คุโรกาเนะ ริน ปี1 ห้องF
อายุ16 วันเกิด 30/3/2009
ชมรมไม่มี
ใครอยากให้ไปช่วยโคบอกได้เลย✨️
ดวงตาสีฟ้าเขียวจับจ้องไปยังเรือนผมผมสีม่วงของเด็กสาวตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งเรียบพลางยื่นมือขวาไปประทับใกล้ๆบริเวณเรือนผมสีม่วง
"สีที่ฉันชอบก็คือสีม่วงแบบนี้นั่นแหละ..."
ดวงตาสีฟ้าเขียวจับจ้องไปยังเรือนผมผมสีม่วงของเด็กสาวตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งเรียบพลางยื่นมือขวาไปประทับใกล้ๆบริเวณเรือนผมสีม่วง
"สีที่ฉันชอบก็คือสีม่วงแบบนี้นั่นแหละ..."
เมื่อเห็นรอยยิ้มเล็กๆของหญิงสาวตรงหน้าก็ทำเอารู้สึกอุ่นใจไม่น้อย
เมื่อเห็นรอยยิ้มเล็กๆของหญิงสาวตรงหน้าก็ทำเอารู้สึกอุ่นใจไม่น้อย
รินเดินไปเรื่อยพลางมองไปที่หญิงสาวข้างๆด้วยความสนใจ
รินเดินไปเรื่อยพลางมองไปที่หญิงสาวข้างๆด้วยความสนใจ
ในขณะที่กำลังคิดคำตอบอยู่ในเองในหัวของรินก็ได้นึกถึงเพลงหนึ่งจากประเทศเขตร้อนที่เคยฟังมาก่อนแล้วหันไปตอบคำถามอีกฝ่าย
"ฉลาม.. ล่ะมั้งนะ.."
ในขณะที่กำลังคิดคำตอบอยู่ในเองในหัวของรินก็ได้นึกถึงเพลงหนึ่งจากประเทศเขตร้อนที่เคยฟังมาก่อนแล้วหันไปตอบคำถามอีกฝ่าย
"ฉลาม.. ล่ะมั้งนะ.."
รินมือท้าวเอวนึกคิดว่าถ้าจะซื้อของในอควาเรี่ยมควรซื้ออะไรดีแถมยังต้องซื้อคู่กับสาวงามตรงหน้าอีก
รินมือท้าวเอวนึกคิดว่าถ้าจะซื้อของในอควาเรี่ยมควรซื้ออะไรดีแถมยังต้องซื้อคู่กับสาวงามตรงหน้าอีก
ทิวทัศน์ที่ได้มองอควาเรี่ยมกับหญิงสาวผมม่วงตรงหน้ากระทบกับประกายแสงของอควาเรี่ยมยิ่งทำให้ความสวยงามของสถานที่นี้งดงามยิ่งขึ้นในสายตาของเจ้าตัว
"ให้ซื้อของกับเพื่อนร่วมห้องน่ะ โชคดีที่อยู่ด้วยกันพอดี"
ทิวทัศน์ที่ได้มองอควาเรี่ยมกับหญิงสาวผมม่วงตรงหน้ากระทบกับประกายแสงของอควาเรี่ยมยิ่งทำให้ความสวยงามของสถานที่นี้งดงามยิ่งขึ้นในสายตาของเจ้าตัว
"ให้ซื้อของกับเพื่อนร่วมห้องน่ะ โชคดีที่อยู่ด้วยกันพอดี"
นัยน์ตาสีเขียวส่องแสงกระทบแสงสีฟ้าอ่อนๆจากอควาเรี่ยมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังดูกับเหล่าฝูงปลาแหวกว่ายอยู่
นัยน์ตาสีเขียวส่องแสงกระทบแสงสีฟ้าอ่อนๆจากอควาเรี่ยมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังดูกับเหล่าฝูงปลาแหวกว่ายอยู่
