㊊ DM 24/7 ทัก โค โรล จีบได้เสมอเลย
DOC - https://bit.ly/4l7w0jl
“เมื่อกี้พี่เพิ่งบ่นกับซากิไปหยก ๆ เลยว่าเหงา อยากมีใครก็ได้มานั่งด้วย… แล้วคุโรกิคุงก็โผล่มาพอดี แบบนี้ต้องเรียกว่าฟ้าส่งมารึเปล่านะ?“
“เมื่อกี้พี่เพิ่งบ่นกับซากิไปหยก ๆ เลยว่าเหงา อยากมีใครก็ได้มานั่งด้วย… แล้วคุโรกิคุงก็โผล่มาพอดี แบบนี้ต้องเรียกว่าฟ้าส่งมารึเปล่านะ?“
“โอ๊ะ-คุโรกิคุง…รึเปล่านะ?”
เขาเอียงคอเล็กน้อยพลางใช้เวลานึกชื่ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างขบขัน จากนั้นก็ผายมือไปยังเก้าอี้ข้างตัวที่ยังว่างอยู่
“ไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว มานั่งด้วยกันเลยมั้ย? รุ่นน้องชมรมคนเก่งของฉันทั้งที จะให้เดินผ่านเฉย ๆ ได้ไงล่ะ?”
พูดจบก็แกล้งทำหน้าเศร้าเล็กน้อย เสริมสีสัน
+
“โอ๊ะ-คุโรกิคุง…รึเปล่านะ?”
เขาเอียงคอเล็กน้อยพลางใช้เวลานึกชื่ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างขบขัน จากนั้นก็ผายมือไปยังเก้าอี้ข้างตัวที่ยังว่างอยู่
“ไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว มานั่งด้วยกันเลยมั้ย? รุ่นน้องชมรมคนเก่งของฉันทั้งที จะให้เดินผ่านเฉย ๆ ได้ไงล่ะ?”
พูดจบก็แกล้งทำหน้าเศร้าเล็กน้อย เสริมสีสัน
+
มุเซย์ถอนหายใจเบา ๆ แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยแววขำขัน ก่อนจะเอนตัวเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียงพอประมาณ เบาพอไม่รบกวน แต่ชัดเจนพอให้ได้ยิน
“ถ้าเปลี่ยนใจจากนิยายมาอ่านรายงานนักเรียนแทนล่ะก็… โต๊ะนี้ยังมีที่ว่างอยู่นะ!”
มุเซย์ถอนหายใจเบา ๆ แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยแววขำขัน ก่อนจะเอนตัวเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียงพอประมาณ เบาพอไม่รบกวน แต่ชัดเจนพอให้ได้ยิน
“ถ้าเปลี่ยนใจจากนิยายมาอ่านรายงานนักเรียนแทนล่ะก็… โต๊ะนี้ยังมีที่ว่างอยู่นะ!”
ราวกับคำบ่นเล่น ๆ เมื่อครู่กลายเป็นจริงขึ้นมาทันที
“ว้าว… ฉันนี่ดวงดีจริงๆแหะ“
เขาหันไปกระซิบกับซากิพลางยักคิ้ว หัวเราะเบา ๆ
สายตายังจับจ้องคนที่เดินตรงไปยังโซนนวนิยาย โดยไม่แม้แต่จะเหลียวมองโต๊ะของเขา
+
ราวกับคำบ่นเล่น ๆ เมื่อครู่กลายเป็นจริงขึ้นมาทันที
“ว้าว… ฉันนี่ดวงดีจริงๆแหะ“
เขาหันไปกระซิบกับซากิพลางยักคิ้ว หัวเราะเบา ๆ
สายตายังจับจ้องคนที่เดินตรงไปยังโซนนวนิยาย โดยไม่แม้แต่จะเหลียวมองโต๊ะของเขา
+
กระพริบตาช้า ๆ อย่างไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเขานั่งตัวตรงขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าใช่ ช่วยบอกให้เขาเดินเข้ามานั่งด้วยกันดีๆทีสิ….“
กระพริบตาช้า ๆ อย่างไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเขานั่งตัวตรงขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าใช่ ช่วยบอกให้เขาเดินเข้ามานั่งด้วยกันดีๆทีสิ….“
เขาชี้นิ้วข้างหนึ่งไปทางชั้นหนังสือด้านหลัง—ช้า ๆ อย่างกับตั้งใจให้ดูไม่เร่งรีบ แล้วหันกลับมากระซิบกับซากิเบา ๆ น้ำเสียงเจือแววกวน
“ซากิ… นั่นเพื่อนนายเหรอ?”
