3年K組 | Kyudo club | เนียนรู้จักได้ยกเว้นปี 1
Doc : https://shorturl.at/aZNAE
#THK_commu only ˋ°•*⁀➷
(โดนโลกชนรับสงกรานต์ หายไปแตะหญ้า)
“งั้นไปแล้วดีกว่า ถ้าคิดถึงกันก็มาสอนห้องผมบ้างนะ”
พูดทั้งที่รู้ว่าโอกาสเกิดขึ้นเป็นไปได้น้อยมาก
แต่ก็เดินไปเก็บบัตรโดยไม่ค้อมหัวลาผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว
“งั้นไปแล้วดีกว่า ถ้าคิดถึงกันก็มาสอนห้องผมบ้างนะ”
พูดทั้งที่รู้ว่าโอกาสเกิดขึ้นเป็นไปได้น้อยมาก
แต่ก็เดินไปเก็บบัตรโดยไม่ค้อมหัวลาผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว
"—กับได้ข้าวฟรี เพราะเงินสำคัญมากสำหรับผม"
เหมือนเด็กนักเรียนโดยเฉลี่ยที่ไม่ได่ตั้งใจเรียนมากมาย แต่รายนี้เล่นพูดให้อาจารย์ฟังแบบไร้ยางอายสุด ๆ
และอาจารย์รู้อยู่แล้วว่ายัยเด็กนี่ขยันหาเงินแค่ไหน
"ผมเห็นบัตรอยู่ตรงนู้น เดินไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว"
ชี้ ๆ ให้ดูตรงอาคารเรียนเก่า
"—กับได้ข้าวฟรี เพราะเงินสำคัญมากสำหรับผม"
เหมือนเด็กนักเรียนโดยเฉลี่ยที่ไม่ได่ตั้งใจเรียนมากมาย แต่รายนี้เล่นพูดให้อาจารย์ฟังแบบไร้ยางอายสุด ๆ
และอาจารย์รู้อยู่แล้วว่ายัยเด็กนี่ขยันหาเงินแค่ไหน
"ผมเห็นบัตรอยู่ตรงนู้น เดินไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว"
ชี้ ๆ ให้ดูตรงอาคารเรียนเก่า
ทวนชื่อกับตนเอง เรียกอีกฝ่ายตามนี้เนี่ยแหละ
"คาริยูกิ อุเมะฟุมิ"
"ขอให้หาบัตรเจอเร็ว ๆ แล้วกัน จำจุดที่เจอไว้ด้วยเผื่อปีหน้ามันโผล่มาที่เดิม"
ทิ้งท้ายแค่นั้นโดยไม่เอ่ยคำอำลา เพียงแค่เดินกลับอาคารเรียนเมื่ออีกฝ่ายแยกตัวออกไป
ทวนชื่อกับตนเอง เรียกอีกฝ่ายตามนี้เนี่ยแหละ
"คาริยูกิ อุเมะฟุมิ"
"ขอให้หาบัตรเจอเร็ว ๆ แล้วกัน จำจุดที่เจอไว้ด้วยเผื่อปีหน้ามันโผล่มาที่เดิม"
ทิ้งท้ายแค่นั้นโดยไม่เอ่ยคำอำลา เพียงแค่เดินกลับอาคารเรียนเมื่ออีกฝ่ายแยกตัวออกไป
ผงกหน้าแบบขอไปทีเมื่อถูกเตือนให้ระวังบาดเจ็บ อย่างเธอไม่พลาดหรอกน่า
แต่อย่างน้อยก็รับความหวังดีของผู้เป็นอาจารย์ไว้
“หายแล้วต้องเสียค่าทำบัตรใหม่นี่ ผมไม่ยอมให้มันเอาไปแน่”
“ว่าแต่อาจารย์ไม่มีงานทำเหรอ? รอคาบบ่ายอย่างเดียวเลย?”
