พล็อตน่ากลัวมาก TW ยาวเป็นหางว่าว อาทิ sexual assault (แอบกราฟิกอยู่นะ) unhealthy relationship
เรารู้สึกว่าการเขียนประเด็นแบบนี้ใช้ความกล้าและต้องระมัดระวังมากในการนำเสนอไม่ให้ดู romantisize (แต่ก็ยังรุสึกแอบ romantisize อยู่ดี) ในแง่จริยธรรมของนักบำบัด มันบ่าได้เลย หรือเป็นผู้ถูกกระทำก็ไม่จำเป็นต้องมาสัมพันธ์กับผู้กระทำแบบนี้ เอมพาตี้สูงเกินสาว
พล็อตน่ากลัวมาก TW ยาวเป็นหางว่าว อาทิ sexual assault (แอบกราฟิกอยู่นะ) unhealthy relationship
เรารู้สึกว่าการเขียนประเด็นแบบนี้ใช้ความกล้าและต้องระมัดระวังมากในการนำเสนอไม่ให้ดู romantisize (แต่ก็ยังรุสึกแอบ romantisize อยู่ดี) ในแง่จริยธรรมของนักบำบัด มันบ่าได้เลย หรือเป็นผู้ถูกกระทำก็ไม่จำเป็นต้องมาสัมพันธ์กับผู้กระทำแบบนี้ เอมพาตี้สูงเกินสาว
อ่านเพื่อให้รู้ว่าอ๋อ ดะไซเป็นแบบนี้นี่เอง ความรู้สึกคล้ายๆ ตอนอ่านในกรงแก้ว ของซิลเวีย แพลธ ที่เล่าถึงจิตใจคนป่วยจิตเวชในยุคที่ยังถูกตีตรา และเค้าเรื่องมาจากชีวประวัติประวัติคนเขียน
ตัวเอกเรื่องนี้มีพฤติกรรมทำลายตัวเองอย่างต่อเนื่อง เดินลงนรกด้วยตัวเอง แต่ไม่มีใครช่วยอะไรได้ มันคือความล่มสลายทางกายและจิตวิญญาณของมนุษย์คนหนึ่งโดยแท้
อ่านเพื่อให้รู้ว่าอ๋อ ดะไซเป็นแบบนี้นี่เอง ความรู้สึกคล้ายๆ ตอนอ่านในกรงแก้ว ของซิลเวีย แพลธ ที่เล่าถึงจิตใจคนป่วยจิตเวชในยุคที่ยังถูกตีตรา และเค้าเรื่องมาจากชีวประวัติประวัติคนเขียน
ตัวเอกเรื่องนี้มีพฤติกรรมทำลายตัวเองอย่างต่อเนื่อง เดินลงนรกด้วยตัวเอง แต่ไม่มีใครช่วยอะไรได้ มันคือความล่มสลายทางกายและจิตวิญญาณของมนุษย์คนหนึ่งโดยแท้
เรียกว่าโครงเรื่องเหมือนพระอาทิตย์เที่ยงคืนเลยดีกว่า แต่ก็ชอบอยู่ดี สองชายหญิงที่พัวพันกันด้วยความลับแล้วใช้ชีวิตร่วมกันแบบคนหนึ่งอยู่ในแสง บงการอีกคนที่อยู่ในเงามืด จนชีวิตคนหลังฉิบหายขึ้นเรื่อยๆ
เดาไม่ยาก แต่ความอยากเสือกทำให้อ่านได้ไวมาก ตอนจบแผ่วไปหน้อย รู้สึกเหมือนรีบๆ และไม่เคลียร์ในส่วนนางเอก(ที่อุตส่าห์ตามเสือกมาตั้ง 600 หน้า)
เรียกว่าโครงเรื่องเหมือนพระอาทิตย์เที่ยงคืนเลยดีกว่า แต่ก็ชอบอยู่ดี สองชายหญิงที่พัวพันกันด้วยความลับแล้วใช้ชีวิตร่วมกันแบบคนหนึ่งอยู่ในแสง บงการอีกคนที่อยู่ในเงามืด จนชีวิตคนหลังฉิบหายขึ้นเรื่อยๆ
เดาไม่ยาก แต่ความอยากเสือกทำให้อ่านได้ไวมาก ตอนจบแผ่วไปหน้อย รู้สึกเหมือนรีบๆ และไม่เคลียร์ในส่วนนางเอก(ที่อุตส่าห์ตามเสือกมาตั้ง 600 หน้า)