—
ตอบช้า/สะดวกตอนค่ำ-ดึก
doc: https://url.in.th/dSlGU
pfp cms cr. Kana Shine (FB)
สาวม้าผมขาวเทาในชุดพ่อบ้านสไตล์ญี่ปุ่นกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับผายมือไปที่โต๊ะ
“วันนี้รับเป็นข้าวปั้นไส้อะไรดีขอรับ หรือจะรับเป็นขนมไทยที่เมดของเราตั้งใจทำเป็นพิเศษดีขอรับ?”
“แล้วก็…เซอร์วิสพิเศษ ถือเป็นความลับของพวกเรานะขอรับ”
เธอพูดพลางยื่นลูกอมให้“คุณ”
เจ้าของรอยยิ้มบางค่อยๆยิ้มกว้างขึ้นพร้อมกับขยิบตาให้
สาวม้าผมขาวเทาในชุดพ่อบ้านสไตล์ญี่ปุ่นกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับผายมือไปที่โต๊ะ
“วันนี้รับเป็นข้าวปั้นไส้อะไรดีขอรับ หรือจะรับเป็นขนมไทยที่เมดของเราตั้งใจทำเป็นพิเศษดีขอรับ?”
“แล้วก็…เซอร์วิสพิเศษ ถือเป็นความลับของพวกเรานะขอรับ”
เธอพูดพลางยื่นลูกอมให้“คุณ”
เจ้าของรอยยิ้มบางค่อยๆยิ้มกว้างขึ้นพร้อมกับขยิบตาให้
“เอายังไงต่อ.. ก็คงมีแต่ต้องฝึกแหละค่ะ”
“เราเพิ่งได้เดบิวต์เอง ก็เลยยังอยากวิ่งให้เยอะกว่านี้”
น้ำเสียงเธอเริ่มดูดีขึ้นมาหลังซึมจ๋อยมานาน
“เอายังไงต่อ.. ก็คงมีแต่ต้องฝึกแหละค่ะ”
“เราเพิ่งได้เดบิวต์เอง ก็เลยยังอยากวิ่งให้เยอะกว่านี้”
น้ำเสียงเธอเริ่มดูดีขึ้นมาหลังซึมจ๋อยมานาน
ทั้งที่ว่ายังติดใจอะไรอยู่... ทั้งการวิ่งไม่ได้เป็นดั่งใจอยาก...
สองมือวางแก้วชานมลงพร้อมเสียงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเริ่มพูด
“เรา... แพ้แค่ครึ่งช่วงตัว”
“แค่ครึ่งช่วงตัวเอง”
“ทั้งที่วิ่งอยู่ข้างหน้ามาตลอด–”
ทั้งที่ว่ายังติดใจอะไรอยู่... ทั้งการวิ่งไม่ได้เป็นดั่งใจอยาก...
สองมือวางแก้วชานมลงพร้อมเสียงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเริ่มพูด
“เรา... แพ้แค่ครึ่งช่วงตัว”
“แค่ครึ่งช่วงตัวเอง”
“ทั้งที่วิ่งอยู่ข้างหน้ามาตลอด–”
“เอ๋? อ่า... ที่จริงของหวานน่ะเป็นของโปรดเราเลยล่ะค่ะ” ทาปิโอก้าตอบข้อสงสัย
“เหมือนเราจะเหม่อนานไปมากกว่า ก็เลยดูเป็นแบบนั้น”
ส่วนรสชาติของซันเดย์.. เธอเพิ่งชิมไปคำเดียวเอง ยังไม่ทันรู้เลยว่าอร่อยถูกใจรึเปล่า–
“จริง ๆ ก็แค่เรื่องตอนแข่งเดบิวต์เองน่ะค่ะ”
“เอ๋? อ่า... ที่จริงของหวานน่ะเป็นของโปรดเราเลยล่ะค่ะ” ทาปิโอก้าตอบข้อสงสัย
“เหมือนเราจะเหม่อนานไปมากกว่า ก็เลยดูเป็นแบบนั้น”
ส่วนรสชาติของซันเดย์.. เธอเพิ่งชิมไปคำเดียวเอง ยังไม่ทันรู้เลยว่าอร่อยถูกใจรึเปล่า–
“จริง ๆ ก็แค่เรื่องตอนแข่งเดบิวต์เองน่ะค่ะ”