ผงกหน้าแบบขอไปทีเมื่อถูกเตือนให้ระวังบาดเจ็บ อย่างเธอไม่พลาดหรอกน่า
แต่อย่างน้อยก็รับความหวังดีของผู้เป็นอาจารย์ไว้
“หายแล้วต้องเสียค่าทำบัตรใหม่นี่ ผมไม่ยอมให้มันเอาไปแน่”
“ว่าแต่อาจารย์ไม่มีงานทำเหรอ? รอคาบบ่ายอย่างเดียวเลย?”
“อาจารย์ชิราเบะนี่เอง ต้องแข็งแรงถึงจะได้ทำพาร์ทไทม์ไหวไง”
สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องเหนือศีรษะ จึงเอามือปัดใบไม้ออกขณะที่ใบหน้ายังประดับรอยยิ้ม ไร้แววสำนึกผิดที่เล่นซนปีนต้นไม้
“แล้วทำไมบัตรบุคลากรไม่โดนเล่นเหมือนบัตรนักเรียนบ้างล่ะ?”
แกล้งถามไปงั้นมากกว่าจะบ่นระบบการจัดการของโรงเรียน
“อาจารย์ชิราเบะนี่เอง ต้องแข็งแรงถึงจะได้ทำพาร์ทไทม์ไหวไง”
สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องเหนือศีรษะ จึงเอามือปัดใบไม้ออกขณะที่ใบหน้ายังประดับรอยยิ้ม ไร้แววสำนึกผิดที่เล่นซนปีนต้นไม้
“แล้วทำไมบัตรบุคลากรไม่โดนเล่นเหมือนบัตรนักเรียนบ้างล่ะ?”
แกล้งถามไปงั้นมากกว่าจะบ่นระบบการจัดการของโรงเรียน
“ไว้ว่ากันเมื่อถึงวันนั้นเนอะ กลับห้องเรียนก่อนคาบบ่ายด้วย”
พูดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายยิ่งกว่าใครหน้าไหน
อุเมะฟุมิค่อย ๆ เบนสายตา สองเท้าก้าวเดินออกมาจากพื้นที่ของอีกฝ่าย ไร้คำอำลาหรือการโบกมือให้แบบมิตรสหาย
แค่เพียงรู้ว่า ไม่ช้าก็เร็วคงได้เจอกันอีก
“ไว้ว่ากันเมื่อถึงวันนั้นเนอะ กลับห้องเรียนก่อนคาบบ่ายด้วย”
พูดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายยิ่งกว่าใครหน้าไหน
อุเมะฟุมิค่อย ๆ เบนสายตา สองเท้าก้าวเดินออกมาจากพื้นที่ของอีกฝ่าย ไร้คำอำลาหรือการโบกมือให้แบบมิตรสหาย
แค่เพียงรู้ว่า ไม่ช้าก็เร็วคงได้เจอกันอีก
“เสร็จธุระผมแล้ว ต่อไปก็…หาบัตรนาย? หรือหาเองสะดวกกว่า?”
เหมือนถามเพื่อความแน่ใจว่าต้องการให้ช่วยเหลือแน่ไหม หรือแยกย้ายแต่เพียงเท่านี้
“ว่าไปยังไม่รู้จักชื่อเลย เรียนอยู่ปีไหนล่ะ?”
คงยากที่จะได้เจอกันอีกครั้ง แต่ถามไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไร
“เสร็จธุระผมแล้ว ต่อไปก็…หาบัตรนาย? หรือหาเองสะดวกกว่า?”
เหมือนถามเพื่อความแน่ใจว่าต้องการให้ช่วยเหลือแน่ไหม หรือแยกย้ายแต่เพียงเท่านี้
“ว่าไปยังไม่รู้จักชื่อเลย เรียนอยู่ปีไหนล่ะ?”
