คาร์ทั่วถึง ไม่ถือตัว เรียกอะไรก็ได้เลย
[ขอเนียนเคยเห็นหน้าปี 2 ปี 3 แล้วนะค้า 🥰]
DOC : https://citly.me/8ehN6
ตารางคสพ. (อัพเดตตลอด) : https://citly.me/TZdnE
ระหว่างที่เลาะหลังกุ้งเสร็จซะหลายตัวเป็นพิเศษแล้วเอาไปชุบแป้งเขาก็ยังชวนคุยคุยอยู่เรื่อยๆ
“ปกติองทำอาหารมั้ย? ที่เห็นเป็นน้องไส้กรอกโบกมือวันนี้ใครทำหรอ”
ระหว่างที่เลาะหลังกุ้งเสร็จซะหลายตัวเป็นพิเศษแล้วเอาไปชุบแป้งเขาก็ยังชวนคุยคุยอยู่เรื่อยๆ
“ปกติองทำอาหารมั้ย? ที่เห็นเป็นน้องไส้กรอกโบกมือวันนี้ใครทำหรอ”
แต่นายซาจิก็ยังวนกลับไปที่เดิมแล้วหยิบผ้ากันเปื้อนอีกอันไปยื่นให้องด้วย
“เผื่ออยากดูใกล้ๆกันอาหารกระเด็นใส่ชุดนักเรียน หรือกันฉันทำกระทะบินนะ”
แล้วไปเริ่มหยิบของต่อ ทั้งแป้งทั้งเนื้อสองสามชนิดหมูกุ้งไส่กรอกหรือไข่ถูกหยิบออกมา นึกนิดหน่อยแล้วเลือกหยิบมันฝรั่งติดมาด้วย
เขาล้างมือล้างผักซ้ำให้แน่ใจแล้วเล่มทำทุกอย่างต่อกันเหมือนทำเรื่องพวกนี้จนชินมือ
+
แต่นายซาจิก็ยังวนกลับไปที่เดิมแล้วหยิบผ้ากันเปื้อนอีกอันไปยื่นให้องด้วย
“เผื่ออยากดูใกล้ๆกันอาหารกระเด็นใส่ชุดนักเรียน หรือกันฉันทำกระทะบินนะ”
แล้วไปเริ่มหยิบของต่อ ทั้งแป้งทั้งเนื้อสองสามชนิดหมูกุ้งไส่กรอกหรือไข่ถูกหยิบออกมา นึกนิดหน่อยแล้วเลือกหยิบมันฝรั่งติดมาด้วย
เขาล้างมือล้างผักซ้ำให้แน่ใจแล้วเล่มทำทุกอย่างต่อกันเหมือนทำเรื่องพวกนี้จนชินมือ
+
เขาขำ ดูแล้วรุ่นพี่เขาน่าจะไม่มีทางท้าทายความเผ็ดระดับนี้อีกแน่ๆ
ดื่มน้ำอีกแล้วใช้มือพัดทั้งตัวเองทั้งอีกฝ่ายช่วย หน้าร้อนนี้ช่างร้อนจริงๆ
“ยังไงคนในชมรมก็ต้องได้รู้จักสิ่งนี้กัน ห้ามเก็บเป็นของต้องห้ามนะครับ”
“เดี๋ยวผมไปแล้วดีกว่า อ้า!”
ว่าแล้วก็เด้งตัวโบกมือหยอยๆ
“ไว้เจอกันในชมรมนะครับรุ่นพี่“
เขาขำ ดูแล้วรุ่นพี่เขาน่าจะไม่มีทางท้าทายความเผ็ดระดับนี้อีกแน่ๆ
ดื่มน้ำอีกแล้วใช้มือพัดทั้งตัวเองทั้งอีกฝ่ายช่วย หน้าร้อนนี้ช่างร้อนจริงๆ
“ยังไงคนในชมรมก็ต้องได้รู้จักสิ่งนี้กัน ห้ามเก็บเป็นของต้องห้ามนะครับ”
“เดี๋ยวผมไปแล้วดีกว่า อ้า!”
