🤍 177cm./65kg.
🤍 2年 -組
🤍 โค โรล เวิ่น DM ( แต่อ่านดอคก่อน! )
🤍 ชมรมจัดดอกไม้
[ คาร์ธงแดง เสแสร้ง ยิ้มหวาน ใจดี ]
🐇DOC https://shorturl.asia/s6bIG
ผปค คนเดียวกับ ชาจิกะ
#THK_commu
“ ได้สิครับ เปียกไม่เป็นไรหรอก ฮ่ะฮ่ะ ”
ฮิเมริเอ่ยยิ้มออกมาเดินตามทั้งคู่ไป เพราะยังไงเขาก็ไม่มีแผนที่จะทำอะไรในช่วงบ่ายนี้นอกจากเดินเล่นไปเรื่อยๆ
“ ได้สิครับ เปียกไม่เป็นไรหรอก ฮ่ะฮ่ะ ”
ฮิเมริเอ่ยยิ้มออกมาเดินตามทั้งคู่ไป เพราะยังไงเขาก็ไม่มีแผนที่จะทำอะไรในช่วงบ่ายนี้นอกจากเดินเล่นไปเรื่อยๆ
” นั้นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไว้ใจคนแบบคุณที่สุด “
ฮิเมริยิ้มออกมา เพราะแม้แต่เขายังเคยถูกชาจิกะวัยจิ๋วต่อยจนหน้าแดงมาแล้ว รึแม้แต่สมัยนี่ก็ยังถูกบังคับให้ออกกำลังกาย
เขานับถือฮิรากอที่เอาคนบ้าได้อยู่หมัดราวกับคาวบอยที่ควบม้าได้อยู่มือ
เขานับถือ
” นั้นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไว้ใจคนแบบคุณที่สุด “
ฮิเมริยิ้มออกมา เพราะแม้แต่เขายังเคยถูกชาจิกะวัยจิ๋วต่อยจนหน้าแดงมาแล้ว รึแม้แต่สมัยนี่ก็ยังถูกบังคับให้ออกกำลังกาย
เขานับถือฮิรากอที่เอาคนบ้าได้อยู่หมัดราวกับคาวบอยที่ควบม้าได้อยู่มือ
เขานับถือ
เพราะฮิเมริเข้าใจดีว่าที่ชาจิกะนั้นหัวรุนแรงไม่ใช่เพราะนิสัยเสีย แต่คือกลไกการปกป้องตนเองต่อสิ่งเร้าต่างๆ
“ เพราะผมเคยอ่านเจอว่าวาฬเพชรฆาตเมื่ออยู่คนเดียวมันจะโดดเดี่ยวจนตรอมใจตายไป ”
“ เธอคนนั้นคงไม่ต่าง ”
ฮิเมริยิ้มออกมา ราวกับสิ่งที่ตนจ้างวานอีกฝ่าย คือการยิงนกสองต่อ นอกจากได้รู้พฤติกรรมแถมยังทำให้ชาจิจิกะนั้นรู้จักการเข้าสังคม+
เพราะฮิเมริเข้าใจดีว่าที่ชาจิกะนั้นหัวรุนแรงไม่ใช่เพราะนิสัยเสีย แต่คือกลไกการปกป้องตนเองต่อสิ่งเร้าต่างๆ
“ เพราะผมเคยอ่านเจอว่าวาฬเพชรฆาตเมื่ออยู่คนเดียวมันจะโดดเดี่ยวจนตรอมใจตายไป ”
“ เธอคนนั้นคงไม่ต่าง ”
ฮิเมริยิ้มออกมา ราวกับสิ่งที่ตนจ้างวานอีกฝ่าย คือการยิงนกสองต่อ นอกจากได้รู้พฤติกรรมแถมยังทำให้ชาจิจิกะนั้นรู้จักการเข้าสังคม+
“ คล้ายกับผมดีเหมือนกันนะครับ ”
