“อ๊ะ…ขอบคุณมากเลยครับ ของผมจริงๆด้วย”
เขายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างยินดีแล้วยื่นมืออกไปรับบัตรที่ยื่นมา
เขาพยายามจะดูเป็นมิตรที่สุดเท่าที่ทำได้เพราะตอนนี้แผลบนหน้าเขาอาจจะทำให้อีกฝ่ายกลัวก็ได้
“ผมนานาเสะ ยูคิจิ ห้อง 1-D ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“อ๊ะ…ขอบคุณมากเลยครับ ของผมจริงๆด้วย”
เขายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างยินดีแล้วยื่นมืออกไปรับบัตรที่ยื่นมา
เขาพยายามจะดูเป็นมิตรที่สุดเท่าที่ทำได้เพราะตอนนี้แผลบนหน้าเขาอาจจะทำให้อีกฝ่ายกลัวก็ได้
“ผมนานาเสะ ยูคิจิ ห้อง 1-D ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“อือ แล้วเจอกันนะครับ”
ก่อนจะเดินไปตามทางเดินที่ตั้งใจในตอนแรก
(คนที่นึกเรื่องคุยไม่ออกน่าจะเป็นผปคนี่แหละค่ะ55555 ขอบคุณนะคะะะ แล้วมาเล่นกันอีกนะคะะะะ)
“อือ แล้วเจอกันนะครับ”
ก่อนจะเดินไปตามทางเดินที่ตั้งใจในตอนแรก
(คนที่นึกเรื่องคุยไม่ออกน่าจะเป็นผปคนี่แหละค่ะ55555 ขอบคุณนะคะะะ แล้วมาเล่นกันอีกนะคะะะะ)
“ชมรมถ่ายภาพ ทางนั้นล่ะครับ”
เขาพูดเว้นจังหวะไปหน่อย รู้สึกเริ่มหมดเรื่องคุยแล้วสิ
“ชมรมถ่ายภาพ ทางนั้นล่ะครับ”
เขาพูดเว้นจังหวะไปหน่อย รู้สึกเริ่มหมดเรื่องคุยแล้วสิ
“จะว่าไปคุณฮิซาเมะอยู่ห้องไหนเหรอครับ?”
เขาเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นพออีกฝ่ายดูจะกังวลเลยถามเรื่องอื่นขึ้นมา
“จะว่าไปคุณฮิซาเมะอยู่ห้องไหนเหรอครับ?”
เขาเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นพออีกฝ่ายดูจะกังวลเลยถามเรื่องอื่นขึ้นมา
เขาชี้ที่ผ้าปิดแผลบนหน้าที่ปิดหน้าเขาไปเกือบครึ่งและดวงตาข้างหนึ่งก็บวมจนเกือบปิด
“ขอโทษนะครับที่ต้องให้เห็นสภาพนี้”
เขายิ้มเจื่อนๆ
เขาชี้ที่ผ้าปิดแผลบนหน้าที่ปิดหน้าเขาไปเกือบครึ่งและดวงตาข้างหนึ่งก็บวมจนเกือบปิด
“ขอโทษนะครับที่ต้องให้เห็นสภาพนี้”
เขายิ้มเจื่อนๆ
“ถ้าไม่รังเกียจ…”
คนที่ดูไม่ค่อยมันใจสองคนมาคุยกันดูอ้ำๆอึ้งๆจนบรรยากาศดูอึดอัด
ยูคิจิดูลอกแลกไปหมดทำตัวไม่ถูก
“อือ…คุณอาจจะจำชื่อผมไม่ได้…ผมนานาเสะ ยูคิจิ อยู่ม.ต้นกับประถมที่เดียวกันน่ะครับ…”
“ถ้าไม่รังเกียจ…”
คนที่ดูไม่ค่อยมันใจสองคนมาคุยกันดูอ้ำๆอึ้งๆจนบรรยากาศดูอึดอัด
ยูคิจิดูลอกแลกไปหมดทำตัวไม่ถูก
“อือ…คุณอาจจะจำชื่อผมไม่ได้…ผมนานาเสะ ยูคิจิ อยู่ม.ต้นกับประถมที่เดียวกันน่ะครับ…”
เขาพยายามโชว์ให้เห็นลายเท้าแมวสีขาวบนกระดาษห่อสีชมพู แล้วยัดใส่มืออีกฝ่ายก่อนจะหลบตายิ้มเก้อๆ
เขาพยายามโชว์ให้เห็นลายเท้าแมวสีขาวบนกระดาษห่อสีชมพู แล้วยัดใส่มืออีกฝ่ายก่อนจะหลบตายิ้มเก้อๆ
เขาลงมานั่งยองๆมองขอที่อีกฝ่ายเก็บใกล้ๆ พร้อมกระพริบตาปริบๆ
“…”
“ชอบลูกอมเหรอครับ?”