ว่าแล้วก็เด้งตัวโบกมือหยอยๆ
“ไว้เจอกันในชมรมนะครับรุ่นพี่“
“เอ่อ เดี๋ยวสิ!”
ยกมือเรียกไว้ก่อนเมื่อยังสบตากันอยู่ หน้าตาเขาดูช้อคเล็กน้อยว่าสาวที่ยังไม่เคยทักตรงหน้าเขานี่ไปทำอะไรมา
“คือว่า มีข้าว.... ติดอยู่บนหน้าน่ะ”
ตาเขามองไปทั่วหน้าอีกฝ่ายเลยแบบยังติดเหว่ออยู่
“เอ่อ เดี๋ยวสิ!”
ยกมือเรียกไว้ก่อนเมื่อยังสบตากันอยู่ หน้าตาเขาดูช้อคเล็กน้อยว่าสาวที่ยังไม่เคยทักตรงหน้าเขานี่ไปทำอะไรมา
“คือว่า มีข้าว.... ติดอยู่บนหน้าน่ะ”
ตาเขามองไปทั่วหน้าอีกฝ่ายเลยแบบยังติดเหว่ออยู่
ยิ้มตอบส่ายหน้า แปลว่าไม่มี
แต่ก็เริ่มขมวดคิ้ว ดูท่าความเผ็ดชามันเริ่มจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมในทีหลัง
“เหมือนกับแกล้มเลย”
“เริ่มเผ็ดละ เดี๋ยวผมรีบซื้อน้ำให้!“
ฟิ้ว-
>>>รีบวิ่งกลับไปซื้อน้ำเปล่าสองขวดในเวลาไม่ถึงนาทีแล้วแบ่งน้ำเปิดฝาให้รุ่นพี่เรียบร้อย
”อือหือ พวกเราเคยทำอะไรเผ็ดขนาดนี้กินกันมั้ยเนี่ย“
ดื่มของตังเองไปแล้วจึงได้แลบลิ้นน้อยๆพัก
ยิ้มตอบส่ายหน้า แปลว่าไม่มี
แต่ก็เริ่มขมวดคิ้ว ดูท่าความเผ็ดชามันเริ่มจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมในทีหลัง
“เหมือนกับแกล้มเลย”
“เริ่มเผ็ดละ เดี๋ยวผมรีบซื้อน้ำให้!“
ฟิ้ว-
>>>รีบวิ่งกลับไปซื้อน้ำเปล่าสองขวดในเวลาไม่ถึงนาทีแล้วแบ่งน้ำเปิดฝาให้รุ่นพี่เรียบร้อย
”อือหือ พวกเราเคยทำอะไรเผ็ดขนาดนี้กินกันมั้ยเนี่ย“
ดื่มของตังเองไปแล้วจึงได้แลบลิ้นน้อยๆพัก
เลิกคิ้วนึกภาพตามที่อีกคนว่า
“เอาสิ ชมรมคหกรรมบางทีก็ค่อนข้างต้องการคนมาช่วยร้องขับปัดเป่าอาถรรพ์ร้ายในอาหารเหมือนกัน”
ว่าแล้วขำตาม แต่พูดจริงว่าสักวันอาจเรียกใช้----
.
ถึงห้องคหกรรมที่เขาเข้ามาใช้บ่อย
นายซาจิเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนจากที่ประจำใส่ เตรียมจัดการมื้อเที่ยงให้เพื่อนใหม่
“องจังกินอะไรไม่ได้มั้ย“
เลิกคิ้วนึกภาพตามที่อีกคนว่า
“เอาสิ ชมรมคหกรรมบางทีก็ค่อนข้างต้องการคนมาช่วยร้องขับปัดเป่าอาถรรพ์ร้ายในอาหารเหมือนกัน”
ว่าแล้วขำตาม แต่พูดจริงว่าสักวันอาจเรียกใช้----
.