ฮิเมริกลับมายิ้มตาปิดอีกครั้ง เอ่ยถึงสิ่งที่ใกล้ตัว
“ แต่ก็แค่คล้ายกัน ตอนที่ผมไปเชียร์ฮิรากิซังตอนกีฬาสีครั้งนั้น ”
“ น่าทึ่งจริงๆ ”
ฮิเมะยิ้มออกมาเขาไม่ได้สบตาฮิรากิ เพียงแต่เอ่ยออกมาอย่างชื่นชม ถึงพละกำลังที่อีกฝ่ายมี
ผมอิจฉาเลยละ
“แต่ผมรู้ว่าตนเรามีหลายแบบ ผมดีใจที่คุณเป็นเพื่อนกับยัยบ้านั้นได้โดยไม่โดนยัยนั้นท้าแข่งจับทุ่ม”
“ คล้ายกับผมดีเหมือนกันนะครับ ”
ฮิเมริกลับมายิ้มตาปิดอีกครั้ง เอ่ยถึงสิ่งที่ใกล้ตัว
“ แต่ก็แค่คล้ายกัน ตอนที่ผมไปเชียร์ฮิรากิซังตอนกีฬาสีครั้งนั้น ”
“ น่าทึ่งจริงๆ ”
ฮิเมะยิ้มออกมาเขาไม่ได้สบตาฮิรากิ เพียงแต่เอ่ยออกมาอย่างชื่นชม ถึงพละกำลังที่อีกฝ่ายมี
ผมอิจฉาเลยละ
“แต่ผมรู้ว่าตนเรามีหลายแบบ ผมดีใจที่คุณเป็นเพื่อนกับยัยบ้านั้นได้โดยไม่โดนยัยนั้นท้าแข่งจับทุ่ม”
ฮิเมริยิ้มออกมา บทสนทนาเงียบไป ดวงตาไร้เม็ดสีของฮิเมริเฝ้าสังเกคุอีกฝ่าย มือที่ลูบหัวฮานะอย่างเอ็นดูยังคงขยับเบาๆอย่างอ่อนโยนเขาชอบสัตว์มากแต่บางครั้งที่เขาชอบบางสิ่งต้องมีเหตุผล และทุกอย่างย่อมต้องเต็มไปด้วยเหตุและผล
กระต่ายน่ะ มันเป็นสัตว์ซาดิสและโหดร้ายทว่ากลับใช้หน้าตาน่ารักมาบ่ายเบี่ยงได้ดีเลยละ
เพราะงั้นเขาถึงชอบกระต่ายที่สุด
(+)
ฮิเมริยิ้มออกมา บทสนทนาเงียบไป ดวงตาไร้เม็ดสีของฮิเมริเฝ้าสังเกคุอีกฝ่าย มือที่ลูบหัวฮานะอย่างเอ็นดูยังคงขยับเบาๆอย่างอ่อนโยนเขาชอบสัตว์มากแต่บางครั้งที่เขาชอบบางสิ่งต้องมีเหตุผล และทุกอย่างย่อมต้องเต็มไปด้วยเหตุและผล
กระต่ายน่ะ มันเป็นสัตว์ซาดิสและโหดร้ายทว่ากลับใช้หน้าตาน่ารักมาบ่ายเบี่ยงได้ดีเลยละ
เพราะงั้นเขาถึงชอบกระต่ายที่สุด
(+)
“ ทุกอย่างต้องใช้แรงหมดเลยสินะครับ ”
“ ผมขอจับกล้ามแขนคุณได้มั้ยครับ ”
ฮิเมริแพ้เสียงในหัว เพราะแท้จริงเขาอยากรู้ว่ามันนุ่มรึแข็งกันนะ เพราะเขาไม่เคยสัมผัสมันตรงๆจึงนึกสงสัยไม่น้อย
“ แต่ถ้าคุณไม่เต็มใจไม่เป็นไรนะครับ ”
ฮิเมริยิ้มออกมา
“ ทุกอย่างต้องใช้แรงหมดเลยสินะครับ ”
“ ผมขอจับกล้ามแขนคุณได้มั้ยครับ ”
