doc : https://citly.me/Em6zD
"ก็,ไหนๆคุณก็เคยแนะนำมานี่คะ" หันกลับไปมองเขา ปลายนิ้วที่จรดกันอยู่ขยับกระทบกันเป็นจังหวะ
"ถ้าคุณอยากไปน่ะนะ?"
"ก็,ไหนๆคุณก็เคยแนะนำมานี่คะ" หันกลับไปมองเขา ปลายนิ้วที่จรดกันอยู่ขยับกระทบกันเป็นจังหวะ
"ถ้าคุณอยากไปน่ะนะ?"
"อื้ม,นั่นสิคะ ก็เป็นไปได้ สุสานประจำเมืองก็เนื้อที่เท่านี้เอง" พยักหน้าช้าๆ
และเงียบอีก,ก่อนจะกล่าว
"เรียวกังบนเขา..." หล่อนเกริ่นอีกเรื่องเหมือนฉวยขึ้นมาจากอากาศ "ยังอยากไปอยู่ไหมคะ?"
"อื้ม,นั่นสิคะ ก็เป็นไปได้ สุสานประจำเมืองก็เนื้อที่เท่านี้เอง" พยักหน้าช้าๆ
และเงียบอีก,ก่อนจะกล่าว
"เรียวกังบนเขา..." หล่อนเกริ่นอีกเรื่องเหมือนฉวยขึ้นมาจากอากาศ "ยังอยากไปอยู่ไหมคะ?"
เงยหน้าจากพื้น ไล่สายตาผ่านป้ายหลุมศพที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ "คุณพ่อเองก็อยู่ที่นี่เหรอคะ?"
เงยหน้าจากพื้น ไล่สายตาผ่านป้ายหลุมศพที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ "คุณพ่อเองก็อยู่ที่นี่เหรอคะ?"
แม้กระทั่งเสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นก็ยังได้ยินชัดในสถาที่ไร้ชีวิต--เขาและหล่อนอาจเป็นเพียงคนคู่เดียวที่มาเยี่ยมเยียนสุสานในเวลานี้ "หลังจากจบเรื่องทั้งหมดนี่แล้ว,คุณคิดจะไปอยู่เมืองนอกไหมคะ?"
แม้กระทั่งเสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นก็ยังได้ยินชัดในสถาที่ไร้ชีวิต--เขาและหล่อนอาจเป็นเพียงคนคู่เดียวที่มาเยี่ยมเยียนสุสานในเวลานี้ "หลังจากจบเรื่องทั้งหมดนี่แล้ว,คุณคิดจะไปอยู่เมืองนอกไหมคะ?"
ก้าวต่อก้าว--จากลานฌาปนกิจถึงสุสาน ฝีเท้าของหล่อนย่ำเป็นจังหวะเดียวกับเขาโดยอัตโนมัติ "คิดว่าคุณพ่อคุณแม่จะอยากเห็นลูกสะใภ้แบบไหนเหรอคะ?"
ก้าวต่อก้าว--จากลานฌาปนกิจถึงสุสาน ฝีเท้าของหล่อนย่ำเป็นจังหวะเดียวกับเขาโดยอัตโนมัติ "คิดว่าคุณพ่อคุณแม่จะอยากเห็นลูกสะใภ้แบบไหนเหรอคะ?"
ก้าวตามไป แตะนิ้วลูบไปตามหลังใบหูเลยไปยังเส้นผมที่รวบไว้หลวมๆ เปรยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง "ฉันต้องวางตัวให้สมกับเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยไหมคะ?"
ก้าวตามไป แตะนิ้วลูบไปตามหลังใบหูเลยไปยังเส้นผมที่รวบไว้หลวมๆ เปรยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง "ฉันต้องวางตัวให้สมกับเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยไหมคะ?"
มองตามปลายนิ้วไปยังพื้นที่สงบเงียบอย่างที่เคยเป็นมาตลอด
"เอาสิคะ" หล่อนรับคำ "ตอนนี้? หรือรอให้งานศพผ่านไปก่อนดีล่ะ?"
มองตามปลายนิ้วไปยังพื้นที่สงบเงียบอย่างที่เคยเป็นมาตลอด
"เอาสิคะ" หล่อนรับคำ "ตอนนี้? หรือรอให้งานศพผ่านไปก่อนดีล่ะ?"
