“ผมพอเป็นตากล้องได้ไหม ถ่ายดีอยู่นะเนี่ย”
อะไรที่มันโม้ได้ ก็โม้มันไปก่อน
“ผมพอเป็นตากล้องได้ไหม ถ่ายดีอยู่นะเนี่ย”
อะไรที่มันโม้ได้ ก็โม้มันไปก่อน
..เป็นความทรงจำแหละนะ
”อืมม ถ่ายแค่มือครับ”
ระบายยิ้มบนใบหน้า ยอมเป็นนายแบบให้พี่พาตถ่ายก่อน แล้วค่อยจัดการรูปของตัวเองบ้าง ด้วยการซ้อนข้อมือตัวเองข้างที่ถือไฟเย็นไขว้กับมือของคนข้างตัว
(+
..เป็นความทรงจำแหละนะ
”อืมม ถ่ายแค่มือครับ”
ระบายยิ้มบนใบหน้า ยอมเป็นนายแบบให้พี่พาตถ่ายก่อน แล้วค่อยจัดการรูปของตัวเองบ้าง ด้วยการซ้อนข้อมือตัวเองข้างที่ถือไฟเย็นไขว้กับมือของคนข้างตัว
(+
“แล้วพี่ก็ได้แผลมาเพราะคิดว่าเย็นเหมือนชื่อ?“
เดาตอนต่อได้ไม่ยากเลยในเมื่อพี่พาตเกริ่นออกมาแบบนั้น
”เด็กชายพาตก็ซนเหมือนกันนะเนี่ย“
(+
“แล้วพี่ก็ได้แผลมาเพราะคิดว่าเย็นเหมือนชื่อ?“
เดาตอนต่อได้ไม่ยากเลยในเมื่อพี่พาตเกริ่นออกมาแบบนั้น
”เด็กชายพาตก็ซนเหมือนกันนะเนี่ย“
(+
ยื่นหนึ่งอันในมือให้กับพี่พาต แสงที่ไม่ได้จ้ามากนัก ไม่ได้ทำให้มองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ชัดขึ้น แต่ก็ดูดีไม่หยอก เมื่อไฟสีส้ม ๆ นั่นตกกระทบ
“เหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กเลย” โบกมือเบา ๆ จนไฟเย็นกลายเป็นเส้นขีด ๆ ตามแรงเหวี่ยงช้า ๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“ถ่ายรูปด้วยกันไหม พี่พาต”
“แค่มือที่ถือไฟเย็นก็ได้ครับ”
ยื่นหนึ่งอันในมือให้กับพี่พาต แสงที่ไม่ได้จ้ามากนัก ไม่ได้ทำให้มองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ชัดขึ้น แต่ก็ดูดีไม่หยอก เมื่อไฟสีส้ม ๆ นั่นตกกระทบ
“เหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กเลย” โบกมือเบา ๆ จนไฟเย็นกลายเป็นเส้นขีด ๆ ตามแรงเหวี่ยงช้า ๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“ถ่ายรูปด้วยกันไหม พี่พาต”
“แค่มือที่ถือไฟเย็นก็ได้ครับ”
“อื้อ แต่..คงเพราะถ้าถ่ายรูปกับมันก็คงสวย คนเลยแห่มาซื้อไปเล่นมั้งครับ“
หัวเราะขำเบา ๆ อันที่จริงไม่ว่ากิจกรรมไหนก็ดูมีคนสนใจไปหมดจนเต็มแน่นทุกที่ เปอร์จี่ส่วนปลายของไฟเย็นเข้ากับไฟ จนมันเริ่มขึ้นเป็นประกายแสงแตกออก สว่างจ้าท่ามกลางแสงรำไรยามค่ำ
(+
