เขาพยายามฉีกยิ้มประจบประแจงภายใต้เทปกาว หวังว่าดาเมจความน่าสมเพชจะช่วยลดดาเมจความแค้นลงได้บ้าง!
เขาพยายามฉีกยิ้มประจบประแจงภายใต้เทปกาว หวังว่าดาเมจความน่าสมเพชจะช่วยลดดาเมจความแค้นลงได้บ้าง!
โซชิดะหยุดดิ้นชั่วขณะเมื่อแรงเหวี่ยงพาตัวเขาถอยห่างออกมานิดนึง เขาจ้องมองของมีคมในมือเธอเขม็ง แล้วพยายามส่งสายตาที่น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้(แบบกลัวหัว)
โซชิดะหยุดดิ้นชั่วขณะเมื่อแรงเหวี่ยงพาตัวเขาถอยห่างออกมานิดนึง เขาจ้องมองของมีคมในมือเธอเขม็ง แล้วพยายามส่งสายตาที่น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้(แบบกลัวหัว)
"อื๊อ! อู-อี้-อ้า-อิด! อื๊อ-แอ!!" (แปล >> นี่! ผู้มีพระคุณนะเว้ย! ช่วยเธอ(ซ่อมท่อ)ไง!!)
เขาพยายามทวงบุญคุณผ่านเสียงอู้อี้อย่างสิ้นหวัง พร้อมกับส่ายหน้าดิกๆ จนผมสองสีสะบัดไปมาเหมือนไม้ขนไก่
"อื๊อ! อู-อี้-อ้า-อิด! อื๊อ-แอ!!" (แปล >> นี่! ผู้มีพระคุณนะเว้ย! ช่วยเธอ(ซ่อมท่อ)ไง!!)
เขาพยายามทวงบุญคุณผ่านเสียงอู้อี้อย่างสิ้นหวัง พร้อมกับส่ายหน้าดิกๆ จนผมสองสีสะบัดไปมาเหมือนไม้ขนไก่
เขามองดูรอยยิ้มสังหารบนใบหน้าของสาวน้อยเวทมนตร์ตรงหน้า ยิ่งประกอบกับ วัตถุอันตรายในมือเธอ สัญชาตญาณเอาตัวรอดของเขาก็กริ่งสัญญาณเตือนภัยระดับสีแดงเถือก!
เขามองดูรอยยิ้มสังหารบนใบหน้าของสาวน้อยเวทมนตร์ตรงหน้า ยิ่งประกอบกับ วัตถุอันตรายในมือเธอ สัญชาตญาณเอาตัวรอดของเขาก็กริ่งสัญญาณเตือนภัยระดับสีแดงเถือก!
"ช่วยมองหา [ความหวังคมๆ] แถวนั้นให้หน่อยได้ไหม? ก่อนที่สมองฉันจะไหลมารวมกันที่ยอดหน้าผากน่ะ!"
"ช่วยมองหา [ความหวังคมๆ] แถวนั้นให้หน่อยได้ไหม? ก่อนที่สมองฉันจะไหลมารวมกันที่ยอดหน้าผากน่ะ!"
"ทางรอดเดียวคือ... กรรไกร ! ...ฉันเตรียมกรรไกรเซฟตี้เอาไว้เผื่อฉุกเฉิน มันน่าจะวางอยู่บนลังพลาสติกสีน้ำเงินตรงนั้น... หรือไม่ก็... เอ่อ... ฉันอาจจะเตะมันกระเด็นไปตอนดิ้นเมื่อกี้..."
"ทางรอดเดียวคือ... กรรไกร ! ...ฉันเตรียมกรรไกรเซฟตี้เอาไว้เผื่อฉุกเฉิน มันน่าจะวางอยู่บนลังพลาสติกสีน้ำเงินตรงนั้น... หรือไม่ก็... เอ่อ... ฉันอาจจะเตะมันกระเด็นไปตอนดิ้นเมื่อกี้..."