“ประมาณนั้นค่ะ เรา... วิ่งตามหลังเธอคนนั้นเกือบตลอดการแข่งเลย”
เธอเริ่มเล่าให้รุ่นพี่ฟังพร้อมค่อย ๆ ตักไอศกรีมขึ้นมาเพื่อไม่ให้เสียของ
“มัน... อีกนิดเดียวจริง ๆ ค่ะ เฉียดฉิวมาก... เกือบแล้วเชียว” เล่าไปก็เริ่มเหม่อ
“ประมาณนั้นค่ะ เรา... วิ่งตามหลังเธอคนนั้นเกือบตลอดการแข่งเลย”
เธอเริ่มเล่าให้รุ่นพี่ฟังพร้อมค่อย ๆ ตักไอศกรีมขึ้นมาเพื่อไม่ให้เสียของ
“มัน... อีกนิดเดียวจริง ๆ ค่ะ เฉียดฉิวมาก... เกือบแล้วเชียว” เล่าไปก็เริ่มเหม่อ
“นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราอยู่ไกลบ้านแบบนี้ ตื่นเต้นมาก ๆ” ทาปิโอก้าเอ่ยต่อ
“แล้วก็... ที่แน่ ๆ คือโรงอาหารของโรงเรียนเป็นแบบกินไม่อั้นล่ะ เราว่าสุดยอดเลย” (พาเข้าเรื่องของกินจนได้)
ใบหูกระดิกตามเสียงฮัมเพลงของอีกคน เดินพาอีกคนเพลิน ๆ มุ่งไปทางตึกเรียนหลักซะก่อน
“นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราอยู่ไกลบ้านแบบนี้ ตื่นเต้นมาก ๆ” ทาปิโอก้าเอ่ยต่อ
“แล้วก็... ที่แน่ ๆ คือโรงอาหารของโรงเรียนเป็นแบบกินไม่อั้นล่ะ เราว่าสุดยอดเลย” (พาเข้าเรื่องของกินจนได้)
ใบหูกระดิกตามเสียงฮัมเพลงของอีกคน เดินพาอีกคนเพลิน ๆ มุ่งไปทางตึกเรียนหลักซะก่อน
เหมือนเพิ่งนึกออกว่ากำลังกินอะไรอยู่ ช้อนในมือจึงถูกลดลงเพื่อตักไอศกรีมซันเดย์ที่เริ่มเหลวเข้าปากตัวเอง ระหว่างฟังคำถามอีกคน
“เอ... รุ่นพี่นี่นา” เธอพูดขึ้น ก่อนจะแนะนำตัวบ้าง
“เราทาปิโอก้า อยู่ปีหนึ่งค่ะ”
“ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร... วันนั้นเราได้ที่สองน่ะค่ะ”
“ครึ่งช่วงตัว... ” พูดไปใบหูม้าก็ลู่ลง
เหมือนเพิ่งนึกออกว่ากำลังกินอะไรอยู่ ช้อนในมือจึงถูกลดลงเพื่อตักไอศกรีมซันเดย์ที่เริ่มเหลวเข้าปากตัวเอง ระหว่างฟังคำถามอีกคน
“เอ... รุ่นพี่นี่นา” เธอพูดขึ้น ก่อนจะแนะนำตัวบ้าง
“เราทาปิโอก้า อยู่ปีหนึ่งค่ะ”
“ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร... วันนั้นเราได้ที่สองน่ะค่ะ”
“ครึ่งช่วงตัว... ” พูดไปใบหูม้าก็ลู่ลง
สาวม้านั่งจ๋อยหันตามเสียงเรียกพร้อมใบหูที่ตั้งขึ้นด้วยความแปลกใจ เธอกระพริบตาปริบมองหน้าชายหนุ่มแล้วสลับมามองถ้วยซันเดย์ที่อีกฝ่ายพูดถึง
ซันเดย์ที่มีแค่นักเรียนที่สั่งได้...
“อ่า.. อื้ม ได้ค่ะ” พยักหน้าตอบกลับแล้วปักช้อนกับไอศกรีมพลันขยับถ้วยไปให้ แล้วหยิบแก้วชานมมายกดื่มเสียแทน โดยที่สายตายังมองชายคนนั้นด้วยความสงสัย
หายากที่จะเจอผู้ชายในโรงเรียนนี้แหละนะ...