“อื้อ แต่..คงเพราะถ้าถ่ายรูปกับมันก็คงสวย คนเลยแห่มาซื้อไปเล่นมั้งครับ“
หัวเราะขำเบา ๆ อันที่จริงไม่ว่ากิจกรรมไหนก็ดูมีคนสนใจไปหมดจนเต็มแน่นทุกที่ เปอร์จี่ส่วนปลายของไฟเย็นเข้ากับไฟ จนมันเริ่มขึ้นเป็นประกายแสงแตกออก สว่างจ้าท่ามกลางแสงรำไรยามค่ำ
(+
“โอ๊ะ ผมลืมไฟแช็ค” ตบอกตัวเองแปะ ๆ เหมือนเพิ่งคิดได้ แล้วก็เพิ่งคิดได้อีกต่อว่าคนข้างกายเขาก็สูบ
สายตาหมาก็เลยหันไปเลิกคิ้วมอง คล้ายจะถามว่าพี่พาตมีไฟแช็คใช่ไหม
“โอ๊ะ ผมลืมไฟแช็ค” ตบอกตัวเองแปะ ๆ เหมือนเพิ่งคิดได้ แล้วก็เพิ่งคิดได้อีกต่อว่าคนข้างกายเขาก็สูบ
สายตาหมาก็เลยหันไปเลิกคิ้วมอง คล้ายจะถามว่าพี่พาตมีไฟแช็คใช่ไหม
ทำเสียงคล้ายเสียดาย แต่ไม่ได้จริงจังในน้ำเสียงอะไรมากมายนัก คว้าจับมือพี่พาตมากุมไว้ ก่อนจะเดินตามหาร้านไฟเย็นที่ว่า
ดูท่าว่าพวกเขาจะเลือกกิจกรรมยอดฮิตอีกแล้ว ไฟเย็นในส่วนของวันนี้เลยเหลือแค่ไม่กี่แพ็ค แต่ก็พอจะฉกชิงมาเล่นได้
“เกือบหมด อดเล่นซะแล้ว”
(+
ทำเสียงคล้ายเสียดาย แต่ไม่ได้จริงจังในน้ำเสียงอะไรมากมายนัก คว้าจับมือพี่พาตมากุมไว้ ก่อนจะเดินตามหาร้านไฟเย็นที่ว่า
ดูท่าว่าพวกเขาจะเลือกกิจกรรมยอดฮิตอีกแล้ว ไฟเย็นในส่วนของวันนี้เลยเหลือแค่ไม่กี่แพ็ค แต่ก็พอจะฉกชิงมาเล่นได้
“เกือบหมด อดเล่นซะแล้ว”
(+
พึมพำเสียงค่อยคล้ายบ่นลมฟ้าอากาศ แต่ก็ตั้งใจให้คนข้างตัวได้ยินนั่นแหละ
ถ้าเขินขึ้นมาก็กำไรของเขา เท่านั้นเอง
”เราไปซื้อไฟเย็นกันต่อเลยไหมครับ?“
เอ่ยชวน พร้อมกับยื่นมือไปตรงหน้าเป็นเชิงว่าให้จับ กำลังไล่เก็บกิจกรรมที่คุยกันเอาไว้ นอกจากไฟเย็นที่ดูจะฮิตไม่หยอก ก่อนกลับก็ว่าจะชวนไปดูเครื่องรางเสียหน่อย
พึมพำเสียงค่อยคล้ายบ่นลมฟ้าอากาศ แต่ก็ตั้งใจให้คนข้างตัวได้ยินนั่นแหละ
ถ้าเขินขึ้นมาก็กำไรของเขา เท่านั้นเอง
”เราไปซื้อไฟเย็นกันต่อเลยไหมครับ?“
เอ่ยชวน พร้อมกับยื่นมือไปตรงหน้าเป็นเชิงว่าให้จับ กำลังไล่เก็บกิจกรรมที่คุยกันเอาไว้ นอกจากไฟเย็นที่ดูจะฮิตไม่หยอก ก่อนกลับก็ว่าจะชวนไปดูเครื่องรางเสียหน่อย
พึมพำเสียงเบาพอให้ได้ยินกันแค่สองคน ถือวิสาสะเกลี่ยผมที่ถูกลมพัดนั่นให้นิดหน่อย ตอนที่หยิบใบไผ่ออกให้
“เฮ้ย บทพระเอกโชโจชะมัด”
พึมพำเสียงเบาพอให้ได้ยินกันแค่สองคน ถือวิสาสะเกลี่ยผมที่ถูกลมพัดนั่นให้นิดหน่อย ตอนที่หยิบใบไผ่ออกให้