+
เขาชี้นิ้วข้างหนึ่งไปทางชั้นหนังสือด้านหลัง—ช้า ๆ อย่างกับตั้งใจให้ดูไม่เร่งรีบ แล้วหันกลับมากระซิบกับซากิเบา ๆ น้ำเสียงเจือแววกวน
“ซากิ… นั่นเพื่อนนายเหรอ?”
+
“ถ้าคุณยังไม่รีบไปไหน…มานั่งด้วยกันไหมครับ? ผมกำลังต้องการคนช่วยเบี่ยงเบนความตั้งในการทำงาน
อยู่ซะด้วยสิ“
หัวเราะเบา ๆ อีกรอบ
“ถือว่าให้กำลังใจฟรี แลกกับชื่อก็ได้ แบบ win-win น่ะครับ”
“ถ้าคุณยังไม่รีบไปไหน…มานั่งด้วยกันไหมครับ? ผมกำลังต้องการคนช่วยเบี่ยงเบนความตั้งในการทำงาน
อยู่ซะด้วยสิ“
หัวเราะเบา ๆ อีกรอบ
“ถือว่าให้กำลังใจฟรี แลกกับชื่อก็ได้ แบบ win-win น่ะครับ”
เขาหลับตาลงช้า ๆ แล้วแอบลืมขึ้นข้างหนึ่ง มองอีกฝ่ายอย่างลอบสำรวจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ แฝงความหยอกล้อ
“แต่จะดีใจกว่านี้…ถ้าครั้งหน้าคุณเรียกชื่อผม แทนนามสกุลนะครับ”
+
เขาหลับตาลงช้า ๆ แล้วแอบลืมขึ้นข้างหนึ่ง มองอีกฝ่ายอย่างลอบสำรวจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ แฝงความหยอกล้อ
“แต่จะดีใจกว่านี้…ถ้าครั้งหน้าคุณเรียกชื่อผม แทนนามสกุลนะครับ”
+
“โอ้โห ซากิ นายก็ดังใช่เล่นนะ”
เขายิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงทักทายด้วยแววตาขี้เล่น
“ว่าแต่…จำชื่อกันได้ด้วยเหรอครับ? แบบนี้ก็ดีใจเลยสิ”
+
“โอ้โห ซากิ นายก็ดังใช่เล่นนะ”
เขายิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงทักทายด้วยแววตาขี้เล่น
“ว่าแต่…จำชื่อกันได้ด้วยเหรอครับ? แบบนี้ก็ดีใจเลยสิ”
+
“หรือถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ จะลองนั่งช่วยพวกเราทำงานก็ได้…”
พลางพูดต่อด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หรี่ตามองอีกฝ่ายนิด ๆ
“…ส่วนฉันจะได้อาสา เปลี่ยนเวร ไปนั่งพักแทนสักสิบห้านาที จะได้ไม่เสียสมดุลกลุ่มไงล่ะ”
“หรือถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ จะลองนั่งช่วยพวกเราทำงานก็ได้…”
พลางพูดต่อด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หรี่ตามองอีกฝ่ายนิด ๆ
“…ส่วนฉันจะได้อาสา เปลี่ยนเวร ไปนั่งพักแทนสักสิบห้านาที จะได้ไม่เสียสมดุลกลุ่มไงล่ะ”
“อ้าว… อรุณสวัสดิ์นะ นี่พวกเราเผลอไปรบกวนเวลาฝันหวานของเธอรึเปล่า?”
น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย กึ่งหยอกล้อ กึ่งเอ็นดู
“ผมไม่เป็นทรงเลยนะนั่น แต่ก็น่ารักดีนะ เวลาที่เพิ่งตื่นแบบนี้น่ะ”
เขายิ้มบาง ยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่จริงจังนัก
“ถ้ายังไม่ตื่นเต็มตา จะมานอนต่อแถวนี้ก็ได้นะ… โต๊ะฝั่งนี้อุ่นใช้ได้เลย”+
“อ้าว… อรุณสวัสดิ์นะ นี่พวกเราเผลอไปรบกวนเวลาฝันหวานของเธอรึเปล่า?”
