aliyachen.com/arc2.html

แต่ถ้าเราทำได้อีกหนึ่งเรื่องเราก็พอใจแล้ว และตอนนี้เราก็กำลังคืบหน้าอยู่”

“ตอนนี้ผมมีบ้านอยู่ที่ออสติน เท็กซัส ห่างจากบ้านของ Robert ประมาณสามไมล์ ผมคิดว่าพอผมปิดงานมิกซ์ตรงนี้เสร็จ [Avatar: Fire and Ash] ในอีกไม่กี่สัปดาห์ เราก็น่าจะเริ่มจริงจังกับเรื่องนี้มากขึ้น”

🔗: Empire

aliyachen.com/arc2.html

ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงที่พวกเขากำลังจับตาดูตัวเลขอยู่ ดังนั้นอย่าดองไว้เพื่อไปดูปีหน้า เปิด Prime Video แล้วดูตอนนี้เลย ถ้าคนดูเยอะพอ เราก็จะได้ทำซีซั่น 3"

“Vought Rising ซีซั่น 1 ก็เหมือนกัน เรามีแผนจะทำซีซั่น 2 ถ้าทำได้ พวกเขาสนับสนุนเรามาตลอดและให้โอกาสเราเต็มที่ แต่สุดท้ายมันก็คือธุรกิจ และเราต้องทำผลงานให้ได้ด้วย ก็หวังว่าผู้ชมจะเข้ามาดูกันนะ”

🔗: TheWrap

แต่การแสดง กับจังหวะ มันไม่ได้จริงๆ เว้ย5555 ผมไม่ได้อยากว่าเลยนะ แต่ผมไม่คิดว่าหนังมันจะออกมาแย่ขนาดนี้ ผมถึงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมมันหลุดออกมาได้ ไม่มีใครคอยคุม quality เลยหรอ

นั่นแหละ เอาจริงๆ อยากให้ทุกคนไปดู ว่าคิดเหมือนผมไหม คือมันอาการหนักจริงๆ หนังแม่งไม่มีอะไรเวิร์คสักอย่าง โคตรเสียดายตังเลย ละยาวด้วยนะประเด็น 2 ชั่วโมงกว่า เนื้อหามีเท่าหยิบมือ

แต่บทไม่ส่งนักแสดงเลย บทพูดไม่มีอะไรให้พูด เนื้อเรื่องก็ไม่ค่อยมีอะไรให้เกิดขึ้น กลายเป็นว่าหนังก็เลยไม่ค่อยมีอะไรให้เราสนใจเลย มันจืดไปหม๊ดดด

อีกอย่าง บทจืดไม่พอ บทพูดโคตรจะเบียว Setting ของหนังคือไม่ผ่านมาก ตัวละครในเรื่องคือเป็นระดับผู้ใหญ่วัยทำงาน แต่ทุกคนทำตัวเหมือนเด็ก high school ที่ยังคิดหรือทำอะไรไม่เป็น มีหลายๆ อย่างที่เข้าขั้น cringe พยายามจะเท่

ที่ตัวละครจะเจอกันก็เจอกันดื้อๆ โทนของหนังสวิงกิ้งไปมา ธีมของเรื่องก็เล่ามั่ว ทั้งจะเล่นประเด็นเพลง ประเด็นสามเศร้า ประเด็นเกย์ สุดท้ายไม่มีอะไรลงตัวซักอย่าง แถมดำเนินเรื่องได้น่าเบื่อมากๆ

และการกำกับคือ ดูเหมือนเล่าเรื่องไม่เป็น ดูไม่มีสไตล์ มันดูไม่สนุกอะ มันจืดชืดไปหมด ยิ่งบทพูดคืออาการหนักมาก งานตัวละครย่ำแย่ ไม่น่าสนใจเลย ทั้งๆ ที่หนังตั้งใจเล่าเรื่อง 2 ตัวละครหลักนี้

aliyachen.com/arc2.html

ดังนั้น ถ้าจะมี The Black Phone 3 มันจะต้องเป็นการเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง แบบพลิกใหญ่ๆ เลย ไม่งั้นผมก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะทำมันเลย”

🔗: Collider

ส่วนหนึ่งคือความสนุกที่ได้กลับไปเจอตัวละครหรือวายร้ายในตำนานที่เราอยากเห็นอีก แต่สำหรับผม ผมสนใจงานที่มีความสดใหม่ กล้าหาญ และคาดไม่ถึงมากกว่า

ผมคิดว่าที่หนังภาคนี้ได้รับเสียงตอบรับดี ส่วนใหญ่เป็นเพราะมัน 'แตกต่าง' มาก แน่นอนว่าบางคนก็ไม่ชอบเพราะมันต่างไปจากภาคแรก ซึ่งผมเข้าใจได้ ถ้าคุณอยากได้อะไรที่เหมือนเดิมมากกว่า แต่แบบนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจ

ตัวอย่างสมมตินะ: ถ้าคุณฆ่าไมค์ มันก็จะทำให้ซีรี่ส์ดูหม่นหมองและเศร้ามากๆ และเรื่องราวทั้งหมดก็จะกลายเป็นเกี่ยวกับเรื่องนั้นทันที
แม้แต่ตัวละครสมทบอย่าง เอ็ดดี้ บ๊อบ หรือบาร์บ ก็ยังมีผลกระทบยาวนานต่อเหล่าตัวละครของเราอยู่ดี”

“เราพยายามระมัดระวัง ถ้ามีการตายเกิดขึ้น มันต้องมีผลกระทบจริงๆ เพราะฉะนั้นเราต้องระวังว่าเราจะทำเมื่อไหร่ และบ่อยแค่ไหน”

🔗: Entertainment Weekly

และต้องไม่ฆ่าตัวละครให้คนช็อกเล่นเฉยๆ

ส่วนสตีฟ เคยเกือบโดนเขียนให้ตายตั้งแต่ซีซั่น 1 แต่ทีมงานชอบในตัวนักแสดง Joe Keery มาก เลยเปลี่ยนใจ ไม่ฆ่าครับ

Matt บอกว่า เขา Ross และทีมเขียนบท “คุยเรื่องนี้กันตลอด" เขาอธิบายว่า "สิ่งที่มักทำให้เราลังเค คือผลกระทบที่จะตามมา