รินมองเรือนผมยาวสีขาวดูสวยงามของรุ่นพี่จึงเกิดไอเดียในการทำดอกไม้นี้ขึ้นมา แม้ว่ามันจะกินกระดาษไปหลายแผ่นสุดๆเลยก็ถามแถมดอกไม้นี่แต่ละกรีบมันเหมือนจะหลุดออกมาได้ง่ายๆเพราะวิธีทำแก้ขัดคือทำเป็นเลือยต่อกันเฉยๆ
"ใช้กระดาษไปซะเยอะเลยแฮะ... แบบนี้คงพับจดหมายได้น้อยแหง... ไว้ผมจะซื้อใช้ให้นะครับ ไม่ก็ให้ผมช่วยงานรุ่นพี่ซักอย่างแทน"
รินมองเรือนผมยาวสีขาวดูสวยงามของรุ่นพี่จึงเกิดไอเดียในการทำดอกไม้นี้ขึ้นมา แม้ว่ามันจะกินกระดาษไปหลายแผ่นสุดๆเลยก็ถามแถมดอกไม้นี่แต่ละกรีบมันเหมือนจะหลุดออกมาได้ง่ายๆเพราะวิธีทำแก้ขัดคือทำเป็นเลือยต่อกันเฉยๆ
"ใช้กระดาษไปซะเยอะเลยแฮะ... แบบนี้คงพับจดหมายได้น้อยแหง... ไว้ผมจะซื้อใช้ให้นะครับ ไม่ก็ให้ผมช่วยงานรุ่นพี่ซักอย่างแทน"
รินไม่ได้ตกใจหรือกลัวริยยิ้มนั้นของชายตรงหน้าเพียงแต่เพลงที่อีกฝ่ายร้องมันหลอนอยู่ในหัวสุดๆเลย
รินไม่ได้ตกใจหรือกลัวริยยิ้มนั้นของชายตรงหน้าเพียงแต่เพลงที่อีกฝ่ายร้องมันหลอนอยู่ในหัวสุดๆเลย
รินเลิกทำจดหมายแล้วเปลี่ยนมาพับเป็นดอกกุหลาบสีขาวแทน
"ผมก็จำความหมายมันไม่ค่อยได้หรอกแต่น่าจะสื่อถึงความบริสุทธิ์"
ถึงแม้จะทำออกมาได้ไม่ดีมากเพราะของที่มีก็ไม่ได้มีเยอะเลยทำออกมาได้แบบคร่าวๆเท่านั้น เจ้าตัวเอาดอกไม้นั้นวางลงบนตักของรุ่นพี่สาว
แต่ความหมายจริงของกุหลาบขาวนั้นคือรักบริสุทธิ์ที่มีให้กันแต่รินคิดว่าที่สื่อถึงรักมีแค่สีแดง
รินเลิกทำจดหมายแล้วเปลี่ยนมาพับเป็นดอกกุหลาบสีขาวแทน
"ผมก็จำความหมายมันไม่ค่อยได้หรอกแต่น่าจะสื่อถึงความบริสุทธิ์"
ถึงแม้จะทำออกมาได้ไม่ดีมากเพราะของที่มีก็ไม่ได้มีเยอะเลยทำออกมาได้แบบคร่าวๆเท่านั้น เจ้าตัวเอาดอกไม้นั้นวางลงบนตักของรุ่นพี่สาว
แต่ความหมายจริงของกุหลาบขาวนั้นคือรักบริสุทธิ์ที่มีให้กันแต่รินคิดว่าที่สื่อถึงรักมีแค่สีแดง
รินได้ยินแบบนั้นก็ได้หลับตาลงคิดในใจด้วยสีหน้าปลงๆ
อืม.. น้องรัก... น้องจะให้พี่วิ่งสี่คูณร้อยกลับบ้านเลยเหรอ...
"อะ.. เอาเป็นว่าขอบคุณที่เตือน"
อย่างน้อยเจ้าตัวก็พอรู้แล้วว่าน่าจะไว้ใจได้ถ้าสนิทกับน้องสาวตัวเอง
รินได้ยินแบบนั้นก็ได้หลับตาลงคิดในใจด้วยสีหน้าปลงๆ
อืม.. น้องรัก... น้องจะให้พี่วิ่งสี่คูณร้อยกลับบ้านเลยเหรอ...
