[display by @ arakunae]
#RKM_commu
(บวก/โคได้ค่ะ ตอบช้าหน่อยนะคะ)
"สึอุซัง" ส่งเสียงทักทายไปก่อนพร้อมกับโบกมือให้
"สวัสดีปีใหม่จ้ะ อากาศหนาวเนอะ"
"สึอุซัง" ส่งเสียงทักทายไปก่อนพร้อมกับโบกมือให้
"สวัสดีปีใหม่จ้ะ อากาศหนาวเนอะ"
"ยินดีมากค่ะ"
"ว่าไปแล้วก็ขอบคุณตัวเองในวันนั้นที่เข้าไปช่วยเหมือนกันนะ เพราะงั้นถึงได้เป็นเพื่อนกับเกรซซังแบบนี้ไง"
"ไม่งั้นป่านนี้คงไม่ได้รู้จักกันแล้วละ"
"ยินดีมากค่ะ"
"ว่าไปแล้วก็ขอบคุณตัวเองในวันนั้นที่เข้าไปช่วยเหมือนกันนะ เพราะงั้นถึงได้เป็นเพื่อนกับเกรซซังแบบนี้ไง"
"ไม่งั้นป่านนี้คงไม่ได้รู้จักกันแล้วละ"
“ก็.. ดีใจไม่มีผลกระทบอื่นต่อเกรซซังนะคะ”
“ถึงจะไม่ได้คิดว่าที่ไปช่วยเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น แต่ก็ดีใจที่วันนั้นอยู่ตรงนั้นพอดีค่ะ”
“แต่ช่วยทำแผลไม่ได้เลยน้า” พูดแซวตัวเองแก้เขินพร้อมกับหัวเราะ
“ก็.. ดีใจไม่มีผลกระทบอื่นต่อเกรซซังนะคะ”
“ถึงจะไม่ได้คิดว่าที่ไปช่วยเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น แต่ก็ดีใจที่วันนั้นอยู่ตรงนั้นพอดีค่ะ”
“แต่ช่วยทำแผลไม่ได้เลยน้า” พูดแซวตัวเองแก้เขินพร้อมกับหัวเราะ
ได้ยินว่าไปลงบันทึกแล้วก็มีท่าทางสบายใจขึ้น
"เกรซซังโอเคใช่ไหมคะ ไม่ได้รู้สึกกลัวความสูงหรือบันไดลอยอะไรขึ้นมาใช่ไหม"
ถามต่อพร้อมกับมองรองเท้าตามชั้นวางไปด้วย
ได้ยินว่าไปลงบันทึกแล้วก็มีท่าทางสบายใจขึ้น
"เกรซซังโอเคใช่ไหมคะ ไม่ได้รู้สึกกลัวความสูงหรือบันไดลอยอะไรขึ้นมาใช่ไหม"
ถามต่อพร้อมกับมองรองเท้าตามชั้นวางไปด้วย
ยกยิ้มนิดนึงก่อนก้าวเท้าลงบนถนนพร้อมกับตอบคำถาม
"ก็เพราะเอาคืนนั่นแหละค่ะ เลยได้ผลทางอ้อมเป็นการเลิกคบกับคนอื่นไปด้วยเลย"
"แต่ได้ยินมาว่าคนโดนเดือดร้อนกว่าฉันพอควรเลยละ"
ข้ามถนนมาก็ถึงหน้าโทริอิของศาลเจ้าพอดี
"เข้าไปไหมคะ" หันมาถามคนที่เดินมาด้วยกัน
ยกยิ้มนิดนึงก่อนก้าวเท้าลงบนถนนพร้อมกับตอบคำถาม
"ก็เพราะเอาคืนนั่นแหละค่ะ เลยได้ผลทางอ้อมเป็นการเลิกคบกับคนอื่นไปด้วยเลย"
"แต่ได้ยินมาว่าคนโดนเดือดร้อนกว่าฉันพอควรเลยละ"
ข้ามถนนมาก็ถึงหน้าโทริอิของศาลเจ้าพอดี
"เข้าไปไหมคะ" หันมาถามคนที่เดินมาด้วยกัน
เช็คแล้วว่าไม่มีก็หันมามองตำแหน่งที่เคยมีแผล แล้วยิ้มอย่างโล่งอก
“ดีจังเลยค่ะ ไม่มีรอยเหลือด้วย”
“หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปแจ้งตำรวจสินะคะ..”