ฮิเมริแพ้เสียงในหัว เพราะแท้จริงเขาอยากรู้ว่ามันนุ่มรึแข็งกันนะ เพราะเขาไม่เคยสัมผัสมันตรงๆจึงนึกสงสัยไม่น้อย
“ แต่ถ้าคุณไม่เต็มใจไม่เป็นไรนะครับ ”
ฮิเมริยิ้มออกมา
“ เป็นคนมีมารยาทสินะครับ ”
ฮิเมะมองอีกฝ่ายที่ก้มโค้งอย่างดี เขายิ้มออกมาราวกับคนแก่ที่เฝ้ามองเด็กๆ
“ยินดีที่ได้รู้จังนะคานาเดะซัง”
ฮิเมริยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนเมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร
“แล้วคานาเดะซังอยากไปใหนรึทำอะไรรึเปล่า”
(ขอโทษที่ตอบช้าน้าㅠㅠ)
“ เป็นคนมีมารยาทสินะครับ ”
ฮิเมะมองอีกฝ่ายที่ก้มโค้งอย่างดี เขายิ้มออกมาราวกับคนแก่ที่เฝ้ามองเด็กๆ
“ยินดีที่ได้รู้จังนะคานาเดะซัง”
ฮิเมริยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนเมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร
“แล้วคานาเดะซังอยากไปใหนรึทำอะไรรึเปล่า”
(ขอโทษที่ตอบช้าน้าㅠㅠ)
“ ได้ครับ ”
ฮิเมริยิ้มออกมา ตั้งใจฟังอีกฝ่ายอย่างดี มือขางค่อยๆตักเค้กเป็นคำเล็กๆเข้าปากเป็นคำที่สองราวกับเริ่มฟังเรื่องต่อไปและฮิเมะสัมผัสได้ถึงความจริงใจนั้นที่แสดงบนสีหน้าอีกฝ่าย
“ ได้ครับ ”
ฮิเมริยิ้มออกมา ตั้งใจฟังอีกฝ่ายอย่างดี มือขางค่อยๆตักเค้กเป็นคำเล็กๆเข้าปากเป็นคำที่สองราวกับเริ่มฟังเรื่องต่อไปและฮิเมะสัมผัสได้ถึงความจริงใจนั้นที่แสดงบนสีหน้าอีกฝ่าย
“ คุณนี่…หน้าตาเหมือนฮานะจังเลยนะ”
ฮิเมะยิ้มออกมาเพราะแม้แต่ชาจิกะที่เลี้ยงปลาท่อยังหน้าเหมือนปลาท่อตัวนั้นเลย รึแม้แต่คนรอบตัวที่เห็นเลี้ยงสัตว์ ก็ต่างมีนิสัยรึหน้าตาที่คล้ายกันอย่างประหลาดไม่ต่างจากอีกฝ่าย
นี้ละน้า ธรรมชาติ
“ไว้คุณแวะมาร้ายคุณแม่ผมอีก ผมจะพายุ้ยจังมาทักทายนะครับ ผมอยากเจอคุณจริงๆนะ “
(ขอโททิตอบช้านะㅠㅠ)
“ คุณนี่…หน้าตาเหมือนฮานะจังเลยนะ”
ฮิเมะยิ้มออกมาเพราะแม้แต่ชาจิกะที่เลี้ยงปลาท่อยังหน้าเหมือนปลาท่อตัวนั้นเลย รึแม้แต่คนรอบตัวที่เห็นเลี้ยงสัตว์ ก็ต่างมีนิสัยรึหน้าตาที่คล้ายกันอย่างประหลาดไม่ต่างจากอีกฝ่าย
นี้ละน้า ธรรมชาติ
“ไว้คุณแวะมาร้ายคุณแม่ผมอีก ผมจะพายุ้ยจังมาทักทายนะครับ ผมอยากเจอคุณจริงๆนะ “
