เค็นโซอิจิส่งเสียงขานรับ ไม่ได้เป็นคำพูด แต่ทำท่าทางเชิดอกยืนตัวตรงเหมือนทหารจัดแถว โค้มศีรษะอีกรอบเป็นคำขอบคุณ กำลังจะเดินไปประคองจักรยาน แต่ก็นึกขึ้นได้จึงหันกลับมา
มือล้วงไปหยิบพลาสเตอร์ปิดแผลมายื่นให้อีกคน พลางเขียนโน้ต
'ผมไม่มีอะไรเลย แต่อยากให้น่ะครับ เผื่อซ่อมจักรยานแล้วเกิดเป็นแผลจะได้ใช้'
เค็นโซอิจิส่งเสียงขานรับ ไม่ได้เป็นคำพูด แต่ทำท่าทางเชิดอกยืนตัวตรงเหมือนทหารจัดแถว โค้มศีรษะอีกรอบเป็นคำขอบคุณ กำลังจะเดินไปประคองจักรยาน แต่ก็นึกขึ้นได้จึงหันกลับมา
มือล้วงไปหยิบพลาสเตอร์ปิดแผลมายื่นให้อีกคน พลางเขียนโน้ต
'ผมไม่มีอะไรเลย แต่อยากให้น่ะครับ เผื่อซ่อมจักรยานแล้วเกิดเป็นแผลจะได้ใช้'
'ผมเค็นโซอิจิ โอโนะซึกะครับ ฝากตัวด้วยนะครับ'
แล้วก็โค้มศีรษะลงเป็นการทักทายอย่างเป็นทางการอีกที พอตัวตรงแล้วก็มองผมของคนตรงหน้า เท่จังเลยแฮะ
จบประโยคอีกคนก็พลางคิดในใจ ถึงจะดูเป็นคนห้าว แต่แท้จริงก็ดูเป็นคนที่เป็นห่วงคนอื่นดีจัง
(+)
'ผมเค็นโซอิจิ โอโนะซึกะครับ ฝากตัวด้วยนะครับ'
แล้วก็โค้มศีรษะลงเป็นการทักทายอย่างเป็นทางการอีกที พอตัวตรงแล้วก็มองผมของคนตรงหน้า เท่จังเลยแฮะ
จบประโยคอีกคนก็พลางคิดในใจ ถึงจะดูเป็นคนห้าว แต่แท้จริงก็ดูเป็นคนที่เป็นห่วงคนอื่นดีจัง
(+)
อย่าลืมมาเช็คก่อนเข้าร่วมพิธีกันล่ะ !
bit.ly/3M6rrJm
อย่าลืมมาเช็คก่อนเข้าร่วมพิธีกันล่ะ !
bit.ly/3M6rrJm
จึงได้กลายเป็นประโยคอีกอันนี้ขึ้นมา ไว้ค่อยอธิบายคุณอาทีหลังก็ได้ว่าทำไมมีคุณตำรวจมาส่งที่บ้าน ดีกว่าจักรยานไปล้มอยู่อีกสักที่ ดูๆ โควต้าดวงดีวันนี้คงหมดไปแล้ว
จึงได้กลายเป็นประโยคอีกอันนี้ขึ้นมา ไว้ค่อยอธิบายคุณอาทีหลังก็ได้ว่าทำไมมีคุณตำรวจมาส่งที่บ้าน ดีกว่าจักรยานไปล้มอยู่อีกสักที่ ดูๆ โควต้าดวงดีวันนี้คงหมดไปแล้ว
ได้ยินคำถามดังนั้นก็ทำท่าทางเกรงใจ พลันก้มหน้าลงไปเขียนโน้ต แต่เขียนไปสักพักก็เริ่มชะงัก กลอกตาไปมาเหมือนกำลังคิดอะไร ว่าแล้วก็พลิกเปลี่ยนหน้ากระดาษ แล้วเขียนใหม่
‘ได้งั้นเหรอครับ? จะรบกวนคุณตำรวจไปไหมนะ...‘
(+)
ได้ยินคำถามดังนั้นก็ทำท่าทางเกรงใจ พลันก้มหน้าลงไปเขียนโน้ต แต่เขียนไปสักพักก็เริ่มชะงัก กลอกตาไปมาเหมือนกำลังคิดอะไร ว่าแล้วก็พลิกเปลี่ยนหน้ากระดาษ แล้วเขียนใหม่
‘ได้งั้นเหรอครับ? จะรบกวนคุณตำรวจไปไหมนะ...‘
(+)
เดินไปคิดไปว่าเดี๋ยวควได้เจอกันที่โรงเรียนบ้างแล้วสินะ ตั้วตารอไม่ไหวแล้ว
(เย่ะะ ขอขอบคุณที่เล่นด้วยกันนะคะะ รุ่นพี่เจอน้องหมาเฝัาอีกเมื่อไหร่ sos หาเค็นโซได้เล้ยย!!!)