"ว่าแต่,ก่อนหน้านั้นคุณจะพูดอะไรนะคะ?" พาย้อนกลับไปถึงบทสนทนาก่อนจะถูกขัดจังหวะ
"ว่าแต่,ก่อนหน้านั้นคุณจะพูดอะไรนะคะ?" พาย้อนกลับไปถึงบทสนทนาก่อนจะถูกขัดจังหวะ
"ถ้าอย่างนั้น,ต้องขอตัวก่อนนะคะ" ค้อมศีรษะตามมารยาท มือข้างที่กุมกับไว้อยู่ก็ยังวางแนบข้างตัวอย่างนั้นโดยไม่เสียเวลาคลายมือออกเพื่อทำให้การคำนับดูนอบน้อมสมบูรณ์
"ถ้าอย่างนั้น,ต้องขอตัวก่อนนะคะ" ค้อมศีรษะตามมารยาท มือข้างที่กุมกับไว้อยู่ก็ยังวางแนบข้างตัวอย่างนั้นโดยไม่เสียเวลาคลายมือออกเพื่อทำให้การคำนับดูนอบน้อมสมบูรณ์
"ไม้ใหญ่ไม่ล้มเพราะกิ่งปลายยอดที่แห้งตายหรือผลที่ต้นแม่สลัดทิ้งหรอกนะคะ" หล่อนเปรยไปกับลม--แล้วแต่คนจะใส่ใจ "อาจจะเป็นที่ราก"
ดึงสายตากลับมาท่หญิงสาวทั้งสองผู้ซึ่งหล่อนไม่ได้เห็นเป็นใบหน้าคนอีกต่อไป
"ไม้ใหญ่ไม่ล้มเพราะกิ่งปลายยอดที่แห้งตายหรือผลที่ต้นแม่สลัดทิ้งหรอกนะคะ" หล่อนเปรยไปกับลม--แล้วแต่คนจะใส่ใจ "อาจจะเป็นที่ราก"
ดึงสายตากลับมาท่หญิงสาวทั้งสองผู้ซึ่งหล่อนไม่ได้เห็นเป็นใบหน้าคนอีกต่อไป
"ลูกๆเลือกพ่อแม่ไม่ได้นี่คะ..." หล่อนว่า "เลือกหน้าตาตอนเกิดก็ไม่ได้ เลือกญาติของครอบครัวที่ใจกว้างพอก็ไม่ได้เหมือนกัน"
"ลูกๆเลือกพ่อแม่ไม่ได้นี่คะ..." หล่อนว่า "เลือกหน้าตาตอนเกิดก็ไม่ได้ เลือกญาติของครอบครัวที่ใจกว้างพอก็ไม่ได้เหมือนกัน"
ละสายตาจากสองสาวกลับมาที่ยูริ "คุณอยากเข้าไปไหมคะ?"
ละสายตาจากสองสาวกลับมาที่ยูริ "คุณอยากเข้าไปไหมคะ?"
"ที่ว่าขอให้ออกไปหมายความว่ายังไงเหรอคะ?" สีหน้าหล่อยไม่ปิดบังความไม่เข้าใจ--ไม่ใช่ต่อความหมายของถ้อยคำ แต่ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด
"ที่ว่าขอให้ออกไปหมายความว่ายังไงเหรอคะ?" สีหน้าหล่อยไม่ปิดบังความไม่เข้าใจ--ไม่ใช่ต่อความหมายของถ้อยคำ แต่ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด
เงยหน้าจากมือขึ้นไปที่รอยยิ้มของหญิงสาว,บรรยากาศขมุกขมัวยิ่งเสริมให้หล่อนดูเหมือนนางพรายมากกว่ามนุษย์มีเลือดเนื้อ "หวังว่าคุณจะว่ายน้ำเป็นนำครับ?"
เงยหน้าจากมือขึ้นไปที่รอยยิ้มของหญิงสาว,บรรยากาศขมุกขมัวยิ่งเสริมให้หล่อนดูเหมือนนางพรายมากกว่ามนุษย์มีเลือดเนื้อ "หวังว่าคุณจะว่ายน้ำเป็นนำครับ?"
หล่อนเพียงค้อมศีรษะน้อยๆเป็นการทักทายโดยไม่ได้แนะนำตัว เบี่ยงตัวถอยหลังไปก้าวหนึ่งให้เขาและครอบครัวสนทนา
หล่อนเพียงค้อมศีรษะน้อยๆเป็นการทักทายโดยไม่ได้แนะนำตัว เบี่ยงตัวถอยหลังไปก้าวหนึ่งให้เขาและครอบครัวสนทนา
"ถ้างั้น..." เริ่มประโยคอย่างระมัดระวัง เคลื่อนสายตาจากซองงานศพขึ้นมาที่ใบหน้าอีกฝ่าย "คุณอยากให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อนไหมคะ?"