(ขอโททิตอบช้านะㅠㅠ)
“ ผมก็เลี้ยงสัตว์นะครับ ชื่อยุ้ยจัง เป็นกระต่ายพันธุ์ไจแอ้นครับ ถ้ามีโอกาส อยากพามาเจอฮานะจัง จังเลยนะ ”
ฮิเมะลูบหัวฮานะจังอย่างเอ็นดู พอยิ่งฟังที่อีกฝ่ายเปรียบเทียบฮิเมะยิ่งยกยิ้มออกมาราวกับเข้าใจ
“ งั้นผมกับยุ้ยจังคงเป็นส่าหรายกับข้าว ฮ่าฮ่า ”
เพราะหลายเมนูที่เขากินมักมีสาหร่ายเป็นท้อปปิ้งเสมอ ฮิเมะจึงเอ่ยออกมา (+)
“ ผมก็เลี้ยงสัตว์นะครับ ชื่อยุ้ยจัง เป็นกระต่ายพันธุ์ไจแอ้นครับ ถ้ามีโอกาส อยากพามาเจอฮานะจัง จังเลยนะ ”
ฮิเมะลูบหัวฮานะจังอย่างเอ็นดู พอยิ่งฟังที่อีกฝ่ายเปรียบเทียบฮิเมะยิ่งยกยิ้มออกมาราวกับเข้าใจ
“ งั้นผมกับยุ้ยจังคงเป็นส่าหรายกับข้าว ฮ่าฮ่า ”
เพราะหลายเมนูที่เขากินมักมีสาหร่ายเป็นท้อปปิ้งเสมอ ฮิเมะจึงเอ่ยออกมา (+)
“ ผมน่ะ อยาก _____ ”
ฮิเมริพูดถึงความฝันตัวเองในอนาคต ก่อนจะมีเสียงผู้คนดังขึ้นจนกลบเสียงไปหมด ฮิเมริยิ้มออกมาราวกับไม่คิดจะเอ่ยซ้ำ
“ ถ้าผมแข็งแรงแบบคุณคงเป็นอีกความฝันนึงที่อยากจะเป็นเลยละ “
แต่ผมก็ไม่สามารถดิ้นหลุดสายตรึงของพันธุ์กรรมนี้ได้เหมือนกัน จนเขาแทบจะเคยชิน
” ถึงตอนนั้นผมจะอวดคุณอย่างภาคภูมิเหมือนคุณที่อวดผม“
“ ผมน่ะ อยาก _____ ”
ฮิเมริพูดถึงความฝันตัวเองในอนาคต ก่อนจะมีเสียงผู้คนดังขึ้นจนกลบเสียงไปหมด ฮิเมริยิ้มออกมาราวกับไม่คิดจะเอ่ยซ้ำ
“ ถ้าผมแข็งแรงแบบคุณคงเป็นอีกความฝันนึงที่อยากจะเป็นเลยละ “
แต่ผมก็ไม่สามารถดิ้นหลุดสายตรึงของพันธุ์กรรมนี้ได้เหมือนกัน จนเขาแทบจะเคยชิน
” ถึงตอนนั้นผมจะอวดคุณอย่างภาคภูมิเหมือนคุณที่อวดผม“
ฮิเมริยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีอีกฝ่ายดูมีความสุข ทั้งความตั้งของอีกฝ่ายที่จะเป็นครู
เขาคงต้องเริ่มคิดเรื่องในอนาคตแล้วสิ
“ แล้วอนาคตของคุณ ยังคงจะเปลี่ยนไปมั้ยครับ ”
ฮิเมริเอ่ยถามอีกครั้ง มือขาวเคาะโต๊ะเบาๆจนแทบไม่ได้ยินราวกับกำลังสังเกตุอีกฝ่ายอย่างละเอียดตามนิสัยของเขา
อนาคตนั้นคาดเดาไม่ได้ เขาคิดไว้แบบนั้นตลอด
(ขอโทษที่ตอบช้านะคะㅠㅠ)
ฮิเมริยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทีอีกฝ่ายดูมีความสุข ทั้งความตั้งของอีกฝ่ายที่จะเป็นครู
เขาคงต้องเริ่มคิดเรื่องในอนาคตแล้วสิ
“ แล้วอนาคตของคุณ ยังคงจะเปลี่ยนไปมั้ยครับ ”
ฮิเมริเอ่ยถามอีกครั้ง มือขาวเคาะโต๊ะเบาๆจนแทบไม่ได้ยินราวกับกำลังสังเกตุอีกฝ่ายอย่างละเอียดตามนิสัยของเขา
อนาคตนั้นคาดเดาไม่ได้ เขาคิดไว้แบบนั้นตลอด
(ขอโทษที่ตอบช้านะคะㅠㅠ)
“ อืมม…”
ฮิเมริยกมือที่ว่างขึ้นมาเท้าคางราสกับครุ่นคิดก่อนจะยิ้มออกมา
“ ผมชอบนะครับ ว่ากันว่าสิ่งแปลกปลอมมักชอบของขาวสะอาดนิครับ ”
ฮิเมริเอ่ยออกมาอย่างขำขัน ท่าทางราวกับไม่คิดมากอะไร
“ อีกอย่างคุณไม่เหมือนผีสะหน่อย ออกจะเหมือน…”
“ ลูกแมวดำตัวนึง ”
ฮิเมริเปรียบเทียบอีกฝ่ายกับลูกแมว เพราะมันทั้งน่ารักและใสซื่อ
(ขอโทษที่ตอบช้านะคะㅠㅠ)
“ อืมม…”
ฮิเมริยกมือที่ว่างขึ้นมาเท้าคางราสกับครุ่นคิดก่อนจะยิ้มออกมา
“ ผมชอบนะครับ ว่ากันว่าสิ่งแปลกปลอมมักชอบของขาวสะอาดนิครับ ”
ฮิเมริเอ่ยออกมาอย่างขำขัน ท่าทางราวกับไม่คิดมากอะไร
“ อีกอย่างคุณไม่เหมือนผีสะหน่อย ออกจะเหมือน…”
“ ลูกแมวดำตัวนึง ”
ฮิเมริเปรียบเทียบอีกฝ่ายกับลูกแมว เพราะมันทั้งน่ารักและใสซื่อ
(ขอโทษที่ตอบช้านะคะㅠㅠ)
ฮิเมริตักเค้กตนเองเข้าปากแล้วแสดงสีหน้าว่าอร่อยก่อนจะผายมือให้อีกฝ่ายได้ทานเลย
“ อร่อยดีนะครับ ”
เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะวางซ้อมและหยิบชาขึ้นมาจิบ ถ้าให้พูดข้อเสียฮิเมะ คงเป็นเรื่องที่เขาทานอาหารช้ามาก นั้นเดายากว่าเค้กก่อนนี้จะหมดตอนกี่โมง
“ ว่าแต่ ชีวิตในรั้วโรวเรียน คุณเป็นอย่างไรมั้งครับ? ”
เจ้าตัวชวนคุย
ฮิเมริตักเค้กตนเองเข้าปากแล้วแสดงสีหน้าว่าอร่อยก่อนจะผายมือให้อีกฝ่ายได้ทานเลย
“ อร่อยดีนะครับ ”
เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะวางซ้อมและหยิบชาขึ้นมาจิบ ถ้าให้พูดข้อเสียฮิเมะ คงเป็นเรื่องที่เขาทานอาหารช้ามาก นั้นเดายากว่าเค้กก่อนนี้จะหมดตอนกี่โมง
“ ว่าแต่ ชีวิตในรั้วโรวเรียน คุณเป็นอย่างไรมั้งครับ? ”
เจ้าตัวชวนคุย
