174/58 | หมู่บ้านยาดากาอิ |
Doc :: https://shorturl.asia/T8JUF
รอยยิ้มหวานที่มักจะทำเขาประหม่าบ่อยๆนั่นก็ด้วย ถ้าปฏิเสธคงรู้สึกผิดแย่
”อื้อ เอาสิ แค่ป้ายรถบัสเอง”
ลดมือที่ยื่นออกไปลงโดยที่เขาก็ยังไม่ได้ปล่อยนิ้วที่เกี่ยวออก ถือว่าจูงกันไปทั้งแบบนี้เลยแล้วกัน
และเพราะเขามัวแต่ลีลานั่นนี่ ไอศกรีมในมือก็ดูเหมือนจะเริ่มละลายบ้างเล็กน้อย
”จูนะเน่ กินมั้ย?“ ยื่นไปอย่างหวังว่าจะช่วยจัดการสักคำสองคำ
รอยยิ้มหวานที่มักจะทำเขาประหม่าบ่อยๆนั่นก็ด้วย ถ้าปฏิเสธคงรู้สึกผิดแย่
”อื้อ เอาสิ แค่ป้ายรถบัสเอง”
ลดมือที่ยื่นออกไปลงโดยที่เขาก็ยังไม่ได้ปล่อยนิ้วที่เกี่ยวออก ถือว่าจูงกันไปทั้งแบบนี้เลยแล้วกัน
และเพราะเขามัวแต่ลีลานั่นนี่ ไอศกรีมในมือก็ดูเหมือนจะเริ่มละลายบ้างเล็กน้อย
”จูนะเน่ กินมั้ย?“ ยื่นไปอย่างหวังว่าจะช่วยจัดการสักคำสองคำ
อดคิดไม้ได้ว่าถ้าหากกินมันพร้อมกันทั้งสองก้อนคงเหมือนแฮมเตอร์ที่ตุนอาหารไว้ที่กระพุ้งจนบวมเต่ง
คุองหยิบช้อนขึ้นมา ตักลงไปยังพุดดิ้งที่โรยด้วยผงชาเขียวท่าทางน่าอร่อยเข้าไปเต็มคำ
“แค่ก!” ผงชาที่ฟุ้งกระจายในลำคอทำเอาสำลักไปหน่อย แต่หลังจากนั้นแววตาก็เป็นประกาย
“อ๊ะ.. อร่อยแฮะ..” ไม่ได้คาดหวังแต่ดันอร่อยกว่าที่คิด
อดคิดไม้ได้ว่าถ้าหากกินมันพร้อมกันทั้งสองก้อนคงเหมือนแฮมเตอร์ที่ตุนอาหารไว้ที่กระพุ้งจนบวมเต่ง
คุองหยิบช้อนขึ้นมา ตักลงไปยังพุดดิ้งที่โรยด้วยผงชาเขียวท่าทางน่าอร่อยเข้าไปเต็มคำ
“แค่ก!” ผงชาที่ฟุ้งกระจายในลำคอทำเอาสำลักไปหน่อย แต่หลังจากนั้นแววตาก็เป็นประกาย
“อ๊ะ.. อร่อยแฮะ..” ไม่ได้คาดหวังแต่ดันอร่อยกว่าที่คิด
“อือ.. ไม่แล้ว“ ไหนๆเธอก็อุตส่าห์พูดขนาดนี้ เขาจะดึงดันพูดแกล้งต่อก็ไม่กล้านิดๆ
”ไม่หายไปไหน ไม่ต้องเป็นนักสืบหรอก” ยังเสียงอ่อนอยู่นิดหน่อย ก่อนจะเดินมาตีคู่ข้างๆ
”เพราะงั้นดีกัน นะ“
ยกมือข้างที่ไม่ได้ถือไอติมขึ้นมา ยื่นนิ้วก้อยไปข้างหน้ารอดูว่าเซมไปจะยอมคืนดีด้วยรึเปล่า
“อือ.. ไม่แล้ว“ ไหนๆเธอก็อุตส่าห์พูดขนาดนี้ เขาจะดึงดันพูดแกล้งต่อก็ไม่กล้านิดๆ
”ไม่หายไปไหน ไม่ต้องเป็นนักสืบหรอก” ยังเสียงอ่อนอยู่นิดหน่อย ก่อนจะเดินมาตีคู่ข้างๆ
”เพราะงั้นดีกัน นะ“
ยกมือข้างที่ไม่ได้ถือไอติมขึ้นมา ยื่นนิ้วก้อยไปข้างหน้ารอดูว่าเซมไปจะยอมคืนดีด้วยรึเปล่า
กลับกลายเป็นว่าโดนงอนซะอย่างนั้นจนถึงกับไปไม่เป็นครู่นึง
"จูนะเน่.." เสียงอ่อนลง
"ขอโทษนะ โกรธงั้นเหรอ?"