เดินไปคิดไปว่าเดี๋ยวควได้เจอกันที่โรงเรียนบ้างแล้วสินะ ตั้วตารอไม่ไหวแล้ว
(เย่ะะ ขอขอบคุณที่เล่นด้วยกันนะคะะ รุ่นพี่เจอน้องหมาเฝัาอีกเมื่อไหร่ sos หาเค็นโซได้เล้ยย!!!)
’พอพูดถึงก็อยากกินเลย ไว้ผมทำพาสต้าเป็นมื้อเย็นดีกว่า‘
กลายเป็นได้ไอเดียเมนูจากอีกคนไปโดยปริยาย ไม่นานนักก็เดินมาถึงตลาด เดินไปอีกทางสักหน่อยก็เป็นที่ตั้งของร้านรวงต่างๆ เห็นทีคงได้แยกกันตรงนี้
’ขอบคุณสำหรับเช้านี้นะครับ ได้รู้จักรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน ดีใจมากเลย‘
ชูโน้ตพลางยิ้มจนตาปิด
’พอพูดถึงก็อยากกินเลย ไว้ผมทำพาสต้าเป็นมื้อเย็นดีกว่า‘
กลายเป็นได้ไอเดียเมนูจากอีกคนไปโดยปริยาย ไม่นานนักก็เดินมาถึงตลาด เดินไปอีกทางสักหน่อยก็เป็นที่ตั้งของร้านรวงต่างๆ เห็นทีคงได้แยกกันตรงนี้
’ขอบคุณสำหรับเช้านี้นะครับ ได้รู้จักรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน ดีใจมากเลย‘
ชูโน้ตพลางยิ้มจนตาปิด
ได้ยินคำถามก็ทำท่าครุ่นคิดไปสักครู่นึง
‘ผมว่าคงไปร้านข้าวปั้นน่ะครับ หิ้วไปกินที่อื่นง่ายดี และว่าจะซื้อข้าวปั้นไปฝากคนที่บ้านสักหน่อยด้วย’
เขาชูกระดาษขึ้นมา เรียกว่าเป็นเมนูที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เพราะถึงพอเบื่อก็แค่เปลี่ยนไส้ข้าวปั้นเท่านั้นเอง
(+)
ได้ยินคำถามก็ทำท่าครุ่นคิดไปสักครู่นึง
‘ผมว่าคงไปร้านข้าวปั้นน่ะครับ หิ้วไปกินที่อื่นง่ายดี และว่าจะซื้อข้าวปั้นไปฝากคนที่บ้านสักหน่อยด้วย’
เขาชูกระดาษขึ้นมา เรียกว่าเป็นเมนูที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เพราะถึงพอเบื่อก็แค่เปลี่ยนไส้ข้าวปั้นเท่านั้นเอง
(+)
‘ก็มีจักรยานล้ม สะดุดเชือกรองเท้าล้ม กระดาษบาด ผึ้งต่อย เดินชนเสาบ้างน่ะครับ แต่รถก็ไม่ได้ล้มบ่อยขนาดนั้นหรอกครับ‘
เหมือนจะอยากต่อท้ายด้วยคำว่า มั้ง? แต่ก็ไม่ได้เขียนลงไป ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกซุ่มซ่ามหรือดวงซวยดี
‘ก็มีจักรยานล้ม สะดุดเชือกรองเท้าล้ม กระดาษบาด ผึ้งต่อย เดินชนเสาบ้างน่ะครับ แต่รถก็ไม่ได้ล้มบ่อยขนาดนั้นหรอกครับ‘
เหมือนจะอยากต่อท้ายด้วยคำว่า มั้ง? แต่ก็ไม่ได้เขียนลงไป ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกซุ่มซ่ามหรือดวงซวยดี
เจ้าตัวเอ่ยชวน แต่ถ้าหญิงสาวอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อยก็ไม่ได้ติดขัดอะไร
เจ้าตัวเอ่ยชวน แต่ถ้าหญิงสาวอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อยก็ไม่ได้ติดขัดอะไร
ได้ยินแบบนั้นแล้วเจ้าหนุ่มก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง นอกจากออกมาหาของหายยังได้เพื่อนร่วมโรงเรียนอีกคน ซ้ำยังย้ายมาจากที่เดียวกันต่างหาก
