(ผปค.เดียวกับ @yuuchan-kmi.bsky.social)
福井美羽 Fukui Miu (27)
Pharmacist・DVD & Game store
“เพราะไม่รู้ก็เลยน่าสนใจไงคะ“
เภสัชกร+พี่สาวร้านเกม ใจดี พูดเพราะ รักเด็ก ๆ ✨
(https://bit.ly/Fukumiu) (https://bit.ly/Happytomato)
🛼🌵🍿
เก็บข้าวของที่เหลือลงกระเป๋าด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะยื่นมือไปจับข้อมืออีกฝ่ายด้วยความเคยชิน ดึงเบา ๆ ให้อีกคนเดินตามมา
“เอ่อ ว่าแต่ วันหยุดแบบนี้คุณอาชิยะออกมาทำอะไรเหรอคะ“
ชวนคุยเรื่อยเปื่อย หวังเบี่ยงเบนความสนใจจากเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอ
เก็บข้าวของที่เหลือลงกระเป๋าด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะยื่นมือไปจับข้อมืออีกฝ่ายด้วยความเคยชิน ดึงเบา ๆ ให้อีกคนเดินตามมา
“เอ่อ ว่าแต่ วันหยุดแบบนี้คุณอาชิยะออกมาทำอะไรเหรอคะ“
ชวนคุยเรื่อยเปื่อย หวังเบี่ยงเบนความสนใจจากเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอ
“เอ๊ะ?”
“แค่นี้เองเหรอคะ… เอาไปไว้ไกล ๆ กว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ”
แต่เห็นรอยยิ้มแบบนั้นก็… คงไม่มีอะไรแล้วล่ะมั้ง พยายามบังคับตัวเองให้เลิกสั่นกลัว
ทำหน้ามุ่ยมองคนเป็นครูเมื่อได้ยินแบบนั้น ต้องมีอะไรแน่นอน แต่แค่เธอไม่รู้และสัมผัสไม่ได้เท่านั้นเอง
แต่อย่าสงสัยเลยจะดีกว่า…
“อ อื้อ ขอบคุณนะคะ”
+
“เอ๊ะ?”
“แค่นี้เองเหรอคะ… เอาไปไว้ไกล ๆ กว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ”
แต่เห็นรอยยิ้มแบบนั้นก็… คงไม่มีอะไรแล้วล่ะมั้ง พยายามบังคับตัวเองให้เลิกสั่นกลัว
ทำหน้ามุ่ยมองคนเป็นครูเมื่อได้ยินแบบนั้น ต้องมีอะไรแน่นอน แต่แค่เธอไม่รู้และสัมผัสไม่ได้เท่านั้นเอง
แต่อย่าสงสัยเลยจะดีกว่า…
“อ อื้อ ขอบคุณนะคะ”
+
ย่อตัวนั่งยอง ๆ ก่อนเทของในกระเป๋าออกมากองที่พื้นด้วยความร้อนรน วางถุงผ้าทิ้งบนพื้นแบบนั้น ลุกขึ้นพลางเขยิบตัวไปหลบอยู่ด้านหลังคนตัวสูงอีกครั้ง()
”นี่คือ ‘อะไรแปลก ๆ’ ที่คุณว่าหรือเปล่าคะ…“
ย่อตัวนั่งยอง ๆ ก่อนเทของในกระเป๋าออกมากองที่พื้นด้วยความร้อนรน วางถุงผ้าทิ้งบนพื้นแบบนั้น ลุกขึ้นพลางเขยิบตัวไปหลบอยู่ด้านหลังคนตัวสูงอีกครั้ง()
”นี่คือ ‘อะไรแปลก ๆ’ ที่คุณว่าหรือเปล่าคะ…“
เผลออุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ อีกฝ่ายก็เรียกชื่อเธอขึ้นมา
ถ้าเป็นในสถานการณ์ปกติ เธอคงจะเอ่ยปากแซวไปแล้ว แต่ว่า…
หันกลับไปมองคนที่หอบหายใจแรง ยื่นมือไปลูบแผ่นหลังอีกคนเบา ๆ เหมือนก่อนหน้านี้
”อ…อะไรแปลก ๆ งั้นเหรอคะ?“
”ฉันไปซื้อของที่มาร์ท มีแค่ถุงช็อปปิ้งอันนี้…“ ยกถุงผ้าที่เต็มไปด้วยข้าวของต่าง ๆ ให้ดู