ทันใดนั้น เขาก็เหมือนเพิ่งนึกอะไรออก
"เดี๋ยวนะ! โควงะ! อย่าเพิ่งขึ้นไปแก้เชือกข้างบนนะ! ขืนเธอแก้ปมตอนนี้ หัวฉันได้โหม่งพื้นคอนกรีตกลายเป็นแตงโมแตกแน่ๆ!"
ทันใดนั้น เขาก็เหมือนเพิ่งนึกอะไรออก
"เดี๋ยวนะ! โควงะ! อย่าเพิ่งขึ้นไปแก้เชือกข้างบนนะ! ขืนเธอแก้ปมตอนนี้ หัวฉันได้โหม่งพื้นคอนกรีตกลายเป็นแตงโมแตกแน่ๆ!"
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หน้าเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วงคล้ำ
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หน้าเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วงคล้ำ
โซชิดะขานรับคำสั่งเสียงแข็ง ..แต่ฟังดูอู้อี้เพราะลิ้นเริ่มพันกันจากแรงโน้มถ่วงเขาพยายามเกร็งลำตัวให้นิ่งที่สุดตามคำสั่ง แต่ตามหลักฟิสิกส์แล้ว ยิ่งพยายามหยุดแกว่ง มันก็ยิ่งหมุนเคว้งคว้างเหมือนลูกข่างหมดแรง
เขาพยายามผงกหัว(ที่ซึ่งตอนนี้อยู่ด้านล่าง) ชี้ปลายคางขึ้นไปที่ชานพักบันไดชั้นบนที่อยู่เหนือหัวพวกเขาขึ้นไปประมาณ 3 เมตร
โซชิดะขานรับคำสั่งเสียงแข็ง ..แต่ฟังดูอู้อี้เพราะลิ้นเริ่มพันกันจากแรงโน้มถ่วงเขาพยายามเกร็งลำตัวให้นิ่งที่สุดตามคำสั่ง แต่ตามหลักฟิสิกส์แล้ว ยิ่งพยายามหยุดแกว่ง มันก็ยิ่งหมุนเคว้งคว้างเหมือนลูกข่างหมดแรง
เขาพยายามผงกหัว(ที่ซึ่งตอนนี้อยู่ด้านล่าง) ชี้ปลายคางขึ้นไปที่ชานพักบันไดชั้นบนที่อยู่เหนือหัวพวกเขาขึ้นไปประมาณ 3 เมตร
"จบการรายงานข่าว! พอใจกับคำตอบไหมครับ คุณหมายเลข 7?"
"จบการรายงานข่าว! พอใจกับคำตอบไหมครับ คุณหมายเลข 7?"
เขาเว้นจังหวะ ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด
"ฉันก็คงเป็นตัวตลกที่โผล่มาขัดจังหวะดราม่า เพื่อไม่ให้คนดูเบื่อตายไปซะก่อนไงล่ะ!"
โซชิยักไหล่ทีหนึ่ง ก่อนจะแสยะยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์และอ่านยากกว่าเดิม
เขาเว้นจังหวะ ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด
"ฉันก็คงเป็นตัวตลกที่โผล่มาขัดจังหวะดราม่า เพื่อไม่ให้คนดูเบื่อตายไปซะก่อนไงล่ะ!"
โซชิยักไหล่ทีหนึ่ง ก่อนจะแสยะยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์และอ่านยากกว่าเดิม
เขาฉีกยิ้มกว้างในระยะประชิด แววตามองเข้าไปในดวงตาสีแดงคู่นั้นอย่างท้าทาย
"ส่วนบทของ ฉัน น่ะเหรอ?"
โซชิเลิกคิ้วสูง หัวเราะในลำคอ ขณะที่มือยังคงกดแผลให้อีกฝ่ายแน่นไม่ยอมปล่อย เขาเอียงคอเล็กน้อย แสร้งทำท่านึกอย่างจริงจังทั้งที่คำตอบนั้นนอนรออยู่ในใจมาตลอด
เขาฉีกยิ้มกว้างในระยะประชิด แววตามองเข้าไปในดวงตาสีแดงคู่นั้นอย่างท้าทาย
"ส่วนบทของ ฉัน น่ะเหรอ?"
