อากิโกะรับเค้กจากแมรี่ แล้วใช้ช้อนส้อมตักกินอย่างเงียบๆ แน่นอนเค้กรสชาติดีมากถึงขนาดสามารถทำให้อากิโกะเพลิดเพลินได้
แต่ทันใดนั้นเอง อากิโกะก็นึกถึงคำพูดของโซวตันเมื่อตะกี้
‘อ๊ะ ของขวัญงั้นเหรอ แย่ละสิ ลืมไปเลย ทำไงดีเนี่ย’
แล้วปากที่กำลังเพลิดเพลินกับเค้กอยู่นั้นก็ได้หยุดลงไปครู่หนึ่ง พร้อมกับเหงื่อหยดเล็กๆที่ไหลผ่านแก้มข้างซ้าย
@kmi-marry.bsky.social
อากิโกะรับเค้กจากแมรี่ แล้วใช้ช้อนส้อมตักกินอย่างเงียบๆ แน่นอนเค้กรสชาติดีมากถึงขนาดสามารถทำให้อากิโกะเพลิดเพลินได้
แต่ทันใดนั้นเอง อากิโกะก็นึกถึงคำพูดของโซวตันเมื่อตะกี้
‘อ๊ะ ของขวัญงั้นเหรอ แย่ละสิ ลืมไปเลย ทำไงดีเนี่ย’
แล้วปากที่กำลังเพลิดเพลินกับเค้กอยู่นั้นก็ได้หยุดลงไปครู่หนึ่ง พร้อมกับเหงื่อหยดเล็กๆที่ไหลผ่านแก้มข้างซ้าย
@kmi-marry.bsky.social
”ส สะ..สุขสันต์วันเกิดนะ แมรี่...“
‘ครั้งล่าสุดที่พูดสุขสันต์วันเกิดให้คนอื่นนี่เมื่อไรกันนะ? หรือไม่เคยเลยหว่า... ไม่ชินเลยแฮะ’
อากิโกะได้คิดในหัว หลังจากพูดสุขสันต์วันเกิดอย่างตะกุกตะกัก
@kmi-marry.bsky.social
”ส สะ..สุขสันต์วันเกิดนะ แมรี่...“
‘ครั้งล่าสุดที่พูดสุขสันต์วันเกิดให้คนอื่นนี่เมื่อไรกันนะ? หรือไม่เคยเลยหว่า... ไม่ชินเลยแฮะ’
อากิโกะได้คิดในหัว หลังจากพูดสุขสันต์วันเกิดอย่างตะกุกตะกัก
@kmi-marry.bsky.social
เด็กสาวบอกแบบนั้น พร้อมกับกำลังเดินมุ่งหน้าไปห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับหอประชุม(โรงยิม) เพื่อที่จะเตรียมตัวก่อนจะเข้าพิธีเปิดภาคเรียนที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่นาน
เด็กสาวบอกแบบนั้น พร้อมกับกำลังเดินมุ่งหน้าไปห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับหอประชุม(โรงยิม) เพื่อที่จะเตรียมตัวก่อนจะเข้าพิธีเปิดภาคเรียนที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่นาน
อากิโกะคิดในใจหลังจากได้ยินดังนั้น
ห้อง 2-D กับ 2-E น่าจะอยู่ใกล้ๆกัน
คงมีโอกาสได้เจอหน้ากันอีกบ่อยแน่ๆ
“งั้นถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็มาหาได้ที่ห้องได้เสมอนะ”
อากิโกะพูดไปแบบนั้น
ก่อนที่ใจจดจ่อจะไปที่พิธีเปิดเรียนอย่างที่ควรจะเป็น
อากิโกะคิดในใจหลังจากได้ยินดังนั้น
ห้อง 2-D กับ 2-E น่าจะอยู่ใกล้ๆกัน
คงมีโอกาสได้เจอหน้ากันอีกบ่อยแน่ๆ
“งั้นถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็มาหาได้ที่ห้องได้เสมอนะ”
อากิโกะพูดไปแบบนั้น
ก่อนที่ใจจดจ่อจะไปที่พิธีเปิดเรียนอย่างที่ควรจะเป็น
‘อาา... แบบนี้มันยุ่งยากชะมัด
เราเองก็เป็นฝ่ายมี่ถูกช่วยไว้ด้วย แบบนี้ เราก็ควรเป็นฝ่ายแนะนำตัวก่อนสินะ... อืม... งั้นก็..’
