💿Doc https://shorturl.asia/pk9FJ
(Account for #THK_Commu only)
“ถ้ามันแยกเธอออกจากคนอื่นจริง ๆ”
“งั้นก็ให้ผมเป็นคนเดียวที่ ‘ไม่แยก’ แล้วกันครับ”
เงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนเขาจะเอียงศีรษะเบา ๆ แล้วช้อนมองคุณ
“ถ้าสักวันเธอลืมว่าตัวเองคือใคร…ผมจะคอยเล่าให้ฟังทุกวันเลย”
“ถ้ามันแยกเธอออกจากคนอื่นจริง ๆ”
“งั้นก็ให้ผมเป็นคนเดียวที่ ‘ไม่แยก’ แล้วกันครับ”
เงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนเขาจะเอียงศีรษะเบา ๆ แล้วช้อนมองคุณ
“ถ้าสักวันเธอลืมว่าตัวเองคือใคร…ผมจะคอยเล่าให้ฟังทุกวันเลย”
เหมือนจะเปลี่ยนเพลง แต่จริง ๆ แล้วแค่แตะ…เพื่อยืนยันอะไรบางอย่างกับตัวเอง
“เพลงที่ไม่มีเสียงร้อง แต่มีชื่อ ‘ชิรุฮะ‘ วนอยู่ในทำนอง”
“แบบนั้นคงไม่ลืมง่าย ๆ ใช่ไหมครับ?”
เขาหลุบตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาใหม่—คราวนี้กลับมามองตรง ๆ
ไม่ใช่แค่สายตารุ่นพี่ขี้เล่นอีกต่อไป แต่เป็นใครคนหนึ่ง…ที่ “ตั้งใจ” จะอยู่ตรงนี้
(+)
เหมือนจะเปลี่ยนเพลง แต่จริง ๆ แล้วแค่แตะ…เพื่อยืนยันอะไรบางอย่างกับตัวเอง
“เพลงที่ไม่มีเสียงร้อง แต่มีชื่อ ‘ชิรุฮะ‘ วนอยู่ในทำนอง”
“แบบนั้นคงไม่ลืมง่าย ๆ ใช่ไหมครับ?”
เขาหลุบตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาใหม่—คราวนี้กลับมามองตรง ๆ
ไม่ใช่แค่สายตารุ่นพี่ขี้เล่นอีกต่อไป แต่เป็นใครคนหนึ่ง…ที่ “ตั้งใจ” จะอยู่ตรงนี้
(+)
เหมือนกำลังบ่นแบบไม่จริงจัง แต่กลับมีรอยยิ้มมุมปากเล็ก ๆ พาดอยู่บนใบหน้า
“ตอนอ่านครั้งแรก ผมนึกว่าเป็นชื่อพันธุ์นกซะอีก…”
“หรือเป็นสายลมเบา ๆ ที่พัดมาทุกเช้าแบบนี้”
เขาเอียงหน้ามองเธอเล็กน้อย ราวกับกำลังสำรวจปฏิกิริยา
แต่ก็ยังคงโทนนุ่มนวลแบบคนที่ไม่เร่งเร้า
“ถ้าครั้งหน้า ชิรุฮะจังจำไม่ได้…”
“งั้นผมจะเขียนชื่อเธอไว้ในเพลงเลยละกันครับ”
(+)
เหมือนกำลังบ่นแบบไม่จริงจัง แต่กลับมีรอยยิ้มมุมปากเล็ก ๆ พาดอยู่บนใบหน้า
“ตอนอ่านครั้งแรก ผมนึกว่าเป็นชื่อพันธุ์นกซะอีก…”
“หรือเป็นสายลมเบา ๆ ที่พัดมาทุกเช้าแบบนี้”
เขาเอียงหน้ามองเธอเล็กน้อย ราวกับกำลังสำรวจปฏิกิริยา
