[ Y.1-C | 16 | 169 / 57 ]
#KMI_Commu | Doc. : www.shorturl.asia/tDLFV
[Cr. Profile: lilmill ]
เรามาเถียงกับเจ้าหมอนี่ทำไมล่ะเนี่ย!?
"หึ้ย-! ไม่ว่าง! แล้วก็ไม่ต้องมาด้วย!!"
ว่าแล้วก็วิ่งตะเพิดออกประตูดาดฟ้าไปก่อนซะเลย
เรามาเถียงกับเจ้าหมอนี่ทำไมล่ะเนี่ย!?
"หึ้ย-! ไม่ว่าง! แล้วก็ไม่ต้องมาด้วย!!"
ว่าแล้วก็วิ่งตะเพิดออกประตูดาดฟ้าไปก่อนซะเลย
"ก็...ส่วนที่โดนเหยียบ" ท่าทางอีกฝ่ายจะไม่เป็นไรสินะ ตอบได้ตั้งขนาดนี้
"ทำไมไม่...บอกคนที่เหยียบล่ะ...ครับ"
ท่าทางจะยังเกร็งๆเลยมีการเติมหางเสียงตลอด
"ก็...ส่วนที่โดนเหยียบ" ท่าทางอีกฝ่ายจะไม่เป็นไรสินะ ตอบได้ตั้งขนาดนี้
"ทำไมไม่...บอกคนที่เหยียบล่ะ...ครับ"
ท่าทางจะยังเกร็งๆเลยมีการเติมหางเสียงตลอด
ท่าทางเรียกชื่อเฉยๆคงจะอยู่ไม่สุขแล้ว
"...ชิ ดันมาเป็นนายที่เชื่อซะได้ ไม่สบอารมณ์ชะมัด"
ครั้งแรกที่มีคนบอกว่าเชื่ออย่างจริงๆจังๆเลยนะเนี่ย...
"แล้วก็ไม่ต้องมาเนอะด้วย!"
"...แล้วจะทำอะไรต่อ?" ดันอยากรู้ขึ้นมาซะได้
ท่าทางเรียกชื่อเฉยๆคงจะอยู่ไม่สุขแล้ว
"...ชิ ดันมาเป็นนายที่เชื่อซะได้ ไม่สบอารมณ์ชะมัด"
ครั้งแรกที่มีคนบอกว่าเชื่ออย่างจริงๆจังๆเลยนะเนี่ย...
"แล้วก็ไม่ต้องมาเนอะด้วย!"
"...แล้วจะทำอะไรต่อ?" ดันอยากรู้ขึ้นมาซะได้
ไม่ใช่บ้าธรรมดาจริงด้วย หมอนี่มัน-
"...ถ-ถ้าฉันแค่แสดงสีหน้าไม่เก่งแล้วเกร็งจนยู่หน้าใส่นายเฉยๆล่ะ?"
"ข้อสันนิษฐานของนายก็ไม่มีเหตุผลจริงไหม? ความบังเอิญเนี่ยเอาอะไรมามั่นใจได้..."
ขอดูความเชื่อของนายหน่อยเถอะ
"ของแบบนี้ใครก็โกหกได้กันทั้งนั้น มีแค่ที่ตอนเจอกับฉันก็ไม่ถือว่าเจอจริงๆแล้วสักหน่อย เจ้า'สีดำ'นั่นน่ะ"
ไม่ใช่บ้าธรรมดาจริงด้วย หมอนี่มัน-
"...ถ-ถ้าฉันแค่แสดงสีหน้าไม่เก่งแล้วเกร็งจนยู่หน้าใส่นายเฉยๆล่ะ?"
"ข้อสันนิษฐานของนายก็ไม่มีเหตุผลจริงไหม? ความบังเอิญเนี่ยเอาอะไรมามั่นใจได้..."
