#THK_Commu
คาร์เจี๊ยบขี้กลัว
Doc: bit.ly/noa_thk
เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย มองตรงไปยังกระดาษทันซาคุในมือหญิงสาว ก่อนจะเสนอขึ้น
"แต่ก่อนที่เราจะไปเดินหาของอร่อยกัน… เราเอาคำอธิษฐานไปแขวนกันก่อนดีไหมครับ? ไหนๆก็ตั้งใจจะมากันแล้ว"
เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย มองตรงไปยังกระดาษทันซาคุในมือหญิงสาว ก่อนจะเสนอขึ้น
"แต่ก่อนที่เราจะไปเดินหาของอร่อยกัน… เราเอาคำอธิษฐานไปแขวนกันก่อนดีไหมครับ? ไหนๆก็ตั้งใจจะมากันแล้ว"
“คือ…ตอนแรกที่ผมเดินชนคุณ ผมรู้สึกไม่ดีเลยน่ะครับ กลัวว่าจะทำให้คุณอารมณ์เสีย แล้วคุณยัง…อุตส่าห์ใจดี ไม่ถือสา แถมยังชวนผมมาแขวนคำอธิษฐานตรงนี้อีก"
เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับยูอิแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบหลุบตาลงอีกครั้ง
"สำหรับผม…มันก็เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณแล้วล่ะครับ"
+
“คือ…ตอนแรกที่ผมเดินชนคุณ ผมรู้สึกไม่ดีเลยน่ะครับ กลัวว่าจะทำให้คุณอารมณ์เสีย แล้วคุณยัง…อุตส่าห์ใจดี ไม่ถือสา แถมยังชวนผมมาแขวนคำอธิษฐานตรงนี้อีก"
เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับยูอิแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบหลุบตาลงอีกครั้ง
"สำหรับผม…มันก็เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณแล้วล่ะครับ"
+
"อ่า… ครับ ไปเดินเล่นกัน" เขารีบตอบรับ พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเธอ
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะทันได้เคลื่อนย้ายไปไหน แววตาของโนอาก็เหลือบไปเห็นกระดาษคำอธิษฐานในมือของคิริซากิและของตัวเองที่ยังไม่ได้แขวน
“คือว่า เรื่องตอบแทนน่ะครับ…”
+
"อ่า… ครับ ไปเดินเล่นกัน" เขารีบตอบรับ พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเธอ
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะทันได้เคลื่อนย้ายไปไหน แววตาของโนอาก็เหลือบไปเห็นกระดาษคำอธิษฐานในมือของคิริซากิและของตัวเองที่ยังไม่ได้แขวน
“คือว่า เรื่องตอบแทนน่ะครับ…”
+
เด็กหนุ่มเหลือบมองใบหน้าของยูอิอีกครั้งอย่างลังเล ก่อนจะรวบรวมความกล้าเอ่ยถามออกไป
"เอ่อ… แล้วยูอิซังมากับเพื่อนๆ หรือว่ามาคนเดียวเหรอครับ?"
"ถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมอยากเลี้ยงตอบแทนคุณสักเล็กน้อย"
เด็กหนุ่มเหลือบมองใบหน้าของยูอิอีกครั้งอย่างลังเล ก่อนจะรวบรวมความกล้าเอ่ยถามออกไป
"เอ่อ… แล้วยูอิซังมากับเพื่อนๆ หรือว่ามาคนเดียวเหรอครับ?"
"ถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมอยากเลี้ยงตอบแทนคุณสักเล็กน้อย"
"จะเรียกแค่ยูอิก็ได้ค่ะ"
สังเกตุท่าที่ประหม่าของอีกฝ่าย บางทีอาจจะเป็นเพราะบุคลิกของเจ้าตัวรึเปล่านะ
ยืนคิดแต่ระหว่างที่ทั้งสองมาหยุดอยู่ในจุดที่ผู้คนเบาบางถึงได้หันไปสบตากับคนข้างๆตัวอีกครั้ง
"ว่าแต่ ทางนั้นได้เดินเล่นในงานดูรึยังคะ"
"น่าจะมีของอร่อยๆขายอยู่เพียบเลย"
"จะเรียกแค่ยูอิก็ได้ค่ะ"
สังเกตุท่าที่ประหม่าของอีกฝ่าย บางทีอาจจะเป็นเพราะบุคลิกของเจ้าตัวรึเปล่านะ
ยืนคิดแต่ระหว่างที่ทั้งสองมาหยุดอยู่ในจุดที่ผู้คนเบาบางถึงได้หันไปสบตากับคนข้างๆตัวอีกครั้ง
"ว่าแต่ ทางนั้นได้เดินเล่นในงานดูรึยังคะ"
"น่าจะมีของอร่อยๆขายอยู่เพียบเลย"
"ครับ ฝ ฝากตัวด้วย...” โนอาเอ่ยตอบรับชื่อของเธอ ดวงตาสีเขียวใบหลิวมองใบหน้าของเด็กสาวตรงหน้าแวบหนึ่งก่อนจะหลุบลงมองพื้นตามความเคยชิน
”ย..ยูอิซัง" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความเก้อเขินเล็กน้อยเมื่อต้องเรียกชื่อเล่นของคนที่เพิ่งรู้จักกัน
พอได้ยินคำถามเรื่องร้านขายของ ร่างโปร่งก็ส่ายหน้าเบาๆ
+
"ครับ ฝ ฝากตัวด้วย...” โนอาเอ่ยตอบรับชื่อของเธอ ดวงตาสีเขียวใบหลิวมองใบหน้าของเด็กสาวตรงหน้าแวบหนึ่งก่อนจะหลุบลงมองพื้นตามความเคยชิน
”ย..ยูอิซัง" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความเก้อเขินเล็กน้อยเมื่อต้องเรียกชื่อเล่นของคนที่เพิ่งรู้จักกัน
พอได้ยินคำถามเรื่องร้านขายของ ร่างโปร่งก็ส่ายหน้าเบาๆ
+
"ว่าแต่.. คุณชื่ออะไรเหรอครับ?” ผม ฮิมุโระ โนอา ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" เขาแนะนำตัวเอง พยายามสบตาอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตรแม้จะรู้สึกประหม่าอยู่บ้างก็ตาม
"ว่าแต่.. คุณชื่ออะไรเหรอครับ?” ผม ฮิมุโระ โนอา ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" เขาแนะนำตัวเอง พยายามสบตาอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตรแม้จะรู้สึกประหม่าอยู่บ้างก็ตาม
เจ้าของร่างโปร่งขยับตัวเล็กน้อย เปิดทางให้อีกฝ่ายก่อนจะผายมือไปทางแนวต้นไผ่ที่ดูเงียบสงบกว่า "ทางนั้นไหมครับ?"
+
เจ้าของร่างโปร่งขยับตัวเล็กน้อย เปิดทางให้อีกฝ่ายก่อนจะผายมือไปทางแนวต้นไผ่ที่ดูเงียบสงบกว่า "ทางนั้นไหมครับ?"