โซชิเลิกคิ้วสูง หัวเราะในลำคอ ขณะที่มือยังคงกดแผลให้อีกฝ่ายแน่นไม่ยอมปล่อย เขาเอียงคอเล็กน้อย แสร้งทำท่านึกอย่างจริงจังทั้งที่คำตอบนั้นนอนรออยู่ในใจมาตลอด
โซชิดะตะเบ๊ะท่าวันทยหัตถ์แบบลวกๆ รับคำสั่งนั้นทันทีโดยไม่อิดออด ร่างโปร่งกระโดดตุ้บลงมาจากฝากระโปรงรถ สไลด์ตัวเข้าไปนั่งชันเข่าข้างๆ ไฮเซย์อย่างคล่องแคล่ว นิ้วมือเอื้อมไปกดทับลงบนปมผ้าพันแผลตรงจุดที่เลือดซึม และอาจจะแรงไปนิดหน่อยด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว
โซชิดะตะเบ๊ะท่าวันทยหัตถ์แบบลวกๆ รับคำสั่งนั้นทันทีโดยไม่อิดออด ร่างโปร่งกระโดดตุ้บลงมาจากฝากระโปรงรถ สไลด์ตัวเข้าไปนั่งชันเข่าข้างๆ ไฮเซย์อย่างคล่องแคล่ว นิ้วมือเอื้อมไปกดทับลงบนปมผ้าพันแผลตรงจุดที่เลือดซึม และอาจจะแรงไปนิดหน่อยด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว
เขาพยายามดิ้นดุ๊กดิ๊กเหมือนหนอนชาเขียว แต่เชือกที่รัดทั้งข้อเท้าข้อเท้ายังคงแน่นหนา
"ว่าแต่... นายมีมีดคัตเตอร์ หรืออะไรคมๆ แถวนั้นไหม? หรือจะช่วยแกะปมก็ได้... เลือดลงหัวจนหน้าฉันจะบวมกว่าจินเม็นเค็นอยู่แล้วเนี่ย! "
เขาพยายามดิ้นดุ๊กดิ๊กเหมือนหนอนชาเขียว แต่เชือกที่รัดทั้งข้อเท้าข้อเท้ายังคงแน่นหนา
"ว่าแต่... นายมีมีดคัตเตอร์ หรืออะไรคมๆ แถวนั้นไหม? หรือจะช่วยแกะปมก็ได้... เลือดลงหัวจนหน้าฉันจะบวมกว่าจินเม็นเค็นอยู่แล้วเนี่ย! "
เขาหลบสายตาเซยะวูบหนึ่ง
"แต่ไอ้คนมัด... มันดันมัดเงื่อนตาย! ไอ้เทปนั่น... มีคนมือบอนมาแปะทับเพราะบอกว่าฉันพูดมากจนไม่มีสมาธิมัด!"
เขาหลบสายตาเซยะวูบหนึ่ง
"แต่ไอ้คนมัด... มันดันมัดเงื่อนตาย! ไอ้เทปนั่น... มีคนมือบอนมาแปะทับเพราะบอกว่าฉันพูดมากจนไม่มีสมาธิมัด!"
เขาพยายามจะเก๊กท่าเท่ๆ แม้จะอยู่ในมุมกลับหัว โดยการสะบัดหน้าผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่... ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
" ก๊าฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันคือ... การฝึกฝน! ใช่แล้ว! การฝึกฝนศิลปะการหลบหนีไงล่ะเพื่อนยาก! "
เขาพยายามจะเก๊กท่าเท่ๆ แม้จะอยู่ในมุมกลับหัว โดยการสะบัดหน้าผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่... ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
" ก๊าฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันคือ... การฝึกฝน! ใช่แล้ว! การฝึกฝนศิลปะการหลบหนีไงล่ะเพื่อนยาก! "
"โอ๊ยยยยย! ซี๊ดดดด! เบาๆ สิฟะเซยะ! ขนหน้าแข้ง... เอ้ย ขนอ่อนบนหน้าอันหล่อเหลาของฉันหลุดติดออกมาหมดแล้วมั้งเนี่ย!"
