Astrophysics Lecturer / Researcher
active as NPC
* คาร์เฮี้ยนมากโปรดระมัดระวัง
roleplay account for #KMI_Commu
⚠️warning : The owner of this account has Migraine. Please do not use heavy flash/glitch to this account
....
"อีกเดี๋ยวพิธีก็เริ่มแล้วนี่นา"
"ฮะฮะ.."
"เมื่อคืนผมเจอคุณพ่อกับคุณแม่ในฝันด้วยล่ะครับ" เป็นความอาวรณ์ละมั้ง "พอมาเห็นพวกท่านในฝันก่อนวันแต่งงาน เหมือนท่านแวะมาแสดงความยินดีด้วยเลย"
"เขาไม่ได้พูดอะไรกับผม แต่ยิ้มด้วยล่ะ"
"เลยคิดว่าพวกท่านเองก็คงดีใจที่เราแต่งงานกันเหมือนกันครับ..." เขาหันไปยิ้มให้อีกคน มือเอื้อมไปจับมืออีกฝ่าย
....
"อีกเดี๋ยวพิธีก็เริ่มแล้วนี่นา"
"ฮะฮะ.."
"เมื่อคืนผมเจอคุณพ่อกับคุณแม่ในฝันด้วยล่ะครับ" เป็นความอาวรณ์ละมั้ง "พอมาเห็นพวกท่านในฝันก่อนวันแต่งงาน เหมือนท่านแวะมาแสดงความยินดีด้วยเลย"
"เขาไม่ได้พูดอะไรกับผม แต่ยิ้มด้วยล่ะ"
"เลยคิดว่าพวกท่านเองก็คงดีใจที่เราแต่งงานกันเหมือนกันครับ..." เขาหันไปยิ้มให้อีกคน มือเอื้อมไปจับมืออีกฝ่าย
ชินระเพียงกำชับเสื้อตนเองแน่น หลุบตามองตราตระกูลบนเสื้อตัวเอง — นอกจากเป็นวันสำคัญแล้ว มันก็เป็นวันสำคัญของเขาเหมือนกัน
ทายาทเพียงคนเดียวของคุโรซึจิ
กำลังจะแต่งงาน
จนอีกฝ่ายทักขึ้นถึงได้หลุดออกจากภวังค์
"ตื่นเต้นนิดหน่อยครับ"
"ดีที่ไม่ได้ชวนใครมาเยอะ"
ชินระเพียงกำชับเสื้อตนเองแน่น หลุบตามองตราตระกูลบนเสื้อตัวเอง — นอกจากเป็นวันสำคัญแล้ว มันก็เป็นวันสำคัญของเขาเหมือนกัน
ทายาทเพียงคนเดียวของคุโรซึจิ
กำลังจะแต่งงาน
จนอีกฝ่ายทักขึ้นถึงได้หลุดออกจากภวังค์
"ตื่นเต้นนิดหน่อยครับ"
"ดีที่ไม่ได้ชวนใครมาเยอะ"
"แต่นอกจากดอกนั้นก็ชอบพวกกุหลาบเลื้อยบ้าง เอ แอนนีโมนีก็ดี เอสเตอร์ก็น่ารักดีครับ"
"เธอล่ะ"
"ชอบดอกอะไรเป็นพิเศษไหม"
เขาถามกลับบ้าง
"แต่นอกจากดอกนั้นก็ชอบพวกกุหลาบเลื้อยบ้าง เอ แอนนีโมนีก็ดี เอสเตอร์ก็น่ารักดีครับ"
"เธอล่ะ"
"ชอบดอกอะไรเป็นพิเศษไหม"
เขาถามกลับบ้าง
อยู่ใกล้ขนาดนี้ เขาย่อมสังเกตเห็นมันอยู่แล้วล่ะแต่ก็ไม่ได้ทายทักอะไร เพียงแค่ยิ้มให้กล้องก่อนหยัดตัวยืนขึ้นเต็มความสูงเมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้ว
"อากาศหนาวไปหรือครับ ทำไมแก้มเป็นงั้นล่ะ" เขาหัวเราะเอ็นดูตอนเห็นท่าทีอีกคน ตาสีแดงชาดฉายแววนึกสนุก คุณคงเห็นแต่ความขี้แกล้งฉาบบนมันเท่านั้นล่ะ — พอทักเสร็จ คนต้นเรื่องก็เดินนำไป
"อืม ...."