”เดี๋ยวนะ…“
เผลออุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ อีกฝ่ายก็เรียกชื่อเธอขึ้นมา
ถ้าเป็นในสถานการณ์ปกติ เธอคงจะเอ่ยปากแซวไปแล้ว แต่ว่า…
หันกลับไปมองคนที่หอบหายใจแรง ยื่นมือไปลูบแผ่นหลังอีกคนเบา ๆ เหมือนก่อนหน้านี้
”อ…อะไรแปลก ๆ งั้นเหรอคะ?“
”ฉันไปซื้อของที่มาร์ท มีแค่ถุงช็อปปิ้งอันนี้…“ ยกถุงผ้าที่เต็มไปด้วยข้าวของต่าง ๆ ให้ดู
”เดี๋ยวนะ…“
“ได้ค่ะ เอ่อ… ระวังตัวด้วยนะคะ”
พยักหน้ารับคำก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินต่อไป พยายามบังคับตัวเองไม่ให้หันไปมอง
เดินออกมาสักพักจึงเริ่มรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางเสียงจักจั่นที่ร้องระงม ตัดสินใจเดินช้าลง ทันใดนั้น…
“ได้ค่ะ เอ่อ… ระวังตัวด้วยนะคะ”
พยักหน้ารับคำก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินต่อไป พยายามบังคับตัวเองไม่ให้หันไปมอง
เดินออกมาสักพักจึงเริ่มรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางเสียงจักจั่นที่ร้องระงม ตัดสินใจเดินช้าลง ทันใดนั้น…
ขณะที่กำลังมองดูวัตถุดิบรอบ ๆ ร้านก็ได้ยินเสียงพึมพำจากคนข้าง ๆ
“ขาดอะไรหรือเปล่า”
เมื่อสังเกตดูดี ๆ ก็เห็นว่าในลิสต์มีแต่ผักเต็มไปหมด ไม่มีเนื้อสัตว์เลยสักนิด แม้กระทั่งเนื้อปลาก็ไม่มี…
“ทานากะคุงจะทำเมนูอะไรเหรอจ๊ะ จำได้ไหม” เอ่ยถามออกไป เผื่อจะสามารถช่วยเลือกวัตถุดิบให้อีกฝ่ายได้
ขณะที่กำลังมองดูวัตถุดิบรอบ ๆ ร้านก็ได้ยินเสียงพึมพำจากคนข้าง ๆ
“ขาดอะไรหรือเปล่า”
เมื่อสังเกตดูดี ๆ ก็เห็นว่าในลิสต์มีแต่ผักเต็มไปหมด ไม่มีเนื้อสัตว์เลยสักนิด แม้กระทั่งเนื้อปลาก็ไม่มี…
“ทานากะคุงจะทำเมนูอะไรเหรอจ๊ะ จำได้ไหม” เอ่ยถามออกไป เผื่อจะสามารถช่วยเลือกวัตถุดิบให้อีกฝ่ายได้
อาจจะคิดไปเองจริง ๆ…
“อื้ม ขอบคุณค่ะ รบกวนด้วยนะ”
แอบรู้สึกเกรงใจ แต่ตอนนี้ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนมากกว่า
ยื่นกระเป๋าผ้าส่งให้คนเด็กกว่า ก่อนจะก้าวเท้าเดินนำออกมาช้า ๆ
“อ…เอ่อ สึกิจังสบายดีไหม” พยายามหาเรื่องคุยเพื่อเบี่ยงเบนความกลัวด้วยท่าทีเลิ่กลั่กแบบนั้นนั่นแหละ
อาจจะคิดไปเองจริง ๆ…
“อื้ม ขอบคุณค่ะ รบกวนด้วยนะ”
แอบรู้สึกเกรงใจ แต่ตอนนี้ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนมากกว่า
ยื่นกระเป๋าผ้าส่งให้คนเด็กกว่า ก่อนจะก้าวเท้าเดินนำออกมาช้า ๆ
“อ…เอ่อ สึกิจังสบายดีไหม” พยายามหาเรื่องคุยเพื่อเบี่ยงเบนความกลัวด้วยท่าทีเลิ่กลั่กแบบนั้นนั่นแหละ
กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ กุมมือสั่น ๆ ตัวเองแน่นอย่างหาที่พึ่ง