"ถ้างั้น..." เริ่มประโยคอย่างระมัดระวัง เคลื่อนสายตาจากซองงานศพขึ้นมาที่ใบหน้าอีกฝ่าย "คุณอยากให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อนไหมคะ?"
ขยับปากเหมือนมีคำตอบแรก,ทว่าก็ชะงักไป นึกถึงคำกระซิบกระซาบที่ได้ยินในงาน "สำหรับคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวก็คงแปลกจริงๆสินะคะ"
ขยับปากเหมือนมีคำตอบแรก,ทว่าก็ชะงักไป นึกถึงคำกระซิบกระซาบที่ได้ยินในงาน "สำหรับคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวก็คงแปลกจริงๆสินะคะ"
ไม่มีคำตอบให้หล่อน เหมือนสมาธิทั้งหมดจะถูกใช้ไปกับดารสืบเท้าไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ภาวนาอย่างยิ่งยวดว่าก้าวถัดไประดับน้ำจะยังเท่าเดิม
[ทอยเหรียญเพื่อวัดดวง
หัว = น้ำตื้น
ก้อย = น้ำลึก]
ไม่มีคำตอบให้หล่อน เหมือนสมาธิทั้งหมดจะถูกใช้ไปกับดารสืบเท้าไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ภาวนาอย่างยิ่งยวดว่าก้าวถัดไประดับน้ำจะยังเท่าเดิม
[ทอยเหรียญเพื่อวัดดวง
หัว = น้ำตื้น
ก้อย = น้ำลึก]
"ไม่เข้าไปเหรอคะ?" ถามด้วยเสียงเบาไม่ต่างกันเมื่อเข้าไปในระยะที่ได้ยินเสียง
"ไม่เข้าไปเหรอคะ?" ถามด้วยเสียงเบาไม่ต่างกันเมื่อเข้าไปในระยะที่ได้ยินเสียง
หล่อนยืนอยู่ในมุมที่ไม่สะดุดตาห่างจากครอบครัวผู้ตายพอสมควร เหลือบมองไปยังทางเข้าบ่อยครั้งเพื่อมองหาฮาซามะ ยูริผู้เป็นลูกชาย--หรืออย่างน้อยก็คนคุ้นเคยสักคนในคุเมอิ
(ฉันมาสุ่มกาชาแล้วค่ะ)
หล่อนยืนอยู่ในมุมที่ไม่สะดุดตาห่างจากครอบครัวผู้ตายพอสมควร เหลือบมองไปยังทางเข้าบ่อยครั้งเพื่อมองหาฮาซามะ ยูริผู้เป็นลูกชาย--หรืออย่างน้อยก็คนคุ้นเคยสักคนในคุเมอิ
(ฉันมาสุ่มกาชาแล้วค่ะ)
"ผมว่า,เราไม่ควรลงไปลึกกว่านั้นแล้วนะครับ"
"ผมว่า,เราไม่ควรลงไปลึกกว่านั้นแล้วนะครับ"
"มันก็เปมือนสระน้ำที่คลื่นแรงและเค็มน่ะครับ" เมื่อนึกถึงความต่างก็จะนึกออกเท่านั้น "--และอันตรายกว่า"
ก้มลงสัมผัสคลื่นเอื่อยด้วยใ่ามือโดยที่ยังไม่หยุดเท้า เมื่อหล่อนเข้ามาในระยะก็วักน้ำทะเลเข้าใส่
"มันก็เปมือนสระน้ำที่คลื่นแรงและเค็มน่ะครับ" เมื่อนึกถึงความต่างก็จะนึกออกเท่านั้น "--และอันตรายกว่า"
ก้มลงสัมผัสคลื่นเอื่อยด้วยใ่ามือโดยที่ยังไม่หยุดเท้า เมื่อหล่อนเข้ามาในระยะก็วักน้ำทะเลเข้าใส่
ปล่อยมือหล่อนช้าๆ เขายังอยู่ในชุดเดิม,มีแค่รองเท้าที่หายไป เขาก้มมองน้ำใสระข้อเท้า,ไม่ก้าวไปลึกกว่านั้นแม้จะดูไม่มีอะไรน่าอันตราย "คุณชอบเล่นน้ำทะเลไหม?"
ปล่อยมือหล่อนช้าๆ เขายังอยู่ในชุดเดิม,มีแค่รองเท้าที่หายไป เขาก้มมองน้ำใสระข้อเท้า,ไม่ก้าวไปลึกกว่านั้นแม้จะดูไม่มีอะไรน่าอันตราย "คุณชอบเล่นน้ำทะเลไหม?"