(17y) | Slytherin Y.6 | Pure Blood | BARK CLUB
⚠️‼️ ตัวละครนิสัยหยาบคายและชอบล้อเลียน ‼️⚠️
Doc: urlkub.co/caIVOg
#HWWW_Commu
“ แต่ถ้าเป็นของที่เธอทำ และมีแค่ชิ้นเดียวบนโลกก็ดี ”
“ มันอาจจะช่วยให้ฉันหายคิดถึงเธอ ตอนที่อยู่ห่างกันนานๆ ”
ด้วยฐานะทางบ้าน ทำให้เขาไม่ได้นึกอยากได้อะไรจากร้านค้านัก ส่วนใหญ่ก็ซื้อเองไปหมดแล้ว
“ คริสต์มาสฉันต้องกลับบ้านไปหาครอบครัว.. “
” เธอก็ต้องกลับบ้านด้วยหรือป่าว? ”
เจ้าตัวเอียงคอสงสัย หลังเอ่ยถาม
“ แต่ถ้าเป็นของที่เธอทำ และมีแค่ชิ้นเดียวบนโลกก็ดี ”
“ มันอาจจะช่วยให้ฉันหายคิดถึงเธอ ตอนที่อยู่ห่างกันนานๆ ”
ด้วยฐานะทางบ้าน ทำให้เขาไม่ได้นึกอยากได้อะไรจากร้านค้านัก ส่วนใหญ่ก็ซื้อเองไปหมดแล้ว
“ คริสต์มาสฉันต้องกลับบ้านไปหาครอบครัว.. “
” เธอก็ต้องกลับบ้านด้วยหรือป่าว? ”
เจ้าตัวเอียงคอสงสัย หลังเอ่ยถาม
“ ไม่สิ เอาเป็น 10วินาที ดีกว่า.. “
เขาอธิบายให้เห็นภาพอย่างชัดเจน และแน่นอนว่า เขาก็แสดงเจตนาที่(จ้องจะ)หึวหวงออกมาพร้อมกันด้วย
เหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่เขาก็นิ่งไปและยิ้มอย่างมีเลศนัยเงียบๆ
พอถูกถามถึงของขวัญคริสต์มาส แลนทราซก็ยกมือขึ้นจับคาง ก่อนจะแบมือข้างตัวเป็นเชิงโยนความคิด
“ ไม่สิ เอาเป็น 10วินาที ดีกว่า.. “
เขาอธิบายให้เห็นภาพอย่างชัดเจน และแน่นอนว่า เขาก็แสดงเจตนาที่(จ้องจะ)หึวหวงออกมาพร้อมกันด้วย
เหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่เขาก็นิ่งไปและยิ้มอย่างมีเลศนัยเงียบๆ
พอถูกถามถึงของขวัญคริสต์มาส แลนทราซก็ยกมือขึ้นจับคาง ก่อนจะแบมือข้างตัวเป็นเชิงโยนความคิด
” ก็ถูกของเธอ แต่ในกรณีที่เป็นแฟนกัน มันก็ต้องมีบ้าง “
หรืออีกความหมายคือตอนที่เอาแต่ใจ อยากเป็นคนพิเศษหรืออยากมีสิทธิพิเศษมากกว่าคนไหนๆ
+
” ก็ถูกของเธอ แต่ในกรณีที่เป็นแฟนกัน มันก็ต้องมีบ้าง “
หรืออีกความหมายคือตอนที่เอาแต่ใจ อยากเป็นคนพิเศษหรืออยากมีสิทธิพิเศษมากกว่าคนไหนๆ
+
ถึงจะพูดแบบนั้น เขาก็ไม่ได้บังคับหรือคาดหวังว่าจะต้องทำตามอะไร
เขาก็แค่อยากที่จะเห็นมุมสาวน้อยขี้หึงของเอสเทลล์มากขึ้นก็เท่านั้น
ถึงจะพูดแบบนั้น เขาก็ไม่ได้บังคับหรือคาดหวังว่าจะต้องทำตามอะไร
เขาก็แค่อยากที่จะเห็นมุมสาวน้อยขี้หึงของเอสเทลล์มากขึ้นก็เท่านั้น
แลนทราซหัวเราะออกมานิดหน่อยอย่างอดเอ็นดูความเอาแต่ใจเล็กๆไม่ได้
“ ..เป็นคำขอร้องหรือคำสั่งนะ ”
เขาพูดแซวอย่างติดตลก ก็แหม..มันฟังเข้าใจได้สองแบบนี่นะ
+
แลนทราซหัวเราะออกมานิดหน่อยอย่างอดเอ็นดูความเอาแต่ใจเล็กๆไม่ได้
“ ..เป็นคำขอร้องหรือคำสั่งนะ ”
เขาพูดแซวอย่างติดตลก ก็แหม..มันฟังเข้าใจได้สองแบบนี่นะ
+
ในหัวนึกคิดตาม ..หากเป็นคนที่ดูแล้วถกอะไรสักอย่างได้อาจสนุกกับอีกฝ่ายกว่า?
