แล้วปีสองทีมม่วงมันมีแต่คนแบบนี้อะ พวกไม่ยุ่งกับใคร ห้ามใครมายุ่งด้วย เอาแต่ใจวัยต่อต้านอีก
แต่ช็อตไทจิจะวิ่งไปแปะมือชิราบุแต่พี่วัวเข้าไปหาน้องชิก่อน แล้วไทมันชะลอฝีเท้าลงนี่โคตรจะซีนพระรองเลยไทเอ๊ย กอดแก
แล้วปีสองทีมม่วงมันมีแต่คนแบบนี้อะ พวกไม่ยุ่งกับใคร ห้ามใครมายุ่งด้วย เอาแต่ใจวัยต่อต้านอีก
แต่ช็อตไทจิจะวิ่งไปแปะมือชิราบุแต่พี่วัวเข้าไปหาน้องชิก่อน แล้วไทมันชะลอฝีเท้าลงนี่โคตรจะซีนพระรองเลยไทเอ๊ย กอดแก
หรือถ้าเขาทำให้ชิราบุผิดหวังทีหลังล่ะก็ ค่อยใส่หมอนั่นสักสองสามหมัดก็ย่อมได้
เพราะงั้นเขาเลยเดินออกมาอย่างวางใจ
หรือถ้าเขาทำให้ชิราบุผิดหวังทีหลังล่ะก็ ค่อยใส่หมอนั่นสักสองสามหมัดก็ย่อมได้
เพราะงั้นเขาเลยเดินออกมาอย่างวางใจ
สุดท้ายเลยบอกแค่ "ฉันไปนะ"
"ไทจิ" แต่โดนรั้งไว้
ชิราบุเม้มปากเหมือนใช้ความคิด
"ขอบใจนะ ที่มาเป็นเพื่อน"
คาวานิชิโบกมือว่าเรื่องเล็กน้อย สายตาเขาหันไปหาอุชิจิมะ
ไม่รู้เพราะอะไรถึงรู้สึกหวงเพื่อนขึ้นมา
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
สุดท้ายเลยบอกแค่ "ฉันไปนะ"
"ไทจิ" แต่โดนรั้งไว้
ชิราบุเม้มปากเหมือนใช้ความคิด
"ขอบใจนะ ที่มาเป็นเพื่อน"
คาวานิชิโบกมือว่าเรื่องเล็กน้อย สายตาเขาหันไปหาอุชิจิมะ
ไม่รู้เพราะอะไรถึงรู้สึกหวงเพื่อนขึ้นมา
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
Kawanishi's POV
/
เขาคิดว่าคงความแตกตั้งแต่ชิราบุเห็นหน้าตัวเองแล้วล่ะ แต่ก็ไม่ทำตัวกระโตกกระตากแล้วบอกออกไป
"ชิราบุ อุชิจิมะซังเรียกน่ะ"
มือข้างที่ถือกล่องนมของชิราบุเกร็งเล็กน้อย แต่ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะเรียนเหมือนไม่มีอะไร
อย่างเดียวที่ทำให้มันมีอะไรคือประโยคต่อมา
"ไทจิ นายอย่าเพิ่งกลับนะ"
เขารู้ว่านั่นเป็นประโยคขอร้อง รู้ด้วยว่าชิราบุกำลังกลัว
"โอเค"
"อย่าแกล้งชิราบุ" อุชิจิมะว่าให้เทนโด
"นายพอแล้วน่า" โอฮิระเองก็มาช่วยดันเพื่อนออกไป
"พวกเราไม่กวนล่ะ ไว้เจอกันนะ" เซมิต่อบทพลางดึงแขนเทนโดให้เดินตาม แต่ไม่ลืมหันกลับมาบอกทั้งสองคนว่า "อ้อ แล้วก็ยินดีด้วยนะพวกนาย"
"เซมิเซมิก็อยากแกล้งพวกนั้นเหมือนกันนี่นา"
"เงียบเหอะน่า"
"อย่าแกล้งชิราบุ" อุชิจิมะว่าให้เทนโด
"นายพอแล้วน่า" โอฮิระเองก็มาช่วยดันเพื่อนออกไป