ขอดูความเชื่อของนายหน่อยเถอะ
"ของแบบนี้ใครก็โกหกได้กันทั้งนั้น มีแค่ที่ตอนเจอกับฉันก็ไม่ถือว่าเจอจริงๆแล้วสักหน่อย เจ้า'สีดำ'นั่นน่ะ"
ชินจิที่สงบใจลงได้นิดหน่อยถามออกไป
ถ้าตอบกลับมาว่าเพราะสีหน้าล่ะก็...คงต้องฝึกออกอาการหน่อยแล้วสิ
ชินจิที่สงบใจลงได้นิดหน่อยถามออกไป
ถ้าตอบกลับมาว่าเพราะสีหน้าล่ะก็...คงต้องฝึกออกอาการหน่อยแล้วสิ
"สนใจ...ในตัวฉันเนี่ยนะ?"
ตอนได้ยินแบบนั้นก็เผลออึ้งไปอีกยก กำลังประมวลผลอย่างหนักหน่วง หมายความว่ายังไงน่ะ!? กำกวมไปรึเปล่า!? อะไรของเจ้า-
แต่พออีกฝ่ายถือวิสาสะมาตบไหล่ก็ทำเอาหลุดจากห้วงความคิด
.
.
.
"ให้ตายก็ไม่ไปเจออีกรอบหรอกเฟ้ย!!!"
"สนใจ...ในตัวฉันเนี่ยนะ?"
ตอนได้ยินแบบนั้นก็เผลออึ้งไปอีกยก กำลังประมวลผลอย่างหนักหน่วง หมายความว่ายังไงน่ะ!? กำกวมไปรึเปล่า!? อะไรของเจ้า-
แต่พออีกฝ่ายถือวิสาสะมาตบไหล่ก็ทำเอาหลุดจากห้วงความคิด
.
.
.
"ให้ตายก็ไม่ไปเจออีกรอบหรอกเฟ้ย!!!"
"นายเห็นมันใช่มั้ยล่ะ?"
"นายเห็นมันใช่มั้ยล่ะ?"
"อ-เอาเป็นว่านายน่ะหลอนไปเอง!!"
ว่าแล้วก็สะบัดมือทำป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเผลอเหลือบตาไปมองบ่อยๆ
ให้ตายสิ
.
.
.
ถึงอยากจะบอกแต่ก็หมั่นไส้จนไม่อยากนี่ล่ะ!!
"อ-เอาเป็นว่านายน่ะหลอนไปเอง!!"
ว่าแล้วก็สะบัดมือทำป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเผลอเหลือบตาไปมองบ่อยๆ
ให้ตายสิ
.
.
.
ถึงอยากจะบอกแต่ก็หมั่นไส้จนไม่อยากนี่ล่ะ!!
"นาย...จะบอกว่าฉันเห็นอะไรล่ะ?"
สายตาก็ดันเผลอเลื่อนไปมองข้ามไหล่อีกฝ่าย...บ้าเอ้ย
ไม่ชอบใจชะมัดที่มันดันโผล่ออกมาเหมือนถูกเชื้อเชิญเนี่ย
"นาย...จะบอกว่าฉันเห็นอะไรล่ะ?"
สายตาก็ดันเผลอเลื่อนไปมองข้ามไหล่อีกฝ่าย...บ้าเอ้ย
ไม่ชอบใจชะมัดที่มันดันโผล่ออกมาเหมือนถูกเชื้อเชิญเนี่ย
จู่ๆก็เข้ามากอดคอเลยเนี่ยนะ!?
"ด-เดี๋ยวก่อน! พูดอะไรของนาย!? เห็นอะไร?"
ซวยแล้วไง เจ้านี่ไม่ใช่แค่บ้าเฉยๆ แถมยัง...
"เพี๊ยนรึไง!? มีอะไรให้เห็นที่ไหนกัน!?"
ว่าแล้วก็ผลักอีกฝ่ายออดห่างก่อนจะชี้หน้าอีกรอบ แต่ตอนนั้นเอง-
+
จู่ๆก็เข้ามากอดคอเลยเนี่ยนะ!?
"ด-เดี๋ยวก่อน! พูดอะไรของนาย!? เห็นอะไร?"
ซวยแล้วไง เจ้านี่ไม่ใช่แค่บ้าเฉยๆ แถมยัง...
"เพี๊ยนรึไง!? มีอะไรให้เห็นที่ไหนกัน!?"