น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย กึ่งหยอกล้อ กึ่งเอ็นดู
“ผมไม่เป็นทรงเลยนะนั่น แต่ก็น่ารักดีนะ เวลาที่เพิ่งตื่นแบบนี้น่ะ”
เขายิ้มบาง ยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่จริงจังนัก
“ถ้ายังไม่ตื่นเต็มตา จะมานอนต่อแถวนี้ก็ได้นะ… โต๊ะฝั่งนี้อุ่นใช้ได้เลย”+
“แถมเจ้าแมวนี่… เหมือนจะชอบเล่นซ่อนหาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน”
เขาลดเสียงลงเล็กน้อย แต่ยังคงมั่นใจว่าคนแอบฟังอยู่จะได้ยินทุกคำ
“หวังว่าแมวตัวนั้น… จะไม่เผลอหายใจดังเกินไปล่ะนะ”
“แถมเจ้าแมวนี่… เหมือนจะชอบเล่นซ่อนหาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน”
เขาลดเสียงลงเล็กน้อย แต่ยังคงมั่นใจว่าคนแอบฟังอยู่จะได้ยินทุกคำ
“หวังว่าแมวตัวนั้น… จะไม่เผลอหายใจดังเกินไปล่ะนะ”
มุเซย์หยุดมือที่กำลังเขียน ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างขบขัน
“นี่ ซากิ…”
เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ พลางเหลือบตามองไปทางชั้นวางหนังสือ
“ได้ยินเหมือนกันรึเปล่า? เหมือนจะมีแมวตัวเล็ก ๆ หลุดเข้ามาในห้องสมุดนะ”
รอยยิ้มประดับบนใบหน้า พร้อมน้ำเสียงเรียบเรื่อยแต่แฝงความขี้เล่นไว้ไม่มิด
+
มุเซย์หยุดมือที่กำลังเขียน ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างขบขัน
“นี่ ซากิ…”
เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ พลางเหลือบตามองไปทางชั้นวางหนังสือ
“ได้ยินเหมือนกันรึเปล่า? เหมือนจะมีแมวตัวเล็ก ๆ หลุดเข้ามาในห้องสมุดนะ”
รอยยิ้มประดับบนใบหน้า พร้อมน้ำเสียงเรียบเรื่อยแต่แฝงความขี้เล่นไว้ไม่มิด
+
“Or are you here to spy on us huh?”
ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างขบขันพลางใช้ขาดันเก้าอี้ตัวข้างๆของตัวเองออกมา พร้อมกับผายมือเพื่อเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายนั่ง
“Or are you here to spy on us huh?”
ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างขบขันพลางใช้ขาดันเก้าอี้ตัวข้างๆของตัวเองออกมา พร้อมกับผายมือเพื่อเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายนั่ง
“Look who’s talking. Showing off that fancy accent again, Kosuke?”
เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเดิม แต่แฝงแววท้าทายที่ซ่อนอยู่ในนั้ย ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบาย ๆ
“What’s the matter? Tired of flower vases already?”
“Look who’s talking. Showing off that fancy accent again, Kosuke?”
เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเดิม แต่แฝงแววท้าทายที่ซ่อนอยู่ในนั้ย ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบาย ๆ
“What’s the matter? Tired of flower vases already?”
“ใช่ครับ… เป็นพวกเรานั่นแหละ”
มุเซย์เอ่ยตอบอย่างสบาย ๆ ก่อนจะหันไปมองเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ข้างตัว แล้วผายมือเชื้อเชิญด้วยท่าทีเปิดรับ
“ดีจัง… รู้จักกับซากิสินะ ถ้าไม่รังเกียจ ลองมานั่งด้วยกันไหมครับ?”
สายตาของเขาเลื่อนไปสบกับอีกฝ่ายโดยไม่เสียรอยยิ้ม
“ใช่ครับ… เป็นพวกเรานั่นแหละ”
มุเซย์เอ่ยตอบอย่างสบาย ๆ ก่อนจะหันไปมองเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ข้างตัว แล้วผายมือเชื้อเชิญด้วยท่าทีเปิดรับ
“ดีจัง… รู้จักกับซากิสินะ ถ้าไม่รังเกียจ ลองมานั่งด้วยกันไหมครับ?”
สายตาของเขาเลื่อนไปสบกับอีกฝ่ายโดยไม่เสียรอยยิ้ม