เธอจากไปโดยไม่ได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ
‘ขอโทษค่าาา—-!‘
(รีแอคแล้วปิดได้เลยนะคะ 🥺)
เธอจากไปโดยไม่ได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ
‘ขอโทษค่าาา—-!‘
(รีแอคแล้วปิดได้เลยนะคะ 🥺)
…“ เธอเหมือนจะหลุดปากอะไรออกมา
”อะฮ่าๆ..เอาไปให้คุณพ่อน่าจะดีน้า“ เธอลูบหลังหัวอย่างเลิ่กลั่ก
ทำไงได้เธอเองชอบต่อโมเดลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การได้ยินอะไรแบบนั่นก็เลยทำให้ตื่นตัวอย่างช่วยไม่ได้
ท่าจะปกปิดอาการไม่ไหว ตัวเธอเริ่มลนอีกครั้ง เธออยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว!
เธอจึง..
”ยังไงก็ขอบคุณนะ!“ คำขอบคุณถูกพูดเป็นครั้งที่สาม
(+)
…“ เธอเหมือนจะหลุดปากอะไรออกมา
”อะฮ่าๆ..เอาไปให้คุณพ่อน่าจะดีน้า“ เธอลูบหลังหัวอย่างเลิ่กลั่ก
ทำไงได้เธอเองชอบต่อโมเดลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การได้ยินอะไรแบบนั่นก็เลยทำให้ตื่นตัวอย่างช่วยไม่ได้
ท่าจะปกปิดอาการไม่ไหว ตัวเธอเริ่มลนอีกครั้ง เธออยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว!
เธอจึง..
”ยังไงก็ขอบคุณนะ!“ คำขอบคุณถูกพูดเป็นครั้งที่สาม
(+)
“ขอบคุณนะ..” เธอกระซิบออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปเจอกล่องอีกใบที่ยื่นมาพร้อมกับทรงสูง
“ช็อกโกแลต..เยอะแยะเลย” เธอกลืนน้ำลาย
นี่มันคุ้มเป็นบ้า แจกของแบบนี้แสดงว่าลูกคุณหนูของจริงสินะ..เอาเถอะ เธอเองก็ไม่ห่างจากคำคำนั้นมากหรอก
.
เธอขอบคุณอีกครั้ง
”นั่นน่าสนใจ..“ เธอหูตั้งให้กับคำเสนอแนะของอีกฝ่าย
(+)
“ขอบคุณนะ..” เธอกระซิบออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปเจอกล่องอีกใบที่ยื่นมาพร้อมกับทรงสูง
“ช็อกโกแลต..เยอะแยะเลย” เธอกลืนน้ำลาย
นี่มันคุ้มเป็นบ้า แจกของแบบนี้แสดงว่าลูกคุณหนูของจริงสินะ..เอาเถอะ เธอเองก็ไม่ห่างจากคำคำนั้นมากหรอก
.
เธอขอบคุณอีกครั้ง
”นั่นน่าสนใจ..“ เธอหูตั้งให้กับคำเสนอแนะของอีกฝ่าย
(+)
เธอไม่พูดพร่ำเพื่อมือล้วงลงที่กล่องสุ่มรางวัล
'ถ้าได้ของอร่อยก็คงดีนะ...'
แต่แล้วพอหยิบออกมาเธอก็ทำหน้าประหลาดใจ
'ว..วอดก้า???'
"อ..อ..ไอ่นี่ โอเคแน่ใช่ไหม?"
เธอยื่นใบรางวัลให้อีกฝ่ายด้วยความกังวล ของแบบนี้ให้มาอยู่ที่มือเด็กมัธยมปลายมันจะดีหรอ....
ใจหนึ่งก็เกรงกลัว อีกใจก็รู้สึกว่าเท่ไม่ใช่น้อยหากมีของแบบนี้มาตั้งโชว์(?)
เธอไม่พูดพร่ำเพื่อมือล้วงลงที่กล่องสุ่มรางวัล
'ถ้าได้ของอร่อยก็คงดีนะ...'
แต่แล้วพอหยิบออกมาเธอก็ทำหน้าประหลาดใจ
'ว..วอดก้า???'
"อ..อ..ไอ่นี่ โอเคแน่ใช่ไหม?"