สาวม้านั่งจ๋อยหันตามเสียงเรียกพร้อมใบหูที่ตั้งขึ้นด้วยความแปลกใจ เธอกระพริบตาปริบมองหน้าชายหนุ่มแล้วสลับมามองถ้วยซันเดย์ที่อีกฝ่ายพูดถึง
ซันเดย์ที่มีแค่นักเรียนที่สั่งได้...
“อ่า.. อื้ม ได้ค่ะ” พยักหน้าตอบกลับแล้วปักช้อนกับไอศกรีมพลันขยับถ้วยไปให้ แล้วหยิบแก้วชานมมายกดื่มเสียแทน โดยที่สายตายังมองชายคนนั้นด้วยความสงสัย
หายากที่จะเจอผู้ชายในโรงเรียนนี้แหละนะ...
เธอยกนิ้วโป้งกลับ แล้วเดินเข้ารั้วโรงเรียนข้าง ๆ สาวม้าอีกคน
“ห้องเราหรอ... อืม...”
ทาปิโอก้ายกแก้วชานมขึ้นดื่มระหว่างพยายามนึกถึงเลขห้องตัวเอง ซักครู่หนึ่งแล้วค่อยตอบ
“เราจำได้ว่าอยู่ชั้นสอง... เหมือนจะห้อง 204 ?” ใบหูม้าสีน้ำตาลกระดิกตามระหว่างเธอพูด
“ที่หอพักมีบอร์ดเลขห้องให้ดูอยู่ เดี๋ยวลองไปเช็คด้วยกันก็ได้นะ”
เธอยกนิ้วโป้งกลับ แล้วเดินเข้ารั้วโรงเรียนข้าง ๆ สาวม้าอีกคน
“ห้องเราหรอ... อืม...”
ทาปิโอก้ายกแก้วชานมขึ้นดื่มระหว่างพยายามนึกถึงเลขห้องตัวเอง ซักครู่หนึ่งแล้วค่อยตอบ
“เราจำได้ว่าอยู่ชั้นสอง... เหมือนจะห้อง 204 ?” ใบหูม้าสีน้ำตาลกระดิกตามระหว่างเธอพูด
“ที่หอพักมีบอร์ดเลขห้องให้ดูอยู่ เดี๋ยวลองไปเช็คด้วยกันก็ได้นะ”
เธอกล่าวปฏิเสธด้วยความรู้สึกไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมาก ก่อนจะพูดต่อ
“เรากำลังคิดเรื่องแข่งเดบิวต์อยู่น่ะค่ะ...” เธอตอบต้นเหตุของเรื่องกวนใจออกไป
เธอกล่าวปฏิเสธด้วยความรู้สึกไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมาก ก่อนจะพูดต่อ
“เรากำลังคิดเรื่องแข่งเดบิวต์อยู่น่ะค่ะ...” เธอตอบต้นเหตุของเรื่องกวนใจออกไป
ทาปิโอก้ายกแก้วชานมขึ้นมาดื่มหลังตอบคำถาม อ้อมแขนอีกข้างกอดแพ็คเกจแซนวิชไว้อย่างดีอย่างกับเป็นตุ๊กตาให้กอด
“เราพาเดินไปได้นะ ว่าจะกลับห้องพอดีเลยน่ะ”
เธอเสนอตัวเดินเป็นเพื่อน
ทาปิโอก้ายกแก้วชานมขึ้นมาดื่มหลังตอบคำถาม อ้อมแขนอีกข้างกอดแพ็คเกจแซนวิชไว้อย่างดีอย่างกับเป็นตุ๊กตาให้กอด
“เราพาเดินไปได้นะ ว่าจะกลับห้องพอดีเลยน่ะ”
เธอเสนอตัวเดินเป็นเพื่อน
“อ่า... สวัสดีค่ะ?” แทนที่จะตอบคำถาม เธอทักทายอีกฝ่ายกลับไปแทน
“เรา... โอเคค่ะ” ทว่าน้ำเสียงดูเลื่อนลอย ก่อนจะพูดต่อ
“แค่กำลังคิดอะไรนิดหน่อย”
“อ่า... สวัสดีค่ะ?” แทนที่จะตอบคำถาม เธอทักทายอีกฝ่ายกลับไปแทน
“เรา... โอเคค่ะ” ทว่าน้ำเสียงดูเลื่อนลอย ก่อนจะพูดต่อ
“แค่กำลังคิดอะไรนิดหน่อย”