แต่ถึงอย่างนั้น การที่เขาไม่รู้จนต้องเป็นฝ่ายอยู่ในความเงียบ ก็อาจเป็นเรื่องดีที่จะได้นั่งฟังแค่คนรักเล่าอะไรให้ฟังแทน
+
ในหัวนึกคิดตาม ..หากเป็นคนที่ดูแล้วถกอะไรสักอย่างได้อาจสนุกกับอีกฝ่ายกว่า?
แต่ถึงอย่างนั้น การที่เขาไม่รู้จนต้องเป็นฝ่ายอยู่ในความเงียบ ก็อาจเป็นเรื่องดีที่จะได้นั่งฟังแค่คนรักเล่าอะไรให้ฟังแทน
+
“ ก็นิดหน่อย ..ฉันชวนเธอมาเดทนี่นะ ”
เขาอธิบายก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมาแก้เขินเล็กน้อย พอถูกจับได้เรื่องที่เตรียมการล่วงหน้า
“ ฉันคิดว่า การดูดาวด้วยกันกับเธอน่าจะสนุกดี ”
“ ..แต่ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนหรอก ”
ประโยคหลัง แลนทราซลดเสียงลงต่ำ
“ ก็นิดหน่อย ..ฉันชวนเธอมาเดทนี่นะ ”
เขาอธิบายก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมาแก้เขินเล็กน้อย พอถูกจับได้เรื่องที่เตรียมการล่วงหน้า
“ ฉันคิดว่า การดูดาวด้วยกันกับเธอน่าจะสนุกดี ”
“ ..แต่ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนหรอก ”
ประโยคหลัง แลนทราซลดเสียงลงต่ำ
เพราะมันถูกต้องเอาไว้กลางเนินโล่งๆ ที่สามารถมองวิวได้แทบจะรอบทิศทาง
แลนทราซพามาถึงเขาก็เริ่มสำรวจม้านั่งนั้นเล็กน้อย พอเห็นหิมะที่ปกคลุมบางส่วนก็มุ่ยหน้าและยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาโบกทำความสะอาดหิมะออกไปจนหมด
ก่อนจะลงไปนั่งพักจากการเดินทางเมื่อครู่ พ้นลมหายใจออกมาเล็กน้อย
เพราะมันถูกต้องเอาไว้กลางเนินโล่งๆ ที่สามารถมองวิวได้แทบจะรอบทิศทาง
แลนทราซพามาถึงเขาก็เริ่มสำรวจม้านั่งนั้นเล็กน้อย พอเห็นหิมะที่ปกคลุมบางส่วนก็มุ่ยหน้าและยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาโบกทำความสะอาดหิมะออกไปจนหมด
ก่อนจะลงไปนั่งพักจากการเดินทางเมื่อครู่ พ้นลมหายใจออกมาเล็กน้อย
“ ทางนี้ ”
เขาเดินนำไปอีกหน่อย ผ่านทางเดินที่มีทั้งดินและหญ้า ไม่ได้เป็นพื้นอิฐปูนเช่นเดิม ความมืดบริเวณนั้น ทำให้เขาต้องเอี่ยวตัวกับมาจับมือเอสเทลล์อีกรอบ
จนเขาเริ่มคิดแล้วว่า ครั้งหน้าจี่ไม้กวาดดีกว่า การเดินผจญภันก็สนุกดี แต่ก็วุ่นวายไม่แพ้กัน
+
“ ทางนี้ ”
เขาเดินนำไปอีกหน่อย ผ่านทางเดินที่มีทั้งดินและหญ้า ไม่ได้เป็นพื้นอิฐปูนเช่นเดิม ความมืดบริเวณนั้น ทำให้เขาต้องเอี่ยวตัวกับมาจับมือเอสเทลล์อีกรอบ