เช็คแล้วว่าไม่มีก็หันมามองตำแหน่งที่เคยมีแผล แล้วยิ้มอย่างโล่งอก
“ดีจังเลยค่ะ ไม่มีรอยเหลือด้วย”
“หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปแจ้งตำรวจสินะคะ..”
“เลิกคบละมั้งคะ”
“เรียกว่าเลิกคบรึเปล่านะ... หลังจากตอนนั้นก็ไม่ได้ไปเจอกันอีกน่ะค่ะ”
เดินมายืนรอข้ามถนนตรงทางแยก เห็นศาลเจ้าอยู่อีกฝั่งถนน
“คนอื่นคงมองว่าหนีปัญหาเนอะ แต่ฉันไม่เห็นความจำเป็นต้องมานั่งอธิบายตัวเองร่ะ”
“เลิกคบละมั้งคะ”
“เรียกว่าเลิกคบรึเปล่านะ... หลังจากตอนนั้นก็ไม่ได้ไปเจอกันอีกน่ะค่ะ”
เดินมายืนรอข้ามถนนตรงทางแยก เห็นศาลเจ้าอยู่อีกฝั่งถนน
“คนอื่นคงมองว่าหนีปัญหาเนอะ แต่ฉันไม่เห็นความจำเป็นต้องมานั่งอธิบายตัวเองร่ะ”
"ท่าทางออกขนาดนั้นเลยเหรอคะว่าอารมณ์ไม่ดี ไม่ได้ทำให้เสียบรรยากาศใช่มั้ยนะ"
ครั้งนี้น้ำเสียงสบายๆ เหมือนที่คุยตามปกติ
"ก็.." เหลือบมองคนถามนิดนึง "ไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็เคยละค่ะ"
"พอทำตัวผิดแปลกไปครั้งนึง ก็ถูกมองว่าเป็นคนแบบนั้นซะแล้ว เคยเป็นเพื่อนกันแท้ๆ"
พูดไปก็ออกเดินตามทางที่จะไปอีกครั้ง หันไปมองนิดนึงว่าคู่เดทเดินตามมาใช่มั้ย
"ท่าทางออกขนาดนั้นเลยเหรอคะว่าอารมณ์ไม่ดี ไม่ได้ทำให้เสียบรรยากาศใช่มั้ยนะ"
ครั้งนี้น้ำเสียงสบายๆ เหมือนที่คุยตามปกติ
"ก็.." เหลือบมองคนถามนิดนึง "ไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็เคยละค่ะ"
"พอทำตัวผิดแปลกไปครั้งนึง ก็ถูกมองว่าเป็นคนแบบนั้นซะแล้ว เคยเป็นเพื่อนกันแท้ๆ"
พูดไปก็ออกเดินตามทางที่จะไปอีกครั้ง หันไปมองนิดนึงว่าคู่เดทเดินตามมาใช่มั้ย
"ก็อยากลองใส่นะคะ แต่บูทยาวต้องใส่กับกระโปรงหรือกางเกงสั้นถึงจะเข้ากัน.."
ก้มมองบริเวณต้นขาตัวเองที่ใส่เลกกิ้งอยู่
"ไม่ค่อยสะดวกใส่น่ะค่ะ"
"อ๊ะ" เห็นคู่นึงบนชั้นวางเลยชี้ให้ดู "คู่นั้นสวยดี น่าจะเหมาะกับเกรซซังนะคะ"
"ก็อยากลองใส่นะคะ แต่บูทยาวต้องใส่กับกระโปรงหรือกางเกงสั้นถึงจะเข้ากัน.."
ก้มมองบริเวณต้นขาตัวเองที่ใส่เลกกิ้งอยู่
"ไม่ค่อยสะดวกใส่น่ะค่ะ"
"อ๊ะ" เห็นคู่นึงบนชั้นวางเลยชี้ให้ดู "คู่นั้นสวยดี น่าจะเหมาะกับเกรซซังนะคะ"
เหลือบมองพนักงานสองคนที่กำลังหยิบโน่นจัดนี่อยู่
"กำลังจัดของอยู่ด้วย อาจยังจัดไม่เสร็จ..."