"ฮิกังบานะมั้งครับ"
"ยูริโกะก็ชอบนะ"
อยู่ใกล้ขนาดนี้ เขาย่อมสังเกตเห็นมันอยู่แล้วล่ะแต่ก็ไม่ได้ทายทักอะไร เพียงแค่ยิ้มให้กล้องก่อนหยัดตัวยืนขึ้นเต็มความสูงเมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้ว
"อากาศหนาวไปหรือครับ ทำไมแก้มเป็นงั้นล่ะ" เขาหัวเราะเอ็นดูตอนเห็นท่าทีอีกคน ตาสีแดงชาดฉายแววนึกสนุก คุณคงเห็นแต่ความขี้แกล้งฉาบบนมันเท่านั้นล่ะ — พอทักเสร็จ คนต้นเรื่องก็เดินนำไป
"อืม ...."
"ฮิกังบานะมั้งครับ"
"ยูริโกะก็ชอบนะ"
"จะแต่งงานกันแล้ว หยุดเขินผมได้แล้วครับ ที่รัก" เขาขำก่อนเอ่ยกระซิบแผ่ว " อืม พรุ่งนี้จะจูบจนกว่าจะพอใจเลย"
"ราตรีสวัสดิ์นะครับ"
ว่าไปก็หันไปมองรอบๆส่งท้ายว่าตนไม่ได้ลืมอะไรถึงได้ทิ้งตัวนอนลงช้าๆ ชินระเป็นพวกหลับยาก
เขาคงลืมตาอยู่พักใหญ่เลยแหละกว่าจะหลับ
"จะแต่งงานกันแล้ว หยุดเขินผมได้แล้วครับ ที่รัก" เขาขำก่อนเอ่ยกระซิบแผ่ว " อืม พรุ่งนี้จะจูบจนกว่าจะพอใจเลย"
"ราตรีสวัสดิ์นะครับ"
ว่าไปก็หันไปมองรอบๆส่งท้ายว่าตนไม่ได้ลืมอะไรถึงได้ทิ้งตัวนอนลงช้าๆ ชินระเป็นพวกหลับยาก
เขาคงลืมตาอยู่พักใหญ่เลยแหละกว่าจะหลับ
"ชื่อนั่นเข้ากับเธอไม่น้อยเลย ผมดีใจนะที่เธอมาใช้นามสกุลเดียวกับผมน่ะ" สำหรับชินระมันทั้งพิเศษ และเหมือนได้แสดงความเป็นเจ้าของภายในตัว พึมพำตามก็ยิ้มค้างดีใจกับตัวเอง
ก่อนจะกลับมาสนใตก็ตอนที่ริมฝีปากอีกคนประทับบนริมฝีปากตน
เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งจริง
พลางหลุบตามองคนที่ซุกหน้าหนี เขาหัวเราะเอ็นดูอีกคนเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงหา เอาแขนค้ำไว้แล้วกดจูบแนบแน่นที่ขมับ
"ชื่อนั่นเข้ากับเธอไม่น้อยเลย ผมดีใจนะที่เธอมาใช้นามสกุลเดียวกับผมน่ะ" สำหรับชินระมันทั้งพิเศษ และเหมือนได้แสดงความเป็นเจ้าของภายในตัว พึมพำตามก็ยิ้มค้างดีใจกับตัวเอง
ก่อนจะกลับมาสนใตก็ตอนที่ริมฝีปากอีกคนประทับบนริมฝีปากตน
เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งจริง
พลางหลุบตามองคนที่ซุกหน้าหนี เขาหัวเราะเอ็นดูอีกคนเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงหา เอาแขนค้ำไว้แล้วกดจูบแนบแน่นที่ขมับ
คำขอบคุณมากมายพรั่งพรูออกไป ดวงตาสีชาติหลุบลง ทำหน้ามุ่ยมองค้อนนิดหน่อยแก้อาการขัดเขินที่เกิดบนใบหน้า
"งั้นเลิกถ่อมตัวก็ได้ครับ"
"ยอมรับก็ได้ว่าเก่งครับ"
ชินระยกมือยอมแพ้