คงยากที่จะได้เจอกันอีกครั้ง แต่ถามไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไร
ราวกับกำลังถามว่า ในฐานข้อมูลที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา มีเอกสารใดบ้างที่อนุญาตให้คนนอกเข้าถึงได้
แม้ว่าเขาจะเลือกทางไหน เธอก็ทำได้เพียงยอมรับการตัดสินใจโดยไม่ก้าวก่ายอยู่ดีน่ะนะ
ราวกับกำลังถามว่า ในฐานข้อมูลที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา มีเอกสารใดบ้างที่อนุญาตให้คนนอกเข้าถึงได้
แม้ว่าเขาจะเลือกทางไหน เธอก็ทำได้เพียงยอมรับการตัดสินใจโดยไม่ก้าวก่ายอยู่ดีน่ะนะ
ไม่ได้ติเตียน ไม่ได้ชื่นชม เพียงบันทึกไว้ในหัวเผื่ออีกฝ่ายมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ทว่าบุรุษที่มีตัวตนและแนวคิดแข็งแกร่งดุจหินผา จะเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืนก็แปลกกระไร
“งั้นผมย้ายตำแหน่งเลยดีกว่า ไม่รบกวนเวลาอันมีค่าของนายแล้ว”
รับรู้ถึงน้ำหนักปากกาที่จรดลงหน้ากระดาษ เด็กสาวยิ้มโดยไร้กังวลแม้ไม่ทราบข้อมูลที่ถูกเขียน
ไม่ได้ติเตียน ไม่ได้ชื่นชม เพียงบันทึกไว้ในหัวเผื่ออีกฝ่ายมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ทว่าบุรุษที่มีตัวตนและแนวคิดแข็งแกร่งดุจหินผา จะเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืนก็แปลกกระไร
“งั้นผมย้ายตำแหน่งเลยดีกว่า ไม่รบกวนเวลาอันมีค่าของนายแล้ว”
รับรู้ถึงน้ำหนักปากกาที่จรดลงหน้ากระดาษ เด็กสาวยิ้มโดยไร้กังวลแม้ไม่ทราบข้อมูลที่ถูกเขียน
ยังเดินต่อโดยไม่หันกลับมามอง
“ต้องปีนขึ้นไปเองอยู่แล้ว จริง ๆ ก็น่าจะมีหลายคนไปเล่นซนแถวนั้นนะ”
ถึงจะบอกว่าเล่นซน แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วก็ดูจะไม่ใส่ใจนักหากอาจารย์จับได้
เธอพูดแค่ตอนที่อีกฝ่ายถามคำถาม ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดที่เห็นบัตรตัวเองตกอยู่ ก้มเก็บมันพลางคิดในใจว่า หากนี่ไม่ใช่บัตรตัวเองขึ้นมาคงขายหน้ารุ่นน้องแย่
ยังเดินต่อโดยไม่หันกลับมามอง
“ต้องปีนขึ้นไปเองอยู่แล้ว จริง ๆ ก็น่าจะมีหลายคนไปเล่นซนแถวนั้นนะ”
ถึงจะบอกว่าเล่นซน แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วก็ดูจะไม่ใส่ใจนักหากอาจารย์จับได้
เธอพูดแค่ตอนที่อีกฝ่ายถามคำถาม ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดที่เห็นบัตรตัวเองตกอยู่ ก้มเก็บมันพลางคิดในใจว่า หากนี่ไม่ใช่บัตรตัวเองขึ้นมาคงขายหน้ารุ่นน้องแย่
อธิบายเสริมซึ่งชวนสับสนกว่าเดิมมากกว่าจะไขกระจ่าง
"ถ้าไม่ชอบดูผู้คนเดินกันขวักไขว่ ลงมาหาเองก็สนุกกว่าจริงแหละ..."