เธอยื่นใบรางวัลให้อีกฝ่ายด้วยความกังวล ของแบบนี้ให้มาอยู่ที่มือเด็กมัธยมปลายมันจะดีหรอ....
ใจหนึ่งก็เกรงกลัว อีกใจก็รู้สึกว่าเท่ไม่ใช่น้อยหากมีของแบบนี้มาตั้งโชว์(?)
'ไม่ใช่คนไถ่เงิน..' ความคิดเข้ามาในหัวอย่างไม่ตั้งใจ
"ม..ไม่เป็นไรค่ะ"
"เอ๋ๆๆ.." เธอที่กล้าๆ กลัวๆ ไม่สามารถตัดสินใจได้สักที ก็ถูกตัดบทเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาถามตรงๆ
แบบนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้น่ะสิ...
มือค่อยๆ ยื่นไปวางบนมืออีกฝ่ายด้วยความลังเล
ไม่รู้ทำไปทำไม แต่ตามปกติแล้ว คนยื่นมือให้มันก็ต้องรับไม่ใช่หรอ!
"ขอความกรุณาด้วย..ค่ะ?"
'ไม่ใช่คนไถ่เงิน..' ความคิดเข้ามาในหัวอย่างไม่ตั้งใจ
"ม..ไม่เป็นไรค่ะ"
"เอ๋ๆๆ.." เธอที่กล้าๆ กลัวๆ ไม่สามารถตัดสินใจได้สักที ก็ถูกตัดบทเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาถามตรงๆ
แบบนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้น่ะสิ...
มือค่อยๆ ยื่นไปวางบนมืออีกฝ่ายด้วยความลังเล
ไม่รู้ทำไปทำไม แต่ตามปกติแล้ว คนยื่นมือให้มันก็ต้องรับไม่ใช่หรอ!
"ขอความกรุณาด้วย..ค่ะ?"
"เหว่อ!?" เธอยกมือสองข้างชูขึ้นสูง ราวกับโดนอาวุธปืนจ่อให้ยอมแพ
'เอ๋-!? อะไรๆๆๆ อะไรกันเนี่ย'
เธอกระวนกระวาย หลับตาปริปสติหลุดลอย ฟังคำถามอีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง
"เหว่อ!?" เธอยกมือสองข้างชูขึ้นสูง ราวกับโดนอาวุธปืนจ่อให้ยอมแพ
'เอ๋-!? อะไรๆๆๆ อะไรกันเนี่ย'
เธอกระวนกระวาย หลับตาปริปสติหลุดลอย ฟังคำถามอีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง
'โอ้...น่ากลัวแต่ก็น่าอร่อย..'
'ไม่กินกาแฟ เพราะงั้นขอผ่าน'
เธอเพียงแต่คิดพึมพำอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะเข้าไปลองด้วยตัวเองสักที
ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้มาก แต่เธอก็ยืนหัวโด๋อย่างน่าสงสัยมาสักพักแล้ว
คืนเป็นแบบนี้ ได้ยืนค้างอย่างไม่กล้าแบบนี้ทั้งวันแน่
'โอ้...น่ากลัวแต่ก็น่าอร่อย..'
'ไม่กินกาแฟ เพราะงั้นขอผ่าน'
เธอเพียงแต่คิดพึมพำอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะเข้าไปลองด้วยตัวเองสักที
ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้มาก แต่เธอก็ยืนหัวโด๋อย่างน่าสงสัยมาสักพักแล้ว
คืนเป็นแบบนี้ ได้ยืนค้างอย่างไม่กล้าแบบนี้ทั้งวันแน่
เธอสังเกตคนแล้วคนเล่าที่เข้ามาหยิบคว้าของรางวัลก็ได้แต่ประหลาดใจ
ของแต่ละชิ้นไม่ใช่อะไรที่จะหาได้ในที่แบบนี้เลย
แต่..หลายๆ อยากนั้นเหมือนเธอก็รู้จักมาบ้างผ่านอินเตอร์เน็ต
'อะ...ไอ้นั่น..ได้ข่าวว่ากลิ่นแย่สุดๆ เลยนี่นา'
(+)
เธอสังเกตคนแล้วคนเล่าที่เข้ามาหยิบคว้าของรางวัลก็ได้แต่ประหลาดใจ
ของแต่ละชิ้นไม่ใช่อะไรที่จะหาได้ในที่แบบนี้เลย
แต่..หลายๆ อยากนั้นเหมือนเธอก็รู้จักมาบ้างผ่านอินเตอร์เน็ต
'อะ...ไอ้นั่น..ได้ข่าวว่ากลิ่นแย่สุดๆ เลยนี่นา'
(+)
"เป้าหมายของเรา?"