จนเขาเริ่มคิดแล้วว่า ครั้งหน้าจี่ไม้กวาดดีกว่า การเดินผจญภันก็สนุกดี แต่ก็วุ่นวายไม่แพ้กัน
+
แลนทราศเอ่ยขึ้นอย่างไม่คิดมาก และยังคงอ้่แขนรอ
ต่อให้ล้มอีกฝ่ายก็ไม้ต่างจากกระโดดลงมาบนฟูกมนุษย์อย่างปลอดภัย
จนกระทั่งเอสเทลล์กระโดดตามลงมา เขาก็รับร่างและอุ้มเอาไว้อยู่ครู่นึง ก็ปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ
“ พาไปดูดาว ”
เขาได้ยินเสียงพึมพัม ก็ตอบไปโดยที่ไม่กั๊ก
+
แลนทราศเอ่ยขึ้นอย่างไม่คิดมาก และยังคงอ้่แขนรอ
ต่อให้ล้มอีกฝ่ายก็ไม้ต่างจากกระโดดลงมาบนฟูกมนุษย์อย่างปลอดภัย
จนกระทั่งเอสเทลล์กระโดดตามลงมา เขาก็รับร่างและอุ้มเอาไว้อยู่ครู่นึง ก็ปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ
“ พาไปดูดาว ”
เขาได้ยินเสียงพึมพัม ก็ตอบไปโดยที่ไม่กั๊ก
+
" ค่อยๆกระโดดลงมา .."
เขาเตือนให้อีกฝ่ายระวัง หากกระโจนใส่ ต่อให้เขาจะร่างกายแข็งแรง ก็มีโอกาสกลิ้งไปกองกับพื้นเพราะแรงกระแทกเหมือนกัน(..) แต่ไม่ว่าจะลงมาท่าไหน เขาก็จะรอรับอยู่ดี
" ค่อยๆกระโดดลงมา .."
เขาเตือนให้อีกฝ่ายระวัง หากกระโจนใส่ ต่อให้เขาจะร่างกายแข็งแรง ก็มีโอกาสกลิ้งไปกองกับพื้นเพราะแรงกระแทกเหมือนกัน(..) แต่ไม่ว่าจะลงมาท่าไหน เขาก็จะรอรับอยู่ดี
ที่ที่ทั้งคู่อยู่ตอนนี้ เป็นด้านหลังของหมู่บ้านฮอกส์มี้ด ทำให้มันค่อนข้างมืดและเงียบสงบ ราวกับหลีกหนีความวุ่นวาย มาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว
+
ที่ที่ทั้งคู่อยู่ตอนนี้ เป็นด้านหลังของหมู่บ้านฮอกส์มี้ด ทำให้มันค่อนข้างมืดและเงียบสงบ ราวกับหลีกหนีความวุ่นวาย มาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว
+
พื้นที่โล่งทอดยาวไปจนถึงขอบป่าที่อยู่ห่างไกล ต้นส้นที่ใหญ่กลับเล็กลงด้วยระยะห่างจากจุดอยู่กับตำแหน่งของมัน
+
พื้นที่โล่งทอดยาวไปจนถึงขอบป่าที่อยู่ห่างไกล ต้นส้นที่ใหญ่กลับเล็กลงด้วยระยะห่างจากจุดอยู่กับตำแหน่งของมัน
+
และมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร ถ้าเขาสำรวจฮอกส์มี้ดขณะแปลงกายเป็นสุนัข ..
+
และมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร ถ้าเขาสำรวจฮอกส์มี้ดขณะแปลงกายเป็นสุนัข ..