แต่ก็ยังคงโทนนุ่มนวลแบบคนที่ไม่เร่งเร้า
“ถ้าครั้งหน้า ชิรุฮะจังจำไม่ได้…”
“งั้นผมจะเขียนชื่อเธอไว้ในเพลงเลยละกันครับ”
(+)
ทิ้งไว้แค่ไอเย็นจาง ๆ ตรงปลายนิ้วของเขา และคำพูดที่เหมือนจะลืมไปเองด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอยู่
“ช่วยจำชื่อฉันไว้ด้วย…”
เขาก้มมองบัตรนักเรียนในมือของเธอครู่หนึ่ง
ชื่อของเธอพิมพ์ไว้ชัดเจน…แต่เขาไม่ได้อ่านมันจากตัวหนังสือ
เขา ’จำ‘ มันไว้นานแล้ว
“ชื่อ ชิรุฮะ จัง— จำยากมากเลยครับ”
(+)
ทิ้งไว้แค่ไอเย็นจาง ๆ ตรงปลายนิ้วของเขา และคำพูดที่เหมือนจะลืมไปเองด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอยู่
“ช่วยจำชื่อฉันไว้ด้วย…”
เขาก้มมองบัตรนักเรียนในมือของเธอครู่หนึ่ง
ชื่อของเธอพิมพ์ไว้ชัดเจน…แต่เขาไม่ได้อ่านมันจากตัวหนังสือ
เขา ’จำ‘ มันไว้นานแล้ว
“ชื่อ ชิรุฮะ จัง— จำยากมากเลยครับ”
(+)
ปลายนิ้วชี้ไปยังกระเป๋าของคุณช้า ๆ
ไม่ได้แตะ ไม่ได้ขอ
แค่ชี้—พอให้คุณรับรู้ว่ามีบางอย่างที่เขาเห็น
“กระเป๋าของเธอ”
เขารู้ว่าคุณรู้
และเขารู้ว่าคุณรู้ว่าเขารู้
“ ‘เสียงเรียก’ มันดัง เฉพาะตอนเธออยู่ใกล้ ๆ เท่านั้นเลยนะครับ“
“ผมจะดีมากเลยครับ…ถ้าเธอช่วยลองค้นให้ผมดูซักหน่อย“
”ผมจะได้ไม่ต้องลุกไปล้ำเส้นค้นเอง”
ปลายนิ้วชี้ไปยังกระเป๋าของคุณช้า ๆ
ไม่ได้แตะ ไม่ได้ขอ
แค่ชี้—พอให้คุณรับรู้ว่ามีบางอย่างที่เขาเห็น
“กระเป๋าของเธอ”
เขารู้ว่าคุณรู้
และเขารู้ว่าคุณรู้ว่าเขารู้
“ ‘เสียงเรียก’ มันดัง เฉพาะตอนเธออยู่ใกล้ ๆ เท่านั้นเลยนะครับ“
“ผมจะดีมากเลยครับ…ถ้าเธอช่วยลองค้นให้ผมดูซักหน่อย“
”ผมจะได้ไม่ต้องลุกไปล้ำเส้นค้นเอง”
ยังคง “อยู่ตรงนี้”
เขายกมือขึ้น แตะแนบหน้าอกตัวเองแผ่วเบา
ไม่ใช่เพราะเหนื่อย
ไม่ใช่เพราะหวั่นไหว
แต่เพราะเขากำลังควบคุมจังหวะหัวใจตัวเองไม่ให้ดังเกินไป
“ความจริงแล้ว… ผมไม่ได้แค่อยากเล่นนะครับ”
“ผมอยาก ‘ชนะ‘ เธอจริง ๆ”
รอยยิ้มประดับมุมปากแบบเดิม
เหมือนเด็กดีที่พูดเรื่องไม่ดีด้วยเสียงสุภาพ
“ในเกมนี้ หรือเกมไหนก็แล้วแต่…”
(+)
ยังคง “อยู่ตรงนี้”
เขายกมือขึ้น แตะแนบหน้าอกตัวเองแผ่วเบา
