3 年生 | ชมรมเกษตร
*ตอบช้าแต่ตอบแน่
Icon : MAIZE
#KMI_Commu
doc : https://tinyurl.com/Itanarikzy
เขาพูดหลังจากที่เห็นทั้งสองโบกมือให้กัน อะไรจะดีไปกว่าการเห็นน้องสาวมีความสุข
อย่างน้อยอิทานาริก็เชื่อแบบนั้น
“อื้อ ได้สิ แล้ว… คิดออกหรือยัง รอบที่ฉันแพ้ตอนแข่งจ้องตาน่ะ”
ถามไปพลางขยับเข้าไปพักที่ขอบสระอีกครั้ง เพราะอีกฝ่ายยังติดท่อง z-a กับเขาอยู่เลย
เขาพูดหลังจากที่เห็นทั้งสองโบกมือให้กัน อะไรจะดีไปกว่าการเห็นน้องสาวมีความสุข
อย่างน้อยอิทานาริก็เชื่อแบบนั้น
“อื้อ ได้สิ แล้ว… คิดออกหรือยัง รอบที่ฉันแพ้ตอนแข่งจ้องตาน่ะ”
ถามไปพลางขยับเข้าไปพักที่ขอบสระอีกครั้ง เพราะอีกฝ่ายยังติดท่อง z-a กับเขาอยู่เลย
“เพิ่งรู้ว่ามีน้องด้วย แท้ๆเลยหรือเปล่า?”
“อ่ะ..”
“ครั้งนี้มีบทลงโทษด้วยไหม? ครั้งที่แล้วฉันก็ติดนายไว้”
ถามออกไปซื่อๆ โดยไม่สังเกตสีหน้าอีกคนเลยสักนิด
“เพิ่งรู้ว่ามีน้องด้วย แท้ๆเลยหรือเปล่า?”
“อ่ะ..”
“ครั้งนี้มีบทลงโทษด้วยไหม? ครั้งที่แล้วฉันก็ติดนายไว้”
ถามออกไปซื่อๆ โดยไม่สังเกตสีหน้าอีกคนเลยสักนิด
ตอนแรกเขาก็แอบปักใจว่าคงไม่เกี่ยว แต่พอได้ยินคำใบ้รอบนี้แล้วก็ชักไม่แน่ใจ
“ราชินีพูดแบบนั้นก็จริงแต่เหมือนว่ามันยังไม่เกิดขึ้นนะ เธอใช้คำว่า ‘ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้’ กับ ‘ทหารต้องเอาเธอไปตัดหัว’”
ไม่ใช่ ทหารจงเอาเธอไปตัดหัว เอ… ยากแฮะ
“ลองทอยเต๋าอีกรอบครับ”
ตอนแรกเขาก็แอบปักใจว่าคงไม่เกี่ยว แต่พอได้ยินคำใบ้รอบนี้แล้วก็ชักไม่แน่ใจ
“ราชินีพูดแบบนั้นก็จริงแต่เหมือนว่ามันยังไม่เกิดขึ้นนะ เธอใช้คำว่า ‘ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้’ กับ ‘ทหารต้องเอาเธอไปตัดหัว’”
ไม่ใช่ ทหารจงเอาเธอไปตัดหัว เอ… ยากแฮะ
“ลองทอยเต๋าอีกรอบครับ”
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตลกหรือเป็นเขาเองที่เส้นตื้น เจอรุ่นน้องคนนี้กี่ที ก็ได้หัวเราะอยู่ตลอด
อิทานาริจึงเดินกลับไปหาอีกคน
“นั่นสิ จริงๆแล้วอาจจะเสมอก็ได้ล่ะมั้ง”
“ว่าแต่นี่มาคนเดียวเหรอ”
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตลกหรือเป็นเขาเองที่เส้นตื้น เจอรุ่นน้องคนนี้กี่ที ก็ได้หัวเราะอยู่ตลอด
อิทานาริจึงเดินกลับไปหาอีกคน
“นั่นสิ จริงๆแล้วอาจจะเสมอก็ได้ล่ะมั้ง”
“ว่าแต่นี่มาคนเดียวเหรอ”
แตงโมเหรอ แต่แตงโมทำอะไรผิด ทำไมต้องล้างแค้น คำถามในหัวยาวเหยียดแต่ก็ถามไม่ออกเพราะสายตามุ่งมั่นนั่น
เขาเงยมองไม้ที่ง้างขึ้นสูงเหนือหัว ความรู้สึกนาทีชีวิตมันเป็นแบบนี้นี่เอง จนวินาทีต่อมา ถึงได้รู้สึกตัว
“ไม่ใช่! โมโมซากิ นี่หัวฉัน!”
