”ยูจังชอบของคาวใช่ไหม?“
ถึงลิ้นจะชาแต่ก็ยังพูดจ้อออกมาโเยไม่สะดุด
”กินเนื้อเยอะๆ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ~! มีคำพูดอะไรทำนองนี้ด้วยล่ะ“
โอ๊ะ จะถึงเวลาดอกไม้ไฟเสียแล้วสิ
”ต้องรีบแล้วนะ ไปกันยูจัง“
”ยูจังชอบของคาวใช่ไหม?“
ถึงลิ้นจะชาแต่ก็ยังพูดจ้อออกมาโเยไม่สะดุด
”กินเนื้อเยอะๆ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ~! มีคำพูดอะไรทำนองนี้ด้วยล่ะ“
โอ๊ะ จะถึงเวลาดอกไม้ไฟเสียแล้วสิ
”ต้องรีบแล้วนะ ไปกันยูจัง“
งับทาโกะยากิที่อีกฝ่ายถืออยู่อย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เป่าก่อน
“อ่ะ..อั่ก! ร้อนๆๆๆๆ”
เป่าลมร้อนออกจากปาก ดั่ง ฟู่วๆ
“ฮือ..ลืมเป่าอ่ะ”
“เพื่อเป็นการตอบแทน นายลองกินเครปอันนี้ไหม ใส่วิปครีมท้อปปิ้งด้วยสตอวเบอร์รี่หวานฉ่ำด้วยนะ“
เอ่ยชวนทั้งน้ำตา
งับทาโกะยากิที่อีกฝ่ายถืออยู่อย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เป่าก่อน
“อ่ะ..อั่ก! ร้อนๆๆๆๆ”
เป่าลมร้อนออกจากปาก ดั่ง ฟู่วๆ
“ฮือ..ลืมเป่าอ่ะ”
“เพื่อเป็นการตอบแทน นายลองกินเครปอันนี้ไหม ใส่วิปครีมท้อปปิ้งด้วยสตอวเบอร์รี่หวานฉ่ำด้วยนะ“
เอ่ยชวนทั้งน้ำตา
ทำปากยู่แล้วถูมือไปมาสร้างความอบอุ่น
“หัวเราะแบบนั้นโคจังไม่กลัวหรอ”
พอนึกถึงบทสนทนาเมื่อครุ่กับไฟที่ดับลงหลายนาทีก็ชวนขนลุกขนพองไม่น้อยเลย
หยึ๋ย~
“อือ..อยากกลับไปซุกผ้าห่มที่บ้านเลยแฮะ”
ทำปากยู่แล้วถูมือไปมาสร้างความอบอุ่น
“หัวเราะแบบนั้นโคจังไม่กลัวหรอ”
พอนึกถึงบทสนทนาเมื่อครุ่กับไฟที่ดับลงหลายนาทีก็ชวนขนลุกขนพองไม่น้อยเลย
หยึ๋ย~
“อือ..อยากกลับไปซุกผ้าห่มที่บ้านเลยแฮะ”
พูดจบก็ไท่รอช้า พารุ่นน้องที่น่ารักเดินตะลุยซุ้มของกินด้วยความตื่นเต้น
แม้ว่าของที่วางขายจะเป็นพวกที่สามารถหาทานได้ในเมืองเขาก็ยังมีความสุขอยู่ดี
“ยูจังชอบของหวานไหม? หรือว่าเป็นสายของคาวกัน แต่แบบไหนก็อร่อยเหมือนกันแหละนะ”
“กินเยอะๆ โตไวๆ”
กล่าวอย่างมีความสุขก็นจะงับดังโงะชุ่มซอสเข้าปากเคี้ยวตุ้ย
พูดจบก็ไท่รอช้า พารุ่นน้องที่น่ารักเดินตะลุยซุ้มของกินด้วยความตื่นเต้น
แม้ว่าของที่วางขายจะเป็นพวกที่สามารถหาทานได้ในเมืองเขาก็ยังมีความสุขอยู่ดี
“ยูจังชอบของหวานไหม? หรือว่าเป็นสายของคาวกัน แต่แบบไหนก็อร่อยเหมือนกันแหละนะ”
“กินเยอะๆ โตไวๆ”
กล่าวอย่างมีความสุขก็นจะงับดังโงะชุ่มซอสเข้าปากเคี้ยวตุ้ย
กลัวว่าตัวเองจะเป็นบ้าไปอีก..
“ไปดูดอกไม้ไฟกันนะอิคจัง”
กระชับข้อมือให้แน่นขึ้นแล้วนำหน้าไปยังจุดชมดอกไม้ไฟ
เดินจับมือกันแบบนี้พาให้นึกถึงอดีตที่แสนสนุกสนานได้มากเลยทีเดียว
ช่างน่าคิดถึง
กลัวว่าตัวเองจะเป็นบ้าไปอีก..