ยกมือขึ้นจับท้ายทอยเพราะทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวดีว่าง้อคนอื่นไม่ค่อยจะได้เรื่องเสียด้วย
กลับกลายเป็นว่าโดนงอนซะอย่างนั้นจนถึงกับไปไม่เป็นครู่นึง
"จูนะเน่.." เสียงอ่อนลง
"ขอโทษนะ โกรธงั้นเหรอ?"
ยกมือขึ้นจับท้ายทอยเพราะทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวดีว่าง้อคนอื่นไม่ค่อยจะได้เรื่องเสียด้วย
”ถึงจะเป็นรุ่นพี่ แต่จูนะเน่ก็เป็นเด็กผู้หญิง“ ทิชชู่แผ่นใหม่ถูกเช็ดลงบนนิ้วมือที่เปื้อนให้
“ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่มีคนมากมายที่หายตัวไปบนเกาะนี้ เพราะงั้นเผื่อมีอะไรเกิดขึ้น..” เว้นจังหวะการพูดไว้นิดหน่อย ก่อนจะยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก
“ผมจะเป็นคนหายไปเอง”
“แบบนี้น่าสนใจกว่าเยอะเลย เนอะ“
”ถึงจะเป็นรุ่นพี่ แต่จูนะเน่ก็เป็นเด็กผู้หญิง“ ทิชชู่แผ่นใหม่ถูกเช็ดลงบนนิ้วมือที่เปื้อนให้
“ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่มีคนมากมายที่หายตัวไปบนเกาะนี้ เพราะงั้นเผื่อมีอะไรเกิดขึ้น..” เว้นจังหวะการพูดไว้นิดหน่อย ก่อนจะยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก
“ผมจะเป็นคนหายไปเอง”
“แบบนี้น่าสนใจกว่าเยอะเลย เนอะ“
“อ๊ะ..จริงด้วย”
“ถ้างั้นนี่ก็เป็นโอกาสครั้งเดียวของผมเหมือนกัน” ได้ยินเซมไปพูดแบบนั้นก็เหมือนจะเพิ่งนึกออก
รู้สึกว่าต้องพยายามมากขึ้น ถึงแม้จะแค่เขียนขอพรก็ตาม
“พรที่จะขอให้เซมไป..”พึมพำก่อนจะหันหลังเดินออกไป ดูเหมือนจะตั้งใจใช้ความคิดเมื่อรู่ว่ามันเป็นพรที่ขอให้เซมไปได้แค่ครั้งเดียว
“อ๊ะ..จริงด้วย”
“ถ้างั้นนี่ก็เป็นโอกาสครั้งเดียวของผมเหมือนกัน” ได้ยินเซมไปพูดแบบนั้นก็เหมือนจะเพิ่งนึกออก
รู้สึกว่าต้องพยายามมากขึ้น ถึงแม้จะแค่เขียนขอพรก็ตาม
“พรที่จะขอให้เซมไป..”พึมพำก่อนจะหันหลังเดินออกไป ดูเหมือนจะตั้งใจใช้ความคิดเมื่อรู่ว่ามันเป็นพรที่ขอให้เซมไปได้แค่ครั้งเดียว
“ขอยืมมือถือหน่อยสิ ผมจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ให้”
แบมือ
ไม่รู้ว่าเคนจิอยากจะเห็นมันมั้ย แต่เขาก็ทึกทักเอาเองว่าอยากให้เคนจิเห็น
“เป็นที่ระลึกว่าปีนี้มากับผม”