ไม่ใช่เพราะเหนื่อย
ไม่ใช่เพราะหวั่นไหว
แต่เพราะเขากำลังควบคุมจังหวะหัวใจตัวเองไม่ให้ดังเกินไป
“ความจริงแล้ว… ผมไม่ได้แค่อยากเล่นนะครับ”
“ผมอยาก ‘ชนะ‘ เธอจริง ๆ”
รอยยิ้มประดับมุมปากแบบเดิม
เหมือนเด็กดีที่พูดเรื่องไม่ดีด้วยเสียงสุภาพ
“ในเกมนี้ หรือเกมไหนก็แล้วแต่…”
(+)
แต่เพราะเขากำลังซ่อนบางอย่าง
มีเพียงดวงตาสีชมพูหม่นที่จ้องลอดผ่านช่องนิ้วออกมา ไม่กระพริบ
“ผมนึกว่าโคยูกิคุงจะลำบากใจกว่าชื่นใจซะอีกนะครับ”
“เธอนี่ใจดีจังเลยครับ“
สายตานั้น…
ไม่ใช่สายตาของคนที่โดนชมแล้วเขินจนหน้าแดง
แต่เป็นแบบที่ ’กลั้นความหลงใหลไว้ไม่ไหว‘
(+)
แต่เพราะเขากำลังซ่อนบางอย่าง
มีเพียงดวงตาสีชมพูหม่นที่จ้องลอดผ่านช่องนิ้วออกมา ไม่กระพริบ
“ผมนึกว่าโคยูกิคุงจะลำบากใจกว่าชื่นใจซะอีกนะครับ”
“เธอนี่ใจดีจังเลยครับ“
สายตานั้น…
ไม่ใช่สายตาของคนที่โดนชมแล้วเขินจนหน้าแดง
แต่เป็นแบบที่ ’กลั้นความหลงใหลไว้ไม่ไหว‘
(+)
แววตาที่เคยล่องลอยดูไร้จุดหมายเมื่อครู่ เหมือนถูกกระตุกให้กลับมามี “สี” ขึ้นอีกครั้ง
คำว่า “น่ารัก” ของโคยูกิ
น้ำเสียงที่นุ่มนวล ลึกลับ เจือเสน่ห์บางอย่างที่จับความจริงไม่ได้ง่าย ๆ
ทำเอาเขากะพริบตาช้า ๆ ก่อนจะ…
ยิ้ม
ยิ้มแบบเด็กดีที่ไม่รู้จะรับมือคำชมยังไง
แต่แฝงไว้ด้วยอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่เขินธรรมดา
“อ๋า…”
(+)
แววตาที่เคยล่องลอยดูไร้จุดหมายเมื่อครู่ เหมือนถูกกระตุกให้กลับมามี “สี” ขึ้นอีกครั้ง
คำว่า “น่ารัก” ของโคยูกิ
น้ำเสียงที่นุ่มนวล ลึกลับ เจือเสน่ห์บางอย่างที่จับความจริงไม่ได้ง่าย ๆ
ทำเอาเขากะพริบตาช้า ๆ ก่อนจะ…
ยิ้ม
ยิ้มแบบเด็กดีที่ไม่รู้จะรับมือคำชมยังไง
แต่แฝงไว้ด้วยอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่เขินธรรมดา
“อ๋า…”
(+)
เขารู้ว่าเธอเข้าใจ
จากนั้นเขาก็คลี่ยิ้ม เบา ๆ
“แต่ไม่ต้องห่วงครับ”
“ถึงจะไม่แย่งกลับมาได้ทันที”
“แต่ผมน่ะ ฟังเสียงของคนที่กำลังจะหายไปเก่งพอสมควรเลยล่ะ”
เขากระซิบเบา ๆ
ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นไปหยิบบัตรนักเรียนที่ยังคาอยู่กับตะขอเหล็ก
