花緑青 弥来 | ฮานุโคคุโชว มิคุรุ
1-D ยังไม่มีชมรม หล่อและรวยมาก
doc: https://bit.ly/hanakokushomikuru
แต่พอเปิดมือถือออกมาภาพแรกในแกลเลอรี่กลับเป็นภาพแฟนอาร์ตเรือ*****ที่เซฟไว้ในเครื่อง
มิคุรุพลิกมือถือ อ้าปาก ปิดปาก เลื่อนต่อ
"นี่ไง น่ารักมั้ย" ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อยเลื่อนภาพแมวให้ดูต่อด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
แต่พอเปิดมือถือออกมาภาพแรกในแกลเลอรี่กลับเป็นภาพแฟนอาร์ตเรือ*****ที่เซฟไว้ในเครื่อง
มิคุรุพลิกมือถือ อ้าปาก ปิดปาก เลื่อนต่อ
"นี่ไง น่ารักมั้ย" ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อยเลื่อนภาพแมวให้ดูต่อด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
"ทะเลนี่สุดยอดไปเลยนะ..." เธอหลุดพูดออกมาพอเหลือบไปเห็นคลื่นสีคราม "โยโกฮาม่าก็มีทะเลเหมือนกัน แต่รู้สึกต่างกับที่นี่ลิบลับ"
พออยู่ในเมืองแล้วแม้แต่ทะเลก็ดูแคบลง หากให้เทียบคงเหมือนกับบ่อปลาเล็ก ๆ กับตู้ปลาขนาดใหญ่
"ลมทะเลไม่หนาวเกินไปใช่มั้ย?" มิคุรุที่ยืนอยู่ชิดกับฝั่งทะเลเอ่ยปากถาม
"ทะเลนี่สุดยอดไปเลยนะ..." เธอหลุดพูดออกมาพอเหลือบไปเห็นคลื่นสีคราม "โยโกฮาม่าก็มีทะเลเหมือนกัน แต่รู้สึกต่างกับที่นี่ลิบลับ"
พออยู่ในเมืองแล้วแม้แต่ทะเลก็ดูแคบลง หากให้เทียบคงเหมือนกับบ่อปลาเล็ก ๆ กับตู้ปลาขนาดใหญ่
"ลมทะเลไม่หนาวเกินไปใช่มั้ย?" มิคุรุที่ยืนอยู่ชิดกับฝั่งทะเลเอ่ยปากถาม
"ฮ่ะฮ่ะ สมแล้วที่เป็นอาซาโตะคุง ขอบคุณนะช่วยได้มากเลย" ดูเหมือนเธอจะขอบคุณออกมาจากใจจริง
"รู้ได้ยังไงว่าเราหาชื่อตัวเองไม่เจอทั้งที่ยังไม่ได้บอกน่ะ?" อ้าว สรุปหาไม่เจอจริงหรอ
ว่าแล้วก็เก๊กท่าโพสต์แปลก ๆ กับตัวเอง เอามือลูบคางราวคิดอะไรออก
"แต่ห้อง D สินะ... อา ต้องเป็นเพราะเราดีเลิศแน่ ๆ" โม้
"ฮ่ะฮ่ะ สมแล้วที่เป็นอาซาโตะคุง ขอบคุณนะช่วยได้มากเลย" ดูเหมือนเธอจะขอบคุณออกมาจากใจจริง
"รู้ได้ยังไงว่าเราหาชื่อตัวเองไม่เจอทั้งที่ยังไม่ได้บอกน่ะ?" อ้าว สรุปหาไม่เจอจริงหรอ
ว่าแล้วก็เก๊กท่าโพสต์แปลก ๆ กับตัวเอง เอามือลูบคางราวคิดอะไรออก
"แต่ห้อง D สินะ... อา ต้องเป็นเพราะเราดีเลิศแน่ ๆ" โม้
"แบบนั้นก็แปลว่ามีคุณตำรวจช่วยพากลับบ้านไง" ตอนนี้มิคุรุก็ยังมีหน้าจะยิ้มได้