ร่างของโซชิดะที่ห้อยต่องแต่งแกว่งไปมาเล็กน้อยตามแรงดึงเทปเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำเพราะเลือดตกหัวจากการห้อยหัวเป็นเวลานาน
"โอ๊ยยยยย! ซี๊ดดดด! เบาๆ สิฟะเซยะ! ขนหน้าแข้ง... เอ้ย ขนอ่อนบนหน้าอันหล่อเหลาของฉันหลุดติดออกมาหมดแล้วมั้งเนี่ย!"
ร่างของโซชิดะที่ห้อยต่องแต่งแกว่งไปมาเล็กน้อยตามแรงดึงเทปเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำเพราะเลือดตกหัวจากการห้อยหัวเป็นเวลานาน
"มันก็แค่พักครึ่งเท่านั้นเอง"
"ตื่นมาเมื่อไหร่... ฉันจะทวงสัญญาเรื่องคัตสึด้งนั่นให้หูชาเลยคอยดู"
ท่ามกลางโลกที่แตกสลาย ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เฝ้ามองนิทานเรื่องใหม่ที่กำลังหลับใหล... รอคอยเวลาที่ม่านการแสดงจะเปิดขึ้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
(( ปิดรูทครับผม ขอบคุณมาก ๆ ครับ ฟื้นไว ๆ ล่ะท่านแง่งขิง2! ))
"มันก็แค่พักครึ่งเท่านั้นเอง"
"ตื่นมาเมื่อไหร่... ฉันจะทวงสัญญาเรื่องคัตสึด้งนั่นให้หูชาเลยคอยดู"
ท่ามกลางโลกที่แตกสลาย ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เฝ้ามองนิทานเรื่องใหม่ที่กำลังหลับใหล... รอคอยเวลาที่ม่านการแสดงจะเปิดขึ้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
(( ปิดรูทครับผม ขอบคุณมาก ๆ ครับ ฟื้นไว ๆ ล่ะท่านแง่งขิง2! ))
โซชิดะเอนหลังพิงกำแพง สายตามองออกไปยังภายนอก ที่ซึ่งโลกใบเก่าได้พังทลายลงไปแล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกกลัวเหมือนเมื่อครู่อีก
"ไม่ต้องห่วง... ผู้กำกับที่ไหนเขาจะทิ้งนางเอกเอกไปกลางเรื่องกันล่ะ?"
เขาหยิบพัดคู่ใจขึ้นมา กางออกเบาๆ แล้วค่อยๆ พัดวีให้เธอคลายความร้อนจากพิษไข้และความเหนื่อยล้า
โซชิดะเอนหลังพิงกำแพง สายตามองออกไปยังภายนอก ที่ซึ่งโลกใบเก่าได้พังทลายลงไปแล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกกลัวเหมือนเมื่อครู่อีก
"ไม่ต้องห่วง... ผู้กำกับที่ไหนเขาจะทิ้งนางเอกเอกไปกลางเรื่องกันล่ะ?"
เขาหยิบพัดคู่ใจขึ้นมา กางออกเบาๆ แล้วค่อยๆ พัดวีให้เธอคลายความร้อนจากพิษไข้และความเหนื่อยล้า
เขาพึมพำตอบรับคำขอสุดท้ายก่อนหมดสติของเธอ พลางใช้ชายเสื้อเช็ดคราบเลือดที่เหลือบนแก้มเธอออกให้อย่างเบามือ
เขาพึมพำตอบรับคำขอสุดท้ายก่อนหมดสติของเธอ พลางใช้ชายเสื้อเช็ดคราบเลือดที่เหลือบนแก้มเธอออกให้อย่างเบามือ