ยื่นมันคืนให้เธอด้วยมือเดิมนั่น—ที่เธอยังแตะอยู่บาง ๆ ราวกับยังลังเลจะปล่อยดีไหม
เขารู้ว่าเธอเข้าใจ
จากนั้นเขาก็คลี่ยิ้ม เบา ๆ
“แต่ไม่ต้องห่วงครับ”
“ถึงจะไม่แย่งกลับมาได้ทันที”
“แต่ผมน่ะ ฟังเสียงของคนที่กำลังจะหายไปเก่งพอสมควรเลยล่ะ”
เขากระซิบเบา ๆ
ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นไปหยิบบัตรนักเรียนที่ยังคาอยู่กับตะขอเหล็ก
ยื่นมันคืนให้เธอด้วยมือเดิมนั่น—ที่เธอยังแตะอยู่บาง ๆ ราวกับยังลังเลจะปล่อยดีไหม
นิ้วของเธอเย็นกว่าที่เขาคิด—หรือเป็นเพราะลมตรงระเบียงมันแรง หรือเพราะเงานั่นจริง ๆ
เขากระพริบตาอยู่พักหนึ่ง เงาที่คลืบคลานใกล้ก่อนหน้านี้…เหมือนจะสลายไปแล้ว
หรือไม่…มันก็แค่แอบถอยไปตั้งหลักเหมือนเธอเมื่อครู่
เขาหันมองหน้าคุณ
“ถามแบบนี้ก่อน”
“ชิรุฮะจัง…เคยถูกอะไรบางอย่าง ‘เลือก’ มาก่อนเหรอครับ?”
(+)
นิ้วของเธอเย็นกว่าที่เขาคิด—หรือเป็นเพราะลมตรงระเบียงมันแรง หรือเพราะเงานั่นจริง ๆ
เขากระพริบตาอยู่พักหนึ่ง เงาที่คลืบคลานใกล้ก่อนหน้านี้…เหมือนจะสลายไปแล้ว
หรือไม่…มันก็แค่แอบถอยไปตั้งหลักเหมือนเธอเมื่อครู่
เขาหันมองหน้าคุณ
“ถามแบบนี้ก่อน”
“ชิรุฮะจัง…เคยถูกอะไรบางอย่าง ‘เลือก’ มาก่อนเหรอครับ?”
(+)
“ถ้ารู้ว่าที่นี่มีคนแบบโคยูกิอยู่ด้วย…ผมคงเลือกมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ”
เขาพูดพลางยกสายตาขึ้นช้า ๆ สบกับแววตาของคุณที่มองเขาอยู่
ในสายตานั้นไม่มีแววตื่นเต้น ไม่มีประกายดีใจแบบเด็กมัธยมที่ได้พบเพื่อนใหม่
แต่เป็นแววตาแบบ ’คนที่เจอบางอย่างเข้าให้แล้ว และตั้งใจจะไม่ปล่อยมันไป‘
“ถ้าผมหาบัตรไม่เจอ…จะโกรธไหมครับ?“
“จะทิ้งผมไปมั้ยครับ?”
“ถ้ารู้ว่าที่นี่มีคนแบบโคยูกิอยู่ด้วย…ผมคงเลือกมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ”
เขาพูดพลางยกสายตาขึ้นช้า ๆ สบกับแววตาของคุณที่มองเขาอยู่
ในสายตานั้นไม่มีแววตื่นเต้น ไม่มีประกายดีใจแบบเด็กมัธยมที่ได้พบเพื่อนใหม่
แต่เป็นแววตาแบบ ’คนที่เจอบางอย่างเข้าให้แล้ว และตั้งใจจะไม่ปล่อยมันไป‘
“ถ้าผมหาบัตรไม่เจอ…จะโกรธไหมครับ?“
“จะทิ้งผมไปมั้ยครับ?”