"พวกเราไม่กวนล่ะ ไว้เจอกันนะ" เซมิต่อบทพลางดึงแขนเทนโดให้เดินตาม แต่ไม่ลืมหันกลับมาบอกทั้งสองคนว่า "อ้อ แล้วก็ยินดีด้วยนะพวกนาย"
"เซมิเซมิก็อยากแกล้งพวกนั้นเหมือนกันนี่นา"
"เงียบเหอะน่า"
อุชิจิมะเห็นแบบนั้นเลยปรามเพื่อน ๆ
"พวกนายพอแล้ว"
พยักเพยิดไปทางชิราบุที่กำลังทำตัวไม่ถูก
"หว่าย ซอรี่" เทนโดยกสองมือขึ้นระดับศีรษะเหมือนท่ายอมแพ้ "ฉับรบกวนพวกนายใช่มั้ยเนี่ย"
เขาหันมายิ้มมีเลศนัยให้คาวานิชิ ก่อนจะใช้สองมือผลักชิราบุที่ไม่ทันตั้งตัวไปหาอุชิจิมะซึ่งยกมือรับคนตัวเล็กไว้ไม่ให้ล้ม
อุชิจิมะเห็นแบบนั้นเลยปรามเพื่อน ๆ
"พวกนายพอแล้ว"
พยักเพยิดไปทางชิราบุที่กำลังทำตัวไม่ถูก
"หว่าย ซอรี่" เทนโดยกสองมือขึ้นระดับศีรษะเหมือนท่ายอมแพ้ "ฉับรบกวนพวกนายใช่มั้ยเนี่ย"
เขาหันมายิ้มมีเลศนัยให้คาวานิชิ ก่อนจะใช้สองมือผลักชิราบุที่ไม่ทันตั้งตัวไปหาอุชิจิมะซึ่งยกมือรับคนตัวเล็กไว้ไม่ให้ล้ม
คาวานิชิใช้เวลาไม่ถึงวินาทีจึงรู้ว่านั่นเป็นปฏิกิริยาต่อนุ่นพี่ปีสามที่ซุ่มรออยู่กับเขา
ทุกคนโผล่มารอคำตอบ พออุชิจิมะพยักหน้าเล็กน้อยก็พากันตะโกนเฮ พร้อมพุ่งตัวเข้าไปตบไหล่ตบหลังอุชิจิมะ
กัปตันที่กำลังโดนรุมยกกำปั้นขึ้นบังริมฝีปากที่กำลังยิ้มและหัวเราะเล็กน้อย
นี่เขาคนนั้นกำลังเขินเหรอ
คาวานิชิใช้เวลาไม่ถึงวินาทีจึงรู้ว่านั่นเป็นปฏิกิริยาต่อนุ่นพี่ปีสามที่ซุ่มรออยู่กับเขา
ทุกคนโผล่มารอคำตอบ พออุชิจิมะพยักหน้าเล็กน้อยก็พากันตะโกนเฮ พร้อมพุ่งตัวเข้าไปตบไหล่ตบหลังอุชิจิมะ
กัปตันที่กำลังโดนรุมยกกำปั้นขึ้นบังริมฝีปากที่กำลังยิ้มและหัวเราะเล็กน้อย
นี่เขาคนนั้นกำลังเขินเหรอ
นั่นคงเป็นจุดอ่อนที่สุดของเพื่อนของเขาแล้ว
พอชิราบุขอให้มาด้วย เขาเลยมา
อันที่จริงก็นึกเป็นห่วงอยู่นะ
คาวานิชิเลยโผล่จากมุมที่หลบอยู่ออกไปส่องดูสักหน่อย พอดีกับที่ประตูห้องชมรมเปิด
สองคนนั้นเดินออกมา
บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ที่แน่ ๆ คือใบหูของชิราบุแดงแจ๋
นั่นคงเป็นจุดอ่อนที่สุดของเพื่อนของเขาแล้ว
พอชิราบุขอให้มาด้วย เขาเลยมา
อันที่จริงก็นึกเป็นห่วงอยู่นะ
คาวานิชิเลยโผล่จากมุมที่หลบอยู่ออกไปส่องดูสักหน่อย พอดีกับที่ประตูห้องชมรมเปิด
สองคนนั้นเดินออกมา
บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ที่แน่ ๆ คือใบหูของชิราบุแดงแจ๋