เขาเท้าคางฟังสิ่งที่คุณเอ่ยเงียบๆ ตาสีแดงชาดทอประกายวาวพร้อมขยับยิ้มอ่อนตอนได้ยิน
คำขอบคุณมากมายพรั่งพรูออกไป ดวงตาสีชาติหลุบลง ทำหน้ามุ่ยมองค้อนนิดหน่อยแก้อาการขัดเขินที่เกิดบนใบหน้า
"งั้นเลิกถ่อมตัวก็ได้ครับ"
"ยอมรับก็ได้ว่าเก่งครับ"
ชินระยกมือยอมแพ้
เขาเท้าคางฟังสิ่งที่คุณเอ่ยเงียบๆ ตาสีแดงชาดทอประกายวาวพร้อมขยับยิ้มอ่อนตอนได้ยิน
เห็นคุณมายืนบังลมให้ก็ร้องโธ่ออกมา อาจเป็นเขามากกว่าที่บังลมให้คุณเพราะหัวเขาเลยคุณไปตั้งหลายเซ็น แต่อย่างน้อยผ้าพันคอก็ทำให้หนาวน้อยลงล่ะนะ
เขากวาดตามองรอบๆไปพลาง มาทีไรดอกไม้ละลานตาขึ้นทุกปี ปีนี้ก็ด้วย พลางนึกสงสัยว่าเพราะงบเยอะรึเปล่าหนอ
จนอีกคนเรียกถ่ายรูปเขาก็กางขาออกให้พอดีอีกคน แล้วเอียงหัวหาจนแทบชิด
"ได้ไหมแบบนี้"
เห็นคุณมายืนบังลมให้ก็ร้องโธ่ออกมา อาจเป็นเขามากกว่าที่บังลมให้คุณเพราะหัวเขาเลยคุณไปตั้งหลายเซ็น แต่อย่างน้อยผ้าพันคอก็ทำให้หนาวน้อยลงล่ะนะ
เขากวาดตามองรอบๆไปพลาง มาทีไรดอกไม้ละลานตาขึ้นทุกปี ปีนี้ก็ด้วย พลางนึกสงสัยว่าเพราะงบเยอะรึเปล่าหนอ
จนอีกคนเรียกถ่ายรูปเขาก็กางขาออกให้พอดีอีกคน แล้วเอียงหัวหาจนแทบชิด
"ได้ไหมแบบนี้"
"ก็เลยไม่กังวลอะไรแล้วล่ะครับ ฮะฮะ เขียนยากหน่อยแต่ก็หวังว่าคุณจะชอบที่มีมันในชื่อหลังจากนี้นะ"
"ก็เลยไม่กังวลอะไรแล้วล่ะครับ ฮะฮะ เขียนยากหน่อยแต่ก็หวังว่าคุณจะชอบที่มีมันในชื่อหลังจากนี้นะ"
จั๊กจี้
อยากพูดแบบนั้นหรอกแต่ท่าทีน่ารักนี่ปล่อยไปเสียดายแย่
"ฮะฮะ คุณบอกผมรอบที่เท่าไหร่แล้วกันครับ แต่ผมก็ดีใจที่ได้แต่งงานกับคุณเหมือนกันนะ"
เขาเลิกคิ้ว
"บางครั้งผมก็คิดนะครับ"
"ว่ามันดีแล้วรึเปล่านะที่ให้คุณมาใช้นามสกุลผม — เป็นนักสาปแช่งนี่นา" เขายังหรี่ตามองแต่ด้วยรอยยิ้มที่ดูอ่อนลง "แต่ว่า
จั๊กจี้
อยากพูดแบบนั้นหรอกแต่ท่าทีน่ารักนี่ปล่อยไปเสียดายแย่
"ฮะฮะ คุณบอกผมรอบที่เท่าไหร่แล้วกันครับ แต่ผมก็ดีใจที่ได้แต่งงานกับคุณเหมือนกันนะ"
เขาเลิกคิ้ว
"บางครั้งผมก็คิดนะครับ"
"ว่ามันดีแล้วรึเปล่านะที่ให้คุณมาใช้นามสกุลผม — เป็นนักสาปแช่งนี่นา" เขายังหรี่ตามองแต่ด้วยรอยยิ้มที่ดูอ่อนลง "แต่ว่า
เขาพลิกตัวหา เท้าแขนค้ำหัวตัวเอง
"ก็ได้คุยกันจนได้นี่ครับ"
"โธ่ เมื่อไหร่เธอจะเลิกชมผมกัน เล่นเอาผมไม่อยากถ่อมตัวแล้วครับ" ทำได้แค่หัวเราะแก้เขินกับอีกคนไปเท่านั้น ดวงตาสีชาดหรี่ลงมอง วาดยิ้มค้าง