รีบตะโกนบอกเพื่อน พร้อมมือดันแขนอีกคนไว้ ก่อนหัวจะแหลกแทนแตงโม
“หันไปทางโน้น”
ในเมื่อห้ามไม่ได้ก็จัดแจงเข้าร่วมเลย
แตงโมเหรอ แต่แตงโมทำอะไรผิด ทำไมต้องล้างแค้น คำถามในหัวยาวเหยียดแต่ก็ถามไม่ออกเพราะสายตามุ่งมั่นนั่น
เขาเงยมองไม้ที่ง้างขึ้นสูงเหนือหัว ความรู้สึกนาทีชีวิตมันเป็นแบบนี้นี่เอง จนวินาทีต่อมา ถึงได้รู้สึกตัว
“ไม่ใช่! โมโมซากิ นี่หัวฉัน!”
รีบตะโกนบอกเพื่อน พร้อมมือดันแขนอีกคนไว้ ก่อนหัวจะแหลกแทนแตงโม
“หันไปทางโน้น”
ในเมื่อห้ามไม่ได้ก็จัดแจงเข้าร่วมเลย
อิทานาริมุ่งตรงข้างหน้าอย่างเดียว
กระทั่งขีดจำกัดใกล้มาถึง นับถอยหลังความอดทนได้ไม่กี่วินาที ก็ดันร่างตัวเองขึ้นโผล่ขึ้นเหนือน้ำ พร้อมหายใจหอบเอาอากาศเข้าปอด
เหมือนจะเกินครึ่งจนเกือบถึงอีกฝั่งแฮะ
แล้วรุ่นน้องเขาอยู่ไหน?
อิทานาริมุ่งตรงข้างหน้าอย่างเดียว
กระทั่งขีดจำกัดใกล้มาถึง นับถอยหลังความอดทนได้ไม่กี่วินาที ก็ดันร่างตัวเองขึ้นโผล่ขึ้นเหนือน้ำ พร้อมหายใจหอบเอาอากาศเข้าปอด
เหมือนจะเกินครึ่งจนเกือบถึงอีกฝั่งแฮะ
แล้วรุ่นน้องเขาอยู่ไหน?
“ยกให้?? เดี๋ยวสิ ฉันไม่น่าจะแบกมันกลั—”
พูดไม่ทันจบประโยคโทรศัพท์ก็มาอยู่ในมือแล้ว หน้าตาเขาเด๋อด่าชัวร์ๆ
อะไรเนี่ย ปุบปับชะมัด
“ว่าแต่ทำไมต้องตีแตงโมนั่นด้วย“
ถามไป แต่ก็ตั้งกล้องถ่ายไปอย่างงงๆ
นี่เขาทำอะไรอยู่!?
“ยกให้?? เดี๋ยวสิ ฉันไม่น่าจะแบกมันกลั—”
พูดไม่ทันจบประโยคโทรศัพท์ก็มาอยู่ในมือแล้ว หน้าตาเขาเด๋อด่าชัวร์ๆ
อะไรเนี่ย ปุบปับชะมัด
“ว่าแต่ทำไมต้องตีแตงโมนั่นด้วย“
ถามไป แต่ก็ตั้งกล้องถ่ายไปอย่างงงๆ
นี่เขาทำอะไรอยู่!?
อิทานาริขยับให้อยู่ในแนวเดียวกับอีกคน ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะกลั้นหายใจได้นานแค่ไหน… ครึ่งสระไหวไหมนะ? หรือมากกว่านั้น
“หนึ่ง สอง”
“สาม!”
จบเสียงนับก็สูดอากาศเข้าแล้วกลั้นหายใจดำลงใต้น้ำ
อิทานาริขยับให้อยู่ในแนวเดียวกับอีกคน ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะกลั้นหายใจได้นานแค่ไหน… ครึ่งสระไหวไหมนะ? หรือมากกว่านั้น
“หนึ่ง สอง”
“สาม!”
จบเสียงนับก็สูดอากาศเข้าแล้วกลั้นหายใจดำลงใต้น้ำ
เขาก็ไม่ได้คิดจะเถียงต่อ ในเมื่อแค่แซวเล่นเท่านั้น
“ก็ใช่นะ สำหรับฉันก็สดชื่นกว่า”
คำยืนยันแบบนี้ เขาเองก็พอจะเดาออกว่ารุ่นน้องคงอยากดำน้ำ(?) สุดท้ายก็เลย…
“งั้น…แข่งกันไหม? ใครดำน้ำได้ไกลกว่า”
อิทานาริชี้ไปอีกฝั่งของสระ กลายเป็นเจอนัตสึกิริทีไร ต้องได้แข่งอะไรซักอย่างไปแล้ว
“ถ้าหมดลมแล้วยังไม่ถึงขอบ ก็ยืนอยู่จุดนั้น”
เขาก็ไม่ได้คิดจะเถียงต่อ ในเมื่อแค่แซวเล่นเท่านั้น
“ก็ใช่นะ สำหรับฉันก็สดชื่นกว่า”
คำยืนยันแบบนี้ เขาเองก็พอจะเดาออกว่ารุ่นน้องคงอยากดำน้ำ(?) สุดท้ายก็เลย…
“งั้น…แข่งกันไหม? ใครดำน้ำได้ไกลกว่า”
อิทานาริชี้ไปอีกฝั่งของสระ กลายเป็นเจอนัตสึกิริทีไร ต้องได้แข่งอะไรซักอย่างไปแล้ว
“ถ้าหมดลมแล้วยังไม่ถึงขอบ ก็ยืนอยู่จุดนั้น”
“นายเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจหรือไง?”