“ล..ล้อเล่นใช่ไหมคะ ฮ่ะ ๆ ฉันไม่เชื่อหรอก ฮ่ะ ๆ”
เชื่อสุดใจ
“คุณเห็นเขาเหรอคะ…” ทำใจกล้า ถามออกไปด้วยน้ำเสียงอันเบาหวิว
กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ กุมมือสั่น ๆ ตัวเองแน่นอย่างหาที่พึ่ง
“ล..ล้อเล่นใช่ไหมคะ ฮ่ะ ๆ ฉันไม่เชื่อหรอก ฮ่ะ ๆ”
เชื่อสุดใจ
“คุณเห็นเขาเหรอคะ…” ทำใจกล้า ถามออกไปด้วยน้ำเสียงอันเบาหวิว
ละสายตาไปมองกะหล่ำปลีหัวใหญ่ในมืออีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมา
"ใช่แล้ว เลือกได้ดีมากเลยค่ะ"
"ทานากะคุงมีพรสวรรค์นะเนี่ย"
หยิบตะกร้าช็อปปิ้งบริเวณนั้นส่งให้เด็กหนุ่มใช้ในการใส่ของ
เธอช่วยเด็กน้อยเลือกซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ตามลิสต์ในกระดาษโน้ตอย่างเพลิดเพลิน ช็อปปิ้งกับคนอื่นสนุกดีเหมือนกัน
"ขาดเหลืออะไรอีกไหมคะ" หันไปถามอีกครั้ง
ละสายตาไปมองกะหล่ำปลีหัวใหญ่ในมืออีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมา
"ใช่แล้ว เลือกได้ดีมากเลยค่ะ"
"ทานากะคุงมีพรสวรรค์นะเนี่ย"
หยิบตะกร้าช็อปปิ้งบริเวณนั้นส่งให้เด็กหนุ่มใช้ในการใส่ของ
เธอช่วยเด็กน้อยเลือกซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ตามลิสต์ในกระดาษโน้ตอย่างเพลิดเพลิน ช็อปปิ้งกับคนอื่นสนุกดีเหมือนกัน
"ขาดเหลืออะไรอีกไหมคะ" หันไปถามอีกครั้ง
"แบบนี้?"
ลูกที่หยิบขึ้นมามีขนาดใหญ่ สะอาด ตรงตามที่อีกฝ่ายพูดทุกประการ
"แบบนี้?"
ลูกที่หยิบขึ้นมามีขนาดใหญ่ สะอาด ตรงตามที่อีกฝ่ายพูดทุกประการ
พยักหน้ารับรู้ ยิ้มให้ก่อนตอบ
“ทานากะคุงก็อยู่คนเดียวเหมือนกันสินะ เก่งมากเลย”
“ดีแล้วล่ะ อาหารสำเร็จรูปทานมาก ๆ ก็ไม่ดีนะ”
เห็นสายตาอ้อนวอนจากคนข้าง ๆ ก็อดยิ้มขำด้วยเอ็นดูไม่ได้
“วิธีการดูผักน่ะ ต้องเลือกผักที่สะอาด มีสีเขียวตามธรรมชาติ ไม่ช้ำ ไม่เหี่ยว“
หยิบกะหล่ำปลีหัวหนึ่งขึ้นมาให้เด็กหนุ่มดู
”อย่างอันนี้ใช้ได้เลย“
พยักหน้ารับรู้ ยิ้มให้ก่อนตอบ
“ทานากะคุงก็อยู่คนเดียวเหมือนกันสินะ เก่งมากเลย”
“ดีแล้วล่ะ อาหารสำเร็จรูปทานมาก ๆ ก็ไม่ดีนะ”
เห็นสายตาอ้อนวอนจากคนข้าง ๆ ก็อดยิ้มขำด้วยเอ็นดูไม่ได้
“วิธีการดูผักน่ะ ต้องเลือกผักที่สะอาด มีสีเขียวตามธรรมชาติ ไม่ช้ำ ไม่เหี่ยว“
หยิบกะหล่ำปลีหัวหนึ่งขึ้นมาให้เด็กหนุ่มดู
”อย่างอันนี้ใช้ได้เลย“
“ฉันชอบคุณ อาชิยะ ฮิบิกิ“
ตอบอย่างตรงไปตรงมา สบสายตากับคนตรงหน้า เม้มปากด้วยความประหม่า พยายามซ่อนอาการเขินอาย แต่อย่างไรก็ปิดใบหูแดง ๆ นั่นไม่ได้
อา ไม่ใช่รักแรกวัยมัธยมสักหน่อย
ฉัน… อาจจะชอบคุณมากกว่าที่คิด
“ฉันชอบคุณ อาชิยะ ฮิบิกิ“
ตอบอย่างตรงไปตรงมา สบสายตากับคนตรงหน้า เม้มปากด้วยความประหม่า พยายามซ่อนอาการเขินอาย แต่อย่างไรก็ปิดใบหูแดง ๆ นั่นไม่ได้