+
ท่าทีของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนกำลังมองหาสถานที่สำหรับแขวนกระดาษขอพรอยู่ เขาจึงผินหน้าไปทางแนวต้นไผ่ที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ซึ่งดูจะมีผู้คนบางตากว่าบริเวณนี้
"ตรงนั้น… คนน่าจะน้อยกว่านะครับ"
ท่าทีของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนกำลังมองหาสถานที่สำหรับแขวนกระดาษขอพรอยู่ เขาจึงผินหน้าไปทางแนวต้นไผ่ที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ซึ่งดูจะมีผู้คนบางตากว่าบริเวณนี้
"ตรงนั้น… คนน่าจะน้อยกว่านะครับ"
ท่ามกลางแสงสลัวจากโคมไฟกระดาษสีส้มที่ห้อยระย้าเป็นทิวแถว เสียงจอแจของผู้คนดังเคล้าคลอไปกับเสียงลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านใบไผ่ซึ่งประดับประดาด้วยกระดาษคำอธิษฐานหลากสีสัน
ร่างโปร่งของฮิมุโระ โนอาที่กำลังเหม่อมองแสงไฟนั้นเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อยจากการชนเข้ากับใครบางคนอย่างไม่ทันตั้งตัว
"อ๊ะ.. ขอโทษครับ ไม่ทันได้มองทางเลย"
+
ท่ามกลางแสงสลัวจากโคมไฟกระดาษสีส้มที่ห้อยระย้าเป็นทิวแถว เสียงจอแจของผู้คนดังเคล้าคลอไปกับเสียงลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านใบไผ่ซึ่งประดับประดาด้วยกระดาษคำอธิษฐานหลากสีสัน
ร่างโปร่งของฮิมุโระ โนอาที่กำลังเหม่อมองแสงไฟนั้นเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อยจากการชนเข้ากับใครบางคนอย่างไม่ทันตั้งตัว
"อ๊ะ.. ขอโทษครับ ไม่ทันได้มองทางเลย"
+
"…ขอให้…ปลอดภัย…"
แววตาหม่นทอประกายวาบอย่างประหลาด ก่อนจะเลือนหายไป เหลือเพียงความเงียบงัน และความมืดมิดที่โอบล้อมกายเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยวอีกครั้ง
——————
(จบคร้าบ ดีใจที่ได้มาโรลด้วยเช่นกันครับ!>< ไว้มาป่วนเซมไปใหม่ ฮี่ๆ~)
"…ขอให้…ปลอดภัย…"
แววตาหม่นทอประกายวาบอย่างประหลาด ก่อนจะเลือนหายไป เหลือเพียงความเงียบงัน และความมืดมิดที่โอบล้อมกายเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยวอีกครั้ง
——————
(จบคร้าบ ดีใจที่ได้มาโรลด้วยเช่นกันครับ!>< ไว้มาป่วนเซมไปใหม่ ฮี่ๆ~)
"ผมก็พักอยู่ที่หอเหมือนกันครับ” เขาเสริมเบาๆ เหลือบมองผู้เป็นรุ่นพี่อีกครั้ง ก่อนจะหลุบลง "ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงครับ…"
…
เด็กหนุ่มมองภาพแผ่นหลังของฮะรุมะ ไคริ ค่อยๆเดินห่างออกไป
ในตอนนั้น ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย เปล่งเสียงพึมพำที่เบาเสียจนแทบไม่ได้ยินออกมา
+
"ผมก็พักอยู่ที่หอเหมือนกันครับ” เขาเสริมเบาๆ เหลือบมองผู้เป็นรุ่นพี่อีกครั้ง ก่อนจะหลุบลง "ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงครับ…"
…
เด็กหนุ่มมองภาพแผ่นหลังของฮะรุมะ ไคริ ค่อยๆเดินห่างออกไป
ในตอนนั้น ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย เปล่งเสียงพึมพำที่เบาเสียจนแทบไม่ได้ยินออกมา
+
ก่อนเขาจะกล่าวต่ออย่างกล้าๆกลัวๆ
"ผม ฮิมุโระ โนอา ครับ… อยู่ปี 2 ห้อง B"
"ถ้าคุณบังเอิญเจอบัตรของผม…รบกวนเก็บไว้ให้ด้วยได้ไหมครับ"
ก่อนเขาจะกล่าวต่ออย่างกล้าๆกลัวๆ
"ผม ฮิมุโระ โนอา ครับ… อยู่ปี 2 ห้อง B"