“ไปดูดอกไม้ไฟกันนะอิคจัง”
กระชับข้อมือให้แน่นขึ้นแล้วนำหน้าไปยังจุดชมดอกไม้ไฟ
เดินจับมือกันแบบนี้พาให้นึกถึงอดีตที่แสนสนุกสนานได้มากเลยทีเดียว
ช่างน่าคิดถึง
“ไปสิ!”
หัวใจฟูฟ่องด้วยความยินดี ราวกับส่วนหนึ่งในสิ่งที่คอยกดทับหายไปบ้าง ซายูไม่รู้ว่ามันดีหรือเปล่า…แต่การที่เราทั้งสองจะได้กลับมาสนิทใจกันก็เป็นเรื่องที่ซายูต้องการมากที่สุด
พรึ่บ
ไฟทั่วทั้งงานกลับมาคิดดั่งเดิม เวลาราว 3 นาทีในความมืดรวดเร็วจนหมือนครึ่งนาที
“ไปสิ!”
หัวใจฟูฟ่องด้วยความยินดี ราวกับส่วนหนึ่งในสิ่งที่คอยกดทับหายไปบ้าง ซายูไม่รู้ว่ามันดีหรือเปล่า…แต่การที่เราทั้งสองจะได้กลับมาสนิทใจกันก็เป็นเรื่องที่ซายูต้องการมากที่สุด
พรึ่บ
ไฟทั่วทั้งงานกลับมาคิดดั่งเดิม เวลาราว 3 นาทีในความมืดรวดเร็วจนหมือนครึ่งนาที
“หือ..อ อื้อ อุ่นขึ้นมานิดหน่อย”
ไอความอุ่นน้อยๆ ค่อยจางหายไปเพียงไม่กี่พริบตา ก่อนที่จะลองทำบ้างแล้วประกบมืออีกฝ่ายเลียนแบบที่เธอทำเมื่อกี้อย่างไม่คิดอะไร
”ขอบคุณนะโคจัง“
อันที่จริงเป็นคนใส่ใจคนอื่นสินะ
”แต่ว่าเรื่องคุณวิญญาณน่ะ..อย่าทักดีกว่านะ..”
ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นจะประสงค์ดีไหมน่ะสิ…ถึงอาจจะไม่มีจริงก็เถอะ..มั้ง
“หือ..อ อื้อ อุ่นขึ้นมานิดหน่อย”
ไอความอุ่นน้อยๆ ค่อยจางหายไปเพียงไม่กี่พริบตา ก่อนที่จะลองทำบ้างแล้วประกบมืออีกฝ่ายเลียนแบบที่เธอทำเมื่อกี้อย่างไม่คิดอะไร
”ขอบคุณนะโคจัง“
อันที่จริงเป็นคนใส่ใจคนอื่นสินะ
”แต่ว่าเรื่องคุณวิญญาณน่ะ..อย่าทักดีกว่านะ..”
ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นจะประสงค์ดีไหมน่ะสิ…ถึงอาจจะไม่มีจริงก็เถอะ..มั้ง
“อันที่จริงฉันก็เป็นอดีตคนในชมรมไปแล้วล่ะนะ” หัวเราะเบาๆพร้อมเกาแก้ม
“แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็น่ารักมาก เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอก ฉันว่าทุกคนต้องดีใจแน่ถ้ายูจังแวะไปน่ะ”
ซายูลูบหัวรุ่นน้องตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
“ต่อจากนี้จะไปรวมตัวกับเพื่อนหรือเปล่าหรือจะไปกันต่อไหนๆ ก็เจอกันทั้งที”
“อันที่จริงฉันก็เป็นอดีตคนในชมรมไปแล้วล่ะนะ” หัวเราะเบาๆพร้อมเกาแก้ม
“แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็น่ารักมาก เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอก ฉันว่าทุกคนต้องดีใจแน่ถ้ายูจังแวะไปน่ะ”
ซายูลูบหัวรุ่นน้องตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
“ต่อจากนี้จะไปรวมตัวกับเพื่อนหรือเปล่าหรือจะไปกันต่อไหนๆ ก็เจอกันทั้งที”
ถ้าลองนึกถึงดูแล้วถ้าเกิดอีกฝ่ายเป็นคนดีจะให้ตกใจกลัวหรือขับไล่ก็ทำไม่ลงหรอก
“ ว่าแต่มือฉันเย็นขนาดนั้นเลยหรอ เคยได้ยินว่าคนมืออุ่นจะนวดขนมปังอร่อย.. แต่เราเองก็ฝีมือใช้ได้นะ… ? “
ในระหว่างที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไฟทุกดวงก็กลับมาทำงานตามปกติ แสงจันทร์ที่เหมือนลับหายไปกับต่นไม้กลับโผล่มาอีกครั้ง
