Multi-Fandoms เน้นออลพระเอก
ชั่วขณะหนึ่งเขาอยากจะคว้าเอวบางๆของซากุระมากอดไว้และแสดงให้รู้ว่าตอนนี้มีคนจองแล้ว
“อ่า แย่แล้วสิซากุระคุง”
“ถ้าจับเธอขังเอาไว้คงจะโกรธมากแน่ๆเลย…”
จบ.
ชั่วขณะหนึ่งเขาอยากจะคว้าเอวบางๆของซากุระมากอดไว้และแสดงให้รู้ว่าตอนนี้มีคนจองแล้ว
“อ่า แย่แล้วสิซากุระคุง”
“ถ้าจับเธอขังเอาไว้คงจะโกรธมากแน่ๆเลย…”
จบ.
“อ๊า…ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้นะ” สุโอพึมพำออกมาเบาๆ อารมณ์ที่มีก่อนหน้าเริ่มสงบลง เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เขายั้งสติไม่อยู่จนเกือบจะเผยธาตุแท้ต่อหน้าเพื่อนแมวสองสี
(17)
“อ๊า…ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้นะ” สุโอพึมพำออกมาเบาๆ อารมณ์ที่มีก่อนหน้าเริ่มสงบลง เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เขายั้งสติไม่อยู่จนเกือบจะเผยธาตุแท้ต่อหน้าเพื่อนแมวสองสี
(17)
.
.
“อึก…อ่า ซากุระ…” เสียงครางและเสียงเฉอะแฉะดังมาจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงกว้าง
มือข้างหนึ่งรูดไปตามความยาวของแก่นกายที่แข็งจนกอบกุมแทบไม่รอบ
ใบหน้าที่มักจะยิ้มแย้มตอนนี้มีเพียงความบิดเบี้ยวจากแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาเพราะความรักและหึงหวง
(16)
.
.
“อึก…อ่า ซากุระ…” เสียงครางและเสียงเฉอะแฉะดังมาจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงกว้าง
มือข้างหนึ่งรูดไปตามความยาวของแก่นกายที่แข็งจนกอบกุมแทบไม่รอบ
ใบหน้าที่มักจะยิ้มแย้มตอนนี้มีเพียงความบิดเบี้ยวจากแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาเพราะความรักและหึงหวง
(16)
“เปล่าๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“เห้ย นั่นมันของฉัน!”
“ฉันจองตั้งแต่แรกแล้วโว๊ย!!”
เสียงทะเลาะระหว่างซากุระและสุกิชิตะดังแทรกขึ้นมา ทำให้สุโอละความสนใจจากอุเมมิยะ หันไปห้ามปรามคู่กัดปี1แทน
(15)
“เปล่าๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“เห้ย นั่นมันของฉัน!”
“ฉันจองตั้งแต่แรกแล้วโว๊ย!!”
เสียงทะเลาะระหว่างซากุระและสุกิชิตะดังแทรกขึ้นมา ทำให้สุโอละความสนใจจากอุเมมิยะ หันไปห้ามปรามคู่กัดปี1แทน
(15)
ภาวนาให้รุ่นน้องน่ารักสุดฮ็อตจะไม่เผลอทำให้อีกคนสติแตกขึ้นมา…
“มีอะไรรึเปล่าครับ อุเมมิยะซัง?” เสียงนุ่มของสุโอเรียกชื่อเพราะว่าเขาดันมองซากุระนานเกินไป โทนเสียงเย็นๆแบบนั้นทำเอา-
(14)
ภาวนาให้รุ่นน้องน่ารักสุดฮ็อตจะไม่เผลอทำให้อีกคนสติแตกขึ้นมา…
“มีอะไรรึเปล่าครับ อุเมมิยะซัง?” เสียงนุ่มของสุโอเรียกชื่อเพราะว่าเขาดันมองซากุระนานเกินไป โทนเสียงเย็นๆแบบนั้นทำเอา-
(14)
จากใบหน้าเป็นมิตรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ สายตาที่จ้องไปยังเพื่อนผมสองสีของตนแฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง อยากที่จะกลืนกิน ครอบครองเอาไว้ในอาณาเขตของตน
(13)
จากใบหน้าเป็นมิตรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ สายตาที่จ้องไปยังเพื่อนผมสองสีของตนแฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง อยากที่จะกลืนกิน ครอบครองเอาไว้ในอาณาเขตของตน
(13)
“ก…ก็บอกกันดีๆสิ ฉันเช็ดเองได้!”