ทวนคำเบา ๆ ก่อนจะยกตัวขึ้นนั่งพิงโต๊ะ รวบมือไว้บนหน้าตัก
“ผมน่ะ…ก็แค่อยากเรียนให้จบครับ”
เขาหัวเราะออกมานิดหน่อย
“แล้วก็… อยากสอบติดมหา’ลัยดี ๆ คณะดนตรีสักที่”
ก่อนหันกลับมาสบตาคุณ ยิ้มบาง ๆ เหมือนจะบอกว่า “มันก็แค่นั้นแหละ”
“เพราะงั้นโรงเรียนแบบนี้ก็ดีนะครับ…เงียบดี ไม่ค่อยมีใครคาดหวังอะไรจากผมเท่าไหร่”
(+)
ทวนคำเบา ๆ ก่อนจะยกตัวขึ้นนั่งพิงโต๊ะ รวบมือไว้บนหน้าตัก
“ผมน่ะ…ก็แค่อยากเรียนให้จบครับ”
เขาหัวเราะออกมานิดหน่อย
“แล้วก็… อยากสอบติดมหา’ลัยดี ๆ คณะดนตรีสักที่”
ก่อนหันกลับมาสบตาคุณ ยิ้มบาง ๆ เหมือนจะบอกว่า “มันก็แค่นั้นแหละ”
“เพราะงั้นโรงเรียนแบบนี้ก็ดีนะครับ…เงียบดี ไม่ค่อยมีใครคาดหวังอะไรจากผมเท่าไหร่”
(+)
ดวงตาใต้ปอยผมยาวสีบรอนด์จับจ้องไปยังคนตรงหน้า
เขายิ้มน้อย ๆ
ไม่ใช่รอยยิ้มกว้าง ไม่ใช่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่รอยยิ้มมีชั้นเชิง
เป็นรอยยิ้มแบบที่ ’เด็กดี‘ มักใช้ตอนตอบคำถามครูหน้าห้อง
…แต่ถ้าสังเกตดี ๆ มันดูคล้ายกับการหลอกตัวเองนิด ๆ
(+)
ดวงตาใต้ปอยผมยาวสีบรอนด์จับจ้องไปยังคนตรงหน้า
เขายิ้มน้อย ๆ
ไม่ใช่รอยยิ้มกว้าง ไม่ใช่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่รอยยิ้มมีชั้นเชิง
เป็นรอยยิ้มแบบที่ ’เด็กดี‘ มักใช้ตอนตอบคำถามครูหน้าห้อง
…แต่ถ้าสังเกตดี ๆ มันดูคล้ายกับการหลอกตัวเองนิด ๆ
(+)
ยื่นมาตรงหน้าราวกับเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนเธอจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเสียอีก
“ให้ผมหยิบให้ก็ได้นะครับ”
“แต่เธอต้องยอม ‘ถอยมาใกล้ผม’ นิดนึงก่อนนะ?“
ไม่ได้เร่ง ไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้กว่านั้น
…แต่ก็ไม่ขยับถอยด้วยเช่นกัน
ยื่นมาตรงหน้าราวกับเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนเธอจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเสียอีก
“ให้ผมหยิบให้ก็ได้นะครับ”
“แต่เธอต้องยอม ‘ถอยมาใกล้ผม’ นิดนึงก่อนนะ?“
ไม่ได้เร่ง ไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้กว่านั้น
…แต่ก็ไม่ขยับถอยด้วยเช่นกัน
คนเป็นรุ่นพี่ยืนนิ่งอยู่ตรงมุมอาคาร
มองภาพตรงหน้าราวกับฉากในหนังที่เขาเคยดูซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง
แต่ครั้งนี้…ไม่ใช่แค่ดู
เงาบางอย่างกำลัง “คลืบคลาน” ใกล้เข้ามา
มือเขาอยู่ในกระเป๋ากางเกง
“ชิรุฮะจัง”
“มันไม่คุ้มเลยนะครับ ถ้าต้องแลกบัตรนักเรียนกับกระดูกหัก”
เสียงนั้นเหมือนพูดเล่น
แต่ในแววตาของเขา—ไม่มีรอยล้อเล่นแม้แต่น้อย
(+)
คนเป็นรุ่นพี่ยืนนิ่งอยู่ตรงมุมอาคาร
มองภาพตรงหน้าราวกับฉากในหนังที่เขาเคยดูซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง
แต่ครั้งนี้…ไม่ใช่แค่ดู
เงาบางอย่างกำลัง “คลืบคลาน” ใกล้เข้ามา
มือเขาอยู่ในกระเป๋ากางเกง
“ชิรุฮะจัง”
“มันไม่คุ้มเลยนะครับ ถ้าต้องแลกบัตรนักเรียนกับกระดูกหัก”
เสียงนั้นเหมือนพูดเล่น
แต่ในแววตาของเขา—ไม่มีรอยล้อเล่นแม้แต่น้อย
(+)
“เธอเลือกมาเรียนที่นี่เพราะอะไรเหรอครับ?”