“เฮ้ย บทพระเอกโชโจชะมัด”
“ไม่เห็นสักตัวอักษรด้วยครับ” ยกยิ้มเผล่ อย่างน้อย ๆ ก็คงเรื่องความเชื่อเอาไว้ได้
เปอร์โคลงหัว หันกลับมามองคนข้างตัว เพราะลมแรงและอยู่ใต้กิ่งไผ่หรือไม่อย่างไร ใบไผ่แห้งถึงได้ปลิวมาติดกับผมของพี่พาต
“ใบไผ่ติดผมแหน่ะ ผมหยิบออกให้นะ”
อีกฝ่ายเป็นคนระแวดระวัง ตื่นตกใจง่ายเหมือนแมวที่จะพองขนขู่ ก็เลยเรียนรู้ที่จะเอ่ยปากบอกก่อน ถึงค่อยเลื่อนมือไปหยิบออกให้
(+
“ไม่เห็นสักตัวอักษรด้วยครับ” ยกยิ้มเผล่ อย่างน้อย ๆ ก็คงเรื่องความเชื่อเอาไว้ได้
เปอร์โคลงหัว หันกลับมามองคนข้างตัว เพราะลมแรงและอยู่ใต้กิ่งไผ่หรือไม่อย่างไร ใบไผ่แห้งถึงได้ปลิวมาติดกับผมของพี่พาต
“ใบไผ่ติดผมแหน่ะ ผมหยิบออกให้นะ”
อีกฝ่ายเป็นคนระแวดระวัง ตื่นตกใจง่ายเหมือนแมวที่จะพองขนขู่ ก็เลยเรียนรู้ที่จะเอ่ยปากบอกก่อน ถึงค่อยเลื่อนมือไปหยิบออกให้
(+
หัวเราะขำ อย่างน้อยไอ้การสอดเชือกให้มัดกันเป็นปมตอนหลับตาก็ไม่ได้ยากอะไร (คิดว่า) แต่เปอร์ก็ไม่คิดว่าพี่พาตจะยอมให้เขาผูกให้
ยื่นฝ่ามือไปรับกระดาษทันซาคุมาถือ พลิกด้านที่ถูกเขียนคำอธิษฐานคว่ำไปกับฝ่ามือ อย่างน้อยก็ทันเห็นแค่หมึกลางๆผ่านสายตา
โอบประคองตอนผูกไม่ให้มันพลิกกลับด้านมาป๊ะกับสายตาหยีๆของเขา กิ่งก้านเดียวกันคู่กับทันซาคุสีเขียวอ่อนที่กำลังสะบัดไปตามแรงลม
(+
หัวเราะขำ อย่างน้อยไอ้การสอดเชือกให้มัดกันเป็นปมตอนหลับตาก็ไม่ได้ยากอะไร (คิดว่า) แต่เปอร์ก็ไม่คิดว่าพี่พาตจะยอมให้เขาผูกให้
ยื่นฝ่ามือไปรับกระดาษทันซาคุมาถือ พลิกด้านที่ถูกเขียนคำอธิษฐานคว่ำไปกับฝ่ามือ อย่างน้อยก็ทันเห็นแค่หมึกลางๆผ่านสายตา
โอบประคองตอนผูกไม่ให้มันพลิกกลับด้านมาป๊ะกับสายตาหยีๆของเขา กิ่งก้านเดียวกันคู่กับทันซาคุสีเขียวอ่อนที่กำลังสะบัดไปตามแรงลม
(+
อดไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละที่จะแหย่พี่พาตด้วยคำพูด ขยับยิ้มจนตาหยี มองหาต้นไผ่เหมาะ ๆ ก่อนจะผูกมันกับก้านสูงเหนือหัวตัวเองไม่ยากเย็น
อดไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละที่จะแหย่พี่พาตด้วยคำพูด ขยับยิ้มจนตาหยี มองหาต้นไผ่เหมาะ ๆ ก่อนจะผูกมันกับก้านสูงเหนือหัวตัวเองไม่ยากเย็น
