https://docs.google.com/document/d/1YgVpZsBRv09hnwleBX6lMJtfgXMEHo37bOfcLh9lWI0/edit?usp=drivesdk
#HWWW_Commu
ในขณะที่เดินไปตามทางมือทั้งสองก็กุมจนแนบแน่น แผ่ซ่านความอบอุ่นผ่านมือยาวมือน้อยไปเรื่อยๆ
“ ฉันชอบนะ… ” แต่คำพูดนั้นแทบจะเบาหวิวไปกับลม
และคงไม่คิดที่จะพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง เขาปล่อยให้ใบหน้าก้มซุกลงกับผ้าพันคอไหมพรมที่การ์เรตมอบให้
มันอบอุ่นกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก….
ในขณะที่เดินไปตามทางมือทั้งสองก็กุมจนแนบแน่น แผ่ซ่านความอบอุ่นผ่านมือยาวมือน้อยไปเรื่อยๆ
“ ฉันชอบนะ… ” แต่คำพูดนั้นแทบจะเบาหวิวไปกับลม
และคงไม่คิดที่จะพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง เขาปล่อยให้ใบหน้าก้มซุกลงกับผ้าพันคอไหมพรมที่การ์เรตมอบให้
มันอบอุ่นกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก….
เมื่อล้มตัวลง ความอุ่นจากยาผสมกับความเหนื่อยล้าจากทั้งวันก็ดึงเปลือกตาของเขาลงอย่างรวดเร็ว จนไม่นานนัก ในห้องพยาบาลที่เงียบสนิท เจอโรมก็ค่อย ๆ หลับไป
(จบรูท)
เมื่อล้มตัวลง ความอุ่นจากยาผสมกับความเหนื่อยล้าจากทั้งวันก็ดึงเปลือกตาของเขาลงอย่างรวดเร็ว จนไม่นานนัก ในห้องพยาบาลที่เงียบสนิท เจอโรมก็ค่อย ๆ หลับไป
(จบรูท)
แต่ไว้ใจได้ไหม? อันนั้นอีกเรื่อง เรื่องคะแนนเขาก็ไม่คิดจะฝากความหวังแบบเต็มร้อย คงต้องเช็คเองอยู่ดี
อย่างไรก็ตามทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องเขาต้องคอยดูต่อไปในอนาคต เรื่องที่ตอนนี้มีอย่างเดียวที่ทำได้คือการพักรอให้แผลที่เพิ่งทายาหายดี
แต่ไว้ใจได้ไหม? อันนั้นอีกเรื่อง เรื่องคะแนนเขาก็ไม่คิดจะฝากความหวังแบบเต็มร้อย คงต้องเช็คเองอยู่ดี
อย่างไรก็ตามทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องเขาต้องคอยดูต่อไปในอนาคต เรื่องที่ตอนนี้มีอย่างเดียวที่ทำได้คือการพักรอให้แผลที่เพิ่งทายาหายดี
ขอโทษ?
แผ่นหลังนั้นหายออกไปจากห้องโดยไม่หันกลับมา แต่คำพูดยังคงสะท้อนอยู่ในห้องเงียบ ๆ อย่างดื้อดึง
เขาค่อย ๆ ลดสายตาลง ครุ่นคิดกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นตลอดเช้า ทุกความวุ่นวาย ทุกคำพูดที่ทำให้เขาปวดหัว และมืออุ่น ๆ ที่แตะบนผิวเขา
ความจริงหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวชัดเจนกว่าที่ควรเป็น
ขอโทษ?