‘ถ้าเปิดเทอมแล้วคงได้เจอกันบ่อยเลย ภึงตอนนั้นอย่าลืมทักทายผมบ้างนะครับ‘
พร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตร
(+)
ได้ยินแบบนั้นแล้วเจ้าหนุ่มก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง นอกจากออกมาหาของหายยังได้เพื่อนร่วมโรงเรียนอีกคน ซ้ำยังย้ายมาจากที่เดียวกันต่างหาก
‘ถ้าเปิดเทอมแล้วคงได้เจอกันบ่อยเลย ภึงตอนนั้นอย่าลืมทักทายผมบ้างนะครับ‘
พร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตร
(+)
เจ้าหนุ่มยื่นมือสองข้างไปรับนามบัตรมาอย่างจดจ่อ สายตามองชื่อที่อยู่บนนามบัตร เหมือนลืมตัวว่าตัวเองพูดๆม่ได้เลยเผลอออกเสียงชื่อออกมา แต่ก็ไม่ได้ออกมาเป็นคำพูดอย่างที่หวังเท่าไหร่
คราวนี้ก็มองขึ้นมาเหมือนคาดหวังว่าอีกคนจะอ่านชื่อของตัวเองบนนามบัตรให้ฟังบ้าง
เป็นความชื่นชอบของเขาเองที่อยากได้ยินคนพูดชื่อจากปาก
เจ้าหนุ่มยื่นมือสองข้างไปรับนามบัตรมาอย่างจดจ่อ สายตามองชื่อที่อยู่บนนามบัตร เหมือนลืมตัวว่าตัวเองพูดๆม่ได้เลยเผลอออกเสียงชื่อออกมา แต่ก็ไม่ได้ออกมาเป็นคำพูดอย่างที่หวังเท่าไหร่
คราวนี้ก็มองขึ้นมาเหมือนคาดหวังว่าอีกคนจะอ่านชื่อของตัวเองบนนามบัตรให้ฟังบ้าง
เป็นความชื่นชอบของเขาเองที่อยากได้ยินคนพูดชื่อจากปาก
แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นเจ้าแมวตัวนั้นพอดี คงเป็นตัวตนสีดำๆที่พุ่งตัดหน้าเขาเมื่อครู่ คงทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจ จริงๆเลยนะเจ้าแมวตัวดี
แต่ก็ตามที่ว่า ไม่ได้เจ็บตัวมาก จักรยานก็มีแค่รอยขีดข่วนเล็กๆ พออยู่รวมกับรอยที่เป็นมาก่อนนี้ก็แทบไม่ได้ต่างอะไร
(+)
แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นเจ้าแมวตัวนั้นพอดี คงเป็นตัวตนสีดำๆที่พุ่งตัดหน้าเขาเมื่อครู่ คงทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจ จริงๆเลยนะเจ้าแมวตัวดี
แต่ก็ตามที่ว่า ไม่ได้เจ็บตัวมาก จักรยานก็มีแค่รอยขีดข่วนเล็กๆ พออยู่รวมกับรอยที่เป็นมาก่อนนี้ก็แทบไม่ได้ต่างอะไร
(+)
ขณะกำลังจะหยิบเงินมาจ่ายส่วนของตัวเองก็ดันถูกหญิงสาวชิงตัดหน้าไปเสียก่อน ได้แต่อ้าปากค้างมองตามเธอไปอย่างช่วยไม่ได้
มือก็รับโดรายากิมาพลางผงกศีรษะขอบคุณ อีกมือนึงก็ยื่นเหรียญตามราคาโดรายากิให้เธอด้วย ก็จะจ่ายคืนเธอนั่นแหละ
ขณะกำลังจะหยิบเงินมาจ่ายส่วนของตัวเองก็ดันถูกหญิงสาวชิงตัดหน้าไปเสียก่อน ได้แต่อ้าปากค้างมองตามเธอไปอย่างช่วยไม่ได้
มือก็รับโดรายากิมาพลางผงกศีรษะขอบคุณ อีกมือนึงก็ยื่นเหรียญตามราคาโดรายากิให้เธอด้วย ก็จะจ่ายคืนเธอนั่นแหละ