คำถามนั้นไม่ได้ฟังเหมือนคำถามนัก
มันเหมือนบทสนทนาที่เอาไว้ใช้ถ่วงเวลา
เขาเดินไปหยุดข้างโต๊ะที่คุณนั่ง ก้มลงมองลิ้นชักใต้โต๊ะ ช้อนตาขึ้นมองระยะ ๆ
“โรงเรียนที่มีเรื่องแปลกประหลาดอยู่ทุกวัน“
“ผมน่ะเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ ‘มีเหตุผล’ ทั้งนั้น…เธอล่ะครับ?“
“เธอเลือกมาเรียนที่นี่เพราะอะไรเหรอครับ?”
คำถามนั้นไม่ได้ฟังเหมือนคำถามนัก
มันเหมือนบทสนทนาที่เอาไว้ใช้ถ่วงเวลา
เขาเดินไปหยุดข้างโต๊ะที่คุณนั่ง ก้มลงมองลิ้นชักใต้โต๊ะ ช้อนตาขึ้นมองระยะ ๆ
“โรงเรียนที่มีเรื่องแปลกประหลาดอยู่ทุกวัน“
“ผมน่ะเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ ‘มีเหตุผล’ ทั้งนั้น…เธอล่ะครับ?“
แต่เขาก็แกล้งหยุดมองมันอยู่แบบนั้นนานกว่าปกติราวกับกำลัง “จำลอง” บัตรนั้นให้กลายเป็นของอีกคน
ว่าถ้ามันเป็นของ ‘โคยูกิ’ จริง ๆ ล่ะ จะทำยังไงต่อ?
และเมื่อคิดจบ เขาก็เพียงแค่…วางมันลงบนขอบโต๊ะ
หวังว่าเจ้าของบัตรจะมาเจอ
(+)
แต่เขาก็แกล้งหยุดมองมันอยู่แบบนั้นนานกว่าปกติราวกับกำลัง “จำลอง” บัตรนั้นให้กลายเป็นของอีกคน
ว่าถ้ามันเป็นของ ‘โคยูกิ’ จริง ๆ ล่ะ จะทำยังไงต่อ?