+
“ จากตรงนี้..เดินทะลุตรงนี้ไปได้ “
เขาชี้ทางไปต่อด้านในตรอกแคบๆ ก็จริงอยู่ที่แกล้งชี้เข้ามาในตรอก แต่นี่ก็เป็นอีกทางเช่นกัน เพียงแต่อาจจะดูน่ากลัวกว่าเดินกลางเมืองเล็กน้อย
แลนทราซกระตุกมือ ให้เดินตามมา เขาไม่ได้เดินเร็วนักและค่อยๆก้าวอย่างระวัง คงเพราะทางค่อนข้างมืด มีแสงจากท้องฟ้าเท่านั้นที่ทำให้เห็นเส้นทางไปต่อ
+
“ จากตรงนี้..เดินทะลุตรงนี้ไปได้ “
เขาชี้ทางไปต่อด้านในตรอกแคบๆ ก็จริงอยู่ที่แกล้งชี้เข้ามาในตรอก แต่นี่ก็เป็นอีกทางเช่นกัน เพียงแต่อาจจะดูน่ากลัวกว่าเดินกลางเมืองเล็กน้อย
แลนทราซกระตุกมือ ให้เดินตามมา เขาไม่ได้เดินเร็วนักและค่อยๆก้าวอย่างระวัง คงเพราะทางค่อนข้างมืด มีแสงจากท้องฟ้าเท่านั้นที่ทำให้เห็นเส้นทางไปต่อ
+
" ไม่ค่อยชินเลยแหะ เวลาโดนบอกรักเนี่ย "
" เธอคงต้องพูดบ่อยๆให้ฉันชินแล้วล่ะ "
เขาพูดขึ้นอย่างติดตลก เพื่อให้บรรยากาศไม่เงียบและกลับมาทำทรงเก๊กแบบเดิมได้ พลางกลบความเขินอายลึกๆของตนเอง
+
" ไม่ค่อยชินเลยแหะ เวลาโดนบอกรักเนี่ย "
" เธอคงต้องพูดบ่อยๆให้ฉันชินแล้วล่ะ "
เขาพูดขึ้นอย่างติดตลก เพื่อให้บรรยากาศไม่เงียบและกลับมาทำทรงเก๊กแบบเดิมได้ พลางกลบความเขินอายลึกๆของตนเอง
+
นิ้วโป้งลูบไล้แก้มขาวเนียนด้วยความเอ็นดู หลังจากได้ยินคำบอกรักกลับ ท่าทีของแลนทราซดูอารมณ์ดีที่ได้ยินคำนั้น แม้จะไม่ได้พูดอะไรต่อ ยิ่งจ้องแววตาของเขาก็จะยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น
+
นิ้วโป้งลูบไล้แก้มขาวเนียนด้วยความเอ็นดู หลังจากได้ยินคำบอกรักกลับ ท่าทีของแลนทราซดูอารมณ์ดีที่ได้ยินคำนั้น แม้จะไม่ได้พูดอะไรต่อ ยิ่งจ้องแววตาของเขาก็จะยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น
+
สายตาจับจ้องดวงตาคู่สีฟ้านิ่ง มือที่ใช้โอบเอวเมื่อครู่ เปลี่ยนมาลูบไล้เรือนผมด้านข้างอย่างน่าเอ็นดู ก่อนใช้นิ้วเลื่อนลูบใบหูและสันคอ
“ ฉันรักเธอ, ..เอสเทลล์ ”
“…คบกับฉันนะ ”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างระวังคำพูด ราวกับไม่คุ้นชินกับการพูดประโยคเมื่อครู่ แต่ไร้ซึ่งความประหม่าเพราะมั่นใจในคำตอบของหญิงสาวตรงหน้า
สายตาจับจ้องดวงตาคู่สีฟ้านิ่ง มือที่ใช้โอบเอวเมื่อครู่ เปลี่ยนมาลูบไล้เรือนผมด้านข้างอย่างน่าเอ็นดู ก่อนใช้นิ้วเลื่อนลูบใบหูและสันคอ
“ ฉันรักเธอ, ..เอสเทลล์ ”
“…คบกับฉันนะ ”
เขาเอ่ยขึ้นอย่างระวังคำพูด ราวกับไม่คุ้นชินกับการพูดประโยคเมื่อครู่ แต่ไร้ซึ่งความประหม่าเพราะมั่นใจในคำตอบของหญิงสาวตรงหน้า