ว่าแล้วก็เดินไปดูรองเท้าแบบอื่นๆ ของร้านด้วยกัน
"ปกติเกรซซังชอบใส่รองเท้าแบบไหนเหรอ" ถามแล้วก็มองไปที่รองเท้าบูธยาวของอีกฝ่าย
"แบบบูธยาวก็เหมาะกับเกรซซังนะคะ ดูเพรียวแล้วก็คล่องตัวดี"
เหลือบมองพนักงานสองคนที่กำลังหยิบโน่นจัดนี่อยู่
"กำลังจัดของอยู่ด้วย อาจยังจัดไม่เสร็จ..."
ว่าแล้วก็เดินไปดูรองเท้าแบบอื่นๆ ของร้านด้วยกัน
"ปกติเกรซซังชอบใส่รองเท้าแบบไหนเหรอ" ถามแล้วก็มองไปที่รองเท้าบูธยาวของอีกฝ่าย
"แบบบูธยาวก็เหมาะกับเกรซซังนะคะ ดูเพรียวแล้วก็คล่องตัวดี"
ประโยคถัดมาพูดเสียงเบาลงด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายหน่อยๆ
“ไม่ได้สนใจเจตนาหรือความรู้สึกคนอื่นเลย..”
“แล้ว” หันกลับไปหาคู่เดท พูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น
“ชิโมมุชิกิซังจะขอโทษทำไมล่ะคะ คงไม่ได้ถือคำแซวของฉันเป็นจริงจังหรอกนะ”
“ผลัดกันเอาอีกฝ่ายมาบัง ถือว่าหายกันแล้วเนอะ”
ประโยคถัดมาพูดเสียงเบาลงด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายหน่อยๆ
“ไม่ได้สนใจเจตนาหรือความรู้สึกคนอื่นเลย..”
“แล้ว” หันกลับไปหาคู่เดท พูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น
“ชิโมมุชิกิซังจะขอโทษทำไมล่ะคะ คงไม่ได้ถือคำแซวของฉันเป็นจริงจังหรอกนะ”
“ผลัดกันเอาอีกฝ่ายมาบัง ถือว่าหายกันแล้วเนอะ”
เพราะเพิ่งเปิดร้านไม่นานในร้านจึงยังไม่มีลูกค้าอยู่ มีแค่พนักงานจัดของที่หันมาทักทาย กับอีกคนที่ง่วนอยู่ตรงแคชเชียร์เท่านั้น
มองไปรอบๆ ไม่แน่ใจว่าปกติสินค้าใหม่จะวางไว้ตรงไหน แต่ก็ยังไม่อยากเรียกพนักงานมาเลย
"เกรซซังจะเดินดูรอบๆ ก่อนไหมคะ"
เพราะเพิ่งเปิดร้านไม่นานในร้านจึงยังไม่มีลูกค้าอยู่ มีแค่พนักงานจัดของที่หันมาทักทาย กับอีกคนที่ง่วนอยู่ตรงแคชเชียร์เท่านั้น
มองไปรอบๆ ไม่แน่ใจว่าปกติสินค้าใหม่จะวางไว้ตรงไหน แต่ก็ยังไม่อยากเรียกพนักงานมาเลย
"เกรซซังจะเดินดูรอบๆ ก่อนไหมคะ"
โดนดันตัวไปด้านหน้าแทน ยังไม่ทันขยับตัวหรือทำอะไรพวกเด็กๆ ที่ดูหวาดหวั่นเมื่อกี้ก็วิ่งหนีไปเสียก่อน
"อ๋า.."
"ทำเด็กๆ กลัวซะแล้วล่ะค่ะ ชิโมมุโอนิซัง" จงใจแทนชื่ออีกฝ่ายด้วยคำว่ายักษ์ลงไป
"เอาฉันมาเป็นโล่แบบนี้ ไม่กลัวโดนแซวว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษเหรอคะ" เงยหน้าหันไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง พอเห็นหน้าบูดๆ ก็เลิกคิ้ว
"โกรธเหรอคะ"
โดนดันตัวไปด้านหน้าแทน ยังไม่ทันขยับตัวหรือทำอะไรพวกเด็กๆ ที่ดูหวาดหวั่นเมื่อกี้ก็วิ่งหนีไปเสียก่อน
"อ๋า.."