เรื่องนั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าการได้เป็นที่ 1 แต่นั่นมันก็แค่ความฝันทั่วๆ ไปที่เหมือนถูกปลูกฝั่งมาตามสัญชาตญาณ
แต่ถ้าหากคิดให้ลึกกว่านั้น
"...นั่น..สินะ สำหรับเรา"
"คงเป็นการ เอาชนะตัวเอง ล่ะมั้งนะ" เธอยิ้มเกลื่อนๆ
"เป้าหมายของเรา?"
เรื่องนั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าการได้เป็นที่ 1 แต่นั่นมันก็แค่ความฝันทั่วๆ ไปที่เหมือนถูกปลูกฝั่งมาตามสัญชาตญาณ
แต่ถ้าหากคิดให้ลึกกว่านั้น
"...นั่น..สินะ สำหรับเรา"
"คงเป็นการ เอาชนะตัวเอง ล่ะมั้งนะ" เธอยิ้มเกลื่อนๆ
นี่มันแย่สุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรอ
ถ้าโดนรู้ว่าเป็นคนไม่เอาไหนจะโดนไล่ออกไหม ความคิดไม่จำเป็นโผล่เข้ามาในหัวเธอ
"อะ..ฮ่าๆ.. สภานักเรียน สุดยอด.." จะไปแข่อะไรที่ไหนน่ะเธอไม่รู้หรอกนะ สิ่งที่เธอกลัวน่ะ ไม่ใช่คนที่วิ่งเร็วกว่า แต่เป็นคนที่ใช้ชีวิตเป็นต่างหาก!
ในระกว่างที่กระวนกระวายในใจ อีกฝ่ายก็แสดงสีหน้าเศร้า ซึ่งมันก็ทำให้เธอใจเย็นลงนิดนึง
+
นี่มันแย่สุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรอ
ถ้าโดนรู้ว่าเป็นคนไม่เอาไหนจะโดนไล่ออกไหม ความคิดไม่จำเป็นโผล่เข้ามาในหัวเธอ
"อะ..ฮ่าๆ.. สภานักเรียน สุดยอด.." จะไปแข่อะไรที่ไหนน่ะเธอไม่รู้หรอกนะ สิ่งที่เธอกลัวน่ะ ไม่ใช่คนที่วิ่งเร็วกว่า แต่เป็นคนที่ใช้ชีวิตเป็นต่างหาก!
ในระกว่างที่กระวนกระวายในใจ อีกฝ่ายก็แสดงสีหน้าเศร้า ซึ่งมันก็ทำให้เธอใจเย็นลงนิดนึง
+
"ไลบรารี่ซังนี่...เอิ่ม เหมือนเราจะเคยได้ยินชื่อที่ไหน ถ้าจำผิดก็ขอโทษด้วยอะฮ่ะๆ.." เธอพยามจะหาเรื่องถามไปเรื่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อนั้นเคยได้ยินผ่านๆ จริงๆ
เป็นคนดังหรือเปล่านะ?
ด้วยความที่เธอเป็นพวกไม่เข้าสังคม(ชีวิตจริง) ต่อให้มีคนดังในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นสาวฮ็อตหรือสภานักเรียนเธอก็จำไม่ได้หรอก
"ไลบรารี่ซังนี่...เอิ่ม เหมือนเราจะเคยได้ยินชื่อที่ไหน ถ้าจำผิดก็ขอโทษด้วยอะฮ่ะๆ.." เธอพยามจะหาเรื่องถามไปเรื่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อนั้นเคยได้ยินผ่านๆ จริงๆ
เป็นคนดังหรือเปล่านะ?