“งั้นไปผูกกันครับ”
ยันตัวลุกขึ้นยืน ดูเหมือนจะมีคนต่อคิวรอแทรกหาที่นั่งอยู่แล้ว เปอร์คว้ากระดาษที่เขียวอ่อนติดมือมาด้วย
ส่วนใหญ่กิ่งก้านต้นไผ่โดนจับจองเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะส่วนที่แขนเอื้อมถึง ส่วนเขาก็หายห่วงหน่อยที่สูงและแขนยาวอยู่มาก
(+
“งั้นไปผูกกันครับ”
ยันตัวลุกขึ้นยืน ดูเหมือนจะมีคนต่อคิวรอแทรกหาที่นั่งอยู่แล้ว เปอร์คว้ากระดาษที่เขียวอ่อนติดมือมาด้วย
ส่วนใหญ่กิ่งก้านต้นไผ่โดนจับจองเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะส่วนที่แขนเอื้อมถึง ส่วนเขาก็หายห่วงหน่อยที่สูงและแขนยาวอยู่มาก
(+
“อื้ม ผมเขียนเสร็จละ”
“พี่เสร็จรึยัง?”
“อื้ม ผมเขียนเสร็จละ”
“พี่เสร็จรึยัง?”
“แยกกันเขียนนะครับ”
จะแอบเหล่มองก็กลัวจะไปขัดความเชื่อใครเขาเข้า ก็เลยออกมาในรูปแบบกระมิดกระเมี้ยนแอบเขียนลับ ๆ ล่อ ๆ
(+
“แยกกันเขียนนะครับ”
จะแอบเหล่มองก็กลัวจะไปขัดความเชื่อใครเขาเข้า ก็เลยออกมาในรูปแบบกระมิดกระเมี้ยนแอบเขียนลับ ๆ ล่อ ๆ
(+
เดินตามหลังของพาตเข้าไปด้านใน โชคดีที่มีโต๊ะว่าง พอให้พวกเขาทั้งคู่แทรกตัวเข้าไปเขียนคำอธิษฐาน และเพราะแบบนั้น มือที่ยังกุมไว้อยู่ก็เลยต้องละออกจากกัน
เปอร์มองตามสายตาละห้อย เหมือนหมาเวลาเจ้าของไม่ตามใจ ทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ ทั้ง ๆ ที่แค่ปล่อยมือเพราะต้องเขียน
ก็เป็นเอามากอยู่
(+
เดินตามหลังของพาตเข้าไปด้านใน โชคดีที่มีโต๊ะว่าง พอให้พวกเขาทั้งคู่แทรกตัวเข้าไปเขียนคำอธิษฐาน และเพราะแบบนั้น มือที่ยังกุมไว้อยู่ก็เลยต้องละออกจากกัน
เปอร์มองตามสายตาละห้อย เหมือนหมาเวลาเจ้าของไม่ตามใจ ทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ ทั้ง ๆ ที่แค่ปล่อยมือเพราะต้องเขียน
ก็เป็นเอามากอยู่
(+
แกล้งแมวดำได้สมใจอยาก ก็พากันมาถึงลานสำหรับเขียนกระดาษทันซาคุพอดี คนค่อนข้างเยอะ นับว่าเป็นกิจกรรมที่ทุกคนให้ความสนใจ
“จะยังเหลือให้เราเขียนไหมเนี่ย”
แกล้งแมวดำได้สมใจอยาก ก็พากันมาถึงลานสำหรับเขียนกระดาษทันซาคุพอดี คนค่อนข้างเยอะ นับว่าเป็นกิจกรรมที่ทุกคนให้ความสนใจ
“จะยังเหลือให้เราเขียนไหมเนี่ย”
เปอร์ยกยิ้มเผล่ ดูก็รู้ว่าตั้งใจที่จะหยอกเย้า อาจจะเพราะติดเป็นนิสัย หรืออาจจะแค่พอใจที่ทำให้คนข้างตัวเสียอาการได้มากขนาดนี้