เขาควานหาของในกระเป๋ากางเกงก่อนจะยื่นลูกอมในห่อน่ารักให้อีกฝ่าย
“ผมมีอยู่นิดหน่อยแบ่งให้นะครับ”
เขาลงมานั่งยองๆมองขอที่อีกฝ่ายเก็บใกล้ๆ พร้อมกระพริบตาปริบๆ
“…”
“ชอบลูกอมเหรอครับ?”
เขาควานหาของในกระเป๋ากางเกงก่อนจะยื่นลูกอมในห่อน่ารักให้อีกฝ่าย
“ผมมีอยู่นิดหน่อยแบ่งให้นะครับ”
“…”
เดินมาเจอคนที่ก้มลงเก็บอะไรบ้างอย่างที่พื้นอย่างตั้งใจเลยหยุดมอง
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ…?”
“…”
เดินมาเจอคนที่ก้มลงเก็บอะไรบ้างอย่างที่พื้นอย่างตั้งใจเลยหยุดมอง
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ…?”
เขายิ้มพร้อมโค้งขอบคุณและวิ่งหายไปพร้อมต้นอ่อนสีแดงเด้งดึ๋งๆอยู่บนหัว
เขายิ้มพร้อมโค้งขอบคุณและวิ่งหายไปพร้อมต้นอ่อนสีแดงเด้งดึ๋งๆอยู่บนหัว
“งั้นผมขอตัวไปตามหาบัตรก่อน ไว้มีโอกาสแล้วไปเดินชมรอบๆกันนะครับ”
เขายิ้มและโค้งตัวให้ขณะที่พูดขอตัวเพื่อไปทำภาระกิจของคนเองให้เสร็จสิ้น
“งั้นผมขอตัวไปตามหาบัตรก่อน ไว้มีโอกาสแล้วไปเดินชมรอบๆกันนะครับ”
เขายิ้มและโค้งตัวให้ขณะที่พูดขอตัวเพื่อไปทำภาระกิจของคนเองให้เสร็จสิ้น
“ผมเกิดที่เกาะนี้ครับ”
เขายิ้มให้อย่างจริงใจและดูผ่อนคลายลงหลังจากเสียงรบกวนหายไป
“ถ้าไม่รังเกียจหลังจากนี้ให้ผมพาขมรอบๆได้นะครับ”
เขายิ้มจนตาหยีจนเหมือนจะมีแสงระยิบระยับออกมาทั้งที่มีผ้าก๊อสปิดแผลบังอยู่1ใน4ของใบหน้าก็ตาม ดูเป็นบรรยากาศที่ขัดกันอย่างไรไม่รู้
“ผมเกิดที่เกาะนี้ครับ”
เขายิ้มให้อย่างจริงใจและดูผ่อนคลายลงหลังจากเสียงรบกวนหายไป
“ถ้าไม่รังเกียจหลังจากนี้ให้ผมพาขมรอบๆได้นะครับ”
เขายิ้มจนตาหยีจนเหมือนจะมีแสงระยิบระยับออกมาทั้งที่มีผ้าก๊อสปิดแผลบังอยู่1ใน4ของใบหน้าก็ตาม ดูเป็นบรรยากาศที่ขัดกันอย่างไรไม่รู้
เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาอย่างเก้ๆกังๆ
“แลกไลน์นะครับ”
เขาหันหน้าจอที่มีคิวอาร์ให้อีกฝ่าย
“คุณซากุราอิพึ่งมาที่เมืองนี้เหรอครับ ผมไม่เคยเจอคุณมาก่อนเลย?”
เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาอย่างเก้ๆกังๆ
“แลกไลน์นะครับ”
เขาหันหน้าจอที่มีคิวอาร์ให้อีกฝ่าย
“คุณซากุราอิพึ่งมาที่เมืองนี้เหรอครับ ผมไม่เคยเจอคุณมาก่อนเลย?”
