Doc : https://bit.ly/4l0GTUe
“ไปกันเถอะ” แล้วก็เดินเคียงข้างกันเหมือนเดิม
ไม่มีใครพูดถึงเงาในห้องน้ำ
หรือเสียงฝีเท้าที่ไม่ควรจะมี
พอแสงแดดยามเย็นกระทบข้างแก้ม ชิรุฮะก็หลุบตามองพื้นเบา ๆ
อุ่นดี…
เธอคิดแบบนั้น
ก่อนจะเหลือบมองเพื่อนข้างตัวอีกครั้ง
บางที แค่มีคนที่เดินไปด้วยกันได้แบบนี้…
ก็อาจไม่ต้องกลัวอะไรนักหรอก
“ไปกันเถอะ” แล้วก็เดินเคียงข้างกันเหมือนเดิม
ไม่มีใครพูดถึงเงาในห้องน้ำ
หรือเสียงฝีเท้าที่ไม่ควรจะมี
พอแสงแดดยามเย็นกระทบข้างแก้ม ชิรุฮะก็หลุบตามองพื้นเบา ๆ
อุ่นดี…
เธอคิดแบบนั้น
ก่อนจะเหลือบมองเพื่อนข้างตัวอีกครั้ง
บางที แค่มีคนที่เดินไปด้วยกันได้แบบนี้…
ก็อาจไม่ต้องกลัวอะไรนักหรอก
หญิงสาวสูดลมหายใจสั้น ๆ แทน
“อยากเดินเล่นด้วยกันไหม”
เพราะเราอยู่ตรงนี้มานานเกินไปแล้ว
หรือไม่อยากคุยเรื่องนั้นสักพักกัน?
“แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ“
เธอว่าแบบนั้น
และยิ้มให้เขาไป
หญิงสาวสูดลมหายใจสั้น ๆ แทน
“อยากเดินเล่นด้วยกันไหม”
เพราะเราอยู่ตรงนี้มานานเกินไปแล้ว
หรือไม่อยากคุยเรื่องนั้นสักพักกัน?
“แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ“
เธอว่าแบบนั้น
และยิ้มให้เขาไป
“สร้างใหม่ได้ แต่ก็แทนของเดิมไม่ได้นี่ ฉันไม่ชอบเรื่องที่หลุดมือไปเท่าไหร่น่ะ”
“เคย์จังเคยกลัวอะไรแบบนั้นไหม?”
เธอหลับตาลงขณะพูด
เหมือนตั้งใจจะปิดประตูความลังเลระหว่างนั้นให้เงียบลงเพียงชั่วครู่
“กลัวว่าถ้ารู้เรื่องหนึ่งขึ้นมาแล้ว ชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีก”
+
“สร้างใหม่ได้ แต่ก็แทนของเดิมไม่ได้นี่ ฉันไม่ชอบเรื่องที่หลุดมือไปเท่าไหร่น่ะ”
“เคย์จังเคยกลัวอะไรแบบนั้นไหม?”
เธอหลับตาลงขณะพูด
เหมือนตั้งใจจะปิดประตูความลังเลระหว่างนั้นให้เงียบลงเพียงชั่วครู่
“กลัวว่าถ้ารู้เรื่องหนึ่งขึ้นมาแล้ว ชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีก”
+
หรืออาจแค่ยืนยันว่า ‘ทุกอย่างยังเหมือนเดิม’
เธอเลื่อนสายตากลับมาคุณ ลมเย็นบางเบาจากช่องระบายอากาศวันนี้ดูพัดลงมาใกล้เกินกว่าที่ควรเป็น
เธอไม่ได้พูดอะไร แค่ขยับถอยเล็กน้อย มาพิงผนังด้านข้างของซิงก์แทน
“งั้น—ฉันรอแถวนี้นะ”
หรืออาจแค่ยืนยันว่า ‘ทุกอย่างยังเหมือนเดิม’
เธอเลื่อนสายตากลับมาคุณ ลมเย็นบางเบาจากช่องระบายอากาศวันนี้ดูพัดลงมาใกล้เกินกว่าที่ควรเป็น
เธอไม่ได้พูดอะไร แค่ขยับถอยเล็กน้อย มาพิงผนังด้านข้างของซิงก์แทน
“งั้น—ฉันรอแถวนี้นะ”
ขณะมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้ดูสะอาดเอี่ยมเหมือนเดิม ท่าทางกระตือรือร้นกลับมาแล้ว ทำให้เธอรู้สึกเบาใจขึ้นอย่างประหลาด
จนกระทั่งอีกฝ่ายเตรียมจะหมุนตัวกลับเข้าไปเปลี่ยนชุด เสียงของเธอก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ถ้าให้เลือกระหว่างไทยากิกับไดฟุกุ…”
เธอเว้นช่วงไว้เล็กน้อย ยกปลายนิ้วแตะคาง ราวกับกำลังคิดจริงจัง
“ไดฟุกุของร้านนั้น ไส้ถั่วแดงเค็มหวานพอดีเลยนะ”
+
ขณะมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้ดูสะอาดเอี่ยมเหมือนเดิม ท่าทางกระตือรือร้นกลับมาแล้ว ทำให้เธอรู้สึกเบาใจขึ้นอย่างประหลาด
จนกระทั่งอีกฝ่ายเตรียมจะหมุนตัวกลับเข้าไปเปลี่ยนชุด เสียงของเธอก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ถ้าให้เลือกระหว่างไทยากิกับไดฟุกุ…”
เธอเว้นช่วงไว้เล็กน้อย ยกปลายนิ้วแตะคาง ราวกับกำลังคิดจริงจัง
“ไดฟุกุของร้านนั้น ไส้ถั่วแดงเค็มหวานพอดีเลยนะ”
+
เจ้าตัวลอบมองรอยยิ้มของเขาอีกครั้ง
มันดูอบอุ่นกว่าที่ควรจะได้รับจากคนแปลกหน้าหรือเปล่า
.
.
ไม่หรอก คงจะปกติล่ะมั้ง—?
เจ้าตัวลอบมองรอยยิ้มของเขาอีกครั้ง
มันดูอบอุ่นกว่าที่ควรจะได้รับจากคนแปลกหน้าหรือเปล่า
.
.
ไม่หรอก คงจะปกติล่ะมั้ง—?
เธอตอบหลังจากเว้นช่วงสั้น ๆ น้ำเสียงไม่แข็ง แต่ก็ไม่ถึงกับอ่อนโยน เป็นจังหวะของคนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรวางใจหรือไม่
“เมื่อกี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังทำหน้าตาแบบไหนตอนเอื้อมไปหยิบน่ะค่ะ”
“แต่ก็…ไม่ได้ตั้งใจจะให้ใครต้องเป็นห่วงหรอก”
คำพูดเหมือนพยายามปกป้องตัวเอง
ทั้งที่จริงก็รู้ดี ว่าถ้าเขาไม่ทัก อาจจะยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นก็ได้
+
เธอตอบหลังจากเว้นช่วงสั้น ๆ น้ำเสียงไม่แข็ง แต่ก็ไม่ถึงกับอ่อนโยน เป็นจังหวะของคนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรวางใจหรือไม่
“เมื่อกี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังทำหน้าตาแบบไหนตอนเอื้อมไปหยิบน่ะค่ะ”
“แต่ก็…ไม่ได้ตั้งใจจะให้ใครต้องเป็นห่วงหรอก”
คำพูดเหมือนพยายามปกป้องตัวเอง
ทั้งที่จริงก็รู้ดี ว่าถ้าเขาไม่ทัก อาจจะยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นก็ได้
+