“ฉัน โฮชิเอะ อากิโกะ ปี 2 ห้อง D”
"แล้วนายล่ะ?"
เด็กสาวพูดแนะนำตัวกับชายแปลกที่อยู่ข้างๆ
‘จะทำความรู้จักกัน พูดแบบนี้คงได้สินะ’
เด็กสาวคิดแบบนั้นในใจ ระหว่างรอฝ่ายตรงข้ามตอบกลับ
‘อาา... แบบนี้มันยุ่งยากชะมัด
เราเองก็เป็นฝ่ายมี่ถูกช่วยไว้ด้วย แบบนี้ เราก็ควรเป็นฝ่ายแนะนำตัวก่อนสินะ... อืม... งั้นก็..’
“ฉัน โฮชิเอะ อากิโกะ ปี 2 ห้อง D”
"แล้วนายล่ะ?"
เด็กสาวพูดแนะนำตัวกับชายแปลกที่อยู่ข้างๆ
‘จะทำความรู้จักกัน พูดแบบนี้คงได้สินะ’
เด็กสาวคิดแบบนั้นในใจ ระหว่างรอฝ่ายตรงข้ามตอบกลับ
เด็กสาวตอบกลับไปดังนั้น ด้วยสีหน้าเจื่อนๆนิดหน่อย
ลูกอมเปรี๊ยวนั่นคงจะรับมือยากเกินไปสำหรับเธอ
“แล้วก็ ฉันเป็นพวกไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใครน่ะ เพราะงั้นเดี๋ยวจะหาทางใช้คืนให้แน่นอน”
ด้วยความที่ค่ามนุษย์สัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีของเด็กสาว และไม่ค่อยที่จะเข้าหาคนอื่นเสียเท่าไหร่
เด็กสาวเพิ่งจะนึกได้ว่า คุยกันมาขนาดนี้ยังไม่ได้แนะนำตัวให้กันเลย
(+)
เด็กสาวตอบกลับไปดังนั้น ด้วยสีหน้าเจื่อนๆนิดหน่อย
ลูกอมเปรี๊ยวนั่นคงจะรับมือยากเกินไปสำหรับเธอ
“แล้วก็ ฉันเป็นพวกไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใครน่ะ เพราะงั้นเดี๋ยวจะหาทางใช้คืนให้แน่นอน”
ด้วยความที่ค่ามนุษย์สัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีของเด็กสาว และไม่ค่อยที่จะเข้าหาคนอื่นเสียเท่าไหร่
เด็กสาวเพิ่งจะนึกได้ว่า คุยกันมาขนาดนี้ยังไม่ได้แนะนำตัวให้กันเลย
(+)
“ขอบใจมาก ช่วยได้เยอะเลย”
เด็กสาวที่ตื่นจากความเปรี๊ยวของลูกอมได้กล่าวขอบคุณเบาๆพร้อมกับลูกอมที่ยังอยู่ในปาก
“ถ้ามีโอกาส ไว้จะตอบแทนให้ ฉันสัญญา”
“ขอบใจมาก ช่วยได้เยอะเลย”
เด็กสาวที่ตื่นจากความเปรี๊ยวของลูกอมได้กล่าวขอบคุณเบาๆพร้อมกับลูกอมที่ยังอยู่ในปาก
“ถ้ามีโอกาส ไว้จะตอบแทนให้ ฉันสัญญา”
“อื้มมมม!!”
เป็นเสียงแหลมๆที่อยู่ในลำคอของสาวน้อยที่รับรสเปรี๊ยวของลูกอมนั่น
ดูเหมือนว่าจะพยายามกลั้นเสียงไว้อย่างสุดชีวิต
แต่ถึงกระนั้น เสียงนั่นก็ดังพอจะให้คนรอบข้างที่อยู่ใกล้ๆได้ยินได้อยู่ดี
เด็กสาวจึงได้ลูกอมเปรี๊ยวของชายแปลกหน้าช่วยไว้จากความง่วงนอน
(+)
“อื้มมมม!!”