เขาพยายามตอบตามปกติแล้วยิ้มให้ดูฝืนๆนิดหน่อย เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ
“ผมนานาเสะ ยูคิจิ ปี1ห้องD ครับ ถ้าเห็นใครถือบัตรผมก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ”
(เราเขาใจว่าถ้าไม่มีสัมผัสเรื่องมองเห็นคือจะเห็นบัตรปกติไหมนะคะ 🤔 อันนี้ไม่แน่ใจ ไปคุยกับเพื่อนมาก็เข้าใจแบบนี้ ถ้าผิดพลาดขออภัยล่วงหน้าค่า 🙏)
เขาพยายามตอบตามปกติแล้วยิ้มให้ดูฝืนๆนิดหน่อย เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ
“ผมนานาเสะ ยูคิจิ ปี1ห้องD ครับ ถ้าเห็นใครถือบัตรผมก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ”
(เราเขาใจว่าถ้าไม่มีสัมผัสเรื่องมองเห็นคือจะเห็นบัตรปกติไหมนะคะ 🤔 อันนี้ไม่แน่ใจ ไปคุยกับเพื่อนมาก็เข้าใจแบบนี้ ถ้าผิดพลาดขออภัยล่วงหน้าค่า 🙏)
“ชมรมวิทยาศาสตร์ก็ดูเข้ากับรุ่นพี่นะครับ”
เขายิ้มให้
“จะว่าไป ผมขอรบกวนถามทางหน่อยได้ไหมครับ…ปี 1 นี่…ปฐมนิเทศที่ไหนเหรอครับ….”
เขายิ้มแก้เก้อนิดหน่อยแล้วหลบตา
“ชมรมวิทยาศาสตร์ก็ดูเข้ากับรุ่นพี่นะครับ”
เขายิ้มให้
“จะว่าไป ผมขอรบกวนถามทางหน่อยได้ไหมครับ…ปี 1 นี่…ปฐมนิเทศที่ไหนเหรอครับ….”
เขายิ้มแก้เก้อนิดหน่อยแล้วหลบตา
เขาส่งบัตรให้คนตรงหน้า
“คุณซากุราอิ?”
เขายังคงขมวดคิ้วอยู่หน่อยๆพร้อมยื่นบัตรให้คนตรงหน้า
เขาส่งบัตรให้คนตรงหน้า
“คุณซากุราอิ?”
เขายังคงขมวดคิ้วอยู่หน่อยๆพร้อมยื่นบัตรให้คนตรงหน้า
เขาตอบรับแล้วยิ้มให้พร้อมยกมือเกาข้างแก้มแก้เขิน
“รุ่นพี่ เออ… อยู่ชมรมอะไรเหรอครับ”
เขาพยายามหาเรื่องชวนคุยแบบเก้ๆกังๆ
เขาตอบรับแล้วยิ้มให้พร้อมยกมือเกาข้างแก้มแก้เขิน
“รุ่นพี่ เออ… อยู่ชมรมอะไรเหรอครับ”
เขาพยายามหาเรื่องชวนคุยแบบเก้ๆกังๆ
เขาพยักหน้าหงึกๆพยายามจำชื่ออีกฝ่าย
“หลังจากนี้ช่วยแนะนำเรื่องต่างๆให้หน่อยนะครับ”
พอคุยได้ซักพักจบประโยคแนะนำตัวมาตรฐานก็ดูเก้ๆกังๆเขินนิดหน่อย
เขาพยักหน้าหงึกๆพยายามจำชื่ออีกฝ่าย
“หลังจากนี้ช่วยแนะนำเรื่องต่างๆให้หน่อยนะครับ”
พอคุยได้ซักพักจบประโยคแนะนำตัวมาตรฐานก็ดูเก้ๆกังๆเขินนิดหน่อย
หน้านิ่งๆยิ้มขึ้นมาหน่อยนึง
หยุดคิดแปปนึงก่อนแนะนำตัว
“…นานาเสะ ยูคิจิ… ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
ยกมือขึ้นทำท่าจะขอจับมือทำความรู้จัก
หน้านิ่งๆยิ้มขึ้นมาหน่อยนึง
หยุดคิดแปปนึงก่อนแนะนำตัว
“…นานาเสะ ยูคิจิ… ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
ยกมือขึ้นทำท่าจะขอจับมือทำความรู้จัก