รอยยิ้มมุมปากยกขึ้นอย่างเผลอตัว หลังฟังประโยคของหญิงสาวจบ ทั้งยังจุ๊บลงบนนิ้วเรียวที่วางแนบริมฝีปากของตนเองอย่างแผ่วเบา ราวกับกำลังให้สัญญาเป็นนัยยะ
บางที การที่ทั้งเขาและเอสเทลล์ชแบการกระทำมากกว่าคำพูดก็อาจเป็นข้อดีที่ตกลงกันได้อย่างลงตัว
+
รอยยิ้มมุมปากยกขึ้นอย่างเผลอตัว หลังฟังประโยคของหญิงสาวจบ ทั้งยังจุ๊บลงบนนิ้วเรียวที่วางแนบริมฝีปากของตนเองอย่างแผ่วเบา ราวกับกำลังให้สัญญาเป็นนัยยะ
บางที การที่ทั้งเขาและเอสเทลล์ชแบการกระทำมากกว่าคำพูดก็อาจเป็นข้อดีที่ตกลงกันได้อย่างลงตัว
+
เขาขยับตัวดันแผ่นหลังคนตัวเล็กให้ติดกับกำแพง แขนว่างอีกข้างยกขึ้น ยันผนังหินเอาไว้ รวมถึงใช้เพื่อบดบังการมองเห็นของคนที่อาจผ่านมาเห็นบทรักในที่ลับตาเช่นกัน
กระทั่ง—ผละออกจากกัน ลมหายใจหอบเล็กๆริดรอดออกมาจากโพลงปาก ปะทะกับอุณหภูมิติดลบจนเกิดเป็นควันเล็กๆ
+
เขาขยับตัวดันแผ่นหลังคนตัวเล็กให้ติดกับกำแพง แขนว่างอีกข้างยกขึ้น ยันผนังหินเอาไว้ รวมถึงใช้เพื่อบดบังการมองเห็นของคนที่อาจผ่านมาเห็นบทรักในที่ลับตาเช่นกัน
กระทั่ง—ผละออกจากกัน ลมหายใจหอบเล็กๆริดรอดออกมาจากโพลงปาก ปะทะกับอุณหภูมิติดลบจนเกิดเป็นควันเล็กๆ
+
แลนทราซเบิกตาโพลงเมื่อจู่ๆก็ถูกดึงไปจุดที่เขาแค่แกล้งหยอก ยังไม่ทันได้เบรกอะไรเขาก็ยืนอยู่ในตรอกลับตาคนซะแล้ว
ขณะที่กำลังประมวลผลว่า เอสเทลล์ นึกคึกทำตามที่เขาคิดทำไม ริมฝีปากก็ประกบเข้าด้วยกันจนต้องละทิ้งเรื่องที่กำลังหาเหตุผลเมื่อครู่ และค่อยๆลิ้มรสทีละนิด
+
แลนทราซเบิกตาโพลงเมื่อจู่ๆก็ถูกดึงไปจุดที่เขาแค่แกล้งหยอก ยังไม่ทันได้เบรกอะไรเขาก็ยืนอยู่ในตรอกลับตาคนซะแล้ว
ขณะที่กำลังประมวลผลว่า เอสเทลล์ นึกคึกทำตามที่เขาคิดทำไม ริมฝีปากก็ประกบเข้าด้วยกันจนต้องละทิ้งเรื่องที่กำลังหาเหตุผลเมื่อครู่ และค่อยๆลิ้มรสทีละนิด
+
” นับตั้งแต่ตอนนี้ ..เธอกับฉัน สามารถจับมือ กอด จูบ และแต๊ะอั๋งกันได้ “
ร่างสูง สรุปด้วยตัวเองว่าสถานะของทั้งคู่อยู่ในรูปแบบใด ฉบับเข้าใจง่าย
” แต่ถ้ามากกว่านั้น....“
แลนทราซพูดต่ออีกนิด แต่เว้นช่วงเอาไว้เหมือนกำลังนึกภาพต่อในหัว เขากรอกตาเล็กน้อยระหว่างคิดประโยคถัดไป
” นับตั้งแต่ตอนนี้ ..เธอกับฉัน สามารถจับมือ กอด จูบ และแต๊ะอั๋งกันได้ “
ร่างสูง สรุปด้วยตัวเองว่าสถานะของทั้งคู่อยู่ในรูปแบบใด ฉบับเข้าใจง่าย
” แต่ถ้ามากกว่านั้น....“
แลนทราซพูดต่ออีกนิด แต่เว้นช่วงเอาไว้เหมือนกำลังนึกภาพต่อในหัว เขากรอกตาเล็กน้อยระหว่างคิดประโยคถัดไป