“ ยูจัง..พรุ่งนี้ไปห้องชมรมคหกรรมกันไหม ”
ถ้าลองนึกถึงดูแล้วถ้าเกิดอีกฝ่ายเป็นคนดีจะให้ตกใจกลัวหรือขับไล่ก็ทำไม่ลงหรอก
“ ว่าแต่มือฉันเย็นขนาดนั้นเลยหรอ เคยได้ยินว่าคนมืออุ่นจะนวดขนมปังอร่อย.. แต่เราเองก็ฝีมือใช้ได้นะ… ? “
ในระหว่างที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไฟทุกดวงก็กลับมาทำงานตามปกติ แสงจันทร์ที่เหมือนลับหายไปกับต่นไม้กลับโผล่มาอีกครั้ง
“ ยูจัง..พรุ่งนี้ไปห้องชมรมคหกรรมกันไหม ”
เสียงครางตอบในลำคอแผ่วออกมาเบาๆ
มือกว้างคว้านจับข้อมือของหญิงสาวไว้อย่างหลวมๆ ราวกับกลัวว่าเธอจะเจ็บ แม่จะรู้ดีว่าเธอเป็นคนที่มีความอดทนมากแค่ไหนก็ตาม
ในตอนที่นึกออกถึงผิวสัมผัสของหน้ากากพลาสติกสีขาวที่สัมผัสได้เมื่อกี้มืออีกข้างก็กระตุก… ความรู้สึกผิดถาโถม แต่เขาไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวพูดอะไรทำได้แค่เม้มริมฝีปากไว้แน่น
“ มาเดินงานเหมือนกันหรอ ? ”
เสียงครางตอบในลำคอแผ่วออกมาเบาๆ
มือกว้างคว้านจับข้อมือของหญิงสาวไว้อย่างหลวมๆ ราวกับกลัวว่าเธอจะเจ็บ แม่จะรู้ดีว่าเธอเป็นคนที่มีความอดทนมากแค่ไหนก็ตาม
ในตอนที่นึกออกถึงผิวสัมผัสของหน้ากากพลาสติกสีขาวที่สัมผัสได้เมื่อกี้มืออีกข้างก็กระตุก… ความรู้สึกผิดถาโถม แต่เขาไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวพูดอะไรทำได้แค่เม้มริมฝีปากไว้แน่น
“ มาเดินงานเหมือนกันหรอ ? ”
การที่อีกฝ่ายเลือกจับชายแขนเสื้อของเขายิ่งทำให้ซายูยิ่งเอ็นดูรุ่นน้องคนนี้จนพยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองหลุดขำเพราะกลังจะไปทำให้ฝ่ายนั้นอายเข้า
“รู้ไหมว่าคุณผีดีๆ ก็มีนะถึงจะไม่เคยเห็นคุณผีจริงๆ เลยก็เถอะ“
พูดก็พูดไป อันที่จริงเขาเองก็กลัวเหมือนกันนั่นแหละแค่ไม่อยากให้รุ่นน้องต้องขวัญกระเจิงในเวลาแบบนี้
”ถ้าอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้ก็คงจะดีเนอะ“
การที่อีกฝ่ายเลือกจับชายแขนเสื้อของเขายิ่งทำให้ซายูยิ่งเอ็นดูรุ่นน้องคนนี้จนพยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองหลุดขำเพราะกลังจะไปทำให้ฝ่ายนั้นอายเข้า
“รู้ไหมว่าคุณผีดีๆ ก็มีนะถึงจะไม่เคยเห็นคุณผีจริงๆ เลยก็เถอะ“
พูดก็พูดไป อันที่จริงเขาเองก็กลัวเหมือนกันนั่นแหละแค่ไม่อยากให้รุ่นน้องต้องขวัญกระเจิงในเวลาแบบนี้
”ถ้าอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้ก็คงจะดีเนอะ“
“ขอโทษนะ.. เอ่อ.. ไม่คิดว่าจะเป็นเธอ”
ความกระอักกระอ่วนคละคลุ้งแม้จะมองไม่เห็นซึ่งกันและกัน
“แต่ก็ดีแล้วล่ะ…“
ความกระอักกระอ่วนเปลี่ยนเป็นความโล่งใจ.. อย่างน้อยๆ เธอก็ยังปลอดภัยดี
“ขอโทษนะ.. เอ่อ.. ไม่คิดว่าจะเป็นเธอ”
ความกระอักกระอ่วนคละคลุ้งแม้จะมองไม่เห็นซึ่งกันและกัน
“แต่ก็ดีแล้วล่ะ…“
ความกระอักกระอ่วนเปลี่ยนเป็นความโล่งใจ.. อย่างน้อยๆ เธอก็ยังปลอดภัยดี
“ ห้ามพูดแบบนั้นนะโคจัง! ถ้าเกิดคุณผีรู้ว่าเราทัก เขาจะเข้ามาหาเรานะ ”
แค่นึกถึงก็ขนลุกแล้ว…
“พอไม่มีไฟแล้วรู้สึกหนาวขึ้นมาเลยเนอะ..”