และเมื่อคิดจบ เขาก็เพียงแค่…วางมันลงบนขอบโต๊ะ
หวังว่าเจ้าของบัตรจะมาเจอ
(+)
จ้องจนเห็นว่าอีกฝ่ายไขว่ห้างพอดี
จ้องจนรู้ว่าแขนข้างไหนกอดอกทับอีกข้าง
เดินช้า ๆ ไปยังพื้นที่แถวหน้าชั้นเรียน
ไม่มีคำบ่น ไม่มีเสียงถอนหายใจ
แต่ฝีเท้าเบามากเสียจนเหมือนกลัวเสียงจะรบกวนใครบางคน
มือข้างหนึ่งก้มหยิบบัตรของใครบางคนที่ตกอยู่แถวหน้าชั้นเรียนขึ้นมา
(+)
จ้องจนเห็นว่าอีกฝ่ายไขว่ห้างพอดี
จ้องจนรู้ว่าแขนข้างไหนกอดอกทับอีกข้าง
เดินช้า ๆ ไปยังพื้นที่แถวหน้าชั้นเรียน
ไม่มีคำบ่น ไม่มีเสียงถอนหายใจ
แต่ฝีเท้าเบามากเสียจนเหมือนกลัวเสียงจะรบกวนใครบางคน
มือข้างหนึ่งก้มหยิบบัตรของใครบางคนที่ตกอยู่แถวหน้าชั้นเรียนขึ้นมา
(+)
มองร่างของโคยูกิที่หยุดยืนตรงหน้าเขา
ฟังประโยคเรียบง่ายนั้น—“ก็เพราะมีรุ่นพี่อยู่ด้วยนี่นะ”
มันเหมือน ‘บ่วงที่ผูกหลวม ๆ’ รอบคอเขา
“อืม...” เขาขานรับในลำคอ คล้ายจะยอมรับคำพูดนั้น
แต่ถ้ามองลึกเข้าไปจริง ๆ — ดวงตาของเขาเหมือนคนที่ได้ยิน ‘คำโกหก’ แล้วบอกว่า ‘ไม่เป็นไรหรอกครับ’
(+)
มองร่างของโคยูกิที่หยุดยืนตรงหน้าเขา
ฟังประโยคเรียบง่ายนั้น—“ก็เพราะมีรุ่นพี่อยู่ด้วยนี่นะ”
มันเหมือน ‘บ่วงที่ผูกหลวม ๆ’ รอบคอเขา
“อืม...” เขาขานรับในลำคอ คล้ายจะยอมรับคำพูดนั้น
แต่ถ้ามองลึกเข้าไปจริง ๆ — ดวงตาของเขาเหมือนคนที่ได้ยิน ‘คำโกหก’ แล้วบอกว่า ‘ไม่เป็นไรหรอกครับ’
(+)
“ดูเธอไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่เลยนะครับ…”
พูดขึ้นเบา ๆ ไม่ได้แข็ง ไม่ได้ถาม แค่เหมือน ’เอ่ยขึ้นเฉย ๆ‘
เหมือนนักดนตรีที่เคาะเปียโนเบา ๆ เพื่อฟังเสียงสะท้อนกลับ
ฝ่ามือของเขายกขึ้นลูบต้นคอตัวเองช้า ๆ ขณะเดินต่อ ดวงตาไม่จ้องตรง
“ปกติคนเราทำของสำคัญหายจะมีสีหน้าประมาณหนึ่งนะครับ”
“ดูเธอไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่เลยนะครับ…”
พูดขึ้นเบา ๆ ไม่ได้แข็ง ไม่ได้ถาม แค่เหมือน ’เอ่ยขึ้นเฉย ๆ‘
เหมือนนักดนตรีที่เคาะเปียโนเบา ๆ เพื่อฟังเสียงสะท้อนกลับ
ฝ่ามือของเขายกขึ้นลูบต้นคอตัวเองช้า ๆ ขณะเดินต่อ ดวงตาไม่จ้องตรง
“ปกติคนเราทำของสำคัญหายจะมีสีหน้าประมาณหนึ่งนะครับ”
แต่ในดวงตาใต้ปอยผมนั้น คล้ายมีอะไรบางอย่าง “หยุดนิ่ง”
“อา…งั้นเหรอครับ”
เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ คล้ายรับรู้ ก่อนจะก้าวเดินต่อ — ช้าลงเล็กน้อย เพื่อเว้นจังหวะให้คุณเดินนำได้อย่างถนัด
ไม่มีคำถามว่า
“แน่ใจเหรอว่าบัตรหาย?”
“กำลังพาไปที่ไหน?”
ไม่มีเลย
เพราะอาราโตะไม่จำเป็นต้องรู้
เขาแค่—รู้ว่าเขาจะ ‘เดินตาม’ ไปแน่นอน
(+)
แต่ในดวงตาใต้ปอยผมนั้น คล้ายมีอะไรบางอย่าง “หยุดนิ่ง”
“อา…งั้นเหรอครับ”
เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ คล้ายรับรู้ ก่อนจะก้าวเดินต่อ — ช้าลงเล็กน้อย เพื่อเว้นจังหวะให้คุณเดินนำได้อย่างถนัด
ไม่มีคำถามว่า
“แน่ใจเหรอว่าบัตรหาย?”