"ถ้าคุณบังเอิญเจอบัตรของผม…รบกวนเก็บไว้ให้ด้วยได้ไหมครับ"
"เอ่อ… ขอดูบัตรพวกนั้นหน่อยได้ไหมครับ เผื่อจะมีของผมอยู่ในนั้นด้วย" เขาเอ่ยถามเสียงแผ่ว ดวงตาสีหม่นจับจ้องไปยังเหล่าบัตรพลาสติกในมืออีกฝ่ายอย่างมีความหวัง
…
ทว่าหลังจากไล่สายตาดูบัตรทีละใบอย่างละเอียด โนอาก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ
ไม่มี… บัตรของเขาไม่ได้อยู่ในนั้น
+
"เอ่อ… ขอดูบัตรพวกนั้นหน่อยได้ไหมครับ เผื่อจะมีของผมอยู่ในนั้นด้วย" เขาเอ่ยถามเสียงแผ่ว ดวงตาสีหม่นจับจ้องไปยังเหล่าบัตรพลาสติกในมืออีกฝ่ายอย่างมีความหวัง
…
ทว่าหลังจากไล่สายตาดูบัตรทีละใบอย่างละเอียด โนอาก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ
ไม่มี… บัตรของเขาไม่ได้อยู่ในนั้น
+
กระนั้น โนอาก็ยังสังเกตเห็นปลายนิ้วที่สั่นเทาในตอนช่วยกันเก็บบัตรนักเรียนขึ้นมาได้ดี
มันทำให้เขารู้สึก… ไม่โดดเดี่ยวอย่างน่าประหลาด
เมื่อรวบรวมบัตรจนครบ เด็กหนุ่มก็รีบลุกขึ้นยืน เดินตามเพื่อนนักเรียนออกไปจากห้องเก็บของอันอับทึบ อากาศภายนอกและแสงธรรมชาติ ช่วยให้หายใจหายคอสะดวกขึ้นเล็กน้อย
+
กระนั้น โนอาก็ยังสังเกตเห็นปลายนิ้วที่สั่นเทาในตอนช่วยกันเก็บบัตรนักเรียนขึ้นมาได้ดี
มันทำให้เขารู้สึก… ไม่โดดเดี่ยวอย่างน่าประหลาด
เมื่อรวบรวมบัตรจนครบ เด็กหนุ่มก็รีบลุกขึ้นยืน เดินตามเพื่อนนักเรียนออกไปจากห้องเก็บของอันอับทึบ อากาศภายนอกและแสงธรรมชาติ ช่วยให้หายใจหายคอสะดวกขึ้นเล็กน้อย
+
แล้วเชือกป่านเส้นนั้น ก็พลันคลายตัวออกเองอย่างรวดเร็วราวกับอสรพิษ
ปัง
ฝากล่องไม้ดีดเปิดออกเสียงดัง พร้อมกับที่วัตถุเล็กๆนับสิบชิ้นพุ่งกระจายออกมาจากข้างใน ปรากฏบัตรนักเรียนจำนวนมากตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
แล้วเชือกป่านเส้นนั้น ก็พลันคลายตัวออกเองอย่างรวดเร็วราวกับอสรพิษ
ปัง
ฝากล่องไม้ดีดเปิดออกเสียงดัง พร้อมกับที่วัตถุเล็กๆนับสิบชิ้นพุ่งกระจายออกมาจากข้างใน ปรากฏบัตรนักเรียนจำนวนมากตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
และทันใดนั้นเอง
กุกกัก… กุก…
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากข้างในกล่อง มันไม่ใช่เสียงของแข็งกระทบกันธรรมดา หากเป็นเสียงคล้ายมีอะไรบางอย่างกำลังขยับเขยื้อนอย่างเชื่องช้าอยู่ภายใน เด็กหนุ่มใจปลาซิวสะดุ้งเฮือก หัวใจแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
"เมื่อกี้…"
+
และทันใดนั้นเอง
กุกกัก… กุก…
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากข้างในกล่อง มันไม่ใช่เสียงของแข็งกระทบกันธรรมดา หากเป็นเสียงคล้ายมีอะไรบางอย่างกำลังขยับเขยื้อนอย่างเชื่องช้าอยู่ภายใน เด็กหนุ่มใจปลาซิวสะดุ้งเฮือก หัวใจแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
"เมื่อกี้…"
+
เสียงกรรไกรเก่าครูดกับเส้นใยเหนียวดังเป็นจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอ เชือกเส้นนั้นดูแข็งแรงกว่าที่คิด ราวกับไม่ต้องการให้สิ่งใดเข้าไปยุ่งเกี่ยว
+
เสียงกรรไกรเก่าครูดกับเส้นใยเหนียวดังเป็นจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอ เชือกเส้นนั้นดูแข็งแรงกว่าที่คิด ราวกับไม่ต้องการให้สิ่งใดเข้าไปยุ่งเกี่ยว
+
วูบ!