"อะ.. เอาเป็นว่าขอบคุณที่เตือน"
อย่างน้อยเจ้าตัวก็พอรู้แล้วว่าน่าจะไว้ใจได้ถ้าสนิทกับน้องสาวตัวเอง
รินเดินเก็บดาบเล่มเดิมแล้วค้นๆกองดาบไม้มาสะบัดลองไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่ดาบไม้เล่มนึงแล้วเอามาฝึกหวดแบบที่ทางนั้นบอก
"น้ำหนักแบบนี้แหละเข้ามือดีเลย.. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ"
รินเดินเก็บดาบเล่มเดิมแล้วค้นๆกองดาบไม้มาสะบัดลองไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่ดาบไม้เล่มนึงแล้วเอามาฝึกหวดแบบที่ทางนั้นบอก
"น้ำหนักแบบนี้แหละเข้ามือดีเลย.. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ"
รินถือวิสาสะหยิบกระดาษขึ้นมาลองพับตามรุ่นพี่สาวแบบมึนๆด้วยใบหน้านิ่งๆแต่ตรงคิวนั้นกระตุกด้วยความขัดใจที่พับออกมาไม่สวย
รินถือวิสาสะหยิบกระดาษขึ้นมาลองพับตามรุ่นพี่สาวแบบมึนๆด้วยใบหน้านิ่งๆแต่ตรงคิวนั้นกระตุกด้วยความขัดใจที่พับออกมาไม่สวย
รินย่อตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกันกับอีกฝ่ายแล้วหยิบกระดาษที่ถูกพับแล้วขึ้นมาดู
"ถ้าผมไม่มีชมรมก็คงอาจหลงตามไปแล้ว แต่ถ้าลองไปใช้กับคนอื่นดูอาจจะได้ผลนะครับเพราะคงไม่มีชายคนไหนไม่อยากรู้จักสาวงามแบบรุ่นพี่แน่นอน"
รินย่อตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกันกับอีกฝ่ายแล้วหยิบกระดาษที่ถูกพับแล้วขึ้นมาดู
"ถ้าผมไม่มีชมรมก็คงอาจหลงตามไปแล้ว แต่ถ้าลองไปใช้กับคนอื่นดูอาจจะได้ผลนะครับเพราะคงไม่มีชายคนไหนไม่อยากรู้จักสาวงามแบบรุ่นพี่แน่นอน"
พอถูกถามเรื่องชมรมรินก็ไม่ได้ยืดเยื้อตอบไปอย่างชัดเจนเพราะดูยังไงถ้ามีคำถามนี้มาก็คงไม่พ้นชวนเข้าชมรมแหงๆ
"ว่าแต่รุ่นพี่ชื่ออะไรหรอครับ?"
พอถูกถามเรื่องชมรมรินก็ไม่ได้ยืดเยื้อตอบไปอย่างชัดเจนเพราะดูยังไงถ้ามีคำถามนี้มาก็คงไม่พ้นชวนเข้าชมรมแหงๆ
"ว่าแต่รุ่นพี่ชื่ออะไรหรอครับ?"
รินกลืนน้ำลายด้วยความกลัวนิดๆแล้วหวังว่าเอาออกมานั่นคงจะไม่ได้เอามาฟาดตัวเขาหรอกใช่มั้ย
"อะ..อา พึ่งเคยจับครั้งแรกเลย"
รินกลืนน้ำลายด้วยความกลัวนิดๆแล้วหวังว่าเอาออกมานั่นคงจะไม่ได้เอามาฟาดตัวเขาหรอกใช่มั้ย
"อะ..อา พึ่งเคยจับครั้งแรกเลย"
รินจับมืออีกฝ่ายแล้วโบกมือลาเล็กน้อนขอตัวกลับก่อน
"ไว้เจอกันพรุ่งนี้"
รินจับมืออีกฝ่ายแล้วโบกมือลาเล็กน้อนขอตัวกลับก่อน
"ไว้เจอกันพรุ่งนี้"
รินทำหน้างงเพราะก็พึ่งเจอกันไม่งั้นคงไม่ถามชื่อหรอกนะ
รินทำหน้างงเพราะก็พึ่งเจอกันไม่งั้นคงไม่ถามชื่อหรอกนะ
รินเดินไปหยิบดาบไม้เล่มหนึ่งที่อยู่ในห้องชมรมมาตวัดเล่นจนเกิดเสียงลมจากการฟาดไม้
"ดูแล้วเราน่าจะชั้นปีเดียวกันนะ จากห้องF คุโรกาเนะ ริน เธอล่ะ?"
