“หรือต่อให้ทำแผลทันแต่คนเราก็ตายเพราะเสียเลือดได้อยู่ดีครับ”
“รุ่นพี่ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ครับ พวกเราเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาไม่มีพลังวิเศษ ไม่มีญาณทิพย์ ไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากแรงใจสู้ต่อ“
”ถ้าจะตีอกชกตัวเพราะเรื่องเหลือกำลังก็เอาไว้ตอนที่ปกป้องคนสำคัญจริงๆ ไม่ได้เถอะครับ เพราะผมก็จะทำอย่างนั้นเหมือนกัน“
“หรือต่อให้ทำแผลทันแต่คนเราก็ตายเพราะเสียเลือดได้อยู่ดีครับ”
“รุ่นพี่ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ครับ พวกเราเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาไม่มีพลังวิเศษ ไม่มีญาณทิพย์ ไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากแรงใจสู้ต่อ“
”ถ้าจะตีอกชกตัวเพราะเรื่องเหลือกำลังก็เอาไว้ตอนที่ปกป้องคนสำคัญจริงๆ ไม่ได้เถอะครับ เพราะผมก็จะทำอย่างนั้นเหมือนกัน“
แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เขาย่อตัวลงตรงหน้าร่างไร้วิญญาณเพื่อสำรวจบาดแผล แขนที่หายไปคงเป็นสาเหตุหลักทำให้เสียเลือดหนักจนเสียชีวิต และคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนพวกเขามาถึงกับมิกิตัวปลอมแล้ว
“รุ่นพี่คิดว่าตัวเองสามารถวิ่งไปเปิดไฟ ขึ้นมาเปิดประตูทำแผลให้คุณมาฮิรุด้วยตัวเองได้ไหมครับ”
แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เขาย่อตัวลงตรงหน้าร่างไร้วิญญาณเพื่อสำรวจบาดแผล แขนที่หายไปคงเป็นสาเหตุหลักทำให้เสียเลือดหนักจนเสียชีวิต และคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนพวกเขามาถึงกับมิกิตัวปลอมแล้ว
“รุ่นพี่คิดว่าตัวเองสามารถวิ่งไปเปิดไฟ ขึ้นมาเปิดประตูทำแผลให้คุณมาฮิรุด้วยตัวเองได้ไหมครับ”
รับบอลที่ได้มาจากทาเครุแล้วปาใส่สนามฝั่งสีดำโดยไม่ส่งเสียงประกอบใดๆ
>ค่าสเตตัสปาบอล 8
>ปาใส่โทกิ
ผลทอย: 12
รับบอลที่ได้มาจากทาเครุแล้วปาใส่สนามฝั่งสีดำโดยไม่ส่งเสียงประกอบใดๆ
>ค่าสเตตัสปาบอล 8
>ปาใส่โทกิ
ผลทอย: 12
”ไม่รู้ว่าข้างในจะเป็นมนุษย์รึเปล่า ทุกคนเตรียมพร้อมด้วยครับ“
ใจจริงอยากจะเปิดแล้วถีบเข้าไปรวดเดียวให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพราะเสียงของคนเจ็บที่อาจพิงกับประตูอยู่จึงตัดสินใจบิดให้แง้มแล้วเอาหอกดันเปิดแทน
”ไม่รู้ว่าข้างในจะเป็นมนุษย์รึเปล่า ทุกคนเตรียมพร้อมด้วยครับ“
ใจจริงอยากจะเปิดแล้วถีบเข้าไปรวดเดียวให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพราะเสียงของคนเจ็บที่อาจพิงกับประตูอยู่จึงตัดสินใจบิดให้แง้มแล้วเอาหอกดันเปิดแทน
“ขอบคุณครับที่ช่วยไว้เมื่อกี้“
แม้จะอยากพูดคุยมากกว่านี้ แต่เขาก็รู้ดีว่าสถานการณ์ยังไม่มีเวลาให้ทำเช่นนั้น
มือรับกุญแจของมิกิจากอิชิอิ โลหะชิ้นเล็กที่หนักอึ้งเกินถือสำหรับอีกคนนั้นก็ยังคงเบาหวิวไม่ต่างจากกุญแจธรรมดาสำหรับเขา
+
“ขอบคุณครับที่ช่วยไว้เมื่อกี้“
แม้จะอยากพูดคุยมากกว่านี้ แต่เขาก็รู้ดีว่าสถานการณ์ยังไม่มีเวลาให้ทำเช่นนั้น