ฮิเมริรู้จักอีกฝ่ายจากคนที่เขาเอ่ยถึง ถ้าให้พูด ก็คงเป็นชาจิกะ ญาติที่มาจากรัซเซียที่ไม่รู้ไปเจออะไรมาถึงได้กลัวหมาจนตัวหดขนาดนั้นจนเขาไม่สามารถเลี้ยงสุนัขได้
“ มีหมาแสนรู้แปฃว่าเจ้าของต้องเก่งมาก ผมนึกอิจฉาเลยละ ”
ฮิเมริมองฮานะอย่างอ่อนโยน
ฮิเมริรู้จักอีกฝ่ายจากคนที่เขาเอ่ยถึง ถ้าให้พูด ก็คงเป็นชาจิกะ ญาติที่มาจากรัซเซียที่ไม่รู้ไปเจออะไรมาถึงได้กลัวหมาจนตัวหดขนาดนั้นจนเขาไม่สามารถเลี้ยงสุนัขได้
“ มีหมาแสนรู้แปฃว่าเจ้าของต้องเก่งมาก ผมนึกอิจฉาเลยละ ”
ฮิเมริมองฮานะอย่างอ่อนโยน
“ โอเคเลยละครับ ผมค่อนข้างชอบหมาครับ ” ไม่สิเรียกว่าชอบหมาแต่เลี้ยงไม่ได้มากกว่า
“ ฉลาดจริงๆเลย ชื่อฮานะสินะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันฮิเมริ ”
ฮิเมะก้มไปแนะนำตัวกับเจ้าหมา ใบหน้าของฮิเมริยิ้มออกมาอย่างใจดี
“ ผมขอลูบได้มั้ยครับ? ”
เจ้าตัวเงยหน้ามองเจ้าของ แม้ในใจอยากจับกอดบีบแก้มให้หน่ำใจ
(+)
“ โอเคเลยละครับ ผมค่อนข้างชอบหมาครับ ” ไม่สิเรียกว่าชอบหมาแต่เลี้ยงไม่ได้มากกว่า
“ ฉลาดจริงๆเลย ชื่อฮานะสินะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันฮิเมริ ”
ฮิเมะก้มไปแนะนำตัวกับเจ้าหมา ใบหน้าของฮิเมริยิ้มออกมาอย่างใจดี
“ ผมขอลูบได้มั้ยครับ? ”
เจ้าตัวเงยหน้ามองเจ้าของ แม้ในใจอยากจับกอดบีบแก้มให้หน่ำใจ
(+)
ฮิเมริพยักหนเาเชิงรับรู้ว่าจะไปถึงตรงนั้น ระหว่างเดินฮิเมะสังเกตุตลอดจึงเอ่ยออกมา
“ มีคนเคยบอกคุณมั้ยครับ ว่าคุณบุคลิกคล้ายหน้าตาเลยละ ”
ฮิเมริยิ้มหวานออกมาก่อนจะรีบแก้กันอีกฝ่ายเข้าใจผิด
“ แบบว่าไม่ใช่ในทางที่ไม่ดีน่ะนะ เอาจริงคุณเป็นประเภทที่ผมชอบมากเลยละ ”
“ ดีกว่าคนที่พูดจาตรงกันข้ามและวกวนน่ะครับ ”
ฮิเมริยิ้มออกมากับความใส่ใจของอีกฝ่าย
ฮิเมริพยักหนเาเชิงรับรู้ว่าจะไปถึงตรงนั้น ระหว่างเดินฮิเมะสังเกตุตลอดจึงเอ่ยออกมา
“ มีคนเคยบอกคุณมั้ยครับ ว่าคุณบุคลิกคล้ายหน้าตาเลยละ ”
ฮิเมริยิ้มหวานออกมาก่อนจะรีบแก้กันอีกฝ่ายเข้าใจผิด
“ แบบว่าไม่ใช่ในทางที่ไม่ดีน่ะนะ เอาจริงคุณเป็นประเภทที่ผมชอบมากเลยละ ”