“ขอยืมมือถือหน่อยสิ ผมจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ให้”
แบมือ
ไม่รู้ว่าเคนจิอยากจะเห็นมันมั้ย แต่เขาก็ทึกทักเอาเองว่าอยากให้เคนจิเห็น
“เป็นที่ระลึกว่าปีนี้มากับผม”
”ถ้างั้น.. ผมเขียนขอพรให้เคนโอนี่ได้รึเปล่า“ เพราะเซมไปบอกว่าไม่ค่อยเชื่อเรื่องการขอพร เขาก็เลยจะขอให้แทน
“แค่เรื่องทั่วไปน่ะ”
”ถ้างั้น.. ผมเขียนขอพรให้เคนโอนี่ได้รึเปล่า“ เพราะเซมไปบอกว่าไม่ค่อยเชื่อเรื่องการขอพร เขาก็เลยจะขอให้แทน
“แค่เรื่องทั่วไปน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นรอผมเขียนเสร็จแล้วจะเลี้ยงน้ำแข็งไสตอบแทนที่ยอมเดินตามมาแล้วกัน” ว่าพลางล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อ คลำๆเหรียญที่พกติดตัวมาคิดว่าน่าจะพอ
เมื่อเดินมาถึงส่วนขอพรเขาสอดส่องสายตามองดูรอบๆ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววเพื่อน เลยถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เคนจิโอนี่รอตรงนี้นะ” หันตัวกลับมาชี้นิ้วลงพื้น เหมือนกำลังพูดกับสุนัขตัวโต
“หรืออยากเข้าไปเขียนด้วยกัน?”
“ถ้าอย่างนั้นรอผมเขียนเสร็จแล้วจะเลี้ยงน้ำแข็งไสตอบแทนที่ยอมเดินตามมาแล้วกัน” ว่าพลางล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อ คลำๆเหรียญที่พกติดตัวมาคิดว่าน่าจะพอ
เมื่อเดินมาถึงส่วนขอพรเขาสอดส่องสายตามองดูรอบๆ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววเพื่อน เลยถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เคนจิโอนี่รอตรงนี้นะ” หันตัวกลับมาชี้นิ้วลงพื้น เหมือนกำลังพูดกับสุนัขตัวโต
“หรืออยากเข้าไปเขียนด้วยกัน?”
"แต่ก็ดูเหมาะกับเซมไปดี"
"ถ้าอย่างนั้นก็ออกมาเดินเล่นเฉยๆงั้นเหรอ"
แถมยังอุตส่าห์เดินตามเขามายังที่สำหรับขอพรโดยที่ไม่สนใจเรื่องขอพรอีก
"ผมเองก็ไม่ใช่ว่าเชื่อหรือไม่เชื่อเหมือนกัน"
"แค่คิดว่าถ้าไม่แขวนทังซากุต้นไผ่คงเหงาแย่.. เหมือนที่ไม่เชื่อเรื่องซานต้าแต่ก็ยังตกแต่งต้นคริสมาสต์"
"อะ.. แค่จะสื่อว่ามันสวยดีเฉยๆน่ะ"
"แต่ก็ดูเหมาะกับเซมไปดี"
"ถ้าอย่างนั้นก็ออกมาเดินเล่นเฉยๆงั้นเหรอ"
แถมยังอุตส่าห์เดินตามเขามายังที่สำหรับขอพรโดยที่ไม่สนใจเรื่องขอพรอีก
"ผมเองก็ไม่ใช่ว่าเชื่อหรือไม่เชื่อเหมือนกัน"
