Fencing🤺| Y.13
Block A: ธุรกิจ | Block B: จิตวิทยา
Doc : bit.ly/jess-ssa
#SSA_commu
" ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ โธ่ เอาน่ะ ครั้งแรกก็อย่างนี้แหละ "
" กับน้องสาวคนเก่งคนนี้พี่จะประมาทได้ยังไงกัน "
" ไว้เดี๋ยวฝึกวันถัด ๆ ไป ค่อยมาแก้ตัวใหม่แล้วกันนะ "
เขายกมือขึ้นแปะศีรษะเธอเบา ๆ พลางเอ่ยชมเชยด้วยรอยยิ้ม
" วันแรกทำได้ดีมาก หวังว่าจะเต็มที่กับทุกวันแบบนี้อีกนะ "
" ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ โธ่ เอาน่ะ ครั้งแรกก็อย่างนี้แหละ "
" กับน้องสาวคนเก่งคนนี้พี่จะประมาทได้ยังไงกัน "
" ไว้เดี๋ยวฝึกวันถัด ๆ ไป ค่อยมาแก้ตัวใหม่แล้วกันนะ "
เขายกมือขึ้นแปะศีรษะเธอเบา ๆ พลางเอ่ยชมเชยด้วยรอยยิ้ม
" วันแรกทำได้ดีมาก หวังว่าจะเต็มที่กับทุกวันแบบนี้อีกนะ "
"Prêt?"
"Allez!"
เขาขยับเท้าถอยเล็กน้อย ตั้งท่าตั้งการ์ดมั่นคงด้วยขาข้างเดียว ไม่ได้กดดัน แต่คอยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเธออย่างตั้งใจ และให้จังหวะที่เหมาะสำหรับเธอได้เป็นฝ่ายเริ่มเกม
"Prêt?"
"Allez!"
เขาขยับเท้าถอยเล็กน้อย ตั้งท่าตั้งการ์ดมั่นคงด้วยขาข้างเดียว ไม่ได้กดดัน แต่คอยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเธออย่างตั้งใจ และให้จังหวะที่เหมาะสำหรับเธอได้เป็นฝ่ายเริ่มเกม
" เหลืออีกรอบเดียวพี่ก็จะชนะแล้วนะครับ "
น้ำเสียงของเขาติดยิ้มนิด ๆ เอ่ยคล้ายกับจะหยอกล้อ แต่ก็คล้ายกับต้องการกระตุ้นเธอให้ตื่นตัวเช่นกัน
คำที่กล่าวคล้ายกับเป็นคำท้าของเธอนั้น เขายินดีรับคำเลยล่ะ
+
" เหลืออีกรอบเดียวพี่ก็จะชนะแล้วนะครับ "
น้ำเสียงของเขาติดยิ้มนิด ๆ เอ่ยคล้ายกับจะหยอกล้อ แต่ก็คล้ายกับต้องการกระตุ้นเธอให้ตื่นตัวเช่นกัน
คำที่กล่าวคล้ายกับเป็นคำท้าของเธอนั้น เขายินดีรับคำเลยล่ะ
+
" พยายามได้ดีครับ อีกนิ๊ดนึง "
เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ถอยหลังอีกครั้งและให้เสียงสัญญาณ
"En garde."
"Prêt?"
"Allez!"
คราวนี้เขาเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นฝ่ายเข้าจู่โจม ขาข้างเดียวที่วางบนพื้นอยู่ขยับกระโดดเข้าไปหาเธอ พร้อมปลายดาบที่ฟันลงบนหน้ากากของเธอ
" พยายามได้ดีครับ อีกนิ๊ดนึง "
เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ถอยหลังอีกครั้งและให้เสียงสัญญาณ
"En garde."
"Prêt?"
"Allez!"
คราวนี้เขาเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นฝ่ายเข้าจู่โจม ขาข้างเดียวที่วางบนพื้นอยู่ขยับกระโดดเข้าไปหาเธอ พร้อมปลายดาบที่ฟันลงบนหน้ากากของเธอ
เสียงบรรเลงเพลง Blue ของ yung kai อันคุ้นหูสำหรับใครหลายๆ คนดังขึ้น ในตอนช่วงแรกของเพลงมันก็ปกติดีอยู่หรอก
จนกระทั่งในช่วงท่อนนั้นนั่นแหละ
เจสและเจนน่าอดไม่ได้ที่จะสบตากัน
เสียงเล็กบีบแหลมของเจสดังขึ้น พร้อมกับเจนน่าที่หมุนเก้าอี้พร้อมกับเล่นกีต้าร์ไปด้วย สนุกเขาแหละ
เสียงบรรเลงเพลง Blue ของ yung kai อันคุ้นหูสำหรับใครหลายๆ คนดังขึ้น ในตอนช่วงแรกของเพลงมันก็ปกติดีอยู่หรอก
จนกระทั่งในช่วงท่อนนั้นนั่นแหละ
เจสและเจนน่าอดไม่ได้ที่จะสบตากัน
เสียงเล็กบีบแหลมของเจสดังขึ้น พร้อมกับเจนน่าที่หมุนเก้าอี้พร้อมกับเล่นกีต้าร์ไปด้วย สนุกเขาแหละ
"En garde."
เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นด้วยน้ำหนักเสียงที่เลียนแบบกรรมการฟันดาบ
เขามองเธอที่เข้าเชิงดาบอย่างระมัดระวัง
"Prêt?"
จากนั้นมุมปากเขายกขึ้นนิด ๆ ภายใต้หน้ากาก ก่อนที่เสียงสุดท้ายจะดังขึ้น
"Allez!"
และกระโดดเหย๋ง ๆ เข้าหาเล็กน้อย สายตาเฝ้ารอดูจังหวะที่เธอจะเข้าจู่โจม
"En garde."
เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นด้วยน้ำหนักเสียงที่เลียนแบบกรรมการฟันดาบ
เขามองเธอที่เข้าเชิงดาบอย่างระมัดระวัง
"Prêt?"
จากนั้นมุมปากเขายกขึ้นนิด ๆ ภายใต้หน้ากาก ก่อนที่เสียงสุดท้ายจะดังขึ้น
"Allez!"
และกระโดดเหย๋ง ๆ เข้าหาเล็กน้อย สายตาเฝ้ารอดูจังหวะที่เธอจะเข้าจู่โจม
" En garde เตรียมในท่าพร้อม "
" Prêt? พร้อมไหม? "
" และ Allez แปลว่าเริ่มได้ "
เจสมองเธอที่ยืนนิ่งตรงหน้า เขายกดาบขึ้นแตะที่หน้ากากของตัวเองแล้วลดลงอย่างเป็นธรรมเนียมการเคารพ ก่อนจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูง
" เอาล่ะ ฟังคำสั่งให้ดีนะครับ อย่าประมาทพี่นะ "
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดหัวเราะปลาย ๆ เล็กน้อย
+
" En garde เตรียมในท่าพร้อม "
" Prêt? พร้อมไหม? "
" และ Allez แปลว่าเริ่มได้ "
เจสมองเธอที่ยืนนิ่งตรงหน้า เขายกดาบขึ้นแตะที่หน้ากากของตัวเองแล้วลดลงอย่างเป็นธรรมเนียมการเคารพ ก่อนจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูง
" เอาล่ะ ฟังคำสั่งให้ดีนะครับ อย่าประมาทพี่นะ "
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดหัวเราะปลาย ๆ เล็กน้อย
+
" แค่เพราะยังไม่เจอ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนแบบนั้นนั่นแหละครับ "
เจสว่าพลางใช้ปลายนิ้วมือลูบไปตามขอบมนของแก้วเครื่องดื่มของตน
" แต่คนที่รักโดยไม่เผื่อใจ ก็ถือว่ากล้าเสี่ยงมากจริง ๆ "
" ส่วนผม.. แค่จะเริ่มก็ล้มตั้งแต่ขั้นตอนแรกก่อนจะเริ่มแล้วครับ "
เขายักไหล่เพียงนิดและยกแก้วจิบเล็กน้อย
" แค่เพราะยังไม่เจอ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนแบบนั้นนั่นแหละครับ "
เจสว่าพลางใช้ปลายนิ้วมือลูบไปตามขอบมนของแก้วเครื่องดื่มของตน
" แต่คนที่รักโดยไม่เผื่อใจ ก็ถือว่ากล้าเสี่ยงมากจริง ๆ "
" ส่วนผม.. แค่จะเริ่มก็ล้มตั้งแต่ขั้นตอนแรกก่อนจะเริ่มแล้วครับ "
เขายักไหล่เพียงนิดและยกแก้วจิบเล็กน้อย
" ครับ.. ดี.. โอเค.. "
" เยี่ยมครับ "
เขาเอ่ยชมเธอทุกครั้งที่เธอลงมือฟันตามจำนวนจนครบแล้วถอยร่นไป คราวนี้เขาตั้งท่าในท่าตั้งการ์ดอีกครั้ง
" คราวนี้ได้เวลาลองแข่งจริงดูแล้วครับ "
" ใครครบ 3 แต้มก่อนถือว่าชนะไป แล้วเดี๋ยวพี่ต่อให้โดยใช้ขาเดียวแล้วกันนะ "
" ครับ.. ดี.. โอเค.. "
" เยี่ยมครับ "
เขาเอ่ยชมเธอทุกครั้งที่เธอลงมือฟันตามจำนวนจนครบแล้วถอยร่นไป คราวนี้เขาตั้งท่าในท่าตั้งการ์ดอีกครั้ง
" คราวนี้ได้เวลาลองแข่งจริงดูแล้วครับ "
" ใครครบ 3 แต้มก่อนถือว่าชนะไป แล้วเดี๋ยวพี่ต่อให้โดยใช้ขาเดียวแล้วกันนะ "