ถึงห้องคหกรรมที่เขาเข้ามาใช้บ่อย
นายซาจิเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนจากที่ประจำใส่ เตรียมจัดการมื้อเที่ยงให้เพื่อนใหม่
“องจังกินอะไรไม่ได้มั้ย“
เขาเองก็รู้สึกได้ถึงการร่วมชะตากรรมกันตรงนี้จึงชูขึ้นมาระดับหัวตรงหน้าพวกเขาทั่งคู่แล้วพูดออกไป
“ถั่วเม็ดนี่แด่รุ่นพี่เนเน่!”
แล้วก็เอาเข้าปาก ไม่รอยึกยัก
แต่รสชาติก็ไม่แปลกขนาดนั้นสำหรับซาจิ เลยอมค้างไว้ถึงค่อยเคี้ยว
สีหน้าสงสัย แต่ไม่ได้แย่
“ก็อร่อยดีนี่”
เขาเองก็รู้สึกได้ถึงการร่วมชะตากรรมกันตรงนี้จึงชูขึ้นมาระดับหัวตรงหน้าพวกเขาทั่งคู่แล้วพูดออกไป
“ถั่วเม็ดนี่แด่รุ่นพี่เนเน่!”
แล้วก็เอาเข้าปาก ไม่รอยึกยัก
แต่รสชาติก็ไม่แปลกขนาดนั้นสำหรับซาจิ เลยอมค้างไว้ถึงค่อยเคี้ยว
สีหน้าสงสัย แต่ไม่ได้แย่
“ก็อร่อยดีนี่”
ไม่รู้ว่าลากเสียงยาวเพราะตั้งใจเน้นให้อีกฝ่ายฟังหรือเพื่อถ่วงเวลาให้ตัวเอง
“กินพร้อมกันสิครับ รุ่นพี่ เน-เน่”
ดันซองคืนไปให้
ถ้าไม่รอดก็ไม่รอดคู่นี่แหล่ะ--
ไม่รู้ว่าลากเสียงยาวเพราะตั้งใจเน้นให้อีกฝ่ายฟังหรือเพื่อถ่วงเวลาให้ตัวเอง
“กินพร้อมกันสิครับ รุ่นพี่ เน-เน่”
ดันซองคืนไปให้
ถ้าไม่รอดก็ไม่รอดคู่นี่แหล่ะ--
ที่แรกกลั้นเอาไว้ แต่อาการคันจมูกบวกที่รุ่นพี่จามนำไปแล้ว นายซาจิจึงเก็บอาการต่อไม่ไหว จามตามไป
รีบจับจมูกตัวเองเช็คเลยยังดีอยู่มั้ย
"โห กลิ่นแปลกสุดๆ"
หมาล่าถือว่าใหม่สำหรับสมัยนี้ ดูท่าเด็กสองคนนี้อาจจะยังต้องเจอเรื่องให้เซอร์ไพรส์กว่านี้อีก
เขาหยิบทิชชู่ที่พกติดตัวในฐานะเด็กคหกรรมยื่นให้ทางนั้นแล้วหยิบเจ้าถั่วขึ้นมาชิ้นนึงพลิกๆดู
"เริ่มจะกลัวแล้วเนี่ย"
ที่แรกกลั้นเอาไว้ แต่อาการคันจมูกบวกที่รุ่นพี่จามนำไปแล้ว นายซาจิจึงเก็บอาการต่อไม่ไหว จามตามไป
รีบจับจมูกตัวเองเช็คเลยยังดีอยู่มั้ย
"โห กลิ่นแปลกสุดๆ"
หมาล่าถือว่าใหม่สำหรับสมัยนี้ ดูท่าเด็กสองคนนี้อาจจะยังต้องเจอเรื่องให้เซอร์ไพรส์กว่านี้อีก
เขาหยิบทิชชู่ที่พกติดตัวในฐานะเด็กคหกรรมยื่นให้ทางนั้นแล้วหยิบเจ้าถั่วขึ้นมาชิ้นนึงพลิกๆดู