แผ่นหลังนั้นหายออกไปจากห้องโดยไม่หันกลับมา แต่คำพูดยังคงสะท้อนอยู่ในห้องเงียบ ๆ อย่างดื้อดึง
เขาค่อย ๆ ลดสายตาลง ครุ่นคิดกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นตลอดเช้า ทุกความวุ่นวาย ทุกคำพูดที่ทำให้เขาปวดหัว และมืออุ่น ๆ ที่แตะบนผิวเขา
ความจริงหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวชัดเจนกว่าที่ควรเป็น
แต่พอคีทบอกว่า จะลองไปคุยเรื่องคะแนนให้ เจอโรมกลับนิ่งฟังอย่างจริงจัง
แม้เขาจะคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างงั้นสิ่งนี้ทำให้เจอโรมเผลอคลายคิ้วลงเล็กน้อยอย่างที่ไม่รู้ตัว
จนกระทั่งคำสุดท้ายหลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย
แต่พอคีทบอกว่า จะลองไปคุยเรื่องคะแนนให้ เจอโรมกลับนิ่งฟังอย่างจริงจัง
แม้เขาจะคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างงั้นสิ่งนี้ทำให้เจอโรมเผลอคลายคิ้วลงเล็กน้อยอย่างที่ไม่รู้ตัว
จนกระทั่งคำสุดท้ายหลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย
“เอามือออกไป คีท ครีดอน”
คราวนี้เสียงของเขาต่ำและเด็ดขาด เหมือนคำสั่งมากกว่าคำขอ มือของเจอโรมเอื้อมขึ้นไปแตะหลังมืออีกฝ่ายเพื่อดึงออก
พอมือหลุดออกจากกรอบสายตา ก็เห็นว่าลุกจากเตียงทันที เจอโรมขยับตัวเล็กน้อย มองตามเงาไหวของอีกฝ่ายที่เดินไปยืนห่างออกไป
“เอามือออกไป คีท ครีดอน”
คราวนี้เสียงของเขาต่ำและเด็ดขาด เหมือนคำสั่งมากกว่าคำขอ มือของเจอโรมเอื้อมขึ้นไปแตะหลังมืออีกฝ่ายเพื่อดึงออก
พอมือหลุดออกจากกรอบสายตา ก็เห็นว่าลุกจากเตียงทันที เจอโรมขยับตัวเล็กน้อย มองตามเงาไหวของอีกฝ่ายที่เดินไปยืนห่างออกไป
กระทั่งมือของคีทยกขึ้นมาปิดดวงตาเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แม้แรงจะเบา แต่ก็ฉับพลันจนเขาเผลอชะงักไปหนึ่งวินาที
เจอโรมกระพริบตาหนึ่งครั้งหลังม่านนิ้ว ก่อนจะลองมองผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ที่พอเห็นอะไรได้บ้าง
กระทั่งมือของคีทยกขึ้นมาปิดดวงตาเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แม้แรงจะเบา แต่ก็ฉับพลันจนเขาเผลอชะงักไปหนึ่งวินาที
เจอโรมกระพริบตาหนึ่งครั้งหลังม่านนิ้ว ก่อนจะลองมองผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ที่พอเห็นอะไรได้บ้าง
เสียงขานชื่อดังลอยมาแต่ไกลให้คนที่ยืนรออยู่นั้นได้หันมา ในขณะนั้นเองกิลเบิร์ตก็วิ่งมาหาด้วย เกรงว่าอีกฝายจะรอเขานานไปหน่อย...
เสื้อผ้าของตัวกิลเบิร์ตกับการ์เรตนั้นดูแตกต่างกันราวกับอยู่คนละฤดู
ถึงอย่างนั้นกิลเบิร์ตก็ไม่ได้รู้สึกหนาวมากมายอะไรนัก
" โอ๊ะ? เตรียมของขวัญมาแล้วด้วยเหรอ ?"
นึกว่าจะนำมาแลกกันในวันสองวันข้างหน้าซะอีก
บังเอิญจัง เขาเองก็เอามาด้วย
+
เสียงขานชื่อดังลอยมาแต่ไกลให้คนที่ยืนรออยู่นั้นได้หันมา ในขณะนั้นเองกิลเบิร์ตก็วิ่งมาหาด้วย เกรงว่าอีกฝายจะรอเขานานไปหน่อย...
เสื้อผ้าของตัวกิลเบิร์ตกับการ์เรตนั้นดูแตกต่างกันราวกับอยู่คนละฤดู
ถึงอย่างนั้นกิลเบิร์ตก็ไม่ได้รู้สึกหนาวมากมายอะไรนัก
" โอ๊ะ? เตรียมของขวัญมาแล้วด้วยเหรอ ?"
นึกว่าจะนำมาแลกกันในวันสองวันข้างหน้าซะอีก
บังเอิญจัง เขาเองก็เอามาด้วย
+
เสียงส้นรองเท้าของเขากระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ทุกก้าวกลับรู้สึกเบากว่าปกติเล็กน้อย ราวกับสติของเขายังติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากที่ยังคงชาอยู่ไม่หาย
เสียงส้นรองเท้าของเขากระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ทุกก้าวกลับรู้สึกเบากว่าปกติเล็กน้อย ราวกับสติของเขายังติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากที่ยังคงชาอยู่ไม่หาย
เสียงส้นรองเท้าของเขากระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ทุกก้าวกลับรู้สึกเบากว่าปกติเล็กน้อย ราวกับสติของเขายังติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากที่ยังคงชาอยู่ไม่หาย