ก่อนที่คมกรรไกรจะได้สัมผัสกับเส้นเชือก แสงไฟในห้องเก็บของก็พลันดับพรึบลงทันที ความมืดมิดเข้าปกคลุมทุกสิ่งอย่างรวดเร็วเหลือเพียงความเงียบงันและกลิ่นอายประหลาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว
(คุณณณ คือผมไม่กล้าตัดอะ55555)
วูบ!
ก่อนที่คมกรรไกรจะได้สัมผัสกับเส้นเชือก แสงไฟในห้องเก็บของก็พลันดับพรึบลงทันที ความมืดมิดเข้าปกคลุมทุกสิ่งอย่างรวดเร็วเหลือเพียงความเงียบงันและกลิ่นอายประหลาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว
(คุณณณ คือผมไม่กล้าตัดอะ55555)
ในที่สุดเขาก็พบกรรไกรเก่าๆ ใบมีดมีคราบสนิมเกาะประปราย
เด็กหนุ่มเดินกลับมาหยุดอยู่หน้ากล่องไม้ใบเดิมอีกครั้ง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มือที่ถือกรรไกรยังคงสั่นเทาเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึก พยายามรวบรวมความกล้า
"จะลองตัดดูนะครับ" เจ้าตัวพูดเสียงเบา เงื้อมือขึ้น เตรียมจะสอดปลายกรรไกรเข้าไปใต้เชือกป่านเส้นนั้น
+
ในที่สุดเขาก็พบกรรไกรเก่าๆ ใบมีดมีคราบสนิมเกาะประปราย
เด็กหนุ่มเดินกลับมาหยุดอยู่หน้ากล่องไม้ใบเดิมอีกครั้ง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มือที่ถือกรรไกรยังคงสั่นเทาเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึก พยายามรวบรวมความกล้า
"จะลองตัดดูนะครับ" เจ้าตัวพูดเสียงเบา เงื้อมือขึ้น เตรียมจะสอดปลายกรรไกรเข้าไปใต้เชือกป่านเส้นนั้น
+
"ถ…แถวชั้นวางตรงนั้นอาจจะมีนะครับ"
เขาชี้มือสั่นๆไปยังมุมห้องที่เต็มไปด้วยของเก่าเก็บ กลิ่นฝุ่นผสมกับความอับชื้นลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศชวนอึดอัด
โนอาเดินเลี่ยงกล่องไม้นั้นไปอย่างระมัดระวัง รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่จับจ้องตามแผ่นหลังมา เขาเม้มริมฝีปากแน่น ความกังวลฉายชัดในแววตาขณะมองหาของมีคมบนชั้นวางเก่า
+
"ถ…แถวชั้นวางตรงนั้นอาจจะมีนะครับ"
เขาชี้มือสั่นๆไปยังมุมห้องที่เต็มไปด้วยของเก่าเก็บ กลิ่นฝุ่นผสมกับความอับชื้นลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศชวนอึดอัด
โนอาเดินเลี่ยงกล่องไม้นั้นไปอย่างระมัดระวัง รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่จับจ้องตามแผ่นหลังมา เขาเม้มริมฝีปากแน่น ความกังวลฉายชัดในแววตาขณะมองหาของมีคมบนชั้นวางเก่า
+
"แต่…มันดูเหมือนจะเปิดไม่ง่ายเลยนะครับ" เขาเอ่ยขึ้น เอื้อมมือไปสัมผัสเชือกอย่างลังเล ปลายนิ้วเย็นเฉียบสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก
มันเหมือนกับ…มีชีวิต
"แต่…มันดูเหมือนจะเปิดไม่ง่ายเลยนะครับ" เขาเอ่ยขึ้น เอื้อมมือไปสัมผัสเชือกอย่างลังเล ปลายนิ้วเย็นเฉียบสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก
มันเหมือนกับ…มีชีวิต