รินเดินไปหยิบดาบไม้เล่มหนึ่งที่อยู่ในห้องชมรมมาตวัดเล่นจนเกิดเสียงลมจากการฟาดไม้
"ดูแล้วเราน่าจะชั้นปีเดียวกันนะ จากห้องF คุโรกาเนะ ริน เธอล่ะ?"
รินสดุ้งเบาๆกับสายตาอีกฝ่ายในตอนแรกที่เล่นเกมแพ้แต่ก็ยังคีพลุคนิ่งไว้ได้ปกติ
รินสดุ้งเบาๆกับสายตาอีกฝ่ายในตอนแรกที่เล่นเกมแพ้แต่ก็ยังคีพลุคนิ่งไว้ได้ปกติ
ตอนแรกแค่จะมาเดินดูบริเวณนี้แต่เมื่อมาพบกับผู้หญิงที่กำลังพับกระดาษอยู่ก็สนใจขึ้นมานิดหน่อย
"ผมคุโรกาเนะ ริน ทางนั้นดูนังไงก็ไม่ใช่ปี1ใช่มั้ยล่ะครับ"
ตอนแรกแค่จะมาเดินดูบริเวณนี้แต่เมื่อมาพบกับผู้หญิงที่กำลังพับกระดาษอยู่ก็สนใจขึ้นมานิดหน่อย
"ผมคุโรกาเนะ ริน ทางนั้นดูนังไงก็ไม่ใช่ปี1ใช่มั้ยล่ะครับ"
หลังเข้าโรงเรียนมาได้ซักพักหลายๆคนก็มีชมรมอยู่กันแล้ว แต่สำหรับรินนั้นเจ้าตัวยังไม่มีชมรมอยู่วันนี้เลยตั้งใจจะมาขอสมัครเข้าชมรมเคนโด้แต่ก็มาสดุดกับสึบาเมะที่กำลังกดเกมอย่างเคร่งเครียด
"อยากจะถามเรื่องสมัครชมรมแต่ดูแล้วยังก่อนดีกว่ามั้งนะ...."
หลังเข้าโรงเรียนมาได้ซักพักหลายๆคนก็มีชมรมอยู่กันแล้ว แต่สำหรับรินนั้นเจ้าตัวยังไม่มีชมรมอยู่วันนี้เลยตั้งใจจะมาขอสมัครเข้าชมรมเคนโด้แต่ก็มาสดุดกับสึบาเมะที่กำลังกดเกมอย่างเคร่งเครียด
"อยากจะถามเรื่องสมัครชมรมแต่ดูแล้วยังก่อนดีกว่ามั้งนะ...."
"...."
รินที่เดินผ่านมาทางด้านหลังของเอรินะแล้วได้ยินเสียงเพลงที่อีกฝ่ายร้องขึ้นมาก็ยืนค้างฟังโดยที่มีสีหน้านิ่งๆแต่ในใจนั้นงงในบทเพลงนี้เป็นอย่างมาก
"...."
รินที่เดินผ่านมาทางด้านหลังของเอรินะแล้วได้ยินเสียงเพลงที่อีกฝ่ายร้องขึ้นมาก็ยืนค้างฟังโดยที่มีสีหน้านิ่งๆแต่ในใจนั้นงงในบทเพลงนี้เป็นอย่างมาก
ในเมื่ออีกฝ่ายบอกแบบนั้นก็คงจะจริงเพราะตัวเองก็คุ้นๆหน้าอีกฝ่าย
"คุโรกาเนะ ริน เธอล่ะ?"
ในเมื่ออีกฝ่ายบอกแบบนั้นก็คงจะจริงเพราะตัวเองก็คุ้นๆหน้าอีกฝ่าย
"คุโรกาเนะ ริน เธอล่ะ?"
เมื่ออีกฝ่ายพูดชื่อของน้องสาวตัวเองออกมาก็ทำให้รินตกใจมองค้างไปที่อุเมะอยู่ครู่นึงด้วยสายตาหวาดระแวง
"นายรู้จักน้องฉันได้ยังไง.."
เมื่ออีกฝ่ายพูดชื่อของน้องสาวตัวเองออกมาก็ทำให้รินตกใจมองค้างไปที่อุเมะอยู่ครู่นึงด้วยสายตาหวาดระแวง
"นายรู้จักน้องฉันได้ยังไง.."