"ทำเด็กๆ กลัวซะแล้วล่ะค่ะ ชิโมมุโอนิซัง" จงใจแทนชื่ออีกฝ่ายด้วยคำว่ายักษ์ลงไป
"เอาฉันมาเป็นโล่แบบนี้ ไม่กลัวโดนแซวว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษเหรอคะ" เงยหน้าหันไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง พอเห็นหน้าบูดๆ ก็เลิกคิ้ว
"โกรธเหรอคะ"
กำลังจะก้าวพ้นย่านการค้าอยู่แล้วแต่รู้สึกว่ามีอะไรมาโดนตัว พอหันไปมองรอบๆ ก็เจอเด็กประมาณประถมต้นสองสามคนถือกล่องถั่วอยู่
พอประสานสายตากับเด็กๆ ทุกคนก็หยิบถั่วในกล่องตั้งท่าจะปามาอีกเลยรีบขยับตัวหลบ ให้คนที่ตัวสูงกว่าเป็นที่กำบังหน้าตาเฉย
กำลังจะก้าวพ้นย่านการค้าอยู่แล้วแต่รู้สึกว่ามีอะไรมาโดนตัว พอหันไปมองรอบๆ ก็เจอเด็กประมาณประถมต้นสองสามคนถือกล่องถั่วอยู่
พอประสานสายตากับเด็กๆ ทุกคนก็หยิบถั่วในกล่องตั้งท่าจะปามาอีกเลยรีบขยับตัวหลบ ให้คนที่ตัวสูงกว่าเป็นที่กำบังหน้าตาเฉย
“แบบน่าสนใจมากเลย แต่มีริบบิ้นติดไว้แบบนี้ ไม่รู้จะใส่ยากหรือเปื้อนง่ายมั้ย..”
“น่าจะเหมาะกับฤดูใบไม้ผลิดีนะคะ”
“แบบน่าสนใจมากเลย แต่มีริบบิ้นติดไว้แบบนี้ ไม่รู้จะใส่ยากหรือเปื้อนง่ายมั้ย..”
“น่าจะเหมาะกับฤดูใบไม้ผลิดีนะคะ”
“เดี๋ยวไปศาลเจ้าฮานะโควกันแล้วกันค่ะ ใกล้ๆ นี่เอง แล้วก็น่าจะมีจุดต้องมองหาน้อยด้วย”
“เดี๋ยวไปศาลเจ้าฮานะโควกันแล้วกันค่ะ ใกล้ๆ นี่เอง แล้วก็น่าจะมีจุดต้องมองหาน้อยด้วย”
“อันที่จริง.. ก็เห็นด้วยกับชิโมมุชิกิซังอยู่หรอกค่ะ แต่ว่าทีมงานอุตส่าห์จัดงานขึ้นมาแล้ว จะไม่เล่นอีเวนท์ก็ไม่ค่อยดี..”
“งั้นเอาเป็นว่า..” เงยหน้ามองคนข้างๆ แล้วอมยิ้ม
“ที่ต่อไปฉันเลือก แต่ที่เดินเล่นที่ถัดไปให้ชิโมมุชิกิซังเลือกแล้วกันนะ ไม่ยอมให้กินแรงหรอก”
+
“อันที่จริง.. ก็เห็นด้วยกับชิโมมุชิกิซังอยู่หรอกค่ะ แต่ว่าทีมงานอุตส่าห์จัดงานขึ้นมาแล้ว จะไม่เล่นอีเวนท์ก็ไม่ค่อยดี..”