ด้วยความที่เธอเป็นพวกไม่เข้าสังคม(ชีวิตจริง) ต่อให้มีคนดังในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นสาวฮ็อตหรือสภานักเรียนเธอก็จำไม่ได้หรอก
ใช่ มันคือกู๊ดส์ของเธอเอง ที่หมายถึงตัวตนในโลกออนไลน์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นฝีมือใคร พอคิดอย่างงั้นแล้วคนที่ยืนรออยู่นอกห้องก็จาม
ยังไงก็ตามที ต้องรีบจัดการมันโดยด่วน
มือเธอที่ไคว่หลังก็พยายามหาจังหวะเก็บซ่อนมันลงไป ในระหว่างนี้เธอคงต้องทนยืนไปอีกสักพัก
+
ใช่ มันคือกู๊ดส์ของเธอเอง ที่หมายถึงตัวตนในโลกออนไลน์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นฝีมือใคร พอคิดอย่างงั้นแล้วคนที่ยืนรออยู่นอกห้องก็จาม
ยังไงก็ตามที ต้องรีบจัดการมันโดยด่วน
มือเธอที่ไคว่หลังก็พยายามหาจังหวะเก็บซ่อนมันลงไป ในระหว่างนี้เธอคงต้องทนยืนไปอีกสักพัก
+
"ส่วนเราเรียกว่า เอสเอส ก็ได้..ค..แค่เอส 2 ตัวนะ!" เธอเข้าใจว่าชื่อเธอมันควรเป็น 3 และเพราะแบบนั้นเลยเผลอเอาไปตั้งเป็นชื่อช่องไลฟ์สตรีมไปแล้วน่ะสิ!
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่ที่เข้าห้องมา ตัวเธอก็พุ่งพรวดไปยังโต๊ะของตัวเองและยื่นโด่อยู่ตรงนั้น ไม่คิดจะนั่งลงเลยแม้แต่น้อย
'ท..ทำไมมาอยู่ตรงนี้กัน!' เธอตะโกนในใจ
+
"ส่วนเราเรียกว่า เอสเอส ก็ได้..ค..แค่เอส 2 ตัวนะ!" เธอเข้าใจว่าชื่อเธอมันควรเป็น 3 และเพราะแบบนั้นเลยเผลอเอาไปตั้งเป็นชื่อช่องไลฟ์สตรีมไปแล้วน่ะสิ!
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่ที่เข้าห้องมา ตัวเธอก็พุ่งพรวดไปยังโต๊ะของตัวเองและยื่นโด่อยู่ตรงนั้น ไม่คิดจะนั่งลงเลยแม้แต่น้อย
'ท..ทำไมมาอยู่ตรงนี้กัน!' เธอตะโกนในใจ
+
ข้าวของต่างๆ ถูกคืนให้กับอีกฝ่าย ตัวเธอก้าวถอยห่างออกมา มือจับหมวกกดด้วยความเคยชินอีกครั้ง
"..ซากุระ สตรีม เอส..ค..ค่ะ" เธอพยามมองตาอีกฝ่ายตรงๆ แต่ก็เบี่ยงออกไปในไม่ช้า
"ดูเหมือนว่า..พวกเราจะเป็นรูมเมทกันนะ..อะ..ฮ่ะๆ..."
ข้าวของต่างๆ ถูกคืนให้กับอีกฝ่าย ตัวเธอก้าวถอยห่างออกมา มือจับหมวกกดด้วยความเคยชินอีกครั้ง
"..ซากุระ สตรีม เอส..ค..ค่ะ" เธอพยามมองตาอีกฝ่ายตรงๆ แต่ก็เบี่ยงออกไปในไม่ช้า
"ดูเหมือนว่า..พวกเราจะเป็นรูมเมทกันนะ..อะ..ฮ่ะๆ..."