แต่ไม่ว่าเขาจะคิดวนยังไง สุดท้ายก็หาคำตอบไม่ได้เลยสักอย่าง
เจอโรมปล่อยลมหายใจยาวออกมาครั้งหนึ่ง พยายามตั้งสติกลับคืนจนได้ ก่อนจะก้มมองเจ้ามังกรสีแดงในอ้อมแขนแล้วขมวดคิ้วนิด ๆ เมื่อเพิ่งสังเกตสิ่งที่หายไป
“อ่า…ผ้าคลุมหายไปแล้ว”
แต่ไม่ว่าเขาจะคิดวนยังไง สุดท้ายก็หาคำตอบไม่ได้เลยสักอย่าง
เจอโรมปล่อยลมหายใจยาวออกมาครั้งหนึ่ง พยายามตั้งสติกลับคืนจนได้ ก่อนจะก้มมองเจ้ามังกรสีแดงในอ้อมแขนแล้วขมวดคิ้วนิด ๆ เมื่อเพิ่งสังเกตสิ่งที่หายไป
“อ่า…ผ้าคลุมหายไปแล้ว”
เขามองแผ่นหลังคีทที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ จนลับสายตาไปนานแล้ว แต่เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม
เขามองแผ่นหลังคีทที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ จนลับสายตาไปนานแล้ว แต่เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม
เจอโรมมองดวงตาสีน้ำเงินเข้มตรงหน้า ท่ามกลางช่องว่างระหว่างกันที่เหมือนหยุดนิ่ง มองคีทด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามพันกันยุ่งอยู่ในหัว แต่ไม่มีคำไหนถูกเปล่งออกมา
แล้วคีทก็หมุนตัวเดินออกไป ทิ้งเสียงหัวเราะไว้ให้ลอยอยู่ในอากาศราวกับกำลังเยาะเย้ยเขาเต็ม ๆ
เจอโรมมองดวงตาสีน้ำเงินเข้มตรงหน้า ท่ามกลางช่องว่างระหว่างกันที่เหมือนหยุดนิ่ง มองคีทด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามพันกันยุ่งอยู่ในหัว แต่ไม่มีคำไหนถูกเปล่งออกมา
แล้วคีทก็หมุนตัวเดินออกไป ทิ้งเสียงหัวเราะไว้ให้ลอยอยู่ในอากาศราวกับกำลังเยาะเย้ยเขาเต็ม ๆ
รู้สึกตัวอีกที มังกรในอ้อมแขนเขาถูกสลับไปอยู่ในมืออีกฝ่ายโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว แค่กระพริบตาเล็กน้อยก็พบว่าของในมือเปลี่ยนไปแล้ว สถานการณ์เร็วเกินกว่าที่สติของเขาจะไล่ตามทัน
จนกระทั่งมือของคีทยื่นเข้ามาคว้าบีบแก้มจนเขาสะดุ้งเล็ก ๆ และริมฝีปากของคีทก็ประทับลงมาอีกครั้ง
รู้สึกตัวอีกที มังกรในอ้อมแขนเขาถูกสลับไปอยู่ในมืออีกฝ่ายโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว แค่กระพริบตาเล็กน้อยก็พบว่าของในมือเปลี่ยนไปแล้ว สถานการณ์เร็วเกินกว่าที่สติของเขาจะไล่ตามทัน
จนกระทั่งมือของคีทยื่นเข้ามาคว้าบีบแก้มจนเขาสะดุ้งเล็ก ๆ และริมฝีปากของคีทก็ประทับลงมาอีกครั้ง
เมื่อคีทผละออก แรงหายใจเฮือกใหญ่ก็หลุดออกมาจากอกของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ เจอโรมยกมือแตะริมฝีปากมือว่างของเขาเช็ดริมฝีปากตัวเองโดยอัตโนมัติ
คำพูดของคีทที่พรั่งพรูออกมาหลังจากนั้นไม่ได้เข้าหูเขาเลยสักคำ มันเหมือนเสียงไกล ๆ เบลอ ๆ ที่ผ่านเข้ามาแต่ไม่ถูกประมวลผล
เมื่อคีทผละออก แรงหายใจเฮือกใหญ่ก็หลุดออกมาจากอกของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ เจอโรมยกมือแตะริมฝีปากมือว่างของเขาเช็ดริมฝีปากตัวเองโดยอัตโนมัติ
คำพูดของคีทที่พรั่งพรูออกมาหลังจากนั้นไม่ได้เข้าหูเขาเลยสักคำ มันเหมือนเสียงไกล ๆ เบลอ ๆ ที่ผ่านเข้ามาแต่ไม่ถูกประมวลผล
ริมฝีปากของคีทที่โน้มเข้ามาใกล้ในชั่วเสี้ยววินาที เจอโรมไม่ทันได้อ่านเจตนานั้นเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะรู้ตัวว่ามัน แตะลงบนริมฝีปากของเขาแล้ว
ความตกใจไหลวาบขึ้นมาตั้งแต่ท้ายทอยถึงปลายเท้า เขายืนนิ่งค้างเหมือนถูกสาป ร่างกายทุกส่วนไม่ตอบสนองชั่วขณะ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อเหมือนถูกคาถาสตั้นท์
ริมฝีปากของคีทที่โน้มเข้ามาใกล้ในชั่วเสี้ยววินาที เจอโรมไม่ทันได้อ่านเจตนานั้นเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะรู้ตัวว่ามัน แตะลงบนริมฝีปากของเขาแล้ว
ความตกใจไหลวาบขึ้นมาตั้งแต่ท้ายทอยถึงปลายเท้า เขายืนนิ่งค้างเหมือนถูกสาป ร่างกายทุกส่วนไม่ตอบสนองชั่วขณะ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อเหมือนถูกคาถาสตั้นท์