และน่าจะคิดจริงจังด้วยว่าวิธีของเธอได้ผลจริง ไม่รู้ไปฟังจากใครที่ไหนมา
"ฮ่ะฮ่ะ แต่ระหว่างนั้นเดี๋ยวเราเดินไปเป็นเพื่อนนะ" แต่เจ้าตัวก็ไม่เซ้าซี้ต่อปล่อยให้เข้าใจว่าล้อเล้นไป
"แบบนั้นก็แปลว่ามีคุณตำรวจช่วยพากลับบ้านไง" ตอนนี้มิคุรุก็ยังมีหน้าจะยิ้มได้
และน่าจะคิดจริงจังด้วยว่าวิธีของเธอได้ผลจริง ไม่รู้ไปฟังจากใครที่ไหนมา
"ฮ่ะฮ่ะ แต่ระหว่างนั้นเดี๋ยวเราเดินไปเป็นเพื่อนนะ" แต่เจ้าตัวก็ไม่เซ้าซี้ต่อปล่อยให้เข้าใจว่าล้อเล้นไป
เด็กนักเรียนหญิงไม่รู้โผล่มาจากไหนเดินเข้ามาทักเพื่อนบ้าน ท่าทีเป็นกันไม่ต่างจากทุกที
"อาซาโตะมองหาอะไรอยู่งั้นหรอ?"
แม้ไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดกับตัวเองเมื่อครู่แต่ด้วยมันสมองของเธอ มิคุรุสรุปได้ทันทีว่าเขาจะต้องมองหาชื่อตัวเองอยู่แน่ ๆ
"อ๋อ รู้แล้วล่ะ ตามหาชื่อตัวเองอยู่ใช่มั้ย? ให้ช่วยรึเปล่า?"
เด็กนักเรียนหญิงไม่รู้โผล่มาจากไหนเดินเข้ามาทักเพื่อนบ้าน ท่าทีเป็นกันไม่ต่างจากทุกที
"อาซาโตะมองหาอะไรอยู่งั้นหรอ?"
แม้ไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดกับตัวเองเมื่อครู่แต่ด้วยมันสมองของเธอ มิคุรุสรุปได้ทันทีว่าเขาจะต้องมองหาชื่อตัวเองอยู่แน่ ๆ
"อ๋อ รู้แล้วล่ะ ตามหาชื่อตัวเองอยู่ใช่มั้ย? ให้ช่วยรึเปล่า?"
"อืม..." เพราะในเมืองใหญ่มาตลอดเลยไม่รู้ว่าตกดึกแถวนี้อันตรายรึเปล่า
มิคุรุคลี่ยิ้มตอบรับกลับ อย่างน้อยก็ได้ไปส่งครึ่งทาง
"งั้นถ้าระหว่างกลับย่านอาโอะแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมา ลองเอาเสื้อคลุมหัวร้องเพลงดัง ๆ แล้วรีบวิ่งดูนะ" ห้ะ อะไรนะ ตรรกะอะไรเนี่ย
"ไม่ว่าใครถ้าเห็นแบบนั้นต้องไม่กล้าเข้ามายุ่งด้วยแน่"
"อืม..." เพราะในเมืองใหญ่มาตลอดเลยไม่รู้ว่าตกดึกแถวนี้อันตรายรึเปล่า
มิคุรุคลี่ยิ้มตอบรับกลับ อย่างน้อยก็ได้ไปส่งครึ่งทาง
"งั้นถ้าระหว่างกลับย่านอาโอะแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมา ลองเอาเสื้อคลุมหัวร้องเพลงดัง ๆ แล้วรีบวิ่งดูนะ" ห้ะ อะไรนะ ตรรกะอะไรเนี่ย
"ไม่ว่าใครถ้าเห็นแบบนั้นต้องไม่กล้าเข้ามายุ่งด้วยแน่"
มือหนึ่งป้องปาก ลังเลว่าจะตกลงดีมั้ย
"ไม่ชอบของหวาน..."
"คิดว่าจะพูดแบบนั้นสินะ?"