“ครับ”
ใบหน้ายิ้มแย้มที่ส่งมาดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่พูดว่า เข้าใจแล้ว เลยสักนิด
ซากุระพ่นลมหายใจออกมาและก้มหน้ากินขนมในมือต่อ เมินคนข้างๆที่นั่งจ้องเสมือนสุนัขที่รอเจ้าของกลับบ้านมาเล่นด้วย
(12)
“ก…ก็บอกกันดีๆสิ ฉันเช็ดเองได้!”
“ครับ”
ใบหน้ายิ้มแย้มที่ส่งมาดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่พูดว่า เข้าใจแล้ว เลยสักนิด
ซากุระพ่นลมหายใจออกมาและก้มหน้ากินขนมในมือต่อ เมินคนข้างๆที่นั่งจ้องเสมือนสุนัขที่รอเจ้าของกลับบ้านมาเล่นด้วย
(12)
นิ้วเรียวของสุโอเช็ดเศษขนมที่บริเวณข้างแก้ม ก่อนจะเลื่อนไปลูบไปมาตรงริมฝีปากอวบอิ่ม น่าจูบในสายตาของสุโอ
สัมผัสสกินชิพพร้อมกับแรงที่กดลงมาจนนิ้วอีกฝ่ายแตะกับปลายลิ้น ทำเอาซากุระเด้งตัวออกมาเก้าอี้
“ท…ทำบ้าอะไรของแก!”
(11)
นิ้วเรียวของสุโอเช็ดเศษขนมที่บริเวณข้างแก้ม ก่อนจะเลื่อนไปลูบไปมาตรงริมฝีปากอวบอิ่ม น่าจูบในสายตาของสุโอ
สัมผัสสกินชิพพร้อมกับแรงที่กดลงมาจนนิ้วอีกฝ่ายแตะกับปลายลิ้น ทำเอาซากุระเด้งตัวออกมาเก้าอี้
“ท…ทำบ้าอะไรของแก!”
(11)
เมื่อไม่นานมานี้เขาได้ค้นพบความลับบางอย่างที่ไม่สามารถพูดมันออกมาได้
“ซากุระคุง ลองกินอันนี้หน่อยไหม?”
“แกอยากโดนต่อยรึไง ถึงยื่นมะเขือเทศมาให้ฉันน่ะสุโอ!!”
“หยอกๆครับ”
(10)
เมื่อไม่นานมานี้เขาได้ค้นพบความลับบางอย่างที่ไม่สามารถพูดมันออกมาได้
“ซากุระคุง ลองกินอันนี้หน่อยไหม?”
“แกอยากโดนต่อยรึไง ถึงยื่นมะเขือเทศมาให้ฉันน่ะสุโอ!!”
“หยอกๆครับ”
(10)
มือที่วางบนไหล่โดนผลักออกโดยสุโอที่เดินมานั่งลงข้างๆซากุระ
นัยน์ตาสีแดงตวัดมองเจ้าของมือครู่หนึ่งก่อนจะยกยิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(9)
มือที่วางบนไหล่โดนผลักออกโดยสุโอที่เดินมานั่งลงข้างๆซากุระ
นัยน์ตาสีแดงตวัดมองเจ้าของมือครู่หนึ่งก่อนจะยกยิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(9)
ใบหน้ายิ้มระรื่นทำเอาเขาอยากจะปล่อยหมัดใส่สักที
"มาผ่อนคลายกันหน่อยสิ" มือของอุเมมิยะตบลงบนไหล่รุ่นน้องก่อนจะพามานั่งที่โต๊ะ
"นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย..."