ตรวจสอบว่าเนื้อตัวสะอาดดีแล้วค่อยตอบคำถามอีกฝ่าย
"ถ้าสนใจก็ตามมาสิ อาจจะเจอบัตรนายแถวนั้นก็ได้"
ไม่ยอมให้เสียเวลา เธอเดินนำไปหาจุดหมายพลางกวักมือเรียกนาย ด้วยความยาวขาแค่นั้น จัดว่าเป็นเด็กที่เดินเร็วพอควรเลย
อธิบายเสริมซึ่งชวนสับสนกว่าเดิมมากกว่าจะไขกระจ่าง
"ถ้าไม่ชอบดูผู้คนเดินกันขวักไขว่ ลงมาหาเองก็สนุกกว่าจริงแหละ..."
ตรวจสอบว่าเนื้อตัวสะอาดดีแล้วค่อยตอบคำถามอีกฝ่าย
"ถ้าสนใจก็ตามมาสิ อาจจะเจอบัตรนายแถวนั้นก็ได้"
ไม่ยอมให้เสียเวลา เธอเดินนำไปหาจุดหมายพลางกวักมือเรียกนาย ด้วยความยาวขาแค่นั้น จัดว่าเป็นเด็กที่เดินเร็วพอควรเลย
ตอบแบบไม่สะทกสะท้านกับคำถาม เพียงแค่เอ่ยสิ่งที่คิดดออกไปโดยไร้ความเท็จเจือปน
ตอบแบบไม่สะทกสะท้านกับคำถาม เพียงแค่เอ่ยสิ่งที่คิดดออกไปโดยไร้ความเท็จเจือปน
สิ่งที่ควรปรากฏไม่เพียงถูกพบเพราะมีคนค้นหา แต่สิ่งนั้นเป็นฝ่ายเริ่มเผยตัวให้เห็นเสียก่อน อะไรทำนองนั้นกระมัง
"ว้า- โดนถามกลับจนได้สิ"
อุทานราวกับคนถูกจับไต๋ ซึ่งหากมองลึกลงไปมันก็เป็นเพียงการแสดงให้บทสนทนาพอมีรสชาติแค่นั้น
สิ่งที่ควรปรากฏไม่เพียงถูกพบเพราะมีคนค้นหา แต่สิ่งนั้นเป็นฝ่ายเริ่มเผยตัวให้เห็นเสียก่อน อะไรทำนองนั้นกระมัง
"ว้า- โดนถามกลับจนได้สิ"
อุทานราวกับคนถูกจับไต๋ ซึ่งหากมองลึกลงไปมันก็เป็นเพียงการแสดงให้บทสนทนาพอมีรสชาติแค่นั้น
"จากต้นแปะก๊วยนี่ไปถึงอาคารเรียนไม่น่าถึงกิโลนะ"
เดินอย่างไรก็คงใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีแน่ ๆ
"แต่ถ้าจะตามมาผมก็ไม่ขัดอะไร"
กล่าวเพียงแค่นั้น เธอหมุนตัวเดินไปยังจุดหมาย จะตามมาไหมคงต้องให้อีกฝ่ายตัดสินใจ
"จากต้นแปะก๊วยนี่ไปถึงอาคารเรียนไม่น่าถึงกิโลนะ"
เดินอย่างไรก็คงใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีแน่ ๆ
"แต่ถ้าจะตามมาผมก็ไม่ขัดอะไร"
กล่าวเพียงแค่นั้น เธอหมุนตัวเดินไปยังจุดหมาย จะตามมาไหมคงต้องให้อีกฝ่ายตัดสินใจ
เออออตามคำชมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนดูตลก แม้กระทั่งท่าปัดใบไม้ยังแฝงออร่าแปลกพิกล เมื่อคำนึงว่าสาวตัวเล็กแบบเธอกระทำการปีนต้นไม้อย่างคนกล้าบ้าบิ่น