พูดแล้วก็ยกนิ้วโป้งถูกใจ สีหน้าจริงจีงจนยากจะบอกพูดจริงหรือล้อเล่น
"ผิดแล้วล่ะ ชอบมากต่างหาก เอาสิคะ"
เอ้า อะไรของเค้า แล้วจะทำให้งงทำไม
มือหนึ่งป้องปาก ลังเลว่าจะตกลงดีมั้ย
"ไม่ชอบของหวาน..."
"คิดว่าจะพูดแบบนั้นสินะ?"
พูดแล้วก็ยกนิ้วโป้งถูกใจ สีหน้าจริงจีงจนยากจะบอกพูดจริงหรือล้อเล่น
"ผิดแล้วล่ะ ชอบมากต่างหาก เอาสิคะ"
เอ้า อะไรของเค้า แล้วจะทำให้งงทำไม
แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นแท้จริงมีบางสิ่งปิดซ่อนไว้
ความจริงที่ว่าเจ้าตัวกำลังหลงทางอยู่
กะจะออกมาเดินเล่นแบบเท่ ๆ เพราะนอนไม่หลับ แต่เดินไปเดินมาหาทางกลับเส้นทางหลักไม่เจอซะได้
"ให้เราไปส่งซักครึ่งทางนะ" ช่วยข่อยแหน่
แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นแท้จริงมีบางสิ่งปิดซ่อนไว้
ความจริงที่ว่าเจ้าตัวกำลังหลงทางอยู่
กะจะออกมาเดินเล่นแบบเท่ ๆ เพราะนอนไม่หลับ แต่เดินไปเดินมาหาทางกลับเส้นทางหลักไม่เจอซะได้
"ให้เราไปส่งซักครึ่งทางนะ" ช่วยข่อยแหน่
แต่ถ้ายิ้มตาหยีไว้ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าแสบตา
"มิคุรุ ยินดีที่โชคชะตานำพามาให้รู้จักกันนะ" เธอพูดแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง
"แล้วเธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ? ถึงทำกิ๊บน่ารัก ๆ แบบนี้หล่นหายได้"
แต่ถ้ายิ้มตาหยีไว้ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าแสบตา
"มิคุรุ ยินดีที่โชคชะตานำพามาให้รู้จักกันนะ" เธอพูดแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง
"แล้วเธอมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ? ถึงทำกิ๊บน่ารัก ๆ แบบนี้หล่นหายได้"
"มิคังจังยินดีที่ได้รู้จักนะ" ยิ้ม ยิ้ม
"แต่ขอพรอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ"
"พวกเราเองก็ต้องพยายามให้คำขอเป็นจริงเหมือนกัน" ประโยคนี้ยังดูดีอยู่
"เราเองก็จะพยายามเหมือนกับ เพื่อกล้ามหน้าท้องที่เห็นแล้วต้องก้มลงคารวะนั่น" เหมือนคำพูดกับหน้าตาจะไม่สามัคคีกันเท่าไหร่
"มิคังจังยินดีที่ได้รู้จักนะ" ยิ้ม ยิ้ม
"แต่ขอพรอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ"
"พวกเราเองก็ต้องพยายามให้คำขอเป็นจริงเหมือนกัน" ประโยคนี้ยังดูดีอยู่
"เราเองก็จะพยายามเหมือนกับ เพื่อกล้ามหน้าท้องที่เห็นแล้วต้องก้มลงคารวะนั่น" เหมือนคำพูดกับหน้าตาจะไม่สามัคคีกันเท่าไหร่
มิคุรุเอามือสอดไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะแหงนหน้าขึ้น
"คืนนี้ท้องฟ้าสวยดีนะ..." ภาพของดวงจันทร์สะท้อนอยู่ในแววตาสีครามคู่นั้น
"เลยอยากดื่มด่ำกับมัน ก่อนที่แสงวันใหม่จะพรากทิวทัศน์นี้ไป" ซึ่งไม่จริงแม้แต่น้อยเพราะพึ่งแถได้เมื่อกี้
"มิคุรุน่ะ แล้วเธอล่ะชื่ออะไรหรอ?"
มิคุรุเอามือสอดไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะแหงนหน้าขึ้น
"คืนนี้ท้องฟ้าสวยดีนะ..." ภาพของดวงจันทร์สะท้อนอยู่ในแววตาสีครามคู่นั้น
"เลยอยากดื่มด่ำกับมัน ก่อนที่แสงวันใหม่จะพรากทิวทัศน์นี้ไป" ซึ่งไม่จริงแม้แต่น้อยเพราะพึ่งแถได้เมื่อกี้
"มิคุรุน่ะ แล้วเธอล่ะชื่ออะไรหรอ?"
"เราก็ด้วย" อีกฝ่ายหันมาพูดตอบด้วยยิ้มเล็ก ๆ
เธอปรบมือก่อนกล่าวคำขอของตนด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น
"ขอให้คู**** แ******* ได้สกินชุดว่ายน้ำปีนี้ด้วย ขอแบบโชว์กล้ามท้องจะดีมาก"
...นั่นคำอธิษฐานหรอ? ช่างเป็นคำขอที่ไร้ยางอายนัก
"เอาล่ะ เธอเองก็ได้ยินคำขอของเราแล้ว ทีนี้ก็หายกันแล้วนะ"
"เราก็ด้วย" อีกฝ่ายหันมาพูดตอบด้วยยิ้มเล็ก ๆ
เธอปรบมือก่อนกล่าวคำขอของตนด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น
"ขอให้คู**** แ******* ได้สกินชุดว่ายน้ำปีนี้ด้วย ขอแบบโชว์กล้ามท้องจะดีมาก"
...นั่นคำอธิษฐานหรอ? ช่างเป็นคำขอที่ไร้ยางอายนัก
"เอาล่ะ เธอเองก็ได้ยินคำขอของเราแล้ว ทีนี้ก็หายกันแล้วนะ"
มิคุรุค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนพลันแหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้ม
...มันมีอะไรอยู่บนฟ้าด้วยหรอ?
"โชคชะตายังไง" ดูยังไงก็แค่อยากพูดคำว่าโชคชะตาชัด ๆ
คุยเรื่องเดียวกันอยู่ปะเนี่ย ตอบไม่ตรงคำถาม
"โชคชะตานำพากิ๊บรูปปลาอันนี้มาให้เรา เพื่อให้เรามาเจอเธอ"
มิคุรุค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนพลันแหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้ม
...มันมีอะไรอยู่บนฟ้าด้วยหรอ?
"โชคชะตายังไง" ดูยังไงก็แค่อยากพูดคำว่าโชคชะตาชัด ๆ
คุยเรื่องเดียวกันอยู่ปะเนี่ย ตอบไม่ตรงคำถาม
"โชคชะตานำพากิ๊บรูปปลาอันนี้มาให้เรา เพื่อให้เรามาเจอเธอ"
มิคุรุออกมาซื้อของกับน้องสาวแต่คลาดสายตาเดี๋ยวเดียว ไม่นานคนพี่ก็หลงมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้จนได้
"คุณหนูคนนั้น" ได้พูดแล้วสินะวลีที่อยากพูดมาตลอด!
มิคุรุคุกเข่า (ทำไม) หยิบยื่นกิ๊บติดผมในมือไปให้ด้วยความทะนุถนอม
"ไม่ทราบว่าตามหาสิ่งนี้อยู่รึเปล่า?"
มิคุรุออกมาซื้อของกับน้องสาวแต่คลาดสายตาเดี๋ยวเดียว ไม่นานคนพี่ก็หลงมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้จนได้
"คุณหนูคนนั้น" ได้พูดแล้วสินะวลีที่อยากพูดมาตลอด!
มิคุรุคุกเข่า (ทำไม) หยิบยื่นกิ๊บติดผมในมือไปให้ด้วยความทะนุถนอม
"ไม่ทราบว่าตามหาสิ่งนี้อยู่รึเปล่า?"