หนึ่งในนั้นคือ ห้ามให้รูมเมทรู้ว่าเธอเป็นคนปวกเปียก
เธอตั้งใจจะแอ็คเท่และหลอกรูมเมทไปจนจบการศึกษา
โดยหวังว่าอย่างน้อยในชีวิตเธอก็ต้องมีสักคนที่มองเธอว่าเท่บ้าง เหมือนกับเหล่าแฟนคลับในสตรีมที่ได้เห็นแค่มุมแบบนั้นของเธอและไม่ใช่ตัวจริงของเธอแบบนี้
เธอเงียบและไม่พูดอะไรจนมาถึงประตูหน้าห้อง
กลอนถูกไขออกด้วยกุญแจคู่ที่เป็นของเธอ
+
หนึ่งในนั้นคือ ห้ามให้รูมเมทรู้ว่าเธอเป็นคนปวกเปียก
เธอตั้งใจจะแอ็คเท่และหลอกรูมเมทไปจนจบการศึกษา
โดยหวังว่าอย่างน้อยในชีวิตเธอก็ต้องมีสักคนที่มองเธอว่าเท่บ้าง เหมือนกับเหล่าแฟนคลับในสตรีมที่ได้เห็นแค่มุมแบบนั้นของเธอและไม่ใช่ตัวจริงของเธอแบบนี้
เธอเงียบและไม่พูดอะไรจนมาถึงประตูหน้าห้อง
กลอนถูกไขออกด้วยกุญแจคู่ที่เป็นของเธอ
+
เธอที่คิดว่าในที่สุดก็รอดแล้ว กลับเจอข่าวที่ทำให้ร่างกายต้องหยุดชะงัก
หน้าหันไปหาคนที่ตามอยู่ข้างหลังราวกับต้องการคำตอบอะไรสักอย่าง ปากยังไม่ทันได้เอ่ยใดๆ ก็ได้รับคำตอบเป็นการผยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับสายตาที่เบี่ยงออกไป ราวกับว่ารู้ทุกอย่างตั้งแต่แรก
สายตาเธอที่มองไปข้างหน้าดูล่องลอยกับน้ำตาที่พร้อมจะออกมาได้ทุกเมื่อ
'จบแล้ว...ชีวิตของเรา'
+
เธอที่คิดว่าในที่สุดก็รอดแล้ว กลับเจอข่าวที่ทำให้ร่างกายต้องหยุดชะงัก
หน้าหันไปหาคนที่ตามอยู่ข้างหลังราวกับต้องการคำตอบอะไรสักอย่าง ปากยังไม่ทันได้เอ่ยใดๆ ก็ได้รับคำตอบเป็นการผยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับสายตาที่เบี่ยงออกไป ราวกับว่ารู้ทุกอย่างตั้งแต่แรก
สายตาเธอที่มองไปข้างหน้าดูล่องลอยกับน้ำตาที่พร้อมจะออกมาได้ทุกเมื่อ
'จบแล้ว...ชีวิตของเรา'
+
ตามปกติแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคนพูดสุภาพมากอะไรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หยาบหรือเสียมารยาทใดๆ
พอเห็นเป็นรุ่นพี่ก็ไม่ได้คิดจะปรับเลี่ยนวิธีพูด..เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เหมือนกับคนเรียนซ้ำชั้น ต่อให้เป็นปี 3 อายุคงไม่ห่างกันเท่าไหร่
"..ม..ไม่ต้องเกรงใจ! เรายินดี"
"คนอย่างเรา...ไม่ต้องขอบคุณก็ได้..." เธอพูดด้วยเสียงกระซิบ ไม่อยากให้ได้ยิน สีหน้าแอบเศร้าเล็กน้อย
+
ตามปกติแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคนพูดสุภาพมากอะไรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หยาบหรือเสียมารยาทใดๆ
พอเห็นเป็นรุ่นพี่ก็ไม่ได้คิดจะปรับเลี่ยนวิธีพูด..เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เหมือนกับคนเรียนซ้ำชั้น ต่อให้เป็นปี 3 อายุคงไม่ห่างกันเท่าไหร่
"..ม..ไม่ต้องเกรงใจ! เรายินดี"
"คนอย่างเรา...ไม่ต้องขอบคุณก็ได้..." เธอพูดด้วยเสียงกระซิบ ไม่อยากให้ได้ยิน สีหน้าแอบเศร้าเล็กน้อย
+
เธอยังคงคิดอะไรวนอยู่ในใจเช่นเคย
'ไอ่นั่นไง...เดี๋ยวถึงข้างบนคงจะมีอะไรให้คุยเองนั่นแหละ อยู่ชั้นเดียวกันหนิ ไม่ก็อยู่ห้องเดียวกันฮ่าๆ...ว่าไปนั้น'
'เรื่องบังเอิญแบบนั้นคงไม่มีหรอก'
เธอตัดสินใจที่จะไม่ชวนคุยใดๆ
(ไม่เป็นไรค่ะ ทางนี้ก็ช้า ขออภัย)
เธอยังคงคิดอะไรวนอยู่ในใจเช่นเคย
'ไอ่นั่นไง...เดี๋ยวถึงข้างบนคงจะมีอะไรให้คุยเองนั่นแหละ อยู่ชั้นเดียวกันหนิ ไม่ก็อยู่ห้องเดียวกันฮ่าๆ...ว่าไปนั้น'
'เรื่องบังเอิญแบบนั้นคงไม่มีหรอก'
เธอตัดสินใจที่จะไม่ชวนคุยใดๆ
(ไม่เป็นไรค่ะ ทางนี้ก็ช้า ขออภัย)
.
ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดเธอก็ได้แต่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมา
'ต้องชวนคุยสิ..แต่ว่าเรา..ไม่ไหว'
ระยะเวลาก่อนจะขึ้นไปถึงชั้น 4 เรียกว่ามีอยู่บ้าง การจะไม่พูดอะไรเลยมันก็ออกจะอึดอัดไปหน่อย แต่กลับกัน การไม่พูดอะไรเลยก็ดีสำหรับเธอ
'หึย ไม่สิ ตอนนี้ต้องโฟกัสกับการเดินก่อน' เธอพยามจะหนีความจริง
+
.
ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดเธอก็ได้แต่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมา
'ต้องชวนคุยสิ..แต่ว่าเรา..ไม่ไหว'
ระยะเวลาก่อนจะขึ้นไปถึงชั้น 4 เรียกว่ามีอยู่บ้าง การจะไม่พูดอะไรเลยมันก็ออกจะอึดอัดไปหน่อย แต่กลับกัน การไม่พูดอะไรเลยก็ดีสำหรับเธอ
'หึย ไม่สิ ตอนนี้ต้องโฟกัสกับการเดินก่อน' เธอพยามจะหนีความจริง
+
ไม้ค้ำของอีกฝ่ายถูกนำไปฝากไว้กับคนที่แอบมองอยู่ห่างๆ
มือขยุกขยิบไปมาด้วยความเลิ่กลั่ก
เธอสูดหายใจลึกก่อนยื่นแขนออกอย่างกระฉับกระเฉง
"ช่วยใช้เราเป็นไม้เท้าเถอะ!!"
แปล เดี๋ยวเธอจะช่วยพยุงขึ้นไปเอง ช่วยคว้าแขนเธอไว้ด้วย ขอความกรุณา
ไม้ค้ำของอีกฝ่ายถูกนำไปฝากไว้กับคนที่แอบมองอยู่ห่างๆ
มือขยุกขยิบไปมาด้วยความเลิ่กลั่ก
เธอสูดหายใจลึกก่อนยื่นแขนออกอย่างกระฉับกระเฉง
"ช่วยใช้เราเป็นไม้เท้าเถอะ!!"
แปล เดี๋ยวเธอจะช่วยพยุงขึ้นไปเอง ช่วยคว้าแขนเธอไว้ด้วย ขอความกรุณา
คนปวกเปียกแบบเธอคงไม่มีแรงที่ไหนไปยกอีกฝ่ายได้หรอก ถึงต่อให้ทำงั้นได้ ความซุ่มซ่ามของเธอต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
แต่แล้วเธอก็นึกออก
ขาก้าวไปอย่างช้าๆ ค่อยหยิบไม้ค้ำออกจากตัวอีกฝ่าย และเดินเป็นจังหวะไปหาคนใช้ที่อยู่ห่าง
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าและมีแต่ความเงียบ
+
คนปวกเปียกแบบเธอคงไม่มีแรงที่ไหนไปยกอีกฝ่ายได้หรอก ถึงต่อให้ทำงั้นได้ ความซุ่มซ่ามของเธอต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
แต่แล้วเธอก็นึกออก
ขาก้าวไปอย่างช้าๆ ค่อยหยิบไม้ค้ำออกจากตัวอีกฝ่าย และเดินเป็นจังหวะไปหาคนใช้ที่อยู่ห่าง
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าและมีแต่ความเงียบ
+