จากบทสนทนาวันนั้น เลยได้รู้ว่าทุกคนพอจะรู้สึกได้ว่าสองคนนั้นต่างก็ชอบกันแต่ไม่ยอมพูดสักที
จะว่าเข้าใจได้มั้ย แต่จากที่เป็นเพื่อนกันมา ความรู้สึกชอบอุชิจิมะของชิราบุผสมไปด้วยความ...เทิดทูน? หรืออะไรเทือกนั้น เลยกลัวการถูกปฏิเสธเอามาก ๆ
จากบทสนทนาวันนั้น เลยได้รู้ว่าทุกคนพอจะรู้สึกได้ว่าสองคนนั้นต่างก็ชอบกันแต่ไม่ยอมพูดสักที
จะว่าเข้าใจได้มั้ย แต่จากที่เป็นเพื่อนกันมา ความรู้สึกชอบอุชิจิมะของชิราบุผสมไปด้วยความ...เทิดทูน? หรืออะไรเทือกนั้น เลยกลัวการถูกปฏิเสธเอามาก ๆ
เรื่องที่อุชิจิมะซังก็ชอบนายเหมือนกันน่าจะมีแค่นายนั่นล่ะที่ยังไม่รู้
ทีแรกเขาก็ไม่แน่ใจ แต่พอเทนโดเล่าเรื่องเรื่อยเปื่อยให้ฟังแล้ววกเขาเรื่องที่อุชิจิมะกำลังมีความรัก เขาก็ได้รู้ว่าไม่ได้คิดไปเอง
'คือฉันน่ะนะก็เห็นอยู่ล่ะว่าหลัง ๆ มานี้วากะโทชิคุงชอบนั่งยิ้มโง่ ๆ คนเดียว แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาถามว่าจะจีบใครสักคนต้องทำยังไง'
น้ำเสียงเทนโดเล่าอย่างออกรส
เรื่องที่อุชิจิมะซังก็ชอบนายเหมือนกันน่าจะมีแค่นายนั่นล่ะที่ยังไม่รู้
ทีแรกเขาก็ไม่แน่ใจ แต่พอเทนโดเล่าเรื่องเรื่อยเปื่อยให้ฟังแล้ววกเขาเรื่องที่อุชิจิมะกำลังมีความรัก เขาก็ได้รู้ว่าไม่ได้คิดไปเอง
'คือฉันน่ะนะก็เห็นอยู่ล่ะว่าหลัง ๆ มานี้วากะโทชิคุงชอบนั่งยิ้มโง่ ๆ คนเดียว แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาถามว่าจะจีบใครสักคนต้องทำยังไง'
น้ำเสียงเทนโดเล่าอย่างออกรส
พอเห็นว่าตรงที่เขายืนรออยู่ห่างออกมามีทั้งเทนโด เซมิ และโอฮิระยืนรออยู่ด้วยก็เข้าใจสถานการณ์ทันที
นี่รู้เห็นกันหมดเลยเหรอเนี่ย
ที่โกชิกิกับคนอื่นในทีมไม่โผล่มาแถวนี้ช่วงเวลานี้ก็คงเป็นฝีมือสักคนในพวกเขาด้วยเหมือนกัน
สรุปแล้วที่เทนโดซังเคยพูดว่า 'เรื่องนี้ทุกคนรู้อยู่แล้วนี่' อย่างน้อยก็หมายรวมปีสาม 'ทุกคน' จริง ๆ
พอเห็นว่าตรงที่เขายืนรออยู่ห่างออกมามีทั้งเทนโด เซมิ และโอฮิระยืนรออยู่ด้วยก็เข้าใจสถานการณ์ทันที
นี่รู้เห็นกันหมดเลยเหรอเนี่ย
ที่โกชิกิกับคนอื่นในทีมไม่โผล่มาแถวนี้ช่วงเวลานี้ก็คงเป็นฝีมือสักคนในพวกเขาด้วยเหมือนกัน
สรุปแล้วที่เทนโดซังเคยพูดว่า 'เรื่องนี้ทุกคนรู้อยู่แล้วนี่' อย่างน้อยก็หมายรวมปีสาม 'ทุกคน' จริง ๆ