อา ไม่ใช่รักแรกวัยมัธยมสักหน่อย
ฉัน… อาจจะชอบคุณมากกว่าที่คิด
ปกติเธอไม่ได้เป็นคนกินเยอะเท่าไหร่ แต่วันนี้อาจจะกินหมดก็ได้…
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารมื้อเย็น จู่ ๆ คู่เดทของเธอก็ทักขึ้นมาพร้อมกับคำถามวัดใจ
ชะงักเล็กน้อย ใบหน้าเริ่มขึ้นสีระเรื่อทั้ง ๆ ที่อาหารยังเต็มแก้ม มาถามกันตรง ๆ แบบนี้เธอก็เขินเป็นเหมือนกันนะ
กลืนอาหารลงคอก่อนพยักหน้าเบา ๆ
+
ปกติเธอไม่ได้เป็นคนกินเยอะเท่าไหร่ แต่วันนี้อาจจะกินหมดก็ได้…
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารมื้อเย็น จู่ ๆ คู่เดทของเธอก็ทักขึ้นมาพร้อมกับคำถามวัดใจ
ชะงักเล็กน้อย ใบหน้าเริ่มขึ้นสีระเรื่อทั้ง ๆ ที่อาหารยังเต็มแก้ม มาถามกันตรง ๆ แบบนี้เธอก็เขินเป็นเหมือนกันนะ
กลืนอาหารลงคอก่อนพยักหน้าเบา ๆ
+
มองใบหน้าและท่าทางที่ไม่สบอารมณ์นั่นยิ่งทำให้รู้สึกใจเสีย
หยุดเดินและผละตัวออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงสบถจากคนข้าง ๆ เอี้ยวตัวไปเผชิญหน้าอีกฝ่าย จากนั้นจึงยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังกว้างหวังปลอบประโลมให้ใจเย็น ๆ แม้ตัวเองจะยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่
‘เกิดอะไรขึ้นคะ‘ เพราะโดนสั่งให้เงียบเลยขยับปากพูดทีละคำแบบไม่มีเสียงส่งไปแทน
มองใบหน้าและท่าทางที่ไม่สบอารมณ์นั่นยิ่งทำให้รู้สึกใจเสีย
หยุดเดินและผละตัวออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงสบถจากคนข้าง ๆ เอี้ยวตัวไปเผชิญหน้าอีกฝ่าย จากนั้นจึงยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังกว้างหวังปลอบประโลมให้ใจเย็น ๆ แม้ตัวเองจะยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่
‘เกิดอะไรขึ้นคะ‘ เพราะโดนสั่งให้เงียบเลยขยับปากพูดทีละคำแบบไม่มีเสียงส่งไปแทน
สายตาเพ่งไปยังกระดาษโน้ตใบเล็ก พบเป็นข้อความ…เตือนความจำ? ดูแล้วน่าจะเป็นลายมือเด็ก เดาว่าคงเป็นของคนตรงหน้านั่นแหละ
“งั้นเรามาช็อปปิ้งของตามในลิสต์กันนะคะ“ ส่งยิ้มอ่อนโยนให้พลางเดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต
”เริ่มจากของสดก่อนดีไหม“
ชี้ไปยังโซนของสดซึ่งอยู่ยังมุมหนึ่งในร้าน
สายตาเพ่งไปยังกระดาษโน้ตใบเล็ก พบเป็นข้อความ…เตือนความจำ? ดูแล้วน่าจะเป็นลายมือเด็ก เดาว่าคงเป็นของคนตรงหน้านั่นแหละ
“งั้นเรามาช็อปปิ้งของตามในลิสต์กันนะคะ“ ส่งยิ้มอ่อนโยนให้พลางเดินนำเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต
”เริ่มจากของสดก่อนดีไหม“
ชี้ไปยังโซนของสดซึ่งอยู่ยังมุมหนึ่งในร้าน