“งั้นเอาเป็นว่า..” เงยหน้ามองคนข้างๆ แล้วอมยิ้ม
“ที่ต่อไปฉันเลือก แต่ที่เดินเล่นที่ถัดไปให้ชิโมมุชิกิซังเลือกแล้วกันนะ ไม่ยอมให้กินแรงหรอก”
+
"ก็คุ้นชินมากขึ้นแล้วล่ะ แต่บางครั้งก็ยังรู้สึกแปลกๆ โดยเฉพาะตอนหัวค่ำน่ะ น่าจะเข้าบ้านกันเร็วละมั้ง ตามถนนกับทางเดินเงียบกริบเลย"
"ไม่คุ้นเคยแต่ก็ชอบนะ อากาศดีด้วย"
"ชิโอริจังเป็นคนเมืองนี้ใช่มั้ย" ถามไม่ทันขาดคำก็นึกที่คุยกับคนที่บ้านได้เลยพูดต่อ "พอพูดนามสกุลอิจิเสะให้คุณยายฟัง ก็บอกมาเลยว่าอยู่แถวศาลเจ้า ยอดไปเลย"
"ก็คุ้นชินมากขึ้นแล้วล่ะ แต่บางครั้งก็ยังรู้สึกแปลกๆ โดยเฉพาะตอนหัวค่ำน่ะ น่าจะเข้าบ้านกันเร็วละมั้ง ตามถนนกับทางเดินเงียบกริบเลย"
"ไม่คุ้นเคยแต่ก็ชอบนะ อากาศดีด้วย"
"ชิโอริจังเป็นคนเมืองนี้ใช่มั้ย" ถามไม่ทันขาดคำก็นึกที่คุยกับคนที่บ้านได้เลยพูดต่อ "พอพูดนามสกุลอิจิเสะให้คุณยายฟัง ก็บอกมาเลยว่าอยู่แถวศาลเจ้า ยอดไปเลย"
"อื้อ ก็ดีนะคะ คนน้อยจะได้ลองสวมเดินในร้านได้บ้าง"
"ถ้าร้านรองเท้าที่เคยเห็นละก็ อยู่บนชั้นสองของตึกตรงแยกนั้นเองละ" พูดพลางชี้ไปที่ตึกขนาดไม่ใหญ่ตรงหัวมุม มีบันไดขึ้นชั้นสองอยู่ด้านนอกตึก
"แต่ก็เคยไปที่ร้านครั้งเดียวเองค่ะ รองเท้าแบบใหม่ที่ว่าก็เห็นจากที่ร้านส่งมาทาง Llne ยังไงรองเท้าก็ต้องลองสวมเองแหละเนอะ"
"อื้อ ก็ดีนะคะ คนน้อยจะได้ลองสวมเดินในร้านได้บ้าง"
"ถ้าร้านรองเท้าที่เคยเห็นละก็ อยู่บนชั้นสองของตึกตรงแยกนั้นเองละ" พูดพลางชี้ไปที่ตึกขนาดไม่ใหญ่ตรงหัวมุม มีบันไดขึ้นชั้นสองอยู่ด้านนอกตึก
"แต่ก็เคยไปที่ร้านครั้งเดียวเองค่ะ รองเท้าแบบใหม่ที่ว่าก็เห็นจากที่ร้านส่งมาทาง Llne ยังไงรองเท้าก็ต้องลองสวมเองแหละเนอะ"
"ชิโมมุชิกิซังเอายังไงดีคะ เปลี่ยนไปหาที่อื่นที่น่าจะหาง่ายกว่านี้ หรือจะเดินเล่นไปเรื่อยๆ ดี"
ยื่นรายชื่อสถานที่ในมือถือให้อีกคนเห็นชัดๆ ไปเลยว่ามีที่ไหนบ้าง
"ถ้าเปลี่ยนที่ละก็.. ศาลเจ้ากับสนามเด็กเล่นน่าจะหาง่ายหน่อยนะคะ ไม่กว้างมาก จุดที่แปะได้ก็น่าจะน้อย"
(ขอแปะสถานที่ไว้เลยนะคะ จะได้กลับมาดูง่ายหน่อย)
"ชิโมมุชิกิซังเอายังไงดีคะ เปลี่ยนไปหาที่อื่นที่น่าจะหาง่ายกว่านี้ หรือจะเดินเล่นไปเรื่อยๆ ดี"
ยื่นรายชื่อสถานที่ในมือถือให้อีกคนเห็นชัดๆ ไปเลยว่ามีที่ไหนบ้าง
"ถ้าเปลี่ยนที่ละก็.. ศาลเจ้ากับสนามเด็กเล่นน่าจะหาง่ายหน่อยนะคะ ไม่กว้างมาก จุดที่แปะได้ก็น่าจะน้อย"
(ขอแปะสถานที่ไว้เลยนะคะ จะได้กลับมาดูง่ายหน่อย)