"แค่คิดว่าถ้าไม่แขวนทังซากุต้นไผ่คงเหงาแย่.. เหมือนที่ไม่เชื่อเรื่องซานต้าแต่ก็ยังตกแต่งต้นคริสมาสต์"
"อะ.. แค่จะสื่อว่ามันสวยดีเฉยๆน่ะ"
"อะ.. แต่เวลานี้ต้องคนเยอะแน่เลย" นึกได้ระหว่างที่เดินไปพร้อมกัน
"เคนจิโอนี่ มีพรที่อยากขอในใจรึเปล่า" เพื่อไม่ให้การเดินทางเงียบเกินไปเขาเลยลองสอบถามคนที่เดินมาด้วยกันดู
"ผมยังไม่มีในใจเลย กะว่าถ้าเคนจิโอนี่มีพรที่น่าสนใจก็ว่าจะลอกสักหน่อย" เผยเจตนาของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
"อะ.. แต่เวลานี้ต้องคนเยอะแน่เลย" นึกได้ระหว่างที่เดินไปพร้อมกัน
"เคนจิโอนี่ มีพรที่อยากขอในใจรึเปล่า" เพื่อไม่ให้การเดินทางเงียบเกินไปเขาเลยลองสอบถามคนที่เดินมาด้วยกันดู
"ผมยังไม่มีในใจเลย กะว่าถ้าเคนจิโอนี่มีพรที่น่าสนใจก็ว่าจะลอกสักหน่อย" เผยเจตนาของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
”แล้วแบตมือถือก็หมด“
พอเคนจิหันมาเขาก็กวาดตามองขึ้นลงตั้งกะหัวจรดเท้าอย่างไม่คิดจะปิดบัง ชุดสีเข้มรับกับดวงตาของเคนจิ ดูยังไงก็เป็นดวงตาที่สวยมากอยู่ดี
“วันนี้ดูดีเลยนี่นา” ชมตรงๆแบบนี้
”อะ.. ผมว่าจะไปแถวที่ขอพรดู บางทีเพื่อนอาจจะอยู่แถวนั้น ถ้าเซมไปว่างๆอยู่เดินไปด้วยกันดีมั้ย“
”แล้วแบตมือถือก็หมด“
พอเคนจิหันมาเขาก็กวาดตามองขึ้นลงตั้งกะหัวจรดเท้าอย่างไม่คิดจะปิดบัง ชุดสีเข้มรับกับดวงตาของเคนจิ ดูยังไงก็เป็นดวงตาที่สวยมากอยู่ดี
“วันนี้ดูดีเลยนี่นา” ชมตรงๆแบบนี้
”อะ.. ผมว่าจะไปแถวที่ขอพรดู บางทีเพื่อนอาจจะอยู่แถวนั้น ถ้าเซมไปว่างๆอยู่เดินไปด้วยกันดีมั้ย“
ระหว่างที่กำลังเดินหลงกับเพื่อนก็ตุปัดตุเป๋ไปเรื่อยจนได้บังเอิญไปเจอเข้ากับรุ่นพี่พอดิบพอดี
”เคนจิโอนี่“ เรียกเพื่อเช็คดูว่าไม่ได้จำผิดคน
”สายัณห์สวัสดิ์ครับ มาคนเดียวเหรอ?“ เอียงคอน้อยๆ เหมือนตั้งกะครั้งแรกจนถึงตอนนี้เขาก็มักจะเห็นเคนจิเซมไปอยู่คนเดียวตลอด
ระหว่างที่กำลังเดินหลงกับเพื่อนก็ตุปัดตุเป๋ไปเรื่อยจนได้บังเอิญไปเจอเข้ากับรุ่นพี่พอดิบพอดี
”เคนจิโอนี่“ เรียกเพื่อเช็คดูว่าไม่ได้จำผิดคน
”สายัณห์สวัสดิ์ครับ มาคนเดียวเหรอ?“ เอียงคอน้อยๆ เหมือนตั้งกะครั้งแรกจนถึงตอนนี้เขาก็มักจะเห็นเคนจิเซมไปอยู่คนเดียวตลอด