“กำลังพาไปที่ไหน?”
ไม่มีเลย
เพราะอาราโตะไม่จำเป็นต้องรู้
เขาแค่—รู้ว่าเขาจะ ‘เดินตาม’ ไปแน่นอน
(+)
อาราโตะชะงักจากที่วิ่งอย่างเร่งรีบ
แววตาใต้ปอยผมยาวสีบรอนด์ค่อย ๆ เงยขึ้น และทันทีที่สบกับดวงตาคู่นั้นของคุณ
เขายิ้ม — ช้าๆ และบางมากพอที่จะเรียกว่า ’ใจดี‘
“…โคยูกิคุง?”
“อืม…บัตรนักเรียนงั้นเหรอครับ?”
ก่อนจะขยับไหล่คล้ายยืดเส้น
“อ้า ปกติรุ่นพี่ก็ต้องตามหาบัตรให้รุ่นน้องด้วยสินะครับ?”
“งั้นโคยูกิคุงช่วยพาผมไปจุดสุดท้ายที่ [เห็นมัน] ได้ไหมครับ?”
ขยับตัวเหมือนจะเดิน
อาราโตะชะงักจากที่วิ่งอย่างเร่งรีบ
แววตาใต้ปอยผมยาวสีบรอนด์ค่อย ๆ เงยขึ้น และทันทีที่สบกับดวงตาคู่นั้นของคุณ
เขายิ้ม — ช้าๆ และบางมากพอที่จะเรียกว่า ’ใจดี‘
“…โคยูกิคุง?”
“อืม…บัตรนักเรียนงั้นเหรอครับ?”
ก่อนจะขยับไหล่คล้ายยืดเส้น
“อ้า ปกติรุ่นพี่ก็ต้องตามหาบัตรให้รุ่นน้องด้วยสินะครับ?”
“งั้นโคยูกิคุงช่วยพาผมไปจุดสุดท้ายที่ [เห็นมัน] ได้ไหมครับ?”
ขยับตัวเหมือนจะเดิน
“งั้นก็ไม่มีทางเดินผ่านเฉย ๆ ได้แล้วล่ะ”
พูดติดยิ้มคล้ายแซว แต่ไม่มีน้ำเสียงกดดันเลยสักนิด
ก่อนจะสะพายกระเป๋าให้กระชับขึ้นนิดหน่อยแล้วหันตัวมาทางคุณเต็ม ๆ
“ยูโตะ…ปีสอง ห้อง F สินะครับ”
“เป็นชื่อที่เวลาพูดแล้วรู้สึกสดใสดีนะครับ“
”ฮ่ะ ๆ ! ผมแพ้เด็กเปิดเทอมขี้เล่นแบบนายเสียด้วยสิ”
“คนรู้ใจใหม่ ๆ เนี่ย…รุ่นพี่เก่า ๆ อย่างผมรวมอยู่ในลิสต์ด้วยได้มั้ยครับ?”
“งั้นก็ไม่มีทางเดินผ่านเฉย ๆ ได้แล้วล่ะ”
พูดติดยิ้มคล้ายแซว แต่ไม่มีน้ำเสียงกดดันเลยสักนิด
ก่อนจะสะพายกระเป๋าให้กระชับขึ้นนิดหน่อยแล้วหันตัวมาทางคุณเต็ม ๆ
“ยูโตะ…ปีสอง ห้อง F สินะครับ”
“เป็นชื่อที่เวลาพูดแล้วรู้สึกสดใสดีนะครับ“
”ฮ่ะ ๆ ! ผมแพ้เด็กเปิดเทอมขี้เล่นแบบนายเสียด้วยสิ”
“คนรู้ใจใหม่ ๆ เนี่ย…รุ่นพี่เก่า ๆ อย่างผมรวมอยู่ในลิสต์ด้วยได้มั้ยครับ?”