"หน้าไม่คุ้นแฮะ พยายามหาเองคนเดียวอยู่ล่ะสิ"
"ถ้าให้ช่วยจริง ๆ ก็พอแบ่งเวลาได้หรอก แต่ต้องเป็นหลังจากที่ผมเก็บบัตรตัวเองตรงนู้น"
เงยหน้ามองอีกฝ่ายจนคอแทบหักเพราะความต่างของส่วนสูง
เออออตามคำชมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนดูตลก แม้กระทั่งท่าปัดใบไม้ยังแฝงออร่าแปลกพิกล เมื่อคำนึงว่าสาวตัวเล็กแบบเธอกระทำการปีนต้นไม้อย่างคนกล้าบ้าบิ่น
"หน้าไม่คุ้นแฮะ พยายามหาเองคนเดียวอยู่ล่ะสิ"
"ถ้าให้ช่วยจริง ๆ ก็พอแบ่งเวลาได้หรอก แต่ต้องเป็นหลังจากที่ผมเก็บบัตรตัวเองตรงนู้น"
เงยหน้ามองอีกฝ่ายจนคอแทบหักเพราะความต่างของส่วนสูง
"ม่า— แต่เวลาแบบนี้ก็ใช้เป็นบทเรียน ได้ในหลาย ๆ ความหมายอะนะ"
เหมือนที่ชายตรงหน้าต้องออกมายืนพร้อมสมุดคู่ใจ แอบคิดว่าเขาหมกมุ่นกับแผนการและความเป็นไปได้จนผิดมนุษย์มนา
เธอเก็บบัตรลงกระเป๋า สายตาจับจ้องไปทางทิศที่คู่สนทนามอง ความสงสัยแสดงออกผ่านสีหน้าเล็กน้อย
"ถ้างั้น...เสร็จจากตรงนี้จะทำอะไรต่อ?"
"ม่า— แต่เวลาแบบนี้ก็ใช้เป็นบทเรียน ได้ในหลาย ๆ ความหมายอะนะ"
เหมือนที่ชายตรงหน้าต้องออกมายืนพร้อมสมุดคู่ใจ แอบคิดว่าเขาหมกมุ่นกับแผนการและความเป็นไปได้จนผิดมนุษย์มนา
เธอเก็บบัตรลงกระเป๋า สายตาจับจ้องไปทางทิศที่คู่สนทนามอง ความสงสัยแสดงออกผ่านสีหน้าเล็กน้อย
"ถ้างั้น...เสร็จจากตรงนี้จะทำอะไรต่อ?"
ยังทำตัวชิล ๆ ทั้งที่ถูกเตือนว่าอาจมีคนเก็บบัตรไปก่อน
ตัวอาคารอยู่ในระยะที่ตาเปล่ามองเห็น มาถึงจุดนี้เธอไม่ยอมให้ใครชิงตัดหน้าแน่
"งั้นก็ไว้เจอกันที่ห้องเรียนล่ะ~"
โบกมือลาพอเป็นพิธี ก่อนหันตัวเดินไปทางจุดที่ตั้งเป้าหมายไว้แต่แรก
ถึงจะคุยกันแค่สั้น ๆ แต่พวกเขายังต้องเรียนห้องเดียวกันอีก 1 ปี เดี๋ยวก็ได้เห็นหน้ากันจนเป็นกิจวัตรเองแหละ
ยังทำตัวชิล ๆ ทั้งที่ถูกเตือนว่าอาจมีคนเก็บบัตรไปก่อน
ตัวอาคารอยู่ในระยะที่ตาเปล่ามองเห็น มาถึงจุดนี้เธอไม่ยอมให้ใครชิงตัดหน้าแน่
"งั้นก็ไว้เจอกันที่ห้องเรียนล่ะ~"
โบกมือลาพอเป็นพิธี ก่อนหันตัวเดินไปทางจุดที่ตั้งเป้าหมายไว้แต่แรก
ถึงจะคุยกันแค่สั้น ๆ แต่พวกเขายังต้องเรียนห้องเดียวกันอีก 1 ปี เดี๋ยวก็ได้เห็นหน้ากันจนเป็นกิจวัตรเองแหละ