ✨”
เขาเอนตัวอ้อมไปข้างหน้าเล็กน้อยหวังให้อีกคนสังเกตเห็นเขา แต่จะว่าโผล่ปุบปับก็ได้ ส่วนคำทักทายนั้น อืม เกือบถูกแหละมั้ง แค่เกือบ! นี่น่าจะเย็นแล้วนะ!!?
ดวงตาที่ปิดอยู่กลับค่อยๆ เปิดขึ้นมา ไร้แววตา ไม่มีเศษเสี้ยวของรอยยิ้มภายในนั้น ต่างจากริมฝีปากที่ยกยิ้มอยู่อย่างเห็นได้ชัด
สีน้ำตาลราวกับเปลือกไม้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานของดวงอาทิตย์อัสดง ไม่นานมันก็ปิดลง
“ไปเลยกันมั้ย~”
ดวงตาที่ปิดอยู่กลับค่อยๆ เปิดขึ้นมา ไร้แววตา ไม่มีเศษเสี้ยวของรอยยิ้มภายในนั้น ต่างจากริมฝีปากที่ยกยิ้มอยู่อย่างเห็นได้ชัด
สีน้ำตาลราวกับเปลือกไม้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานของดวงอาทิตย์อัสดง ไม่นานมันก็ปิดลง
“ไปเลยกันมั้ย~”
เขาขยับกระชับมือของอีกฝ่ายเล็กน้อย เสียงหัวเราะใสดังขึ้นเบาๆ คลอไปกับเสียงของลมเย็นที่พัดผ่าน
“เธอกล้าพูดถึงมันตรงๆ เลยหรอเนี่ย แปลกคน”
พูดแบบนั้นแต่จริงๆ เขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่พูดถึงมันได้อย่างไม่หลบเลี่ยงเช่นกัน
(+)
เขาขยับกระชับมือของอีกฝ่ายเล็กน้อย เสียงหัวเราะใสดังขึ้นเบาๆ คลอไปกับเสียงของลมเย็นที่พัดผ่าน
“เธอกล้าพูดถึงมันตรงๆ เลยหรอเนี่ย แปลกคน”
พูดแบบนั้นแต่จริงๆ เขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่พูดถึงมันได้อย่างไม่หลบเลี่ยงเช่นกัน
(+)