มือรับกุญแจของมิกิจากอิชิอิ โลหะชิ้นเล็กที่หนักอึ้งเกินถือสำหรับอีกคนนั้นก็ยังคงเบาหวิวไม่ต่างจากกุญแจธรรมดาสำหรับเขา
+
สายตาของเขาเบี่ยงกลับมาช้ากว่าที่ควรเล็กน้อยยามต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากมิกิตัวปลอมมายังอิเฮนอีกตน
“ผมไม่นับสัตว์ประหลาดเป็นเด็กครับ“
เดือนดับไร้หวั่นไหวตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบขณะเอี้ยวหลบ มือออกแรงกระชากหมายดึงหอกซึ่งถูกจับไว้กลับคืนมา
แม้ว่าต่อให้เป็นเด็กจริงเขาก็อาจไม่ลังเลที่จะทำเช่นนั้นเหมือนกันก็ตาม
>หลบ
สายตาของเขาเบี่ยงกลับมาช้ากว่าที่ควรเล็กน้อยยามต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากมิกิตัวปลอมมายังอิเฮนอีกตน
“ผมไม่นับสัตว์ประหลาดเป็นเด็กครับ“
เดือนดับไร้หวั่นไหวตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบขณะเอี้ยวหลบ มือออกแรงกระชากหมายดึงหอกซึ่งถูกจับไว้กลับคืนมา
แม้ว่าต่อให้เป็นเด็กจริงเขาก็อาจไม่ลังเลที่จะทำเช่นนั้นเหมือนกันก็ตาม
>หลบ
ยกแขนขึ้นมากันไม่ให้ถูกหน้าแต่บอลก็เร็วเกินจะหลบพ้น
โชคไม่ดี แต่ช่วยไม่ได้
ยกแขนขึ้นมากันไม่ให้ถูกหน้าแต่บอลก็เร็วเกินจะหลบพ้น
โชคไม่ดี แต่ช่วยไม่ได้
เสียงราบเรียบเอ่ยตอบเด็กสาวที่เห็นหน้าค่าตาผ่านนานทีแต่ไม่เคยแลกเปลี่ยนคำพูดมาก่อนวันนี้เวลานี้
ตามจริงจะจากกันโดยไม่รู้จักชื่อกันเขาก็ไม่มีปัญหา แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยถามมาก่อน การจะถามกลับบ้างก็คงเหมาะสม
“ทางนั้นละครับ”
เสียงราบเรียบเอ่ยตอบเด็กสาวที่เห็นหน้าค่าตาผ่านนานทีแต่ไม่เคยแลกเปลี่ยนคำพูดมาก่อนวันนี้เวลานี้
ตามจริงจะจากกันโดยไม่รู้จักชื่อกันเขาก็ไม่มีปัญหา แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยถามมาก่อน การจะถามกลับบ้างก็คงเหมาะสม
“ทางนั้นละครับ”
เสียงราบเรียบแต่หนักแน่นเอ่ยเตือน เขารู้ตัวว่าด้วยจิตใจที่บิดเบี้ยวและด้านชา ตนสามารถกำจัดภัยในร่างเด็กหญิงได้โดยไม่สะทกสะท้าน
แต่สำหรับคนอื่นนั้นต่างออกไป เพียงแค่อาการยามรู้ถึงความจริงว่ามีมิกิสองคนก็ชัดเจนแล้ว
”อีกสองคนขอยืมมือด้วยครับ“
>กำจัดมิกิ
เสียงราบเรียบแต่หนักแน่นเอ่ยเตือน เขารู้ตัวว่าด้วยจิตใจที่บิดเบี้ยวและด้านชา ตนสามารถกำจัดภัยในร่างเด็กหญิงได้โดยไม่สะทกสะท้าน
แต่สำหรับคนอื่นนั้นต่างออกไป เพียงแค่อาการยามรู้ถึงความจริงว่ามีมิกิสองคนก็ชัดเจนแล้ว
”อีกสองคนขอยืมมือด้วยครับ“
>กำจัดมิกิ
หางตากระตุก
สมองตีตราว่า ’สิ่งนั้น‘ คือศัตรู
ขาเหวี่ยงสะบัดเตะปลายคางของร่างเล็กให้พ้นตนแล้วตบลำหอกให้พลิกคมหันออก
“พูดไม่ทันขาดคำเลยนะครับคุณฮานาโอริ“
น้ำเสียงเย็นเฉียบเอ่ยต่อชายผมชมพูด้วยดวงตาไร้แววซึ่งมุ่งเป้าไปยังภัยคุกคามในหนังแกะ
+
หางตากระตุก
สมองตีตราว่า ’สิ่งนั้น‘ คือศัตรู
ขาเหวี่ยงสะบัดเตะปลายคางของร่างเล็กให้พ้นตนแล้วตบลำหอกให้พลิกคมหันออก
“พูดไม่ทันขาดคำเลยนะครับคุณฮานาโอริ“
น้ำเสียงเย็นเฉียบเอ่ยต่อชายผมชมพูด้วยดวงตาไร้แววซึ่งมุ่งเป้าไปยังภัยคุกคามในหนังแกะ
+