ขอบคุณนะคะแงงง หลังจากนี้น่าจะเจอของจริงแล้วค่ะ🥹 ยังต้องเรียนเพิ่มอีกเยอะเลยแหะๆ🥲

ได้เวลากอบกู้เรือผีของพวกเลา—

มีอะไรเป็นรางวัลจ๊ะสาวน้อย🥴5555555 ขอบคุงนะงับบบบ

ส่วนแฟนเราได้งานสายProgrammerในบอเกมอีกที่ เพราะงั้นถ้าใครอยากมาเรียนสายsoundกับสายทำเกมก็ทักมาคุยกันได้นะะ ไว้รอบหน้าจะมารีวิวการหางานในวงการเกมที่ญี่ปุ่นอีกทีนะคับบ ถ้าใครสงสัยตรงไหนหรือเราให้ข้อมูลตรงไหนผิดไปบอกได้เลยนะะ🥹

เรื่องเรียนก็คร่าวๆประมาณนี้งับบ ตอนนี้เราเรียนจบแล้ว ละก็ได้งานSound designer ในบอเกม(ไม่แน่ใจว่าระบุชื่อบอได้มั้ยเพราะที่ญี่แอบเคร่ง🥺 แต่คือบอที่ทำแกงบูแฟงตาซีกับอุม้ามุจุเมะคับ ขอพิมพ์เลี่ยงๆละกัน555)

อีกอีเว้นท์ก็คือตอนปี1ได้ไปออกบูธของ รร ที่ Tokyo game show ด้วยย คือตอนแรกไปช่วยภาคเกมทำพวกSound effect กับ bgm (เพิ่งเคยทำเพลงในเกมvrแบบลำโพงรอบทิศ แต่แอบmixง่ายกว่าตอนทำเพลงปกตินะเพราะลำโพงมันเยอะอ่ะ เลยแยกเลเยอร์ง่าย5555555) แล้วก็เลยได้ไปยืนบูธด้วย เหนื่อยแต่ก็สนุกแหละ🥹

ที่สำคัญคือได้เจอSound designer จากบอเกมใหญ่ๆเยอะเลย อย่างSquare enixคือจังหวะดีมาก ตอนนั้นเขากำลังหาคนไทยไปร้องท่อนนึงในbgmมินิเกมของFF7 เรากับเพื่อนก็เลยได้ไปอัดเสียงใส่ในเกมคับ🥹ส่วนฝั่งCapcomก็คือได้ไป 1 day internship กับแผนกsound แค่นี้ก็รู้สึกว่าการมาเรียนครั้งนี้คุ้มละ555

นอกจากเรียนวิธีใช้โปรแกรมกับfoleyก็จะมีไปfield recordบ้างนานๆทีคับ (หารูปที่ยกไมค์ไปถ่ายกับอาจารย์ไม่เจอง่ะ ขอแปะภาพตอนไปอัดเสียงน้ำตกกับเพื่อนแทน5555555)

ลืมแปะชื่อโรงเรียน555555 โรงเรียนที่เราได้ไปชื่อ神戸電子専門学校 อยู่ที่โกเบ(แถวๆโอซาก้า) ซึ่งเราเลือกโรงเรียนเองไม่ได้ ตอนแรกก็เลยไม่รู้จักโรงเรียนนี้เลยอ่ะ555555 แต่ตลอด2ปีที่อยู่ที่นี่ก็คือแฮปปี้มาก อาจารย์ดี เพื่อนดี ไม่ดีอย่างเดียวคือโรงเรียนมันอยู่บนเนิน เดินจนหอบ5555555

แต่อย่างเราคือเล็งไว้ว่าอยากทำงานด้าน soundในวงการเกม ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์พอสมควรเพราะรร.เรามีอาจารย์ที่เคยทำงานสายsoundในบอเกมมาก่อน เขาก็เลยแนะนำให้ได้ค่อนข้างเยอะ ที่สำคัญก็คือโรงเรียนเรามี foley studio ด้วย ถ้าตารางว่างก็สามารถไปอัดเสียงได้ตลอดเลย (แปะภาพตอนทำเสียงfootstep🥹)