(8)
ใบหน้ายิ้มระรื่นทำเอาเขาอยากจะปล่อยหมัดใส่สักที
"มาผ่อนคลายกันหน่อยสิ" มือของอุเมมิยะตบลงบนไหล่รุ่นน้องก่อนจะพามานั่งที่โต๊ะ
"นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย..."
(8)
เขาอยากจะเป็นคนที่ได้รับรอยยิ้มนั่นเพียงคนเดียว
"ซากุระ"
"ห้ะ เรียกฉันทำไม?"
"เปล่าครับ"
สุดท้ายก็ได้แต่กลืนคำพูดในใจที่อยากจะขอร้องอ้อนวอนให้สนใจแต่เขาเพียงคนเดียวเข้าไป
(7)
เขาอยากจะเป็นคนที่ได้รับรอยยิ้มนั่นเพียงคนเดียว
"ซากุระ"
"ห้ะ เรียกฉันทำไม?"
"เปล่าครับ"
สุดท้ายก็ได้แต่กลืนคำพูดในใจที่อยากจะขอร้องอ้อนวอนให้สนใจแต่เขาเพียงคนเดียวเข้าไป
(7)
"ครับ"
สุโอหัวเราะเอ็นดูกับความน่ารักของคนตรงหน้า สัมผัสนุ่มนิ่มกับความอุ่นของมือที่จับมาทำเขาแทบคลั่ง
(6)
"ครับ"
สุโอหัวเราะเอ็นดูกับความน่ารักของคนตรงหน้า สัมผัสนุ่มนิ่มกับความอุ่นของมือที่จับมาทำเขาแทบคลั่ง
(6)
ร่างสูงของหนุ่มผมแดงเดินเข้ามายืนหน้าโต๊ะซากุระโดยมีฝูงชนแหวกออกประหนึ่งน้ำทะเลในเหตุการณ์ของโมเสสแหวกทะเล
มือเรียวยื่นมาตรงหน้าของซากุระ เหมือนเป็นคำสั่งให้จับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
(5)
ร่างสูงของหนุ่มผมแดงเดินเข้ามายืนหน้าโต๊ะซากุระโดยมีฝูงชนแหวกออกประหนึ่งน้ำทะเลในเหตุการณ์ของโมเสสแหวกทะเล
มือเรียวยื่นมาตรงหน้าของซากุระ เหมือนเป็นคำสั่งให้จับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
(5)
ถึงจะแอบรู้สึกคันไม้คันมือนิดหน่อยก็เถอะ...
แต่จ้องมองที่ว่าคือทุกครั้งที่หันไป อีกฝ่ายมักจะมองมาที่เขาเสมอจนบางครั้งก็แอบหลอนนิดหน่อย
(4)
ถึงจะแอบรู้สึกคันไม้คันมือนิดหน่อยก็เถอะ...