เป็นเสียงแหลมๆที่อยู่ในลำคอของสาวน้อยที่รับรสเปรี๊ยวของลูกอมนั่น
ดูเหมือนว่าจะพยายามกลั้นเสียงไว้อย่างสุดชีวิต
แต่ถึงกระนั้น เสียงนั่นก็ดังพอจะให้คนรอบข้างที่อยู่ใกล้ๆได้ยินได้อยู่ดี
เด็กสาวจึงได้ลูกอมเปรี๊ยวของชายแปลกหน้าช่วยไว้จากความง่วงนอน
(+)
เสียงตอบเบาๆของเด็กสาวที่กำลังง่วงนอน พร้อมกับรับลูกอมนั้นไว้
‘ตอนนี้ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น ถ้ามันจะช่วยให้หายง่วงนอนได้ล่ะก็‘
เด็กสาวคิดแบบนั้นใจ พร้อมกับกำลังแกะลูกอมเข้าปาก
ในขณะที่ปลายลิ้นได้สัมผัสลูกอมและเข้าปากไป
(+)
เสียงตอบเบาๆของเด็กสาวที่กำลังง่วงนอน พร้อมกับรับลูกอมนั้นไว้
‘ตอนนี้ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น ถ้ามันจะช่วยให้หายง่วงนอนได้ล่ะก็‘
เด็กสาวคิดแบบนั้นใจ พร้อมกับกำลังแกะลูกอมเข้าปาก
ในขณะที่ปลายลิ้นได้สัมผัสลูกอมและเข้าปากไป
(+)
‘ทำไมสีหน้าของเขามันนิ่งแบบนั้นล่ะ!? เขาได้ยินที่เราพูดด้วยเหรอ? ลูกอมนั่นเขาตั้งใจจะให้ฉันรึเปล่า? แต่ไม่เคยรู้กันนี่นา หรือเราคิดไปเอง?? ’
เด็กสาวได้หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจถามฝ่ายตรงข้ามด้วยเสียงเบาๆ
“เอ่อ... คือ... ลูกอมนั่น.....”
‘ทำไมสีหน้าของเขามันนิ่งแบบนั้นล่ะ!? เขาได้ยินที่เราพูดด้วยเหรอ? ลูกอมนั่นเขาตั้งใจจะให้ฉันรึเปล่า? แต่ไม่เคยรู้กันนี่นา หรือเราคิดไปเอง?? ’
เด็กสาวได้หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจถามฝ่ายตรงข้ามด้วยเสียงเบาๆ
“เอ่อ... คือ... ลูกอมนั่น.....”
แต่ขณะที่กำลังยื่นมือออกไปนั้นเอง เด็กสาวได้ชำเลืองมองขึ้นไปยังคนที่ถือลูกอมนั่น เป็นชายรูปร่างสูง สูงถึงขนาดที่เด็กสาวจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของเขา
(+)
แต่ขณะที่กำลังยื่นมือออกไปนั้นเอง เด็กสาวได้ชำเลืองมองขึ้นไปยังคนที่ถือลูกอมนั่น เป็นชายรูปร่างสูง สูงถึงขนาดที่เด็กสาวจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าของเขา
(+)
สิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นอย่างแรก คือลูกอมที่ห่อด้วยกระดาษสีเหลืองสะดุดตาบนฝ่ามือของใครบางคน
เด็กสาวรู้จักสิ่งนั้นดี มันคือลูกอมเปรี๊ยวจี๊ดที่น่าจะสามารถช่วยเด็กจากสถานการณ์นี้ได้นั่นเอง
(+)
สิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นอย่างแรก คือลูกอมที่ห่อด้วยกระดาษสีเหลืองสะดุดตาบนฝ่ามือของใครบางคน
เด็กสาวรู้จักสิ่งนั้นดี มันคือลูกอมเปรี๊ยวจี๊ดที่น่าจะสามารถช่วยเด็กจากสถานการณ์นี้ได้นั่นเอง
(+)
"ไม่ไหวแล้ววว... อย่างน้อยถ้ามีอะไรสักอย่างเปรี๊ยวๆเข้าปากล่ะก็...."
"ไม่ไหวแล้ววว... อย่างน้อยถ้ามีอะไรสักอย่างเปรี๊ยวๆเข้าปากล่ะก็...."