“ ดีกว่าคนที่พูดจาตรงกันข้ามและวกวนน่ะครับ ”
ฮิเมริยิ้มออกมากับความใส่ใจของอีกฝ่าย
“ แล้งคุณ…ชื่ออะไรหรอครับ ผม นามิคาเซะ ฮิเมริ นะครับ เรียกฮิเมริก็ได้ รึจะเรียกแบบคนอื่นๆว่าฮิเมะก็ได้นะครับ ฮ่าฮ่า ”
เจ้าตัวเอ่ยแนะนำตัว ทั้งยังถามอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ใบหน้าขาวยังมีรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่ตลอดเวลา ภายใต้ร่มของเขา
“ แล้งคุณ…ชื่ออะไรหรอครับ ผม นามิคาเซะ ฮิเมริ นะครับ เรียกฮิเมริก็ได้ รึจะเรียกแบบคนอื่นๆว่าฮิเมะก็ได้นะครับ ฮ่าฮ่า ”
เจ้าตัวเอ่ยแนะนำตัว ทั้งยังถามอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ใบหน้าขาวยังมีรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่ตลอดเวลา ภายใต้ร่มของเขา
ฮิเมริยิ้มหวานออกมา ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อก่อนหน้าตนเอามือไปตากแดดนานจากการดูดอกไม้ ทำให้มือนั้นแดงและแสบร้อนไม่น้อย จึงยกมือข้างซ้ายขึ้นมาให้ดู
“ มันจะเป็นแบบนี้น่ะ ” มือนั้นแดงเหมือนมะเขือเทศ..
“ แต่วันนี้ผมไม่ได้พกโลชั่น เลยต้องปล่อยไว้แบบนี้น่ะครับฮ่าฮ่า กะว่าระหว่างทางอาจจะหาที่ประคบเย็นได้ แต่น่าจะยากเลย ”
(+)
ฮิเมริยิ้มหวานออกมา ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อก่อนหน้าตนเอามือไปตากแดดนานจากการดูดอกไม้ ทำให้มือนั้นแดงและแสบร้อนไม่น้อย จึงยกมือข้างซ้ายขึ้นมาให้ดู
“ มันจะเป็นแบบนี้น่ะ ” มือนั้นแดงเหมือนมะเขือเทศ..
“ แต่วันนี้ผมไม่ได้พกโลชั่น เลยต้องปล่อยไว้แบบนี้น่ะครับฮ่าฮ่า กะว่าระหว่างทางอาจจะหาที่ประคบเย็นได้ แต่น่าจะยากเลย ”
(+)
ที่ตอนแรกยังเงียบๆอยู่เลย แต่พอเปิดปากพูดกับพรั่งพรูคำถามและคกพูดออกมา นั้นทำให้ฮิเมริยิ้มอย่างสนใจอีกฝ่ายไม่น้อย
“ นั้นสินะ วันนี้เงียบสงบดีจริงๆ ”
“ ใช่ครับผมเป็นโรคผิวเผือก ไม่ใช่กระต่ายหรอกนะ ฮ่า ฮ่า ”
“ อย่างอื่นที่แตกต่างหรอ อืมม ”
ฮิเมริตอบทีละคำถาม ทั้งยังเล่นมุกใส่ไปด้วย แต่เมื่อคำถามสุดท้าย ทำเอาเจ้าตัวต้องเท้าคางครุ่นคิด อยู่นาน (+)