แต่จ้องมองที่ว่าคือทุกครั้งที่หันไป อีกฝ่ายมักจะมองมาที่เขาเสมอจนบางครั้งก็แอบหลอนนิดหน่อย
(4)
"คำนี้ผมน่าจะต้องเป็นคนพูดมากกว่านะ"
"ห๊า?" ซากุระเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เขาไม่เคยเข้าใจรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ของอีกคนออกเลยสักครั้ง
ตั้งแต่กลับมาจากตอนสู้กับชิชิโทจบลง สุโอก็เริ่มจ้องมองมาที่เขามากขึ้น
(3)
"คำนี้ผมน่าจะต้องเป็นคนพูดมากกว่านะ"
"ห๊า?" ซากุระเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เขาไม่เคยเข้าใจรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ของอีกคนออกเลยสักครั้ง
ตั้งแต่กลับมาจากตอนสู้กับชิชิโทจบลง สุโอก็เริ่มจ้องมองมาที่เขามากขึ้น
(3)
"เปล่าครับ"
สุโอยกยิ้มเหมือนที่เคยทำเป็นปกติ หากแต่ในใจรู้สึกมีความสุขเพราะว่าอีกฝ่ายสนใจโดยที่เขาไม่ได้เอ่ยปากเรียก
(2)
"เปล่าครับ"
สุโอยกยิ้มเหมือนที่เคยทำเป็นปกติ หากแต่ในใจรู้สึกมีความสุขเพราะว่าอีกฝ่ายสนใจโดยที่เขาไม่ได้เอ่ยปากเรียก
(2)
นั่งทำใจได้ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นไปยังห้องน้ำเพื่อไปปลดปล่อยไม่ให้พนักงานคนอื่นมาหาว่าเป็นโรคจิตเมื่อเห็นว่าเขานั่งมีอารมณ์ในเวลาทำงาน
End
นั่งทำใจได้ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นไปยังห้องน้ำเพื่อไปปลดปล่อยไม่ให้พนักงานคนอื่นมาหาว่าเป็นโรคจิตเมื่อเห็นว่าเขานั่งมีอารมณ์ในเวลาทำงาน
End
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาก็รู้สึกมีอารมณ์ตอนได้ยินเสียงครางของลูกค้าผมแดงคนนี้ ไหนจะแก่นกายอันมโหฬารที่เห็นจากรูปภาพในแชท (10)
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาก็รู้สึกมีอารมณ์ตอนได้ยินเสียงครางของลูกค้าผมแดงคนนี้ ไหนจะแก่นกายอันมโหฬารที่เห็นจากรูปภาพในแชท (10)
“ไม่ว่าง แต่จะนัดไว้ก่อนก็ได้“
คนชวนทำหน้าห่อเหี่ยวตอนแรกก่อนจะยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินประโยคต่อมาประหนึ่งคนเป็นไบโพล่า
“งั้นอาทิตย์หน้าพี่ว่างไหม”
“ดูก่อน”
“ครับ ผมจะรอนะ“ (9)
“ไม่ว่าง แต่จะนัดไว้ก่อนก็ได้“
คนชวนทำหน้าห่อเหี่ยวตอนแรกก่อนจะยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินประโยคต่อมาประหนึ่งคนเป็นไบโพล่า
“งั้นอาทิตย์หน้าพี่ว่างไหม”
“ดูก่อน”
“ครับ ผมจะรอนะ“ (9)
“วางสายนะ” เมื่อลูกค้ารู้วิธีใช้งานแล้วเปโตรก็ไม่มีความจำเป็นคุยกันต่อ เมินเสียงบ่นหงุงหงิงของลูกค้าระดับvvipของบริษัท
“เดี๋ยวสิ ทำไมคนสวยใจร้ายจัง”
”มีอะไรล่ะ?” (8)
“วางสายนะ” เมื่อลูกค้ารู้วิธีใช้งานแล้วเปโตรก็ไม่มีความจำเป็นคุยกันต่อ เมินเสียงบ่นหงุงหงิงของลูกค้าระดับvvipของบริษัท
“เดี๋ยวสิ ทำไมคนสวยใจร้ายจัง”
”มีอะไรล่ะ?” (8)
หลังจากเปโตรพูดจบก็ได้ยินเสียงหอบหายใจหนักๆลอดเข้ามาจากปลายสาย เป็นสัญญาณว่าคนที่โทรเข้ามาได้สำเร็จความใคร่เรียบร้อย (7)
หลังจากเปโตรพูดจบก็ได้ยินเสียงหอบหายใจหนักๆลอดเข้ามาจากปลายสาย เป็นสัญญาณว่าคนที่โทรเข้ามาได้สำเร็จความใคร่เรียบร้อย (7)