“โอ๊ะ หมัดแมว”
ลูบไหล่ตัวเองป้อย ๆ เหมือนมันเจ็บนักหนา เขาแค่การแสดงไปอย่างนั้นเอง เปอร์กระชับมือที่กุมกันไว้ให้แน่นขึ้น ต่อให้ปีหน้าจะไม่ว่างมาเดินด้วยกัน
(+
เปอร์ยกยิ้มเผล่ ดูก็รู้ว่าตั้งใจที่จะหยอกเย้า อาจจะเพราะติดเป็นนิสัย หรืออาจจะแค่พอใจที่ทำให้คนข้างตัวเสียอาการได้มากขนาดนี้
“โอ๊ะ หมัดแมว”
ลูบไหล่ตัวเองป้อย ๆ เหมือนมันเจ็บนักหนา เขาแค่การแสดงไปอย่างนั้นเอง เปอร์กระชับมือที่กุมกันไว้ให้แน่นขึ้น ต่อให้ปีหน้าจะไม่ว่างมาเดินด้วยกัน
(+
ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะขำเบา ๆ เหมือนสมใจอยากแล้วที่ได้กลั่นแกล้งกัน
ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะขำเบา ๆ เหมือนสมใจอยากแล้วที่ได้กลั่นแกล้งกัน
เอ่ยปากชวน น้ำเสียงจริงจังอยู่ไม่น้อย ปกติเขาติดเล่นยิ่งกว่าอะไรดี เปอร์เลื่อนสายตามองคนตรงหน้า สังเกตเห็นแก้มขึ้นสีแดงฝาด แม้จะมองยากเพราะแสงไฟ
แต่ก็กำลังเขินกันอยู่นี่นา
เจ้าหมาตัวโตขยับยิ้ม ตาหยีโค้งลงเป็นตายิ้ม ก่อนจะเอนตัวเข้าไปหา กระซิบอยู่ข้างหู
(+
เอ่ยปากชวน น้ำเสียงจริงจังอยู่ไม่น้อย ปกติเขาติดเล่นยิ่งกว่าอะไรดี เปอร์เลื่อนสายตามองคนตรงหน้า สังเกตเห็นแก้มขึ้นสีแดงฝาด แม้จะมองยากเพราะแสงไฟ
แต่ก็กำลังเขินกันอยู่นี่นา
เจ้าหมาตัวโตขยับยิ้ม ตาหยีโค้งลงเป็นตายิ้ม ก่อนจะเอนตัวเข้าไปหา กระซิบอยู่ข้างหู
(+
“แบบไม่ต้องมีของกินติดมือน่ะ”
ค่อนข้างที่จะเห็นใจคนที่ดูจะกินเกินลิมิตของวันนี้
“แบบไม่ต้องมีของกินติดมือน่ะ”
ค่อนข้างที่จะเห็นใจคนที่ดูจะกินเกินลิมิตของวันนี้
แต่ตอนนี้มันกำลังอุ่นขึ้นเพราะมือของเขา
“อื้ม ฟังดูสมกับเป็นพี่พาตดี ถ้าบอกว่ามาเล่นกิจกรรมทุกปี ผมคงตกใจแย่”
หัวเราะขำเบา ๆ พอฟ้ามืดแล้วคนก็เยอะกว่าช่วงเย็นมาก นอกจากจะต้องเดินเบียดกับฝูงชนแล้ว ก็ยังต้องเขยิบไปเดินชิดกับคนข้างตัวด้วย
(+
แต่ตอนนี้มันกำลังอุ่นขึ้นเพราะมือของเขา
“อื้ม ฟังดูสมกับเป็นพี่พาตดี ถ้าบอกว่ามาเล่นกิจกรรมทุกปี ผมคงตกใจแย่”
หัวเราะขำเบา ๆ พอฟ้ามืดแล้วคนก็เยอะกว่าช่วงเย็นมาก นอกจากจะต้องเดินเบียดกับฝูงชนแล้ว ก็ยังต้องเขยิบไปเดินชิดกับคนข้างตัวด้วย
(+