ไม่วายพูดแหย่ออกไป
“แต่..เสียงคล้ายจริงด้วยแฮะ”
เป็นประโยคที่เขาพึมพำเบาๆคนเดียว เบาพอที่จะไม่มีใครได้ยิน
“เป็นไง สดชื่นดีไหม”
กลับมาถามด้วยระดับเสียงปกติ
“นายเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจหรือไง?”
ไม่วายพูดแหย่ออกไป
“แต่..เสียงคล้ายจริงด้วยแฮะ”
เป็นประโยคที่เขาพึมพำเบาๆคนเดียว เบาพอที่จะไม่มีใครได้ยิน
“เป็นไง สดชื่นดีไหม”
กลับมาถามด้วยระดับเสียงปกติ
หือ…นี่เขาชวนไม่ชัดเจนเหรอ
“อื้อ ลงมาไหม”
อีกอย่างที่คิดในหัวคือคลายเครียดได้ด้วยนะ
หือ…นี่เขาชวนไม่ชัดเจนเหรอ
“อื้อ ลงมาไหม”
อีกอย่างที่คิดในหัวคือคลายเครียดได้ด้วยนะ
“อย่างงั้นเหรอ แต่หน้าร้อนทั้งที”
มือที่จับขาอยู่ก็ลองดึงเบาๆ พร้อมเงยหน้าคุย
“จุ่มแค่ขาจะพอเหรอ”
“อย่างงั้นเหรอ แต่หน้าร้อนทั้งที”
มือที่จับขาอยู่ก็ลองดึงเบาๆ พร้อมเงยหน้าคุย
“จุ่มแค่ขาจะพอเหรอ”
“… ทั้งรีบบอกเรื่องแยมกับคำพูดล่าสุด ก็เกี่ยวกับแมดแฮทเตอร์ทั้งนั้น..”
พูดพลางมองหน้ากระต่ายขาวไปด้วย
“คุณไหวไหมครับ? ร้อนเหรอ เหงื่อออกอยู่น่ะ”
เอ่ยไปอย่างไม่คิดอะไร
“ปักไว้ในใจไหมนัตสึกิริ เผื่อได้ข้อมูลอย่างอื่นอีก”
“ผมอยากได้คำใบ้เพิ่ม ทอยต่อเลยครับ”
“… ทั้งรีบบอกเรื่องแยมกับคำพูดล่าสุด ก็เกี่ยวกับแมดแฮทเตอร์ทั้งนั้น..”
พูดพลางมองหน้ากระต่ายขาวไปด้วย
“คุณไหวไหมครับ? ร้อนเหรอ เหงื่อออกอยู่น่ะ”
เอ่ยไปอย่างไม่คิดอะไร
“ปักไว้ในใจไหมนัตสึกิริ เผื่อได้ข้อมูลอย่างอื่นอีก”
“ผมอยากได้คำใบ้เพิ่ม ทอยต่อเลยครับ”
เขาหิ้วถุงขนมกำลังจะกลับบ้าน จนเสียงเรียกจากแถวริมแม่น้ำนั่นทำให้หรี่ตามอง
“โมโมซากิ?”
“อะไรนะะ!!??”
ตะโกนกลับไป แต่ก็นึกได้ว่าทำไมเขาไม่เดินไปหา คุยแบบนี้ก็เจ็บคอแย่
ว่าแล้วขาก็เลี้ยวเลย จนไปหยุดอยู่ใกล้ๆ อีกฝ่าย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไร แต่ก็มาแล้ว
เขาหิ้วถุงขนมกำลังจะกลับบ้าน จนเสียงเรียกจากแถวริมแม่น้ำนั่นทำให้หรี่ตามอง
“โมโมซากิ?”
“อะไรนะะ!!??”
ตะโกนกลับไป แต่ก็นึกได้ว่าทำไมเขาไม่เดินไปหา คุยแบบนี้ก็เจ็บคอแย่
ว่าแล้วขาก็เลี้ยวเลย จนไปหยุดอยู่ใกล้ๆ อีกฝ่าย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไร แต่ก็มาแล้ว