" คราวนี้ลองฟันลงบนหน้ากากสลับกับที่ตัวดูนะครับ "
" ฟันโดนแล้วก็ถอยหลังกลับไป แล้วเดินกลับมาฟันซ้ำนะ "
เขายืนรอและปล่อยให้เธอได้ลองฟันซ้ำจนกว่าเธอจะรู้สึกมั่นใจขึ้นอีกสักหน่อย
" คราวนี้ลองฟันลงบนหน้ากากสลับกับที่ตัวดูนะครับ "
" ฟันโดนแล้วก็ถอยหลังกลับไป แล้วเดินกลับมาฟันซ้ำนะ "
เขายืนรอและปล่อยให้เธอได้ลองฟันซ้ำจนกว่าเธอจะรู้สึกมั่นใจขึ้นอีกสักหน่อย
เขาเปล่งน้ำเสียงออกมาอย่างนุ่มนวลระคนเอ็นดู แล้วเอ่ยต่อแบบติดขำ
"พี่ไม่เจ็บหรอก"
"แต่ถ้าเป็นการแข่งจริง พี่อาจจะล้มลงไปทำเป็นเจ็บเล็กน้อย เพื่อเพิ่มคะแนนความน่าสงสารให้ตัวเองล่ะนะ"
เสียงหัวเราะเล็ก ๆ หลุดออกมาขณะที่เจสก้าวถอยหลังไปอีกคืบ
+
เขาเปล่งน้ำเสียงออกมาอย่างนุ่มนวลระคนเอ็นดู แล้วเอ่ยต่อแบบติดขำ
"พี่ไม่เจ็บหรอก"
"แต่ถ้าเป็นการแข่งจริง พี่อาจจะล้มลงไปทำเป็นเจ็บเล็กน้อย เพื่อเพิ่มคะแนนความน่าสงสารให้ตัวเองล่ะนะ"
เสียงหัวเราะเล็ก ๆ หลุดออกมาขณะที่เจสก้าวถอยหลังไปอีกคืบ
+
คำถามถูกโยนกลับไปในน้ำเสียงติดยิ้มน้อย ๆ
ราวกับเจสกำลังถามถึงแผลในปัจจุบันมากกว่ารอยหมึกในอดีต
.
คำถามถูกโยนกลับไปในน้ำเสียงติดยิ้มน้อย ๆ
ราวกับเจสกำลังถามถึงแผลในปัจจุบันมากกว่ารอยหมึกในอดีต
.
มืออีกข้างเริ่มเล่นกับขอบปลายเสื้อเชิ้ตของตัวเองราวกับกำลังคิดอะไรอยู่
" น่าชื่นชมนะครับ.. "
แล้วเขาก็หัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง ไม่ได้เย้ยหยัน แต่เป็นเสียงหัวเราะของคนที่รู้สึกกระทบกระเทือนเล็กน้อย .. สำหรับคนที่แตกต่างจากคำพูดเหล่านั้น
+
มืออีกข้างเริ่มเล่นกับขอบปลายเสื้อเชิ้ตของตัวเองราวกับกำลังคิดอะไรอยู่
" น่าชื่นชมนะครับ.. "
แล้วเขาก็หัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง ไม่ได้เย้ยหยัน แต่เป็นเสียงหัวเราะของคนที่รู้สึกกระทบกระเทือนเล็กน้อย .. สำหรับคนที่แตกต่างจากคำพูดเหล่านั้น
+
สิ่งที่ได้ยินราวกับอีกฝ่ายทำเป็นเหมือนเสียงบอกเล่าผ่านสายลม ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
แต่กระนั้นการสักประโยคที่มีความหมายที่แฝงลึกฝังลงไปบนผิวเช่นนั้น.. ก็ไม่สามารถมองได้หรอกว่ามันไม่สลักสำคัญอะไรสำหรับชายตรงหน้าขนาดนั้นจริง ๆ
+
สิ่งที่ได้ยินราวกับอีกฝ่ายทำเป็นเหมือนเสียงบอกเล่าผ่านสายลม ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
แต่กระนั้นการสักประโยคที่มีความหมายที่แฝงลึกฝังลงไปบนผิวเช่นนั้น.. ก็ไม่สามารถมองได้หรอกว่ามันไม่สลักสำคัญอะไรสำหรับชายตรงหน้าขนาดนั้นจริง ๆ
+
ไม่ใช่แบบก้าวก่าย แต่ก็ไม่ใช่ความสนใจลอย ๆ
"ผมถามได้ไหม ว่าทำไมถึงเลือกสักคำนี้ล่ะครับ"
น้ำเสียงยังคงนุ่มนวล
เหมือนเปิดพื้นที่ให้เลือกตอบ... หรือไม่ตอบเลยก็ได้
ไม่ใช่แบบก้าวก่าย แต่ก็ไม่ใช่ความสนใจลอย ๆ
"ผมถามได้ไหม ว่าทำไมถึงเลือกสักคำนี้ล่ะครับ"
น้ำเสียงยังคงนุ่มนวล
เหมือนเปิดพื้นที่ให้เลือกตอบ... หรือไม่ตอบเลยก็ได้