"เริ่มจะกลัวแล้วเนี่ย"
วางเงินส่วนขาดตามลงไป ของอีกฝ่ายครบไม่ครบไม่รู้ แต่พนักงานไม่ได้ขอเงินเพิ่มแปลว่าเขาแปะพอดี
พากันเดินออกไปยืนออกกันอยู่นอกร้านเพื่อทำภารกิจหาทำนี้เอง
ซาจิรับหน้าที่เปิดซองแล้วส่องเข้าไปด้านใน
“จะว่าไปหมา-ล่า? มันคือพริกจากบลาๆๆๆของจีน”
เขาพลิกซองกลับมาอ่านตามฉลากแบบพูดรู้เรื่องถึงคำว่าพริกและจีน
“เมื่อกี้เราควรซื้อน้ำออกมาด้วยรึเปล่านะ“
วางเงินส่วนขาดตามลงไป ของอีกฝ่ายครบไม่ครบไม่รู้ แต่พนักงานไม่ได้ขอเงินเพิ่มแปลว่าเขาแปะพอดี
พากันเดินออกไปยืนออกกันอยู่นอกร้านเพื่อทำภารกิจหาทำนี้เอง
ซาจิรับหน้าที่เปิดซองแล้วส่องเข้าไปด้านใน
“จะว่าไปหมา-ล่า? มันคือพริกจากบลาๆๆๆของจีน”
เขาพลิกซองกลับมาอ่านตามฉลากแบบพูดรู้เรื่องถึงคำว่าพริกและจีน
“เมื่อกี้เราควรซื้อน้ำออกมาด้วยรึเปล่านะ“
เสนอมาก็ว่าดีเช่นกัน
“โอ๊ะ งั้นคงไม่เป็นไร”
เงาน่าสงสาร คนนึงไม่มีเซนส์คนนึงก็ช่างมันเรื่องน่ากลัว โอ๋...
ชี้ไปทางที่จะเดินไปแล้วช่วยเริ่มเดินนำให้
“องจังอยู่ชมรมอะไรหรอ เหมือนจะเคยเห็นนอกจากเดินผ่านกันตามทางเดินหรือห้องเรียนบ้างเลย“
เสนอมาก็ว่าดีเช่นกัน
“โอ๊ะ งั้นคงไม่เป็นไร”
เงาน่าสงสาร คนนึงไม่มีเซนส์คนนึงก็ช่างมันเรื่องน่ากลัว โอ๋...
ชี้ไปทางที่จะเดินไปแล้วช่วยเริ่มเดินนำให้
“องจังอยู่ชมรมอะไรหรอ เหมือนจะเคยเห็นนอกจากเดินผ่านกันตามทางเดินหรือห้องเรียนบ้างเลย“
“อื้อ ฟังชัดเลยล่ะ”
เดาว่าไม่พ้นเป็นเสียงจากการตกเตียง จึงเผลอนึกภาพตามแล้วแอบขำไม่ได้
“วันแรกปี 2 เรา เขาก็คงไม่เคร่งกันแล้วล่ะน้า แต่ถ้าไม่วิ่งตอนนี้ อีกยี่สิบกว่านาทีพิธีเปิดก็เริ่มแล้วล่ะ!“
พูดน้ำเสียงสดใสมาก
แต่นี่แปลว่าไอคนแวะมาปลุกมันมาเวลากระชั้นชิดสุดๆเลย------
“อื้อ ฟังชัดเลยล่ะ”
เดาว่าไม่พ้นเป็นเสียงจากการตกเตียง จึงเผลอนึกภาพตามแล้วแอบขำไม่ได้
“วันแรกปี 2 เรา เขาก็คงไม่เคร่งกันแล้วล่ะน้า แต่ถ้าไม่วิ่งตอนนี้ อีกยี่สิบกว่านาทีพิธีเปิดก็เริ่มแล้วล่ะ!“
พูดน้ำเสียงสดใสมาก
แต่นี่แปลว่าไอคนแวะมาปลุกมันมาเวลากระชั้นชิดสุดๆเลย------