ว่าแล้วก็ผลักอีกฝ่ายออดห่างก่อนจะชี้หน้าอีกรอบ แต่ตอนนั้นเอง-
+
"อ่าๆๆ ก็ได้ๆ....แต่แบบนี้ไม่ได้ถือว่าเราสนิทกันหรืออะไรนะ บอกไว้ก่อน"
ตัวก็รักษาระยะห่างพร้อมกับชี้นิ้วไปทางอีกฝ่าย
"เพราะงั้นบอกแล้วไง...อย่ามาเรียกเหมือนสนิทสนมนะ!! เรียกทาดายูกิล่ะ เข้าใจไหม!"
ท่าทางไม่หงิมหรือสงบเหมือนตอนอยู่ในห้องเรียนเลยไม่ใช่รึไง
"อ่าๆๆ ก็ได้ๆ....แต่แบบนี้ไม่ได้ถือว่าเราสนิทกันหรืออะไรนะ บอกไว้ก่อน"
ตัวก็รักษาระยะห่างพร้อมกับชี้นิ้วไปทางอีกฝ่าย
"เพราะงั้นบอกแล้วไง...อย่ามาเรียกเหมือนสนิทสนมนะ!! เรียกทาดายูกิล่ะ เข้าใจไหม!"
ท่าทางไม่หงิมหรือสงบเหมือนตอนอยู่ในห้องเรียนเลยไม่ใช่รึไง
เขาก็เผลอหลุดขำออกมาเล็กน้อยตอนอีกฝ่ายบอกมาแบบนั้น
"ไม่ใช่คนที่สงสัยที่บ้า แต่เป็นคนที่ไม่สงสัยสินะ? คิดแบบนั้นก็ตลกดีนี่"
"นายนี่มัน...."
ทำเอาต้องเงยหน้าขึ้นมาพูดให้เต็มคำ
"บ้าชะมัด สุดโต่งดีนี่ความคิดแบบนั้น"
เขาก็เผลอหลุดขำออกมาเล็กน้อยตอนอีกฝ่ายบอกมาแบบนั้น
"ไม่ใช่คนที่สงสัยที่บ้า แต่เป็นคนที่ไม่สงสัยสินะ? คิดแบบนั้นก็ตลกดีนี่"
"นายนี่มัน...."
ทำเอาต้องเงยหน้าขึ้นมาพูดให้เต็มคำ
"บ้าชะมัด สุดโต่งดีนี่ความคิดแบบนั้น"
ก้มลงเล็กน้อยพลางนึกย้อน โลกนี้มันก็...
"นั่นสิ...แต่บางทีทั้งๆที่มีคนบอกว่ามีเรื่องน่าสนใจรออยู่ กลับมองซะว่าเพ้อเจ้อ ทำไมกันนะ?"
ทั้งที่เหมืนจะตอบคำถามแต่กลับเหมือนพูดกับตัวเองซะมากกว่า
ก้มลงเล็กน้อยพลางนึกย้อน โลกนี้มันก็...
"นั่นสิ...แต่บางทีทั้งๆที่มีคนบอกว่ามีเรื่องน่าสนใจรออยู่ กลับมองซะว่าเพ้อเจ้อ ทำไมกันนะ?"
ทั้งที่เหมืนจะตอบคำถามแต่กลับเหมือนพูดกับตัวเองซะมากกว่า
ถึงกับต้องมองแห้งๆเลย ทั้งเรื่องเงินกับความคิดน่ะนะ
"แล้วที่ผ่านมาเจอบ้างรึยังล่ะ ของแปลกๆน่ะ"
ก็น่าจะทดลองมาเยอะแล้วนี่นะ เลยเกิดสงสัยขึ้นมาว่สได้เจออะไรมาบ้างรึยัง
ถึงกับต้องมองแห้งๆเลย ทั้งเรื่องเงินกับความคิดน่ะนะ
"แล้วที่ผ่านมาเจอบ้างรึยังล่ะ ของแปลกๆน่ะ"
ก็น่าจะทดลองมาเยอะแล้วนี่นะ เลยเกิดสงสัยขึ้นมาว่สได้เจออะไรมาบ้างรึยัง
ชินจิตอบกลับไปทันทีที่เงานั่นหายไป ถึงกับถอนหายใจโล่งอก ตีเนียนว่าไม่เห็นอะไรต่อไป
"งั้นเหรอ พัง...แย่หน่อยนะ ท่าทางจะแพงนี่นาเจ้านั่นน่ะ"
ถึงจะหยาบใส่ไปไม่นานนี้แต่ก็เห็นใจที่เห็นอีกฝ่ายบอกว่าของที่มีพังไป
"...นายจะทำอะไรถ้าเจอของแปลกๆงั้นเหรอ?"