ที่ตอนแรกยังเงียบๆอยู่เลย แต่พอเปิดปากพูดกับพรั่งพรูคำถามและคกพูดออกมา นั้นทำให้ฮิเมริยิ้มอย่างสนใจอีกฝ่ายไม่น้อย
“ นั้นสินะ วันนี้เงียบสงบดีจริงๆ ”
“ ใช่ครับผมเป็นโรคผิวเผือก ไม่ใช่กระต่ายหรอกนะ ฮ่า ฮ่า ”
“ อย่างอื่นที่แตกต่างหรอ อืมม ”
ฮิเมริตอบทีละคำถาม ทั้งยังเล่นมุกใส่ไปด้วย แต่เมื่อคำถามสุดท้าย ทำเอาเจ้าตัวต้องเท้าคางครุ่นคิด อยู่นาน (+)
“ ถ้าให้นึก…คงต้องเป็นช่วงกีฬาสีที่ผ่านมา ผมไปเชียร์เพื่อนๆนั้นเล่นเอาผมกลับบ้านไปโดนบ่นยกใหญ่เลยละ ฮ่าฮ่า! ”
ฮิเมริขำคิกคัก แม้ตอนที่เกิดเหตุ จะไม่ค่อยขำเท่าไหร่เพราะต้องประคบเย็นจนหนาวไปหมด
“แต่ถ้ามีร่ม ก็ช่วยได้เยอะเลยละครับ”
เจ้าตัวยิ้มออกมา ท่าทางเจ้าตัวก็ดูไม่กลัวดงกลัวแดดเสียเท่าไหร่ แถมยังยิ้มอีก
“ ถ้าให้นึก…คงต้องเป็นช่วงกีฬาสีที่ผ่านมา ผมไปเชียร์เพื่อนๆนั้นเล่นเอาผมกลับบ้านไปโดนบ่นยกใหญ่เลยละ ฮ่าฮ่า! ”
ฮิเมริขำคิกคัก แม้ตอนที่เกิดเหตุ จะไม่ค่อยขำเท่าไหร่เพราะต้องประคบเย็นจนหนาวไปหมด
“แต่ถ้ามีร่ม ก็ช่วยได้เยอะเลยละครับ”
เจ้าตัวยิ้มออกมา ท่าทางเจ้าตัวก็ดูไม่กลัวดงกลัวแดดเสียเท่าไหร่ แถมยังยิ้มอีก
” ผมอยู่กลางแดดนานไม่ได้น่ะครับ “
เขายิ้มออกมาและเอายถึงเหตุผล ก่อนจะเสริมอีกครั้งด้วยท่าทางไม่คิดปิดบังอะไร
” ผมเป็นโรคผิวเผือกน่ะ การอยู่กลางแดดนานๆจะทำให้ผมแสบผิวน่ะครับ “
ถ้าให้ยกตัวอย่างคงต้องเป็นมือขาวๆนั้นที่ก่อนหน้าเผลอยื่นไปตากแดดตอนดูดอกไม้แถวทางเดิน ที่ตอนนี้แดงแจ๋ โชคร้ายที่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยจะพกโลชั่น ถึงต้องปล่อยให้แดงแจ๋แบบนั้น (+)
” ผมอยู่กลางแดดนานไม่ได้น่ะครับ “
เขายิ้มออกมาและเอายถึงเหตุผล ก่อนจะเสริมอีกครั้งด้วยท่าทางไม่คิดปิดบังอะไร
” ผมเป็นโรคผิวเผือกน่ะ การอยู่กลางแดดนานๆจะทำให้ผมแสบผิวน่ะครับ “
ถ้าให้ยกตัวอย่างคงต้องเป็นมือขาวๆนั้นที่ก่อนหน้าเผลอยื่นไปตากแดดตอนดูดอกไม้แถวทางเดิน ที่ตอนนี้แดงแจ๋ โชคร้ายที่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยจะพกโลชั่น ถึงต้องปล่อยให้แดงแจ๋แบบนั้น (+)