ส่วนเรื่องการเรียน อันนี้ขอพูดถึงของสายsoundเป็นหลักนะคะ(อาจจะมีพูดถึงสายเกมบ้างเพราะแฟนมาเรียนสายทำเกม5555) ถ้าให้พูดตรงๆคือถ้าจะมาเรียนสายแต่งเพลงเป็นหลัก เราคิดว่าไปเรียนม.ดนตรีน่าจะเหมาะกว่า เพราะเรียน music theoryแบบไม่ได้ลงลึกมาก คือเนื้อหาสำหรับคนที่เริ่มจาก0เลย

ซึ่งตรงนี้เราต้องจ่ายเอง แนะนำว่าควรเตรียมเงินเผื่อไว้ประมาณ 2 แสนเยนค่ะ(ไม่รวมค่าเฟอร์นิเจอร์ ห้องที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเปล่าๆ เลยอ่า ห้องที่มีเฟอร์ให้คือมีน้อยมาก)สรุปก็คือถึงแม้ทุนจะช่วยออกค่าเทอมกับค่ากินอยู่ให้ แต่มันก็จะมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเองบ้างเหมือนกันค่ะ

ปีแรกส่วนใหญ่จะได้อยู่หอของโรงเรียนภาษาหรือไม่ก็อพาร์ทเมนต์ที่โรงเรียนช่วยแนะนำให้ค่ะ แต่พอเรียนจบโรงเรียนภาษาต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแทน ซึ่งตรงนี้ต้องติดต่อนายหน้าหาห้องเองด้วย แล้วที่ญี่ปุ่นเวลาจะเช่าห้องส่วนใหญ่มันต้องเสียค่า敷金,礼金กับค่าประกันต่างๆรวมถึงค่านายหน้าด้วย

ถ้าตั้งใจไว้ว่าจะทำงานพิเศษแน่ๆให้แจ้งตั้งแต่ตอนเข้าประเทศนะคะ เจ้าหน้าที่เขาจะตอกด้านหลังบัตรResident cardไว้ให้ว่าสามารถทำงานพิเศษได้(ซึ่งเรารับงานแปลกับ สนพ ที่ไทยอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดจะทำงานพิเศษที่นี่ตั้งแต่แรก ก็เลยไม่ค่อยรู้รายละเอียดค่า ยังไงลองไปเสิชหาข้อมูลกันอีกทีนะะ)

ส่วนเงินค่ากินค่าอยู่ที่ได้รายเดือน ในเอกสารเขียนไว้ว่า 117,000 เยนต่อเดือน เราไม่แน่ใจว่าเขาเพิ่งเปลี่ยนรึเปล่า แต่ตอนนี้เราได้เดือนละ 120,000 เยนค่ะ(แทบไม่ต่าง555) ถามว่าพอใช้มั้ย ก็คือไม่🥲แต่สามารถหางานพิเศษทำเพื่อเก็บเงินเพิ่มได้ค่ะ

เริ่มจากเรื่องเงิน คือทุนช่วยออกค่าเทอมก็จริง แต่ว่ามันก็จะมีพวกค่าเอกสาร/ค่าอุปกรณ์/ค่าซอฟท์แวร์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่ามาเรียนสายอะไรด้วยซึ่งส่วนนี้เราต้องออกเงินเอง (อย่างของเราก็คือโดนค่าNuendo,Pro tools,Adobeและอื่นๆ🥲) แนะนำว่าควรมีเงินเก็บสักก้อนนึงไว้จ่ายค่าพวกนี้ด้วยนะคะ

8.พอได้รับจดหมายจากสถานทูตแล้ว ที่เหลือก็ไปเดินเรื่องตามที่สถานทูตแจ้งเลยคับบ แล้วก็เตรียมตัวบินมาเข้าโรงเรียนภาษาตอนเดือนเมษาได้เลยยย วิธีสมัครทุนก็จะจบแค่นี้ค่า พาร์ทต่อไปจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิตกับการเรียนที่นี่ละค่ะ อาจจะยาวหน่อยเพราะคิดอะไรออกก็พิมพ์55555 อ่านข้ามๆได้นะคะ🥹

7.พอสอบสัมภาษณ์เสร็จก็จะประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือกเลือกช่วงเดือนสิงหาค่ะ ซึ่งถ้าผ่านมาถึงรอบนี้ก็เท่ากับมีโอกาส 90% แล้วที่จะได้ทุน โดยสถานทูตจะส่งรายชื่อผู้ที่ผ่านให้ทางญี่ปุ่นคัดรอบสุดท้ายอีกที แล้วประกาศผลอย่างเป็นทางการช่วงมกราปีต่อมาค่ะ