ชินจิตอบกลับไปทันทีที่เงานั่นหายไป ถึงกับถอนหายใจโล่งอก ตีเนียนว่าไม่เห็นอะไรต่อไป
"งั้นเหรอ พัง...แย่หน่อยนะ ท่าทางจะแพงนี่นาเจ้านั่นน่ะ"
ถึงจะหยาบใส่ไปไม่นานนี้แต่ก็เห็นใจที่เห็นอีกฝ่ายบอกว่าของที่มีพังไป
"...นายจะทำอะไรถ้าเจอของแปลกๆงั้นเหรอ?"
ในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังหันซ้ายหันขวาอยู่ ชินจิก็นิ่งกึกไปพร้อมกับตีหน้าเงียบ แต่อย่างที่เรย์โตะเคยพูดไว้...เก็บสีหน้าไม่เก่งเลย
ตาก็สั่นเลิ่กลั่กกับสิ่งที่อยู่ข้างตัวเรย์โตะพอดีอย่างจดจ่อ ตอนแรกก็มำท่าเหใอนจะทักแต่ก็หลบตาแล้วถอนหายใจ
"...4 ต่อ 5 นั่นอะไร?" ตีเนียนถามกลบความเลิกลั่กก่อน
ในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังหันซ้ายหันขวาอยู่ ชินจิก็นิ่งกึกไปพร้อมกับตีหน้าเงียบ แต่อย่างที่เรย์โตะเคยพูดไว้...เก็บสีหน้าไม่เก่งเลย
ตาก็สั่นเลิ่กลั่กกับสิ่งที่อยู่ข้างตัวเรย์โตะพอดีอย่างจดจ่อ ตอนแรกก็มำท่าเหใอนจะทักแต่ก็หลบตาแล้วถอนหายใจ
"...4 ต่อ 5 นั่นอะไร?" ตีเนียนถามกลบความเลิกลั่กก่อน
จริงๆเมื่อสบตากันแล้ว เขาก็เผลอจ้องกลับไปแบบไม่รู้ตัว หลังจากที่สะดุดใจได้ก่อนว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมัวแต่จ้องเลยมองรอบๆอย่างหวาดระแวง
แต่เมื่อไม่เห็นอะไร"แปลกๆ"ก็ตัดสินใจมองที่อีกฝ่ายแทน ทำให้เห็น...
"...อ๋า-" ถึงไม่อยากจะยุ่งแต่โดนเหยีบแบบนั้นคงเจ็บน่าดู เลยเบียดตัวไปใกล้ๆอีกฝ่ายทำให้คนที่เหยียบอยู่ถอยไป
"...ไหวไหม...ครับ?"
จริงๆเมื่อสบตากันแล้ว เขาก็เผลอจ้องกลับไปแบบไม่รู้ตัว หลังจากที่สะดุดใจได้ก่อนว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมัวแต่จ้องเลยมองรอบๆอย่างหวาดระแวง
แต่เมื่อไม่เห็นอะไร"แปลกๆ"ก็ตัดสินใจมองที่อีกฝ่ายแทน ทำให้เห็น...
"...อ๋า-" ถึงไม่อยากจะยุ่งแต่โดนเหยีบแบบนั้นคงเจ็บน่าดู เลยเบียดตัวไปใกล้ๆอีกฝ่ายทำให้คนที่เหยียบอยู่ถอยไป
"...ไหวไหม...ครับ?"