เขาพลิกตัวหา เท้าแขนค้ำหัวตัวเอง
"ก็ได้คุยกันจนได้นี่ครับ"
"โธ่ เมื่อไหร่เธอจะเลิกชมผมกัน เล่นเอาผมไม่อยากถ่อมตัวแล้วครับ" ทำได้แค่หัวเราะแก้เขินกับอีกคนไปเท่านั้น ดวงตาสีชาดหรี่ลงมอง วาดยิ้มค้าง
"ผมไม่เคยจินตนาการเหมือนกันว่าจะได้แต่งงานกันจริงๆ ดีจังนะครับ.. ที่อยู่มาจนวันนี้ได้"
"ผมไม่เคยจินตนาการเหมือนกันว่าจะได้แต่งงานกันจริงๆ ดีจังนะครับ.. ที่อยู่มาจนวันนี้ได้"
เพราะงั้นตอนอีกฝ่ายหันมา ตาสีชาดถึงปริบเบาๆตอบให้รับรู้
"ครับ?" ได้ยินคำที่หยิบขึ้นมาเสียงหัวเรสะเอ็นดูก็ดังขึ้น "ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละครับ เรามาถึงวันนี้ได้จริงๆนี่"
"อืม สิบปี... นานเหมือนกันนะครับ" เขาหลับตานึก "ยังจำวันที่เราเจอกันครั้งแรกได้อยู่เลยครับ ทั้งที่ผ่านมานานแล้วแท้ๆ แต่ก็ผ่านอะไรมาจนถึงวันนี้จนได้"
"เห.."
"แต่นี่ไม่ใช่ความฝันนะครับ"
เพราะงั้นตอนอีกฝ่ายหันมา ตาสีชาดถึงปริบเบาๆตอบให้รับรู้
"ครับ?" ได้ยินคำที่หยิบขึ้นมาเสียงหัวเรสะเอ็นดูก็ดังขึ้น "ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละครับ เรามาถึงวันนี้ได้จริงๆนี่"
"อืม สิบปี... นานเหมือนกันนะครับ" เขาหลับตานึก "ยังจำวันที่เราเจอกันครั้งแรกได้อยู่เลยครับ ทั้งที่ผ่านมานานแล้วแท้ๆ แต่ก็ผ่านอะไรมาจนถึงวันนี้จนได้"
"เห.."
"แต่นี่ไม่ใช่ความฝันนะครับ"
ผ่านประตูมาก็เจอกับสวนดอกไม้ละลานตา ไล่สีสวยงาม มีนักท่องเที่ยงแวะมาประปราย
"เราเดินไปเรื่อยๆตามทางแล้วกันครับ"
ผ่านประตูมาก็เจอกับสวนดอกไม้ละลานตา ไล่สีสวยงาม มีนักท่องเที่ยงแวะมาประปราย
"เราเดินไปเรื่อยๆตามทางแล้วกันครับ"
"ยังไม่เอียนหรอกครับ เนโมฟีลาที่คูเมอิก็สวยแต่ก็ให้ความรู้สึกคนละแบบกับที่อิบารากินี่นา?" เพราะงั้นมองได้ตลอด ไม่เบื่อหรอก "เอาสิ คราวหน้าไปกันครับ"
มองท่าทีคุณก็หัวเราะเอ็นดู
"ฮะๆ เป็นดอกไม้หน้าหนาวนี่นา ส่วนเราน่ะคงทำแบบนั้นตอนหน้าหนาวไม่ไหวหรอก" แค่ตอนนี้เอาหน้ารับลมก็รู้สึกหน้าแห้งพิลึกจนแสบผิว
"ยังไม่เอียนหรอกครับ เนโมฟีลาที่คูเมอิก็สวยแต่ก็ให้ความรู้สึกคนละแบบกับที่อิบารากินี่นา?" เพราะงั้นมองได้ตลอด ไม่เบื่อหรอก "เอาสิ คราวหน้าไปกันครับ"
มองท่าทีคุณก็หัวเราะเอ็นดู
"ฮะๆ เป็นดอกไม้หน้าหนาวนี่นา ส่วนเราน่ะคงทำแบบนั้นตอนหน้าหนาวไม่ไหวหรอก" แค่ตอนนี้เอาหน้ารับลมก็รู้สึกหน้าแห้งพิลึกจนแสบผิว