พูดพลางพนมมือในความมืดเหมือนพยายามสวดมนต์ในใจ
“ ห้ามพูดแบบนั้นนะโคจัง! ถ้าเกิดคุณผีรู้ว่าเราทัก เขาจะเข้ามาหาเรานะ ”
แค่นึกถึงก็ขนลุกแล้ว…
“พอไม่มีไฟแล้วรู้สึกหนาวขึ้นมาเลยเนอะ..”
พูดพลางพนมมือในความมืดเหมือนพยายามสวดมนต์ในใจ
ใครโดนเรียกว่าผีก็คงหูลู่หูตกเหมือนซามอยตัวใหญ่ตรงนี้นี่แหละ
“ผ..ผีน่ะไม่มาที่คนเยอะๆ หรอก..ใช่มั้ย?”
เขาถามคำถามกลับทั้งที่ยังประคองใบหน้าของหญิงสาวไว้อยู่
ใครโดนเรียกว่าผีก็คงหูลู่หูตกเหมือนซามอยตัวใหญ่ตรงนี้นี่แหละ
“ผ..ผีน่ะไม่มาที่คนเยอะๆ หรอก..ใช่มั้ย?”
เขาถามคำถามกลับทั้งที่ยังประคองใบหน้าของหญิงสาวไว้อยู่
กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจพร้อมกำชับมือให้แน่นจนเหงื่อชื้น ซายูไม่มีเซนท์แต่เขากลับรู้สึกไม่ค่อยดีกับเหตุการณ์แบบนี้เสียเท่าไหร่นัก บางทีมันก็ชวนให้นึกถึงห้องมืด..
“ ที่มืดแบบนี้อันตราย ถ้าแค่ไฟดับเฉย ๆ ก็คงจะดี.. ”
เมื่อกล่าวจบไฟทั่วบริเวณก็กลับมาสว่างตามเดิม
“ ฟ..ไฟกลับมาแล้วแฮะ! ซื้ออะไรกินก่อนไปดูดอกไม้ไฟไหม? ”
กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจพร้อมกำชับมือให้แน่นจนเหงื่อชื้น ซายูไม่มีเซนท์แต่เขากลับรู้สึกไม่ค่อยดีกับเหตุการณ์แบบนี้เสียเท่าไหร่นัก บางทีมันก็ชวนให้นึกถึงห้องมืด..
“ ที่มืดแบบนี้อันตราย ถ้าแค่ไฟดับเฉย ๆ ก็คงจะดี.. ”
เมื่อกล่าวจบไฟทั่วบริเวณก็กลับมาสว่างตามเดิม
“ ฟ..ไฟกลับมาแล้วแฮะ! ซื้ออะไรกินก่อนไปดูดอกไม้ไฟไหม? ”
“ ย..ยูจัง ”
“ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ ”
ภายใต้ความมืดมิดไม่มีแม้แต่จันทร์ส่อง จะตกใจก็ไม่แปลก แต่เขาก็ยังเอื้อมมือไปคว้าแขนของอรกฝ่ายไว้อยู่ดี
“ จะหลงไม่ได้ ที่มืดอันตราย ”
“ ย..ยูจัง ”
“ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ ”
ภายใต้ความมืดมิดไม่มีแม้แต่จันทร์ส่อง จะตกใจก็ไม่แปลก แต่เขาก็ยังเอื้อมมือไปคว้าแขนของอรกฝ่ายไว้อยู่ดี
“ จะหลงไม่ได้ ที่มืดอันตราย ”
“เอริจังด้วยนะ เราอย่าพึ่งเดินไปไหนดีกว่า..”
ซายูที่ไม่รับรู้อะไรพยายามมองขึ้นบนท้องฟ้าแต่ไม่พบอะไรผิดปกติ
“ปกติแสงดาวมันมืดแบบนี้เลยหรอ”
“คนเยอะด้วย จับมือกันไว้นะ”
เขากำชับมือของอีกฝ่ายไว้แน่นราวกับกลัวว่าคนข้างๆ จะหายไปไหน
“เอริจังด้วยนะ เราอย่าพึ่งเดินไปไหนดีกว่า..”
ซายูที่ไม่รับรู้อะไรพยายามมองขึ้นบนท้องฟ้าแต่ไม่พบอะไรผิดปกติ
“ปกติแสงดาวมันมืดแบบนี้เลยหรอ”
“คนเยอะด้วย จับมือกันไว้นะ”
เขากำชับมือของอีกฝ่ายไว้แน่นราวกับกลัวว่าคนข้างๆ จะหายไปไหน