เด็กสาวคนนั้นจึงพยายามฝืนตัวเองให้รอดผ่านพิธีเปิดไปให้ได่
แต่ในขณะนั้น นักเรียนคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆ(คุณ) ก็สังเกตเห็นถึงอาการที่ผิดปกติของเด็กสาวคนนั้นจึงได้...
เด็กสาวคนนั้นจึงพยายามฝืนตัวเองให้รอดผ่านพิธีเปิดไปให้ได่
แต่ในขณะนั้น นักเรียนคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆ(คุณ) ก็สังเกตเห็นถึงอาการที่ผิดปกติของเด็กสาวคนนั้นจึงได้...
เมื่อได้ยินดังนั้นอากิโกะจึงรู้สึกแปลกใจ
‘นึกว่าเป็นเด็กปีหนึ่งเสียอีก แต่ก็ช่างม้นเถอะ’
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันไปนะ เดี๋ยวก็จะถึงเวลาเข้าหอประชุมแล้ว เธอเองก็ไปเตรียมตัวซะล่ะ”
อากิโกะกล่าวบอกลาดังนั้นในขณะที่กำลังเดินออกห่างจากสาวผมทองไปเรื่อยๆ
เมื่อได้ยินดังนั้นอากิโกะจึงรู้สึกแปลกใจ
‘นึกว่าเป็นเด็กปีหนึ่งเสียอีก แต่ก็ช่างม้นเถอะ’
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันไปนะ เดี๋ยวก็จะถึงเวลาเข้าหอประชุมแล้ว เธอเองก็ไปเตรียมตัวซะล่ะ”
อากิโกะกล่าวบอกลาดังนั้นในขณะที่กำลังเดินออกห่างจากสาวผมทองไปเรื่อยๆ
อากิโกะตอบไปแบบห้วนๆ พร้อมกับถามเด็กสาวผมทองกลับเช่นเดียวกัน
“แล้วเธอล่ะ”
อากิโกะตอบไปแบบห้วนๆ พร้อมกับถามเด็กสาวผมทองกลับเช่นเดียวกัน
“แล้วเธอล่ะ”
“ถ้าไปไม่รังเกียจ เดี๋ยวทางนี้ช่วยนำทางให้ได้นะ”
อากิโกะเสนอแนะไป เพราะคิดว่าเป็นเด็กปีหนึ่ง อาจจะไม่รู้จักสถานที่ต่างๆในโรงเรียนมากนัก จึงเสนอตัวนำทางไปสหกรณ์ที่อยู่บนอาคารปี 1 ด้วยตัวเอง
“ถ้าไปไม่รังเกียจ เดี๋ยวทางนี้ช่วยนำทางให้ได้นะ”
อากิโกะเสนอแนะไป เพราะคิดว่าเป็นเด็กปีหนึ่ง อาจจะไม่รู้จักสถานที่ต่างๆในโรงเรียนมากนัก จึงเสนอตัวนำทางไปสหกรณ์ที่อยู่บนอาคารปี 1 ด้วยตัวเอง
ในระยะสายตาที่ไม่ห่างกันมาก อากิโกะเห็นนักเรียนหญิงผมทองยืนอยู่ใกล้ๆประตูโรงเรียน
‘เด็กปีหนึ่งหรอ.... หืม? ดูเหมือนกำลังลนลานอะไรอยู่ด้วย.... ว่าแต่ผมสีทองนั่นสวยเป็นบ้าเลยให้ตายสิ ลองเข้าไปคุยสักหน่อยดีกว่า. ‘
“นี่! เธอน่ะเป็นอะไรรึเปล่าตัวสั่นเชียว ไม่สบายรึเปล่า”
ในระยะสายตาที่ไม่ห่างกันมาก อากิโกะเห็นนักเรียนหญิงผมทองยืนอยู่ใกล้ๆประตูโรงเรียน
‘เด็กปีหนึ่งหรอ.... หืม? ดูเหมือนกำลังลนลานอะไรอยู่ด้วย.... ว่าแต่ผมสีทองนั่นสวยเป็นบ้าเลยให้ตายสิ ลองเข้าไปคุยสักหน่อยดีกว่า. ‘
“นี่! เธอน่ะเป็นอะไรรึเปล่าตัวสั่นเชียว ไม่สบายรึเปล่า”